ตอนที่ 267

Legend of the mythological genes

หวือออ!

พายุรุนแรงคำรามในหูของพวกเขา

สมาชิกในทีมของเฟิงหลินลืมตาขึ้นและพบว่าพวกเขาอยู่สูงขึ้นไปบนท้องฟ้าผ่านชั้นเมฆ และกำลังจะตกลงบนไหล่ทวีป

พวกเขาเปิดชุดรบและแก๊สก็พุ่งออกมา ทำให้พวกเขาสามารถรักษาสมดุลร่างกายและยืนบนพื้นได้อย่างมั่นคง

ประตูเคลื่อนย้ายดวงดาวนับว่าน่าเหลือเชื่ออย่างแท้จริง!

เฟิงหลินเต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย

มันใช้เวลาเพียงไม่นาน และพวกเขาสามารถเดินทางข้ามจักรวาล มันเป็นปาฏิหาริย์อย่างแท้จริง

พวกเขาทั้งห้ารวมตัวกันและเริ่มค้นหาจุดเชื่อมโยง

ตอนนี้ทีมอื่น ๆ ผ่านหน้าพวกเขาไปและลงมาเหมือนพลร่ม

ยานาเปิดไมโครชิปของเธอขึ้นมาและมีแผนที่สามมิติปรากฏขึ้น มันบันทึกสถานการณ์ทางภูมิศาสตร์และการกระจายของเผ่าพันธุ์ในบริเวณใกล้เคียง

นี่คือดาวเคราะห์ดวงใหม่ที่เต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณ เต็มไปด้วยทรัพยากรชั้นดีทุกประเภท

จากการสอดแนมด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ พบว่ามีห้าจุดในโดเมนนี้ที่มีปฏิกิริยาปราณจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่ที่สุด มันคือ ทะเลสาปดวงโกลาหล ภูเขาสามชั้น หุบเหวน้ำดำ บึงเมฆ และทุ่งราบทอง…

สถานที่เหล่านี้แต่ละแห่งโดดเด่นมากเมื่อมองลงมาจากท้องฟ้า

สถานที่เหล่านี้ล้วนเป็นสถานที่ที่กลุ่มคนมารวมกันมากที่สุด

อย่างไรก็ตามยานากลับชี้ไปยังพื้นที่ที่เงียบสงบซึ่งมีเพียงปฏิกิริยาพลังงานอ่อนแรง

ในฐานะที่เป็นสมองของทีม เฟิงหลินรู้ว่าเธอจะไม่ทำอะไรโดยไม่มีเหตุผลและตัดสินใจเชื่อเธอ

ตอนนี้การจ้องมองของอี้เต็มไปด้วยความไม่พอใจ เขามองไปที่พื้นที่ที่มีจำนวนคนลงจอดมากที่สุด เขามีความตั้งใจในการต่อสู้ เขาไม่สามารถรอที่จะต่อสู้กับผู้เชี่ยวชาญเหล่านี้ได้

หมอผีอาศัยอยู่ในถิ่นทุรกันดารและต่อสู้กับสัตว์ร้ายตลอด จิตสังหารพวกเขามากกว่าใครอื่น

อย่างไรก็ตามเนื่องจากเฟิงหลินผู้เป็นหัวหน้าไม่เห็นด้วย ทีมพวกเขาจึงร่อนลงบนหุบเขาสีเขียว

นี่คือหุบเขาบนภูเขาดั้งเดิมที่เรียกว่าหุบเขามรกต

สถานที่แห่งนี้เต็มไปด้วยต้นไม้และหญ้าสีเขียว

สภาพแวดล้อมของดาวเคราะห์ได้รับการสแกนอย่างละเอียด ภูมิประเทศทั้งหมดได้รับการตั้งชื่อแล้ว

ในฐานะดาวเคราะห์ดึกดำบรรพ์ที่ไม่มีระดับอารยธรรม สมาคมการบ่มเพาะไม่ได้ส่งกองทัพมา พวกเขาถือว่ามันเป็นพื้นที่สอบ ใช้ทดสอบผู้สมัครของมหาวิทยาลัยเอกภพ

พวกเขาทั้งห้าลงจอด

ในช่วงแรกเฟิงหลินค้นพบว่าปราณจิตวิญญาณนั้นหนามากจนทำให้ขนของเขาตั้ง มันเกินจินตนาการ

มันหนากว่าที่ปิระมิดทองคำดวงดาว

ดาวเคราะห์ปราณจิตวิญญาณ!

