บทที่ 1367 ดูดกลืนปราณทั้งสาม

Reverend Insanity เทพปีศาจหวนคืน

หลังกล่าวจบคำ กลิ่นอายของราชันมังกรก็เปลี่ยนแปลงไป

 

มันเหมือนกลิ่นอายของมังกรยักษ์ที่ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้า

 

ราชันภูเขาม่วงตระหนักถึงอันตรายร้ายแรง

 

“โฮก…”

 

ราชันมังกรเปิดปากคำราม

 

ต่อมาเขาหายตัวไปจากจุดนั้น

 

“โอ้ โม่!” หัวใจของราชันภูเขาม่วงจมดิ่งลง

 

ราชันมังกรกำลังทำสิ่งเดิมอีกครั้ง

 

เขาเคยใช้วิธีนี้เคลื่อนย้ายสถานที่ในพริบตาและโจมตีราชันภูเขาม่วงด้วยหมัดมังกรแห่งความโกลาหล

 

ผู้อมตะทั่วไปจะไม่สามารถตอบสนองแม้พวกเขาจะรู้ถึงเจตนาของราชันมังกร แต่ราชันภูเขาม่วงแตกต่างออกไป เขาเป็นผู้อมตะระดับแปดบนเส้นทางแห่งปัญญา ความคิดของเขารวดเร็วมาก

 

แทบจะในเวลาเดียวกันกับที่ราชันมังกรคำราม ราชันภูเขาม่วงก็ตอบสนองไปแล้ว

 

ครั้งนี้ราชันมังกรไม่ประสบความสำเร็จในการเข้าประชิดตัวราชันภูเขาม่วง เขาอยู่ห่างออกไปหลายร้อยก้าว

 

แต่สำหรับราชันมังกร ระยะทางนี้เพียงพอแล้ว

 

“ดูดกลืนปราณมนุษย์!” ราชันมังกรโบกมืออย่างง่ายๆ

 

แต่ราชันภูเขาม่วงกลับเผชิญหน้ากับการระเบิดครั้งใหญ่

 

ปราณมนุษย์จำนวนมากพุ่งออกจากร่างของราชันภูเขาม่วงและบินเข้าไปหาราชันมังกร

 

หลังจากสูญเสียปราณมนุษย์จำนวนมหาศาล ใบหน้าของราชันภูเขาม่วงกลายเป็นซีดขาว เส้นผมสีม่วงที่สดใสของเขากลายเป็นหม่นหมอง เขารู้สึกถึงความอ่อนแอทั้งร่างกายและจิตใจ

 

ลึกเข้าไปในดวงตาของราชันภูเขาม่วงสามารถมองเห็นความตกใจ นี่ทำให้เขานึกถึงท่าไม้ตายอมตะบนเส้นทางแห่งพลังปราณที่มีชื่อเสียง

 

ดูดกลืนปราณทั้งสาม!

 

นี่เป็นท่าไม้ตายอมตะที่ถูกสร้างขึ้นโดยเทพอมตะแรกกำเนิด มันมีลักษณะเด่นสองประการที่ทุกคนรู้จักดี

 

ประการแรก มันยากที่จะเรียนรู้

 

มันเป็นท่าไม้ตายอมตะที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อและใช้วิญญาณจำนวนมหาศาล กระทั่งผู้อมตะบนเส้นทางแห่งปัญญายังรู้สึกปวดหัวกับมัน

 

ประการที่สอง ความเสี่ยงของการใช้ท่าไม้ตายนี้สูงมาก

 

เนื่องจากความซับซ้อนของมัน ผู้อมตะมีโอกาสทำสิ่งผิดพลาดและพบกับฟันเฟืองร้ายแรง

 

หากท่าไม้ตายล้มเหลว พวกเขาจะเป็นฝ่ายได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

แต่ท่าไม้ตายอมตะดูดกลืนปราณทั้งสามมีพลังอำนาจที่น่าสะพรึงกลับอย่างไม่น่าเชื่อ

 

คำอธิบายของมันเริ่มจากขั้นตอนก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ

 

มนุษย์ที่ก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะต้องดูดซับและหลอมรวมปราณสวรรค์ ปราณพิภพ และปราณมนุษย์

 

เมื่อผู้ใช้วิญญาณบ่มเพาะตั้งแต่ระดับหนึ่งถึงห้า พวกเขาจะได้รับปราณมนุษย์ในกระบวนการนี้ เมื่อพวกเขาก้าวเข้าสู่ขอบเขตอมตะ พวกเขาจะดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพเข้าไปผสานกับปราณมนุษย์

 

ยิ่งมีปราณมนุษย์มากเท่าใด พวกเขาก็ยิ่งสามารถดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพได้มากเท่านั้น

 

