ตอนที่ 352 หาทางผ่าน

บุตรอสูรบรรพกาล

ตอนที่ 352

หาทางผ่าน

ปึง! ทูตของอาณาจักรไป๋ที่เดินทางมายังอาณาจักรเฉินทุบโต๊ะดังปั้งหลังจากได้เข้ามาประชุมกับขุนนางของอาณาจักรเฉินได้ไม่นาน ท่าทางของมันไม่พอใจเป็นอย่างมากเช่นเดียวกับขุนนางฝั่งอาณาจักรเฉินเองก็มีท่าทีไม่สู้ดีนัก

“หมายความว่ายังไงเปิดทางให้พวกเราไม่ได้”ขุนนางอาณาจักรไป๋ถามพลางกำพัดในมือแน่น

“ต้องขออภัยจริงๆขอรับ แต่อาณาจักรเฉินเราเป็นพันธมิตรของอาณาจักรกู่ พวกเราไม่อาจเปิดทางให้อาณาจักรไป๋นำกองทัพเข้าอาณาจักรกู่ได้”พวกขุนนางอาณาจักรเฉินมีท่าทีลำบากใจอย่างมาก พวกมันกลัวอาณาจักรไป๋ และก็กลัวอาณาจักรกู่เช่นกัน หากมันปล่อยอาณาจักรไป๋ผ่านอาณาจักรตนเองไป ก็เท่ากับว่าทรยศอาณาจักรกู่ เมื่ออาณาจักรไป๋ชิงตัวคนสำเร็จ เมื่อนนั้นอาณาจักรกู่ก็จะหันมาแว้งกัดอาณาจักรเฉินอย่างแน่นอน

“ท่านทูต ท่านน่าจะทราบใช่หรือไม่ว่าหากเราปล่อยให้กองทัพอาณาจักรท่านเดินทางผ่านอาณาจักรของเรา อาณาจักรกู่จะมองเราเป็นศัตรู”องค์จักรพรรดิเฉินว่าพลางหลับตาลงช้าๆ ตอนนี้อาณาจักรไป๋น่ากลัวไม่แพ้อาณาจักรกู่ แต่อาณาจักรไป๋ก็ไม่ได้เป็นพันธมิตรกับอาณาจักรเฉินแต่อย่างไร

“หากเราให้พวกท่านผ่าน อาณาจักรกู่จะต้องโจมตีอาณาจักรเราอย่างแน่นอน เมื่อถึงเวลานั้นอาณาจักรท่านจะมาช่วยพวกเรางั้นหรือ”องค์จักรรพิเฉินว่าพลางถอนหายใจออกมา แม้จะเกรงอาณาจักรไป๋ แต่หากช่วยอาณาจักรไป๋ให้บุกอาณาจักรเฉินได้สำเร็จ เมื่ออาณาจักรเฉินโจมตี มันจะขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรไป๋ก็ไม่ได้ แต่หากค้านอาณาจักรไป๋ แม้จะมีโอกาสน้อยแต่หากอาณาจักรไป๋โจมตีมันยังขอความช่วยเหลือจากอาณาจักรกู่ที่เป็นพันธมิตรได้ ยามนี้องค์จักรพรรดิยอมถือหางฝั่งอาณาจักรกู่เพื่อเลือกหนทางเลวร้ายที่เบาที่สุดเท่านั้น

“ท่านลืมแล้วหรือไร”ทูตแห่งอาณาจักรไป๋พูดพลางจ้องมององค์จักรพรรดิตรงๆ

“คนของเราโดนจับตัวในอาณาจักรของท่านนะขอรับ”ได้ยินเช่นนั้นจักรพรรดิอาณาจักรเฉินก็กำหมัดแน่น แน่นอน เรื่องที่มันต้องมากดดันอยู่นี่เพราะเกิดการลักพาตัวในวังของตนเอง มันส่งคนไปเจรจากับองค์ชายกู่หานแล้ว แต่ยังไม่ได้ความกลับมา อย่างน้อยหากสามารถช่วยตัวเด็กที่ชื่อชิงชิวกลับมาได้ อาณาจักรของมันก็จะรอดพ้นความสูญเสีย ถึงกับอาจจะสามารถรักษาความเป็นมิตรของทั้ง 2 อาณาจักรใหญ่เอาไว้ได้