มันเป็นดาวเคราะห์ปราณจิตวิญญาณที่ยังไม่พัฒนา

จำนวนปราณจิตวิญญาณที่ไม่มีที่สิ้นสุดพุ่งพล่านทะลุผ่านรูขุมขนของพวกเขา ราวกับว่าร่างกายของพวกเขาได้รับการชำระล้างด้วยน้ำพุใสที่ไหลเข้าไปในตัว

กลิ่นอายป่าพรั่งพรูและกลิ่นอายดั้งเดิมก็เอ่อล้น มันเป็นฉากธรรมชาติดั้งเดิม

หุบเขามรกตเป็นชื่อภูเขาและแม่น้ำที่สวยงามทุกอย่างถูกปกคลุมด้วยสีเขียวมรกต เป็นทิวทัศน์ที่งดงามมาก

ในขณะที่กลุ่มของเฟิงหลินลงจอด พวกเขาก็เปิดแผนที่โฮโลแกรมทันทีเพื่อตรวจสอบสภาพแวดล้อมโดยรอบ

กี้ กี้

ทันใดนั้นเสียงร้องแปลกๆก็ดังขึ้น มันคือเสียงนก  เหมือนเสียงหัวเราะที่น่าขนลุก

คลื่นแปลกๆ ส่งออกมาเหมือนสายลมเบาๆ ทำให้จิตใจของพวกเขารู้สึกงงงวยและจมลงไปในสภาพมืดมน พวกเขารู้สึกราวกับว่าร่างกายของพวกเขาลอยอยู่ในน้ำพุร้อน สภาพแวดล้อมรอบตัวอบอุ่นและสบายมากทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนจะหลับ

“ตื่น!” ระลอกคลื่นปรากฏขึ้นในหัวใจที่สงบของเฟิงหลินและทันใดนั้นเขาก็ส่งพลังวิญญาณออกไป

 

ร่างกายของทุกคนสั่นและความขุ่นมัวในดวงตาของพวกเขาก็กระจายไปในทันที พวกเขาตกตะลึง

เสียงหัวเราะแปลกๆนี้เป็นวิชาลวงตาที่สามารถทำให้จิตใจของผู้คนหลงไหล

“นั่นใคร!” พวกเขาเริ่มตรวจสอบสภาพแวดล้อม

ป่าขยับและเงาดำขนาดใหญ่ที่สูงกว่าสองเมตรก็เดินออกมา พวกมันเป็นสัตว์ประหลาดนกสามหัวที่มีขนาดเท่านกกระจอกเทศและมีหางขนยาวหกหางที่ด้านหลัง

“นี่มันอะไรกัน?” แอริสอ้าปากค้าง

สิ่งมีชีวิตพื้นเมืองบนโลกนี้แปลกจริงๆ

นกประหลาดเข้ามาใกล้และดวงตาของพวกมันก็เปล่งประกายวาววับแปลกๆ พวกมันจ้องไปที่กลุ่มของเฟิงหลินด้วยสายตาที่ราวกับว่าพวกมันต้องการที่จะมองผ่านทะลุพวกเขาให้ได้

แต่ละหัวของพวกมันแต่ละตัวส่งเสียงร้องแหลมไม่หยุด ราวกับว่าพวกมันกำลังพูดในภาษาที่ซับซ้อนมาก

แสงสีทองกระพริบอย่างรวดเร็วในสายตาของยานา เธอเข้าสู่สถานะการคำนวณความเร็วสูง

นกประหลาดกำลังร้องไม่หยุด และเข้าใกล้พวกเขามากขึ้น

กลุ่มของเฟิงหลินไม่รู้ว่าความสามารถของสิ่งมีชีวิตพื้นเมืองเหล่านี้มีอะไรบ้าง และพวกเขาก็ยังระวังตัวอยู่

 

“กรู้ววว กรู้ว จี่ …. ” เสียงร้องแปลก ๆ ดังขึ้นตามจังหวะที่ไม่เหมือนใคร

 

กลุ่มของเฟิงหลินมองไปที่ยานาเหมือนมองคนแปลกหน้าเมื่อเห็นเธอกำลังร้องเสียงเลียนแบบพวกมัน

