บทที่ 1590 – ชัยชนะ แบ่งปันผู้ชายของเจ้า

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1590 – ชัยชนะ แบ่งปันผู้ชายของเจ้า

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับไว ปูราชันย์ศึกประกายเงินขดตัวด้วยความรวดเร็วเพื่อส่วนท้องและพับขาที่แข็งแรงประกบเข้าไว้ด้วยกัน แม้แต่อาวุธทั้งสี่ของมันก็ถูกซ่อนไว้ด้านในตัว

 

ปัง ตูม!

 

แม้ว่าปูราชันย์ศึกประกายเงินจะสามารถป้องกันการโจมตีของหุบเขา 9 เทวาและหนามพสุธาได้ แต่ด้วยพลังของหุบเขา 9 เทวา ปูราชันย์ศึกประกายเงินถูกกระแทกถอยกลับไป 2-3 เมตร

 

การถูกอัดกระเด็นไปไม่ถือว่าเป็นความพ่ายแพ้ มันเป็นเรื่องปกติเมื่อต้องปะทะเข้ากับการโจมตีของอีกฝ่าย อย่างไรก็ตามการโจมตีในครั้งนี้ทำให้ชิงสุ่ยตระหนักว่าปูราชันย์ศึกประกายเงินไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา

 

ปูราชันย์ศึกประกายเงินรู้สึกไม่สบอารมณ์กับการโจมตีนี้ การที่ความเร็วลดลงอย่างฉับพลันทำให้เขารู้สึกราวกับว่ากำลังลุยฝ่าผ่านโคลนตม นี่ถือเป็นเรื่องที่อันตรายถึงชีวิตเมื่อต้องสู้กับนักรบที่ทรงพลัง

 

มันกลายเป็นสิ่งที่หนักเอาการ พละกำลังของเขาลดลง 20% มันมีผลอย่างมากและแทบจะทำให้เขาหลั่งน้ำตา นั่นอาจหมายถึงการพบกับจุดจบที่น่ากลัว

 

ถ้าเขาตายด้วยวิธีนี้… มันก็ไม่แตกต่างไปจากการตายด้วยสิ่งใดๆ

 

สายเลือดโบราณ!

 

ร่างของปูราชันย์ศึกประกายเงินเรืองแสงไปด้วยรัศมีของพลังที่ปล่อยออกมาจากตัวเขา นอกจากปราณจักรพรรดิและเคล็ดวิชาล่าสังหารแล้ว ผลกระทบด้านลบอื่นๆที่มีต่อเขาก็ลดทอนลง แต่ชิงสุ่ยสัมผัสได้ว่าอีกฝ่ายจะอ่อนกำลังลงในอีก 15 นาทีข้างหน้า

 

ถึงกระนั้นนี่ก็นับเพียงพอแล้วที่จะสร้างความประหลาดใจให้กับชิงสุ่ย สายเลือดโบราณนั้นทรงพลังอย่างแน่นอน ตอนนี้ปูราชันย์ศึกประกายเงินนั้นอยู่ภายใต้ผลของการลดความเร็วเพียง 30% และ 20% สำหรับการลดพลัง มันถือว่าดีขึ้นกว่าก่อนหน้านี้

 

ปราณจักรพรรดิยังคงน่าเกรงขามเหมือนเช่นเคย ยังไม่มีใครที่สามารถขจัดมันไปได้หมดจนถึงตอนนี้ มันสามารถลดทอนพลังของศัตรูได้ 20% ไม่ว่าในกรณีใด

 

ปูราชันย์ศึกประกายเงินมองชิงสุ่ยด้วยความหวาดกลัว สายเลือดโบราณสามารถใช้ได้เพียง 15 นาทีและมีผลช่วยลดพลังด้านลบออกไปได้

 

เขาไม่เคยพบเจอมาก่อนเรื่องเช่นนี้มาก่อน โดยทั่วไปสายเลือดโบราณจะสามารถขจัดทุกสิ่งได้และเขาจะสามารถยุติการต่อสู้ได้ภายใน 15 นาที เมื่อเขาใช้งานสายเลือดโบราณ เขาไม่กลัวสารพิษหรือผลกระทบเชิงลบใดๆอีกต่อไป รวมถึงเคล็ดวิชาการต่อสู้ที่ไม่ธรรมดา นี่เป็นความพิเศษของทักษะนี้

 

แม้ว่าเขาจะอยู่ในความหวาดกลัว แต่เขาก็รู้ว่าโอกาสเดียวที่เขาจะสังหารชิงสุ่ยได้ก็คือตอนนี้ หากผ่านไป 15 นาที โอกาสเดียวที่ของเขาก็ดับสูญไป เขาเป็นหนึ่งในสายเลือดโบราณ เขาไม่อาจถูกชายหนุ่มคนนี้สังหารได้ เขาเป็นตัวแทนของพระราชวังสุริยันในการต่อสู้ครั้งนี้และต้องได้รับชัยชนะ แต่เขารู้ว่าชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าเป็นอุปสรรคที่หนักหนา

 

วายุเฉือนสะบั้นบรรพกาล!