“หวังว่าองค์จักรพรรดิจะแสดงความรับผิดชอบที่ปล่อยให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น ไม่อย่างนั้นอาณาจักรไป๋คงไม่วางใจส่งคนของอาณาจักรมายังอาณาจักรเฉินอีก”ขุนนางอาณาจักรไป๋พูดจบ องค์จักรพรรดิก็ไม่มีท่าทีแตกตื่นเสียเท่าไหร่ แม้พ่อค้าจากอาณาจักรไป๋จะนำวัตถุดิบมากมายที่จำเป็นมาขายในอาณาจักรของมัน แต่ถ้าปัญหานี้จบลงแค่ปิดเส้นทางการค้าก็คงเป็นแค่โทษเบาเท่านั้น

“ข้าเข้าใจแล้ว ขอเวลาอีกสักหน่อยก็แล้วกัน”องค์จักรพรรดิเฉินถอนหายใจออกมา เรื่องนี้ไม่ว่าจะมองอย่างไรคนที่ปล่อยให้มีการลักพาตัวในวังตนเองก็คือตัวองค์จักรพรรดิเอง ไม่ว่าคนลงมือจะเป็นใครตัวมันก็ต้องรับผิดชอบ

“จักรพรรดิไป๋กำลังรอดูความรับผิดชอบของท่านอยู่ขอรับ หากนานเกินไปท่านเองอาจจะหมดความอดทนก็ได้ เพราะผู้ที่ถูกจับไปเป็นคนสนิทขององค์หญิง ยามนี้องค์หญิงกังวลพระทัยอย่างมาก เกรงว่าองค์จักรพรรดิจะทนดูธิดาตนเองทุกข์ใจได้ไม่นาน”คำขู่ของขุนนางอาณาจักรไป๋ทำเอาองค์จักรพรรดิเฉินเผลอหยุดหายใจ มันควรเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือเผื่อเอาไว้ดีหรือไม่

.

.

“องค์จักรพรรดิขอรับ”ในช่วงเย็นทหารขององค์จักรพรรดิเฉินก็วิ่งเข้ามาด้วยท่าทีรีบร้อนพร้อมเอกสารประทับตราของอาณาจักรกู่ ทำให้องค์จักรพรรดิเฉินรีบเดินเข้าไปรับเอกสารแล้วเปิดอ่านทันที

“บ้าเอ้ย”อ่านไปครู่หนึ่งองค์จักรพรรดิเฉินก็ปาเอกสารลงพื้นด้วยท่าทีกริ้วโกรธ หลังจากมันส่งจดหมายไปหาองค์จักรพรรดิกู่เพื่อขอให้องค์ชายกู่หานปล่อยตัวชิงชิว แต่องค์จักรพรรดิเฉินกลับตอบมาว่า องค์ชายกู่หานจะทำอะไรก็เป็นสิทธิ์ของท่าน ตัวจักรพรรดิเฉินไม่มีหน้าที่ไปว่ากล่าว และยังฝากข้อความจากองค์ชายมาด้วยว่าหากอยากให้ปล่อยตัวจักรพรรดิไป๋ต้องมาก้มหัวให้ด้วยตนเองเท่านั้น

เมื่อได้คำตอบเช่นนี้องค์จักรพรรดิเฉินก็เริ่มร่างจดหมายขอความช่วยเหลือแทน โดยมีเนื้อหาว่าเพราะการจับตัวชิงชิวไปทำให้อาณาจักรไป๋กำลังจะบุกไปชิงตัวโดยผ่านอาณาจักรเฉินของมัน มันจึงต้องการกำลังเสริมเพื่อรับศึก

หลังจากมอบข้อความขอความช่วยเหลือไป องค์จักรพรรดิอาณาจักรเฉินก็กลับมานั่งที่บัลลังก์พลางกุมขมับด้วยความเคลียดอย่างที่ไม่เคยเจอมาก่อน

.

.

ในขณะที่อาณาจักรไป๋กำลังจะเปิดศึกกับอาณาจักรเฉินเพื่อสร้างเส้นทางมายังอาณาจักรกู่ ชิงชิวที่พึ่งหนีออกมาจากคุกได้สำเร็จด้วยความเสียสละของอสูรแมงมุมก็กำลังพยายามหาทางออกจากเมืองหลวงของอาณาจักรกู่ให้ได้ ตัวมันไม่ได้ทราบสถาณการณ์ที่เกิดขึ้นภายนอก ทำให้มันคิดอย่างเดียวว่าต้องออกไปจากที่นี่แล้วกลับไปอาณาจักรไป๋ให้ได้

ฟุบ….ร่างของเหล่าทหารของวังหลวงทะยานผ่านหลังคาบ้านไปคนแล้วคนเล่า ทำให้ชิงชิวเคลื่อนไหวได้ลำบากมาก แม้จะสัมผัสพลังวิญญาณไม่ได้ แต่เจ้าคนใช้ดาบก่อนหน้านี้จำรูปร่างของชิงชิวได้ ทำให้มันโดนประกาศตามล่าไปทั้งเมือง