สิ่งที่แปลกคือนกประหลาดเหล่านั้นกำลังมองเธอ

“กู่รู่วว..ติงติง..ตังตัง … ” สัตว์ประหลาดสามหัวตอบกลับ

“จี่จี่ … เด่าเด่า…เจียงเจียง … ” ยานายังคงสื่อสารกับนกประหลาดสามหัวเหล่านี้ เสียงร้องแปลกๆดูเหมือนจะเป็นภาษาแบบหนึ่ง

หลังจากนั้นไม่นานนกสามหัวที่อยู่ตรงกลางก็ร้องออกมาเสียงดัง และนกตัวอื่นๆทุกตัวก็แยกตัวออก

 

“นี่คือ … ?” เฟิงหลินมองไปที่ยานา

“ สัตว์ประหลาดเหล่านี้เป็นเผ่าพันธุ์อัจฉริยะและมีภาษาของตัวเอง! ฉันถอดรหัสระบบภาษาของพวกมันก่อนหน้านี้ พวกมันต้องการให้เราติดตามพวกมันไป!” ยานาดด้วยน้ำเสียงเบา

เผ่าพันธ์ทรงสติปัญญา?

เฟิงหลินประหลาดใจเล็กน้อย

เผ่าพันธุ์พื้นเมืองบนโลกนี้แปลกจริงๆ

“ นกประหลาดเหล่านี้บอกว่าเราเป็นแขกและพวกมันต้องการพาเราไปยังรังของพวกมัน และดูแลเรา!” ยานากล่าว

“พวกมันจะใจกว้างขนาดนั้น?” เฟิงหลินระมัดระวังและสื่อสารกับอีกสี่คนผ่านการสื่อสารจิต “คนที่ไม่ใช่เผ่าพันธุ์เดียวกันไม่คิดเหมือนเรา ระวังตัวไว้ เราจะติดตามพวกมันไปก่อน สังเกตสถานการณ์และทำความเข้าใจกับสถานการณ์ของหุบเขามรกต หากมีการเปลี่ยนแปลง เราจะทำการกวาดล้างพวกมันทันที!”

 

ยานาและคนอื่น ๆ พยักหน้ารับ พวกเขารับคำสั่งจากเฟิงหลิน

พวกเขาห้าคนแกล้งยอมตามนกประหลาด และตามพวกมันไปยังส่วนลึกของหุบเขามรกต

สัตว์ประหลาดสามหัวเป็นเหมือนทหารเรียงตัวกันสองข้างและปล่อยเสียงโห่ร้อง ราวกับว่าพวกมันต้อนรับแขกอย่างอบอุ่น

เฟิงหลินสังเกตอย่างรละเอียดและสังเกตว่านกประหลาดบางตัวสะท้อนแสงโลหะไปทั่ว ร่างกายพวกมันถูกปกคลุมด้วยขนโลหะซึ่งเป็นเหมือนเกราะ

การใช้เครื่องมือเป็นสัญญาณว่านกประหลาดเหล่านี้เป็นเผ่าพันธุ์ที่ฉลาด

นกประหลาดเหล่านี้มีความสามารถแบบไหนกันบ้าง? พวกมันมีอารยธรรมแบบไหน?

ทั้งหมดนี้เป็นเพียงความลึกลับ

ถนนคดโค้งเล็กน้อยราวกับว่าเป็นสวรรค์ในโลกมนุษย์ อากาศเต็มไปด้วยปราณจิตวิญญาณที่ให้ความรู้สึกสดชื่นมาก

กลุ่มของเฟิงหลินเดินตามกลุ่มนกประหลาดไปจนถึงส่วนลึกของหุบเขามรกต

สวบ สวบ!

พวกเขาเดินไปจนสุดทาง และมีป่าทึบปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา ราวกับว่าคลื่นสีเขียวกำลังสั่นไหว

“กู้ กู้…”

นกประหลาดร้องอีกครั้ง กระพือปีก กระตุ้นให้กลุ่มเฟิงหลินรีบเดินไป

“พวกเขาบอกว่านี่คือรังของพวกเขา และพวกเขาบอกให้เรารีบเข้าไป!” ยานาแปล

“เป็นอย่างนั้น?” เฟิงหลินหัวเราะเย็นชาและคำราม “ลงมือ!”

