ตอนที่ 664

Alchemy Emperor of the Divine Dao

ปัง!

แขนของหลิงฮันและดาบปะทะกันอย่างรุนแรง และเกิดประกายไฟราวกับเหล็กปะทะกัน

เหยียนเฮิงเหอตกตะลึง อีกฝ่ายเป็นตัวแปลกประหลาดประเภทไหนกันที่สามารถใช้กายหยาบรับการโจมตีจากอาวุธวิญญาณระดับเจ็ดได้

“ทำไมกายหยาบของเจ้าถึงแข็งแกร่งขนาดนั้น?” เหยียนเฮิงเหออุทานออกมา

“แค่นี้เล็กน้อย เจ้าจะยอมรับข้าเป็นเจ้านายได้แล้วหรือยัง?” หลิงฮันยิ้ม

“เจ้ากำลังหอบอยู่” เหยียนเฮิงเหอพูดเย้ยหยัน “ข้ายอมรับว่ากายหยาบของเจ้านั้นแข็งแกร่ง แต่มันก็แค่นั้น ถ้าเจ้าอยากจะเอาชนะข้า แค่นั้นมันยังไม่เพียงพอ!”

หลิงฮันยิ้มและพูดว่า “เจ้าพูดจาไร้สาระมากมายพลิกลิ้นไปมา แต่ข้าชอบคนที่ลงมือทำมากกว่าพูด”

“ฝัน!” เหยียนเฮิงเหอตะโกน และยกดาบขึ้นมา “ทักษะเจ็ดดาบแห่งเซี่ยหยินชานกระบวนท่าที่สอง ปลดปล่อยภูติผี!”

พรึบ จิตวิญญาณชั่วร้ายปรากฏออกมาและพุ่งเข้าหาหลิงฮัน

“โอ้ว นี่เจ้ายังไม่ยอมรับข้าเป็นเจ้านายอีกรึ?” หลิงฮันพูดเสียงแผ่วเบาและแกว่งแขนออกไปเหมือนกับดาบ

ปัง!

เหยียนเฮิงเหอกระเด็นออกไปและตัวสั่นเทา มันเป็นเพราะหลิงฮันใช้ทักษะอสนีบาตเก้าทิวาพร้อมกับการโจมตีของเขาด้วย ทำให้ร่างของเขาด้านชาไปหมด

“เจ้าต้านทานมันได้ด้วยงั้นรึ?” หลิงฮันยิ้ม

เหยียนเฮิงเหอรู้สึกประหลาดใจ อีกฝ่ายแข็งแกร่งเขาอย่างเห็นได้ชัดทั้งที่ใช้แค่แขนข้างเดียวเป็นดาบ

แต่เขายังคงไม่ยอมรับความพ่ายแพ้ เขาเป็นถึงอัจฉริยะที่แข็งแกร่งเรื่องพี่ใหญ่อะไรพวกนั้นไม่เคยมีอยู่ในหัวของเขาเลย

“ข้ายังไม่ยอมรับ!” เหยียนเฮิงเหอกัดฟันพูดและยกดาบขึ้นมาอีกครั้ง “ทักษะเจ็ดดาบแห่งเซี่ยหยินชานกระบวนท่าที่สาม ผนึกปีศาจแห่งภูเขาหยินซาน!”

หลิงฮันหัวเราะออกมาเล็กน้อย และร่างของเขากลายสายฟ้า พุ่งเข้าหาอีกฝ่ายและปรากฏตัวอยู่เบื้องหน้าเหยียนเฮิงเหอ

สีหน้าของเหยียนเฮิงเหอกลายเป็นสีเขียว ไม่ได้มีแค่ฮูหนิวเท่านั้นที่ใช้ทักษะนี้ได้ หลิงฮันเองก็ใช้ได้เหมือนกัน!

ปัง!