 

ปูราชันย์ศึกประกายเงินไม่นิ่งเฉยอีกต่อไป คมมีดวายุหมุนวนเข้าใส่ชิงสุ่ย ร่างอันมหึมาของเขาพุ่งไปราวกับลมพายุหมุน

 

อาวุธทั้ง 4 ชิ้นของเขาประกอบไปด้วยธาตุสามจากในห้าเบญจธาตุ

 

นี่คือทักษะสังหารไร้ปรานีของปูราชันย์ศึกประกายเงิน มันสามารถล็อคเป้าหมายไปที่ศัตรูได้ มันจะติดตามเป้าหมายไปจนกว่าจะหมดพลัง

 

ชิงสุ่ยตวัดง้าวทองทะลวงศัตรูของเขาและโจมตีด้วยทักษะ 9 รากฐานบรรพกาลศึก

 

การโจมตีด้วยง้าวทองทะลวงศัตรูนั้นคมกริบที่สุด แม้ว่ามันอาจจะไม่ได้ทรงพลังที่สุด แต่มันก็เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในการขัดขวางพลังเบญจธาตุ ตอนนี้ชิงสุ่ยอยู่ในสภาพที่พร้อมและพลังโจมตีที่เขาปลดปล่อยออกไปนั้นอยู่ในระดับสูงสุด

 

ฟุ่บ!

 

ง้าวทองทะลวงศัตรูสร้างร่างเงาขนาดมหึมาเป็นหอกทองคำขึ้น มันพุ่งไปราวกับลูกศรที่แหลมคมและทะลุผ่านไปถึงตัวปูราชันย์ศึกประกายเงิน

 

ชิงสุ่ยโงนเงนด้วยแรงสั่นสะเทือน ถึงกระนั้นเขาก็ไม่ได้รู้สึกอึดอัด ตอนนี้เขาแข็งแกร่งกว่าที่ตัวเองคาดไว้ ความสามารถของเคล็ดวิชาเทพมังกรมรกตช่างน่ากลัว

 

ความทนทานของชิงสุ่ยก็น่าตกใจพอๆกัน เขาสามารถต่อสู้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องหยุดชะงักเมื่อโจมตี…

 

ปูราชันย์ศึกประกายเงินถูกกระแทกเข้าใส่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า ร่างกายของเขาไม่ได้รับบาดเจ็บถึงขั้นร้ายแรงใดๆ แต่ความจริงที่ว่าทักษะสังหารไร้ปรานีถูกป้องกันเอาไว้ได้ทำให้เขารู้สึกว่าความมั่นใจลดต่ำลง

 

เขารู้สึกถึงวิกฤตอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาไม่อาจนึกถึงผลที่ตามมาจากความล้มเหลวและไม่ต้องการตาย เขาจะไม่สามารถคงไม่สามารถตายอย่างสงบ 15 นาที… ถ้าเขาไม่สามารถเอาชนะชิงสุ่ยได้ ความหวังในการชนะก็จะหายไป

 

ในทางตรงกันข้าม ชิงสุ่ยยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้นหลังจากโจมตี ด้วยความสามารถในการป้องกันที่แข็งแกร่งของตัวเอง เขาสามาถแสดงความสามารถออกมาได้โดยไม่ต้องลังเล แม้ว่าการโจมตีของเขาจะไม่ทรงพลัง มันก็ไม่ได้อ่อนด้อย ด้วยรูปแบบและง้าวทองทะลวงศัตรูก็เพียงพอแล้วที่จะใช้โจมตี

 

ทักษะย่างก้าว 9 เทวา!

 

ทักษะ 9 รากฐานบรรพกาลศึก!

 

การโจมตีต่อเนื่องของง้าวทองทะลวงศัตรูพุ่งตรงไปยังปูราชันย์ศึกประกายเงิน มันทำให้อีกฝ่ายต้องทนรับหรือหลบการโจมตีของชิงสุ่ย

 

หุบเขา 9 เทวา!