 

เขาร้องตะโกนออกมาทันที

อย่างไรก็ตามแอริสและคนอื่น ๆ ไม่ต้องเสียเวลาตั้งคำถามและลงมือทันที

ฉึก ฉึก ฉึก

ลูกศรแหลมคมตกลงมา

บูม บูม บูม!

กลิ่นอายทรราชของแอริสเปล่งออกมาอย่างสมบูรณ์ในรูปของรูปปั้นยักษ์ หมัดของเธอเป็นเหมือนภูเขาที่ทุ่มลงมา

สามหางของซู่ลี่แกว่งไปมา รูปร่างของซู่ลี่นั้นเข้าใจยากราวกับผีพราย ในขณะที่สัตว์ประหลาดเหล่านั้นสัมผัสกับร่างของเขา พวกมันก็จะกลายเป็นเถ้าถ่าน

เฟิงหลินและยานาไม่ได้เคลื่อนไหว

ยานารู้ถึงข้อจำกัดของเธอ

นกประหลาดเหล่านี้ไม่แม้แต่จะเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ และเมื่อพวกเขาทั้งสามเคลื่อนไหวแล้วก็ไม่จำเป็นที่เธอจะต้องทำอะไรเลย

สิ่งต่าง ๆ แตกต่างสำหรับเฟิงหลิน แสงสีเงินส่องประกายบนหน้าผากของเขาและพลังวิญญาณของเขาก็สอดแทรกเข้าไปในส่วนลึกของป่า เขารู้สึกว่ามีกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตที่ถูกข่มไว้เป็นเวลานานมาก  น่ากลัวราวกับว่ามันจะโผล่ออกมาได้ทุกเมื่อ มันเป็นกลิ่นอายที่รุนแรงดูราวกับต้องการทำลายทุกอย่าง

เขาระมัดระวังมาก

แอริสและอีกสองคนลงมือแล้ว และสัตว์ประหลาดก็โกรธแค้นมาก พวกมันกรูกันเข้าหาทั้งสาม

พึ่บ พึ่บ!

พวกมันกระพือปีกอย่างบ้าคลั่ง สร้างพายุรุนแรงที่พัดหินตกลงมา

นกประหลาดที่สวมชุดเกราะยังพ่นเปลวไฟออกจากปากพวกมัน

กลิ่นอายที่อยู่ในเปลวไฟนั้นเป็นเหมือนปีศาจ แต่ก็แตกต่าง

หมื่นลูกศร!

อี้ยังคงยิงธนูออกไป ส่งลูกธนูนับไม่ถ้วนที่ร่วงลงมาเหมือนนกยูงที่กางปีกออก มันเป็นภาพที่สวยงาม แต่เต็มไปด้วยจิตสังหาร

เมื่อยิงธนูออกไปจะมีนกตัวใดตัวหนึ่งถูกยิงและตายอย่างน่าสยดสยอง

รูปปั้นการต่อสู้ของแอริสสูงกว่า 30 เมตร เมื่อเธอเหยียบลงบนพื้นดิน หินและต้นไม้จะพังถล่ม นกประหลาดเปรียบเสมือนตั๊กแตนที่พยายามหยุดรถม้า

ไฟสีดำ สายฟ้าสีม่วง น้ำแข็งสีขาว ….

วิชาเวทมนตร์เป็นเหมือนดาวยิงพุ่งออกไปบนท้องฟ้า

ซู่ลี่ลื่นไหลเหมือนภูติผี พุ่งเข้าไปในหมู่สัตว์ประหลาดและเข่นฆ่าพวกมัน

ในตอนแรกนกประหลาดพยายามที่จะต่อต้าน แต่ท้ายที่สุดพวกมันก็กลัวหลังจากที่ถูกฆ่าตาย พวกมันเริ่มหนีไปทุกทิศทุกทาง

ทั้งสามคนหยุดมือ และสวมสีหน้าเย็นชา พร้อมก้าวออกไปเก็บเกี่ยวสินสงคราม

 

“ระวัง!” เฟิงหลินพูดเสียงต่ำ

โฮก!

ลมแรงพัดโหม

เงาดำขนาดใหญ่พุ่งออกมาจากป่า เปิดปากใหญ่ราวกับหลุมดำกลืนทุกสิ่งตรงหน้า

สัมผัสอันตรายระเบิดในหัวใจของพวกเขา และพวกเขาก็รีบถอยหนี

คชา คชา!