โดยปกติแล้วร่างสุดยอดกายาทั้งสิบจะมีปราณมนุษย์มากที่สุด นอกจากนั้นผู้อมตะที่สามารถบรรลุระดับปรมาจารย์บนเส้นทางบางสายก็จะมีปราณมนุษย์ที่อุดมสมบูรณ์เช่นกัน

 

ด้วยการผสานปราณทั้งสามเข้าสู่มิติช่องว่าง พวกเขาจะกลายเป็นผู้อมตะ

 

ปราณสวรรค์ ปราณพิภพ และปราณมนุษย์ หากขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง มิติช่องว่างของพวกเขาจะขาดเสถียรภาพ

 

เช่นเดียวกับฟางหยวนที่ต้องวางมิติช่องว่างลงเพื่อดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพเป็นครั้งคราวเพื่อสร้างสมดุลให้กับมิติช่องว่างจักรพรรดิ

 

ไม่ว่าจะเป็นผู้อมตะหรือเทพอมตะ พวกเขาก็ไม่สามารถประมาทกับเรื่องนี้

 

ปราณสวรรค์และปราณพิภพจะแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาค หากผู้อมตะดูดซับปราณสวรรค์และปราณพิภพของภูมิภาคอื่น มิติช่องว่างของพวกเขาจะประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ แม้พวกเขาจะสามารถทำเช่นนั้นในสถานการณ์ฉุกเฉิน แต่ก็ไม่ควรปล่อยให้เกิดขึ้นบ่อยเกินไป

 

คำอธิบายเหล่านี้พิสูจน์ว่าปราณสวรรค์ ปราณพิภพ และปราณมนุษย์มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อมิติช่องว่างของผู้อมตะ หากเกิดความไม่สมดุล มิติช่องว่างของพวกเขาจะได้รับความเสียหายร้ายแรง

 

และท่าไม้ตายนี้เป็นการโจมตีไปที่จุดนี้โดยตรง

 

มันเป็นท่าไม้ตายต่อเนื่องและกำหนดเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจงในท่าเดียว ดังนั้นผู้อมตะที่ใช้ท่าไม้ตายนี้จึงต้องมีความชำนาญเป็นอย่างมาก

 

การดูดกลืนพลังปราณมีอยู่สามรูปแบบ

 

รูปแบบแรกคืการดูดกลืนปราณมนุษย์ หลังจากเป้าหมายถูกโจมตี พวกเขาจะสูญเสียปราณมนุษย์จำนวนมาก รากฐานของพวกเขาจะร่วงหล่นลง แน่นอนว่าหากเป้าหมายไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสัตว์อสูร ท่าไม้ตายนี้ก็จะไม่ประสบความสำเร็จ

 

รูปแบบที่สองคือการดูดกลืนปราณพิภพ หากเป้าหมายถูกโจมตี พวกเขาจะสูญเสียปราณพิภพอย่างรุนแรง ปราณทั้งสองจะเสียสมดุล มิติช่องว่างจะตกอยู่ในสถานการณ์อันตราย

 

รูปแบบที่สามคือการดูดกลืนปราณสวรรค์ มันจะดูดปราณสวรรค์ออกมา เมื่อเป้าหมายถูกโจมตี มิติช่องว่างของพวกเขาจะแตกสลายทันที

 

ราชันภูเขาม่วงเร่งล่าถอย

 

เขาถูกดูดปราณมนุษย์ออกไปแล้ว หากเขาถูกดูดปราณพิภพอีกครั้ง มันจะร้ายแรงมาก

 

อย่างไรก็ตามแม้ราชันภูเขาม่วงจะรู้เรื่องนี้ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเผชิญหน้ากับมัน เขาไม่สามารถมองทะลุท่าไม้ตายนี้ได้ในระยะเวลาสั้นๆ

 

ท่าไม้ตายนี้ซับซ้อนเกินไป แม้มันจะใช้งานยาก แต่มันก็ยากที่คู่ต่อสู้จะคลี่คลายและตอบโต้เช่นกัน

 

ท้ายที่สุดมีข้อดีก็มีข้อเสีย

 

ราชันภูเขาม่วงไม่สามารถแก้ไข เขาทำได้เพียงใช้วิธีของเขาสร้างร่างเทียมจำนวนนับไม่ถ้วนขึ้นมาเท่านั้น

 

ท่าไม้ตายของราชันมังกรทรงพลัง แต่หากมันไม่สามารถโจมตีเป้าหมาย มันก็ไร้ประโยชน์

 

อย่างไรก็ตามราชันมังกรไม่รู้สึกกังวล เขาหัวเราะขณะที่เสียงของเขากระจายไปทั่วสนามรบ “มันสายไปแล้ว ราชันภูเขาม่วง เจ้าถูกโจมตีแล้ว ไม่มีทางที่เจ้าจะหลบเลี่ยงการโจมตีอีกสองครั้ง”

 

“มา ดูดกลืนปราณพิภพ!” ราชันมังกรโบกมือเป็นครั้งที่สอง

 