มือขวาของหลิงฮันต่อยไปที่ใบหน้าของเหยียนเฮิงเหอ ทำให้อีกฝ่ายกระเด็นไปด้านหลังทันที

ตุบ เหยียนเฮิงเหอกระแทกกับพื้น ขณะที่เท้าทั้งสองข้างของเขนชูขึ้นไปบนท้องฟ้า เขาไม่ได้มีกายหยาบที่แข็งแกร่งเหมือนหลิงฮันและไม่สามารถโคจรพลังปราณออกมาป้องกันตัวเองได้ทัน ทำให้เขาร้องโอดครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด

“ยอมได้แล้วหรือยัง?” หลิงฮันถาม

“ไม่ ข้ายังไม่ยอม!” เหยียนเฮิงเหอพูดออกมาอย่างกล้าหาญ

“ย่อมได้ ถ้าเจ้ายอมแพ้เร็วเกินไป ข้าเกรงว่ามันจะไม่สนุก!” หลิงฮันหัวเราะและกระโจนใส่เหยียนเฮิงเหอ

ปัง เหยียนเฮิงเหอไม่สามารถใช้ดาบรับการโจมตีได้ ทำให้เขาต้องรับการโจมตีของหลิงฮันเต็มกำลัง

ทุกคนคิดว่าเขาเป็นคนที่โชคร้ายมาก ตอนแรกเขาถูกฮูหนิวทุบตี และตอนนี้เป็นหลิงฮัน ยิ่งไปกว่านั้นเขาไม่มีพลังที่จะตอบโต้

มันไม่ใช่เพราะว่าเหยียนเฮิงเหอไม่แข็งแกร่ง เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก ซึ่งอาจติดหนึ่งในศิษย์อัจฉริยะรุ่นเยาว์เลยก็ว่าได้ แต่หลิงฮันและฮูหนิวนั้นแข็งแกร่งเกินไปต่างหาก ทั้งสองคนแข็งแกร่งเกินขีดจำกัดของคนรุ่นเยาว์ไปแล้ว

เพื่อที่จะเอาชนะหลิงฮันและฮูหนิวได้นั้น พวกเขาจะต้องเป็นอัจฉริยะรุ่นเก่าและมีอายุมากกว่าพวกเขาประมาณสามสิบปีหรือมากกว่านั้น อย่าง ราชันกระบี่น้อย หลางหยาเทียน เป็นต้น ถ้าผู้คนที่อายุใกล้เคียงกับหลิงฮัน พวกเขาไม่ใช่คู่มือของหลิงฮันอย่างแน่นอน

——ส่วนฮูหนิวไม่จำเป็นต้องพูดถึง รากฐานวิญญาณของคนส่วนใหญ่จะตื่นขึ้นเมื่ออายุประมาณเจ็ดหรือแปดปี แล้วคนพวกนั้นจะสู้ได้อย่างไร?

“ข้ายอมแล้ว ข้ายอมแล้ว!” หลังจากถูกทุบตีมานาน ในที่สุดเหยียนเฮิงเหอก็ยอมรับความพ่ายแพ้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาพูดว่ายอมตายดีกว่ายอมจำนน

หลิงฮันยิ้มและโยนขวดยาสามขวดให้อีกฝ่ายและพูดว่า “ขวดสีแดงจะเป็นเม็ดยารักษา ขวดสีฟ้าจะช่วยเจ้าฟื้นฟูพลังปราณ และขวดสีม่วงใช้สำหรับตอนฝึกฝนบ่มเพาะพลัง ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการฝึกฝนบ่มเพาะพลังของเจ้าเพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์”

ไม่ได้มีแค่เหยียนเฮิงเหอที่รู้สึกตกใจ แม้แต่คนอื่นยังรู้สึกตกใจเหมือนกัน

สำหรับอัจฉริยะความเข้าใจในศาสตร์วรยุทธสำหรับพวกเขาแล้วถือเป็นเรื่องง่าย ดังนั้นปัญหาของพวกเขาคือการสะสมพลังปราณ

นี่เท่ากับว่าความเร็วบ่มเพาะพลังของเขาจะเพิ่มขึ้นสิบเปอร์เซ็นต์ เม็ดยานี่มันล้ำค่ามาก!

เหยียนเฮิงเหอรู้สึกตื่นเต้นมาก เขาถูกอีกฝ่ายบังคับให้ยอมจำนนและเรียกอีกฝ่ายว่านายท่าน ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาจะยืนกรานปฏิเสธ แต่ตอนนี้ความคิดพวกนั้นได้หายไปแล้ว

มันไม่เลวเลยที่จะมีเจ้านายแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่ดีซะมากกว่า!