พวกเขาหันกลับและเห็นซากศพนกเหล่านั้นถูกกวาดไปพร้อมกับดินและหิน ปากสีดำเริ่มเคี้ยวมัน

หัวใหญ่ของมันหดตัวช้าๆ กลับเข้าไปในป่าทึบ ดวงตาสีชมพูสีเหลืองมันกวาดมองทุกคน ดวงตาคู่หนึ่งหลับตาลงอย่างช้าๆ และซ่อนตัวอยู่ในความมืด

ทุกอย่างเกิดขึ้นในพริบตา

เฟิงหลินและคนอื่นๆ ไม่สามารถแม้แต่จะเห็นรูปลักษณ์ที่แท้จริงของเงาดำ พวกเขาเห็นจากหัวของมันว่ามันดูเหมือนสิ่งมีชีวิตคล้ายงูใหญ่

พวกเขาถึงเข้าใจว่าทำไมเฟิงหลินถึงขอให้พวกเขาลงมือ มีกับดักกำลังรอพวกเขาอยู่นั่นเอง

สัตว์ประหลาดเหล่านี้ล่อพวกเขามาที่นี่ ตั้งใจส่งพวกเขาไปสู่ความตาย

จากนั้นพวกเขาก็เริ่มจัดการสินสงครามที่ทิ้งไว้

ยานาเปิดไมโครชิปตัวตนของเธอขึ้นมาและเริ่มวิเคราะห์แผนการต่อสู้ของพวกเขา ” เหตุผลที่ฉันเลือกที่นี่เป็นเพราะรอบแรกคือการทดสอบทักษะการเอาชีวิตรอดของเรา ผู้ชนะจะชนะทั้งหมด! ดังนั้น มันไม่ฉลาดนักสำหรับคนเหล่านั้นที่จะลงจอดบนจุดที่มีปราณหนาแน่น การแข่งขันจะรุนแรงเกินไป พวกเขาอาจสูญเสียพลังต่อสู้ทันทีในช่วงแรกเนื่องจากความขัดแย้งภายใน เรามีเวลาสิบวันในการวางแผนอย่างช้าๆ ไม่จำเป็นที่ต้องเอาตัวเองไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เสียเปรียบ! นี่คือโลกแห่งปราณจิตวิญญาณที่เต็มไปด้วยผลึกวิญญาณ เผ่าพันธุ์พื้นเมืองแต่ละเผ่าที่นี่มีสิ่งแปลก ๆ มากมาย ต่อไปเราควรใช้ทรัพยากรที่นี่เพื่อพัฒนาฐานการบ่มเพาะเรา! เป้าหมายของเราควรอยู่ที่คำว่า เต่า ‘ [1]! ถ้าไม่ เราจะไม่สามารถเป็นที่หนี่งได้! ในสถานการณ์ที่เราต้องพยายามเอาชีวิตรอดให้พ้นจากอันตราย มันยากมากที่เราจะเป็นอันดับหนึ่งหากเราสู้ซึ่งๆหน้า ในทางตรงกันข้าม โอกาสชนะจะสูงขึ้นหากเราแอบลอบโจมตี! คำขวัญของเราคือเราแพ้หากเราไม่เป็นเต่า, เมื่อเราเป็นเต่า เราจะลากไก่มากิน”

เฟิงหลินและคนอื่นพยักหน้าเห็นด้วย

ต่อไปเฟิงหลินก็ทำการเก็บเกี่ยวซากศพ

 

“หืมม?” ซูลี่เริ่มวิเคราะห์นกประหลาดซ้ำแล้วซ้ำอีก และดูเหมือนจะค้นพบบางสิ่ง

“มีอะไร?” เฟิงหลินถาม

ซูลี่เงียบไปสักครู่ก่อนที่จะพูดออกมาอย่างช้าๆ

 

“บนภูเขายี่หวาง มีนกที่มีรูปร่างเหมือนอีกา มีสามหัวและหกหางและหัวเราะได้ดี ชื่อของมันคือยี่หยู เมื่อกินแล้วมันสามารถทำให้คนนอนหลับได้อย่างดีโดยไม่ต้องฝันร้าย และยังสามารถถูกนำมาใช้เพื่อปัดเป่าความชั่วร้าย ถ้าฉันเดาไม่ผิดนี่คือโลกแห่งภูเขาและทะเล!”