เซียนบู๊ ทะลวงชั้นฟ้า บทที่ 560
“ย๊าก!”

ลู่ฝานแผดเสียงออกมา กระตุ้นพลังฟ้าดินตามสัญชาตญาณ ขณะเดียวกันพลังที่พุ่งเข้ามาในตัวเขา โดนปราณชี่ดันออกไปนอกตัว

เขตวิถีบนกระบี่หนักไร้คมสว่างขึ้นมาอีกครั้ง ลู่ฝาน “เบิกตา” มองพลังทั้งหมดโดนเขตวิถีขจัดออกไป เหมือนสายน้ำปะทะกับโขดหิน ทำได้เพียงหลีกทางให้

พายุทอร์นาโดสองลูกพัดผ่านข้างตัวลู่ฝานไป พร้อมเสียงดังสนั่นน่ากลัว จนทำให้ลานประลองบู๊เกิดเป็นรอยแยกลึก

ลู่ฝานถือดาบมือเดียว จู่ๆ เริ่มเข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมา

ผลักดันพลังออกไป

วิธีนี้เขาเคยใช้ปราณชี่ทดสอบแล้ว สามารถทำได้ถึงขั้นที่เอาพลังฟ้าดินผลักดันออกไป

เมื่อเป็นเช่นนี้ สามารถเอาพลังปราณผลักดันออกไปได้เหมือนกันใช่ไหม

ปราณชี่ของเขาเป็นการรวมตัวของพลังปราณกับพลังชี่ ถ้าพูดกันตามเหตุผล เป็นการรวมตัวของสองสิ่ง ซึ่งเป็นสองสิ่งที่แตกต่างกัน น่าจะเคลื่อนไหวพลังปราณได้

ลู่ฝานรู้สึกว่าเดิมทีเขาใช้ปราณชี่เป็นพลังปราณมากเกินไป

ถูกต้องที่เขาเป็นนักบู๊ แต่เขาก็ไม่ใช่นักบู๊!

เมื่อคิดได้ แววตาของลู่ฝานมีประกายลุกโชน

“เป็นไปได้ยังไง!”

เมื่อกวนหานเห็นว่ากระบวนท่าที่สองของตัวเอง ยังไม่สามารถฆ่าลู่ฝานได้ เขาทั้งหงุดหงิดและโมโห

กระบี่กลืนทิพย์ถูกใช้อีกครั้ง ทันใดนั้น เห็นกระบี่กลืนทิพย์แยกเป็นสอง สองแยกเป็นสาม เพียงพริบตาเดียว มันแยกเป็นกระบี่ใหญ่เกินร้อย กระบี่แต่ละเล่มยาวหกเมตร กว้างสามเมตร

“ฆ่า!”

กวนหานกดฝ่ามือลง กระบี่ขนาดใหญ่เป็นร้อยพุ่งลงไปหาลู่ฝาน

กระบี่ยาวแต่ละเล่มเหมือนเสาน้ำแข็งลงมาจากฟ้า กระแทกพื้นดินจนเกิดเสียงระเบิดดังขึ้น

ลู่ฝานยืนอยู่ตรงนั้น ปล่อยปราณชี่ของตัวเองออกมาอีกครั้ง

“ดันออกไป ดันออกไป!”

พลั่ก พลั่ก พลั่ก!

กระบี่ใหญ่จำนวนมากกระแทกลงบนตัวลู่ฝานอย่างต่อเนื่อง

ตอนนี้ลู่ฝานกัดฟันอดทนไว้ เลือดไหลออกมาจากมุมปาก

พื้นดินโดนกระแทกจนเป็นหลุมลึก หลังจากกระบี่ใหญ่ร่วงลงมาเป็นร้อย ไม่เห็นตัวของลู่ฝานแล้ว

กวนหานหอบหายใจ เริ่มมีเหงื่อออกบนตัว

นักบู๊พละกำลังแบบเขา ปกติจะไม่มีอาการแบบนี้ แต่เมื่ออาการปรากฏออกมา มันเป็นสิ่งยืนยันว่าเขาใกล้จะหมดแรงแล้ว

“ตายแล้วสินะ! ครั้งนี้ต้องตายแน่นอน!”

กวนหานกวักมือ กระบี่ใหญ่ร้อยเล่มกลายเป็นแสง รวมตัวเป็นกระบี่กลืนทิพย์ กลับไปอยู่ในมือกวนหานอีกครั้ง

แต่กระบี่กลืนทิพย์ไม่มีความเปลี่ยนแปลงอะไร สีหน้าของกวนหานตกใจ

หันไปมองในหลุม เห็นลู่ฝานค่อยๆ ลุกขึ้นมา

พลังชีวิตที่แข็งแกร่งขนาดนี้ พลังการต้านทานการโจมตีที่น่ากลัวขนาดนี้ ผู้ชมที่อยู่รอบๆ เห็นแล้วพากันตกตะลึง

“นี่……นี่แข็งแกร่งเหมือนสัตว์อสูรเลย!”