“ขอบคุณนายท่าน” เหยียนเฮิงเหอพูดด้วยเสียงแผ่วเบา เขาดูเขินอาย เพราะเขาไม่เคยเรียกใครว่านายท่านมาก่อน

“ต่อจากนี้ไปเรียกข้าว่านายน้อยฮัน” หลิงฮันกล่าว “นายท่านอะไรพวกนั้นไม่เหมาะกับข้า พวกเราไม่ใช่พวกอันธพาลระดับล่างแบบนั้น”

“ขอรับ นายน้อยฮัน” เหยียนเฮิงเหอพูดออกมาอย่างกระฉับกระเฉง เพราะฮูหนิวกำลังจ้องมองมาที่เขาอยู่ด้วยสายตาดุร้าย เห็นได้ชัดถ้าเขาไม่พูด เด็กสาวตัวน้อยจะต้องทำให้เขาได้รับความทรงจำที่โหดเหี้ยมอย่างแน่นอน

“เอาล่ะ เจ้าไปได้แล้ว ข้าจะเรียกเจ้าเองเมื่อมีอะไรเกิดขึ้น” หลิงฮันโบกมือ

เหยียนเฮิงเหอรู้สึกดีใจมาก เขาคิดว่าหลิงฮันจะใช้งานเขาเยี่ยงทาสอย่างออกไปปล้นหินแปลกประหลาดมาให้เขา แต่ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนายน้อยที่ดี แม้ว่าเขาจะเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ แต่อีกฝ่ายยังมอบเม็ดยาให้กับเขาจำนวนมาก ซึ่งเม็ดยาพวกนั้นมีค่ายิ่งกว่าเขาเสียอีก

เขากลัวว่าหลิงฮันจะเปลี่ยนใจและรีบจากไปอย่างรวดเร็ว

“นายน้อยฮัน นายน้อยฮัน ข้าเองก็ยอมรับเจ้าเป็นนายท่านเหมือนกัน ข้าขอเม็ดยาด้วย” หลี่เฟิงหยู่กล่าว “ทำไมเจ้าไม่มาเป็นน้องเขยของข้าล่ะ?”

“ท่านพี่-” หลี่ซือเชียนตะโกน ทำไมพี่ชายคนนี้ชอบขายน้องสาวตัวเองตลอดด้วย?

หลิงฮันคิดอยู่ชั่วครู่และพูดว่า “ตกลง ข้ายอมรับเจ้าในฐานะน้องชาย” แม้ว่าความแข็งแกร่งของหลี่ปากสว่างจะไม่ได้ยอดเยี่ยมมากนัก แต่ปากสว่างของเขาก็มีประโยชน์อยู่บ้าง ถ้าหลิงฮันต้องการรวบรวมหลิงฮัน เขาต้องการคนโปรโมทแบบนั้น

“ได้เลยน้องเขย!” หลี่เฟิงหยู่พูดออกมาอย่างไม่ติดขัด

หลิงฮันถึงกับพูดไม่ออกชั่วขณะก่อนที่จะพูดออกมาว่า “เจ้าไม่กลัวว่าสักวันหนึ่งจะมีคนฆ่าปิดปากเจ้าเลยหรือ?”

“ข้าแค่พูดล้อเล่นนิดเดียวเองนายน้อยฮัน!” หลี่เฟิงหยู่ไม่กล้าพูดจาไร้สาระเพราะไม่ได้มีแค่หลิงฮันคนเดียวเท่านั้นที่เผยสีหน้าไม่พอใจ ฮูหนิวและจูเสวี่ยนเอ๋อเองก็แสดงสีหน้าโกรธเกรี้ยวออกมา เขาไม่กล้าล่วงเกินพวกเขาทั้งสามคนพร้อมกัน ดังนั้นเขาจึงเดินหนีไป

“ถ้างั้นพวกเรา– เดี๋ยวก่อน!” หลิงฮันกำลังบอกให้ทุกคนเดินหน้าต่อ แต่ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ว่าพื้นดินใต้ฝ่าเท้ากำลังสั่นสะเทือน และมีรอยแตกจากระยะไกลเคลื่อนที่มาหาพวกเขาอย่างรวดเร็ว

พรึบ ทุกคนลอยขึ้นไปในอากาศอย่างรวดเร็ว หมอกที่หนาทึบจางหายไปและทั้งหุบเขาแตกออกจากกันเหมือนใยแมมมุม

“แผ่นดินไหว?” ทุกคนอุทานออกมา

หลิงฮันมองออกไปในระยะไกล ใบหน้าของเขาดูตกตะลึงและพูดว่า “มันไม่ใช่แผ่นดินไหว แต่มีบางอย่างที่ใหญ่ยักษ์กำลังเดินมา!”