 

ในช่วงเวลานี้ชิงสุ่ยรู้สึกผ่อนคลาย เขาสามารถทำอะไรก็ได้ตามใจ

 

ขณะที่ชิงสุ่ยกำลังเพลิดเพลินกับช่วงเวลานี้ ปูราชันย์ศึกประกายเงินนั้นกำลังเหนื่อยล้าจากการโจมตี ร่างใหญ่กายกำยำของเขาได้รับบาดเจ็บอย่างต่อเนื่อง มีมากกว่า 2-3 ครั้งที่การโจมตีของชิงสุ่ยทะลวงผ่านอาวุธของเขา

 

อาวุธของเขาไม่ได้เป็นสิ่งประดิษฐ์แห่งสวรรค์ แต่ก็ยังคงเป็นของระดับตำนาน ตอนนี้เขาได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของชายหนุ่มแล้ว อย่างไรก็ตามเขาเหมือนจมดิ่งอยู่ในคลื่นอันบ้าคลั่งและไม่สามารถถอยหลังกลับได้

 

ปูราชันย์ศึกประกายทองคำสายเลือดโบราณ แม้จะมีทักษะการต่อสู้และความอดทน เขาก็ยังคงถูกโจมตีจนหายใจแทบไม่ทัน ความแข็งแกร่งของเขาไม่สามารถทำอะไรด้ แขนขาทั้งหมดของเขาต่างได้รับบาดเจ็บ

 

นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้รู้สึกแบบนี้? คราวนี้เขาพ่ายแพ้ก่อนที่จะถึง 15 นาทีเสียด้วยซ้ำ

 

เขารู้ว่าการต่อสู้นี้จบลงอย่างรวดเร็ว ความอ่อนเพลียของเขาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ภายใต้ผลของสายเลือดโบราณ พลังงานที่ใช้จะมากขึ้น 3 เท่าจากปกติ

 

ชิงสุ่ยไม่เคยต่อสู้อย่างยินดีเช่นนี้ แม้ว่าเขาจะทุบตีอีกฝ่ายไม่หนักหน่วงนัก แต่ความเสียหายก็สะสมมากขึ้น เขาไม่ได้รับอันตรายใดๆ กลับกันปูราชันย์ศึกประกายเงินนั้นบาดเจ็บอย่างเห็นได้ชัด มันอาจจะไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ร่างกายก็เปียกโชนไปด้วยเลือด

 

ยิ่งต่อสู้มากเท่าไหร่ ชิงสุ่ยก็ยิ่งฮึกเหิมขึ้น ราวกับว่าเขาไม่รู้สึกอ่อนล้ากับการโจมตี นั่นไม่ใช่ทั้งหมด ยิ่งโจมตีมากขึ้น มันก็จะยิ่งง่ายสำหรับเขาเช่นกัน เขาสัมผัสได้ว่าตัวเองแข็งแกร่งขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป

 

ผู้คนในพระราชวังทะเลราชันย์กำลังส่งเสียงให้กำลังใจอย่างไม่หยุดหย่อน

 

“เขาไม่เพียงเป็นผู้พิทักษ์ที่มีศักยภาพเท่านั้น เขายังแข็งแกร่งที่สุดอีกด้วย เขาทรงพลังแค่ไหนกันถึงสามารถเอาชนะปูราชันย์ศึกประกายเงินได้ตั้งแต่อายุยังน้อย!”

 

“ถูกต้อง! ดูเหมือนว่าพระราชวังทะเลราชันย์จะก้าวหน้าขึ้นไปอีกในไม่ช้า”

 

“ ผู้พิทักษ์ชิงสุ่ยเป็นสามีของรองประมุขและมีเพียงเธอเท่านั้นที่เหมาะสมกับชายหนุ่มคนนี้”

 

“เจ้ากำลังพูดถึงเรื่องอะไร? ต้องเป็นผู้พิทักษที่คู่ควรกับรองประมุขของพวกเราซิ”

 

“สิ่งที่พวกเราต้องทำคือรักษาความภักดีต่อพระราชวังทะเลราชันย์และทำงานหนักเพื่อพระราชวังทะเลราชันย์ เมื่อพวกเราแข็งแกร่ง พวกเราจะสามารถปกป้องชีวิตและญาติของพวกเราเองได้”

 

“ถูกต้อง ข้าเกิดที่พระราชวังทะเลราชันย์และข้าจะอยู่ที่นี่ตลอดไปถึงแม้จะตายกลายเป็นผี”