เขาไม่ได้หลอกลวง แม้เขาจะไม่รู้ว่าราชันภูเขาม่วงอยู่ที่ใด แต่ราชันภูเขาม่วงยังถูกโจมตีทันที

 

ราชันภูเขาม่วงตกใจมาก

 

ปราณพิภพจำนวนมหาศาลพุ่งออกจากมิติช่องว่างของเขาและบินเข้าสู่ฝ่ามือของราชันมังกร

 

มิติช่องว่างของราชันภูเขาม่วงได้รับความเสียหายร้ายแรง รากฐานของเขาพังทลายขณะที่มิติช่องว่างของเขากำลังจะแตกออกเป็นชิ้นๆ

 

ทางเลือกสุดท้ายของราชันภูเขาม่วงคือการวางมิติช่องว่างลง

 

ด้วยวิธีนี้เขาจะสามารถดูดซับปราณสวรรค์พิภพเพื่อสร้างเสถียรภาพ

 

แต่ราชันภูเขาม่วงยอมแพ้ต่อตัวเลือกนี้ทันที

 

นี่เป็นความคิดที่แย่มาก

 

หากราชันภูเขาม่วงวางมิติช่องว่างลง ร่างของเขาจะติดอยู่ในมิติช่องว่าง เขาจะถูกผลักออกจากสนามรบทันที

 

ในเวลาเดียวกับราชันมังกรก็จะรอเขาอยู่ด้านนอก

 

หากประตูมิติเปิดออก ราชันมังกรจะสามารถเข้าไปและสร้างความเสียหายร้ายแรง นอกจากนั้นเขายังสามารถต่อสู้และล่าถอยได้ตามใจปรารถนาขณะที่ราชันภูเขาม่วงจะติดอยู่ภายใน

 

‘กระทั่งข้าจะพยายามดูดซับปราณพิภพ แต่ข้าก็ยังขาดปราณมนุษย์ ข้าไม่มีวิธีบนเส้นทางแห่งมนุษย์ที่สามารถเติมเต็มปราณมนุษย์ ข้าทำได้เพียงต้องซื้อมนุษย์หรือมนุษย์กลายพันธุ์จำนวมากเข้ามาเท่านั้น’

 

ความคิดมากมายพุ่งเข้าสู่จิตใจของราชันภูเขาม่วง

 

ในเวลาอันสั้น เขาตัดสินใจแล้ว

 

เขายื่นแขนออกมาและจับหน้าท้องของตนเองก่อนที่แสงสีม่วงจะส่องประกายขึ้นในมือของเขา

 

จากนั้นเขาก็ดึงฝ่ามือออกมาอย่างช้าๆ

 

ด้วยวิธีนี้ มิติช่องว่างของเขาจึงถูกนำออกมา

 

ฟางหยวนรู้สึกคุ้นเคยกับเหตุการณ์นี้

 

เขานึกถึงนางมารผลาญสวรรค์

 

นางมารผลาญสวรรค์สามารถใช้วิธีบนเส้นทางแห่งไฟเพื่อดึงมิติช่องว่างของผู้อื่นออกมา

 

ท่าไม้ตายนี้ฝากความประทับใจไว้กับฟางหยวน

 

‘ราชันภูเขาม่วงรู้จักวิธีนี้ได้อย่างไร?’ ฟางหยวนงุนงงเล็กน้อยแต่ในไม่ช้าเขาก็เข้าใจ

 

นางมารผลาญสวรรค์เป็นสมาชิกของกองกำลังพันธมิตรผีดิบขณะที่ไห่ลั่วหลันถูกควบคุมโดยนิกายเงา ไม่ใช่เรื่องแปลกหากราชันภูเขาม่วงจะรู้จักวิธีนี้

 

หากความสำเร็จเพียงพอ พวกเขาจะสามารถเลียนแบบทักษะบนเส้นทางสายอื่น

 

การเคลื่อนไหวของราชันภูเขาม่วงชัดเจนว่าเป็นวิธีบนเส้นทางแห่งปัญญา มีความเป็นไปได้ที่เขาจะสร้างมันขึ้นมาด้วยตนเองและไม่เกี่ยวข้องกับนางมารผลาญสวรรค์

 

ราชันภูเขาม่วงนำมิติช่องว่างของเขาออกมาและวางมันลงเพื่อดูดซับปราณพิภพ

 

แต่ถ้ำสวรรค์แห่งนี้มีความหวังเพียงเล็กน้อยที่จะรอดพ้นจากการล่มสลาย แม้มันจะได้รับปราณพิภพกลับคืน แต่มันก็ยังขาดปราณมนุษย์

 

เห็นวิธีการของราชันภูเขาม่วง ราชันมังกรรู้สึกตกใจเล็กน้อย ใบหน้าของเขาแสดงให้เห็นถึงความชื่นชมอยู่ครู่หนึ่ง