“คุณชายลู่ฝานเก่งมาก ยังยืนขึ้นมาได้อีก”

“พระเจ้า ร่างกายเขาแข็งแกร่งมาก ข้างล่างก็ต้องแข็งแกร่งมากแน่นอน”

เมื่อพูดจบ กลุ่มคนมองไปยังผู้หญิงที่พูดออกมา ผู้หญิงรู้ตัวว่าพลั้งปากพูด แต่ก็ยังตะโกนว่า “คุณชายลู่ฝาน ฉันรักคุณ!”

……

“สู้ๆ!”

หานเฟิงก็ลุกขึ้นตะโกนออกมาเช่นกัน

“ศิษย์น้องลู่ฝาน ลุกขึ้นมา! ให้ตายเถอะ นักบู๊คือสิ่งที่ฆ่าไม่ตาย นายเหมือนคนในครอบครัวของฉัน!”

หานเฟิงยิ่งตะโกนยิ่งฮึกเหิม เขาเห็นสไตล์ของคนตระกูลหานบนตัวลู่ฝานจริงๆ

เขาพอจำได้รางๆ ตอนนั้นที่พ่อเขาสู้กับศัตรูก็เป็นแบบนี้

สู้ไม่ได้ ไม่เป็นไร ฆ่าไม่ตายคือสิ่งสำคัญที่สุด!

ลู่ฝานยืดหลังตรงอีกครั้ง สูดหายใจมองกวนหาน แล้วพูดว่า “เข้ามาอีกสิ!”

กวนหานโมโหจนแทบจะระเบิด ไม่เคยเจอคนที่รับมือยากขนาดนี้มาก่อน

ครั้งนี้กวนหานถือกระบี่พุ่งเข้าไปหาลู่ฝานด้วยตัวเอง

เขาจะแทงหัวลู่ฝานให้ทะลุในกระบี่เดียว ดูสิว่าลู่ฝานยังจะยืนขึ้นมาได้อีกไหม

กระบี่โจมตีออกไป ตามมาด้วยพลังปราณ

แต่ตอนนี้พลังปราณของกวนหานไม่ได้มากเหมือนก่อน เดิมทีสีฟ้าเย็นยะเยือกที่สามารถปกคลุมทั้งฝ่ามือ เหลือเพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น

เมื่อเห็นกระบี่ของกวนหานพุ่งเข้ามา เขาตั้งกระบี่หนักไว้ข้างหน้าตามสัญชาตญาณ โดยไม่ต้องคิดสักนิด ต้านทานกระบี่กลืนทิพย์เอาไว้

กวนหานเปลี่ยนกระบวนท่ากระบี่อีกครั้ง ลู่ฝานก็เคลื่อนไหวตาม จากนั้นต้านทานไว้ได้อีก

ตลก วิชากระบี่ขั้นพื้นฐานไม่ได้ฝึกมาเสียเปล่า จะเอาเปรียบเขาด้วยวิชากระบี่ประชิดตัวแบบนี้ กวนหานต้องเป็นนักบู๊แดนปราณดินถึงจะทำได้

กวนหานไม่เชื่อ จึงใช้กระบี่จู่โจมอีก ลู่ฝานต้านทานได้ทุกกระบี่เหมือนรู้ล่วงหน้า

กระบี่สุดท้ายแทงออกมา กระบี่หนักของลู่ฝานต้านทานได้อีกครั้ง

แต่ครั้งนี้ จู่ๆ ปราณชี่ของลู่ฝานกระเพื่อม จากนั้นเห็นเหมือนพลังปราณของกวนหาน โดนอะไรผลักออกไปอีกด้าน

สำเร็จแล้ว!

ลู่ฝานยินดีมาก

เขารู้ว่าวิธีนี้ประสบความสำเร็จได้!

พลังปราณของกวนหานโดนผลักออกไปแบบนี้ ทำให้เห็นช่องโหว่ทันที

ลู่ฝานเคลื่อนตัวไปข้างหน้า ตบกระบี่ลงบนหน้ากวนหาน

เหมือนโจมตีลูกบอล กวนหานลอยกระเด็นออกไป กระแทกลงบนพื้นอย่างแรง เขาเอามือกุมหน้า เลือดสดไหลออกมา

“ลู่ฝาน!”

กวนหานตะโกนออกมาอย่างดุดัน เหมือนตะโกนออกมาสุดชีวิต

ลู่ฝานยิ้มบางๆ มองกวนหานแล้วพูดว่า “พูดตรงๆนะ วิชากระบี่ของนายแย่จริงๆ!”