“เจอไหม”ชายคนหนึ่งถามพลางมองไปรอบๆ โชคดีที่ยาข่มพลังวิญญาณยังมีผลอยู่ ทำให้ชิงชิวไม่โดนจับ แต่หากเจอหน้าเข้าต่อให้สัมผัสพลังวิญญาณไม่ได้ก็โดนจับแน่อยู่ดี

“เจ้าเด็กนั่นโชคดีจริงๆที่ปลิวมาตรงเขตผู้ไร้พลังแบบนี้”ทหารวังหลวงว่าพลางถอนหายใจออกมา เพราะชิงชิวตอนนี้ไม่มีพลังวิญญาณ แถมอยู่ในเขตที่มีแต่คนไม่มีพลังวิญญาณทั้งนั้น ทำให้ชิงชิวกลมกลืนไปกับคนในเมืองมาก แต่หากพลังวิญญาณของชิงชิวกลับมา ยามนั้นมันจะโดนจับได้ในทันทีเลยก็ว่าได้

ปึง!! ชิงชิวเดินมาถึงประตูทางออก แต่ที่ประตูก็มีทหารยามเฝ้าระวังอยู่ แถมยังมีทหารวังหลวงยืนคุมอีกต่างหาก ท่าทางทุกประตูทางออกจะโดนขวางเอาไว้หมดแล้ว หากออกทางประตูต้องโดนตรวจใบหน้าอย่างแน่นอน

“ไอ้หนู หยุดก่อน”ชิงชิวมัวแต่มองทางประตูมากเกินไปทำให้ด้านหลังปรากฏทหารวังหลวงเดินเข้ามาหา ทำเอาชิงชิวใจหายวาบ หากโดนเห็นหน้าก็จบกัน ชิงชิวตัดสินใจวิ่งเข้าไปตามตรอกซอกซอยด้วยท่าเท้าของมัน แม้จะไม่มีพลังวิญญาณแต่ก็ช่วยเพิ่มความเร็วได้ในระดับหนึ่ง โชคดีที่มันโดนพวกครูฝึกเพิ่มกำลังขามาเยอะ ทำให้มันพอจะหลบพ้นสายตาของทหารวังหลวงคนนั้นไปได้

“มันอยู่แถวนี้”แม้ชิงชิวจะหลบเข้าซอยทัน แต่พวกทหารก็พบคนน่าสงสัยเข้าแล้ว พวกมันส่งสัญญาณเรียกพวกออกตรวจตรามากกว่าเดิม ทำให้พื้นที่หายใจของชิงชิวเหลือน้อยลงมาก แต่เพราะความสามารถในการดมกลิ่นที่เหนือมนุษย์ของมันทำให้มันทราบก่อนว่าจะมีทหารอยู่ตรงทางเลี้ยวหรือไม่ ทำให้ชิงชิวเดินหลบเลี่ยงตามตรอกมาได้เรื่อยๆ เพียงแต่…

“บ้าเอ้ย”ชิงชิวกัดฟันพลางมองกำแพงตรงหน้า มันเดินเข้ามาในทางตันเสียแล้ว ทั้งหมดเพราะมันเดินหลบพวกทหารก็เลยเลือกเส้นทางได้จำกัด สุดท้ายก็โดนล้อมเข้าทางตัน แถมพวกทหารวังหลวงยังใกล้เข้ามาแล้วอีกต่างหาก

ชิงชิวล้วงเข้าไปในกระเป๋าพลางนำของข้างในออกมา ตอนนี้มันมีแหวนมิติที่ยังใช้งานไม่ได้ กับยาข่มพลังวิญญาณอีก 1 เม็ด และ แก่นอสูรของอสูรแมงมุมที่มาช่วยมันเอาไว้ หากกินยาข่มพลังวิญญาณต่อก็ไม่อาจหลบจากตรงนี้ไปได้ หากใช้พลังวิญญาณออกมาก็หนีไม่พ้นอยู่ดี ชิงชิวเลยพยายามนึกหาของในแหวนมิติว่ามีอะไรจะช่วยมันได้หรือไม่

“…….”ชิงชิวพลันนึกถึงยาหลอมรวมอสูรที่มันได้มาจากเพิร์ลขึ้นมา อัตราสำเร็จในการหลอมรวมคือ 3 ใน 10 ส่วน โอกาสตายถึง 7 ส่วนทำเอาเพิร์ลไม่คิดจะกินมันก่อนหน้านี้ แต่หากหลอมรวมกับแก่นอสูรของอสูรแมงมุมบางทีอาจจะช่วยอะไรมันได้ ยิ่งความสามารถพิเศษของอสูรแมงมุมคือความสามารถหายตัวแล้วด้วย…