 

……

 

อีกด้านหนึ่ง พระราชวังสุริยันเริ่มหมดกำลังใจ ฝูงชนที่รวมตัวกันต่างนิ่งเงียบ ดูเหมือนว่าพวกเขาจะหมดความศรัทธาในตัวของปูราชันย์ศึกประกายเงินแล้ว นักรบผู้แข็งแกร่งที่พวกเขานับถือ บัดนี้ได้พ่ายแพ้ ด้วยความเดือดดาล พวกเขาอยากที่จะพุ่งออกไปและจัดการชิงสุ่ย

 

“กลับมาซะ เจ้าพ่ายแพ้แล้ว พวกเรากลับ!”

 

เสียงอันไพเราะดังขึ้น ชิงสุ่ยสามารถระบุตัวตนได้ทันที นั่นเป็นเสียงของประมุขพระราชวังสุริยัน

 

ปูราชันย์ศึกประกายเงินหยุดเคลื่อนไหวเพราะเสียงที่ได้ยิน แม้ว่าเขาจะไม่เต็มใจ มันก็ยังดีกว่าต้องมาตาย เขาเคารพให้ตัวประมุขของเขา ไม่ว่าเธอต้องการอะไร เขาก็จะทำ เขาจะทำโดยไม่โต้แย้งและขัดขืนใดๆ

 

โดยธรรมชาติแล้ว ชิงสุ่ยก็หยุดมือลงเช่นกัน

 

“พวกเราจะถอนกำลังในอีก 15 นาที พวกเราจะลืมเรื่องทั้งหมดไป แต่ถ้าเจ้าปฏิเสธที่จะยอมรับ เจ้าสามารถมาตกลงสิ่งอื่นกับข้าได้ที่พระราชวังสุริยัน” หญิงสาวกล่าวและไม่พูดอะไรอีก

 

ชิงสุ่ยไม่ได้ตอบกลับ เขารู้ว่านี่เป็นข้ออ้างสำหรับเธอที่จะถอยกลับ ถึงแม้ว่าปูราชันย์ศึกประกายเงินจะรักษาชีวิตเอาไว้ได้ แต่หลังจากนี้มันก็ยังต้องแบกภาระที่หนักอึ้งต่อไป

 

ชิงสุ่ยกลับมาโดยไม่พูดอะไร หลังจบการต่อสู้ หญิงสาวทั้งสองกลับไปยังที่พักและพูดคุยเกี่ยวกับการต่อสู้ของเขา

 

“เจ้าแข็งแกร่งมากแค่ไหนกัน ดูเหมือนว่าพวกเราจะได้พบสมบัติอันล้ำค่าแล้ว” รอยยิ้มอันงดงามปรากฏบนใบหน้าของมู่หยุนชิงเฉิง

 

“ข้าบอกเจ้าแล้วว่าข้าสามารถทำได้ แต่ข้าไม่ได้แข็งแกร่งอะไรมากมาย ข้าเป็นสมบัติล้ำค่าจริงๆงั้นหรือ?” ชิงสุ่ยมองไปที่อีเย่เจี้ยนเก้อด้วยรอยยิ้ม

 

ความอ้างว้างแผ่ซ่านไปทั่วดวงตาของมู่หยุนชิงเฉิง แต่เธอยังคงยิ้มกว้าง “เจ้าเป็นสมบัติอันล้ำค่าของเจี้ยนเก้อ นางเปลี่ยนไปมากตั้งแต่เจ้ามาถึง หากสิ่งนี้ยังคงเกิดขึ้นต่อไป ความไม่รู้จักของนางคงจะฝังเข้าไปในตัวเจ้า”

 

มู่หยุนชิงเฉิงกล้าที่จะพูดคำเหล่านั้น แม้กระทั่งอีเย่เจี้ยนเก้อก็ไม่ได้โต้ตอบกลับ ด้วยใบหน้าที่แดงก่ำและเธอเหลียวมองไปทางมู่หยุนชิงเฉิง “ข้าบอกเจ้าแล้วว่าถึงเวลาที่จะต้องหาใครสักคน”

 

“เช่นนั้นทำไมไม่แบ่งปันผู้ชายของเจ้าหล่ะ?” มู่หยุนชิงเฉิงพูดพร้อมกับหัวเราะร่า เธอบอกว่ามันเป็นเรื่องตลก แต่มันมีแนวโน้มว่าสิ่งนี้จะมีความหมายแอบแฝง