ตุบ…..ตุบ…..เสียงฝีเท้าและกลิ่นของพวกทหารเริ่มชัดขึ้น ทำให้ชิงชิวได้แต่กันฟันพลางใช้สมองตัดสินใจ

วูบ…ชิงชิวใช้พลังวิญญาณออกมาเพื่อเปิดใช้งานแหวนมิติ ทำให้ผลของยาข่มพลังวิญญาณเม็ดแรกหายไปทันที ชิงชิวแทบไม่ต้องคิดอะไรอีกแล้ว มันเอายาหลอมรวมอสูรออกมาจากแหวน ก่อนจะกำยาหลอมรวมอสูร ยาข่มพลังวิญญาณและแก่นอสูรแมงมุมเข้าปากในครั้งเดียว

“อัก…”ชิงชิวเบิกตากว้างด้วยความเจ็บปวด ก่อนที่พลังอสูรจะแล่นเข้ามาสู่ร่างกาย พริบตานั้นยาข่มพลังวิญญาณก็ออกฤทธิ์พร้อมๆกับยาหลอมรวมอสูร ทำให้ความเจ็บปวดของชิงชิวลดลง น่าแปลกร่างกายของมันราวกับหลอมรวมกับพลังอสูรของอสูรแมงมุมได้อย่างรวดเร็ว เพียงอึดใจเดียวเท่านั้นร่างของมันก็ก่อเกิดพลังอสูรขึ้นมา

“ทางนี้”เพราะพลังวิญญาณที่ชิงชิวใช้ไปก่อนหน้านี้ทำให้พวกทหารรู้ตัว พวกมันพุ่งตัวเพียงวูบเดียวก็เข้ามาถึงจุดที่ชิงชิวอยู่ แต่เมื่อพวกมันมาถึงก็พบเพียงซอยตันว่างเปล่าเท่านั้น

“อะไรกัน มันหายไปไหนแล้ว”ทหารคนหนึ่งพูดออกมาด้วยท่าทีงุนงง ทุกคนในที่นี้สัมผัสพลังวิญญาณเมื่อครู่ได้อย่างชัดเจน แต่พอมาถึงกลับไม่เห็นอะไรเลย

“นี่มัน เสื้อผ้า?”ทหารคนหนึ่งเดินมาตรงที่ชิงชิวอยู่ ก่อนจะหยิบเสื้อผ้าของชิงชิวขึ้นมาดู พวกมันไม่เข้าใจว่าทำไมชิงชิวต้องถอดเสื้อผ้าทิ้งไว้ และไม่เข้าใจด้วยว่าชิงชิวหายไปไหน

“…….”ชิงชิวหน้าแดงนิดหน่อยเมื่อต้องยืนโทงๆท่ามกลางสายตาของพวกทหาร เสื้อผ้าไม่อาจล่องหนไปได้ด้วยพลังของอสูรแมงมุม ทำให้ชิงชิวรีบถอดทิ้งทันที แม้จะอายแต่เพราะยังไงอีกฝ่ายก็มองไม่เห็นตนเองทำให้ชิงชิวถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

“……..”ชิงชิวเดินมายืนอยู่ข้างๆนายทหารคนหนึ่ง ยามนี้พวกมันสัมผัสถึงตัวชิงชิวไม่ได้เลย พลังวิญญาณก็โดนกดเอาไว้ ความสามารถนี้ก็ใช้พลังอสูรเท่านั้นเสียด้วย ยามนี้หากยกมีดขึ้นมาคงสามารถฆ่ายอดฝีมือตรงหน้าได้อย่างง่ายดาย แต่การเอามีดออกมาต้องใช้พลังวิญญาณและหากฆ่าตรงนี้คนอื่นๆก็ต้องรู้ตัวแน่ๆ ชิงชิวเลยเลือกที่จะเดินไปที่ประตูแทน

ครืดด…. เมื่อประตูถูกเปิดออกเพื่อให้พ่อค้าคนหนึ่งเดินทางออกจากเมือง ชิงชิวก็กระโดดขึ้นไปหลบบนรถม้าพลางเฝ้ามองอาการของพวกทหารเฝ้าประตู โชคดีที่ผู้ใช้เนตรจิตมีน้อยมาก ทำให้ชิงชิวสามารถผ่านประตูเมืองไปได้อย่างง่ายดาย