ตอนที่ 349 ในท้องมีท่านอ๋องน้อยอยู่ / ตอนที่ 350 ชีวิตสงบสุขบินไปแล้ว

ฮูหยินข้าอายุสามขวบครึ่ง

ตอนที่ 349 ในท้องมีท่านอ๋องน้อยอยู่ 

 

 

 

 

 

ตอนที่น่าอวี้น้อมทักทายให้เฉินยางอยู่นั้น ได้เจอเฝิงเยี่ยไป๋จัดระเบียบเสื้อผ้าเดินออกจากข้างในพอดี เฉาเต๋อหลุนจัดแขนเสื้อให้เขาไปพลาง แล้วฟังคำสั่งของเขาไปพลางว่า “ให้คนเอาเสื้อผ้าของข้าย้ายมาที่พระชายานี้ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ข้าจะอยู่ที่เรือนของพระชายา” 

 

 

“ท่านอ๋องสุขสำราญ” น่าอวี้ย่อตัวน้อมทักทาย ปิ่นปักผมบนศีรษะกระทบกันดังกรุ๊งกริ๊ง ก็ทำเอาใจนางไม่สงบเช่นกัน 

 

 

เฝิงเยี่ยไป๋ไม่ได้มาประคองนาง เขาพูดเพียงว่า ไม่ต้องมากพิธี แล้วเดินผ่านไปดั่งลมพัด ยามที่ไปนั้นก็ไม่แม้จะมองนาง 

 

 

เฉาเต๋อหลุนประสานมือพูดว่า “คารวะพระชายารอง พระชายาใกล้จะออกมาแล้ว เชิญท่านนั่งรอก่อนขอรับ” พูดจบก็ถอยออกไปเช่นกัน 

 

 

ในใจน่าอวี้แอบรู้สึกได้ว่าสำหรับนางแล้วไม่ใช่เรื่องดี ในใจกำลังคิดอยู่ เฉินยางก็ถูกคนประคองออกมาแล้ว ก้าวเดินได้ช้ามาก แทบจะก้าวทีละก้าวออกมา ซั่งเหมยยังเตือนนางอยู่บ่อยๆ ว่า “นายหญิง ช้าหน่อย เจ้าค่ะ ระวังฝีเท้า” 

 

 

น่าอวี้เก็บอารมณ์ให้ดี แล้วยิ้มจากนั้นก็ย่อตัว “ข้าขอน้อมทักทายพระชายา” 

 

 

เฉินยางเจอน่าอวี้ ก็บอกไม่ถูกว่ารังเกียจหรืออิจฉา ก็คือในใจมีกำแพงอยู่ ไม่อาจปฏิบัติกับนางอย่างสนิทดั่งเมื่อก่อน พอมีกำแพงในใจ แม้แต่รอยยิ้มก็เกรงใจไม่น้อย 

 

 

ซั่งเซียงประคองนางนั่งลง นางพูดกับซั่งเซียงว่า “รีบไปประคองนายหญิงเจี่ยงของพวกเจ้าขึ้นมา” นางนั่งลงด้วยสีหน้าอบอุ่น แล้วให้คนใช้รินชา “วันนี้เจ้ามาไวนัก สองคนนั้นยังไม่มาเลย” 

 

 

น่าอวี้ย่อมรู้สึกได้ถึงท่าทางการเปลี่ยนแปลงของเฉินยาง การห่างเหินย่อมมีอยู่แล้ว เพียงแต่เรื่องเช่นนี้ อ้าปากก็ไม่น่าฟัง พูดตรงๆ ออกไป สีหน้าทั้งสองฝั่งก็ดูไม่ดี ในเมื่อคนให้หน้านางแล้ว เช่นนั้นนางก็ให้หน้าเสียก็พอ 

 

 

“เพราะข้ามาเช้าเกินไปรบกวนท่านหรือไม่ ข้าตื่นเช้าจนชินแล้ว หากรบกวนท่าน ท่านก็บอกข้าได้ ไม่เช่นนั้นหลังจากนี้มาทุกวัน รบกวนท่านนอนไม่หลับ ความผิดของข้าจะใหญ่เอาเรื่อง” 

 

 

เฉินยางยิ้มพูด “ไม่ๆ ไม่เป็นไร เจ้ามาก็มีคนพูดคุยเป็นเพื่อนข้า ข้าดีใจยังไม่ทันเลย จะรังเกียจว่าเช้าได้อย่างไร” 

 

 

การพูดคุยก็ห่างเหินไปไม่น้อย พูดจบแล้ว นางฟังเองก็ยังรู้สึกแปลก น่าอวี้หยุดเล็กน้อยแล้วมองเฉินยาง นางเปลี่ยนเป็นสีหน้ากังวล “ข้าได้ยินว่าเมื่อวานท่านอ๋องได้หาหมอมาดูร่างกายให้ท่าน ท่านไม่สบายหรือ” 

 

 

สีหน้าเฉินยางเศร้าหมอง นางงอนิ้ว ไม่พูดอะไรแล้ว 

 

 

ซั่งเหมยตอบแทนนางว่า “รบกวนนายหญิงเจี่ยงเป็นห่วงแล้ว นายหญิงข้าไม่เป็นไร ยังดีอยู่ นอกจากจะไม่เป็นโรคแล้ว แถมยังมีข่าวดีอีก!” 

 

 

น่าอวี้งงเล็กน้อย “มีข่าวดี?” 

 

 

“เจ้าค่ะ ในท้องนายหญิงพวกเรามีท่านอ๋องน้อยอยู่!” 

 

 

ซั่งเซียงแก้ไขนางว่า “ไม่แน่อาจจะเป็นท่านหญิงน้อย!” 

 

 

เฉินยางร้อนรนยิ่งนัก นางหน้าแดงให้พวกนางหุบปาก หันศีรษะมาพูดกับน่าอวี้อีกว่า “ขอบคุณเจ้าที่เป็นห่วงข้า ข้าไม่ได้เป็นอะไร” 

 

 

ที่แท้ก็ตั้งครรภ์เสียแล้ว มิน่าเมื่อครู่เดินทางที่ราบเรียบยังต้องให้คนประคองทั้งซ้ายทั้งขวา ลูกคนแรกของเฝิงเยี่ยไป๋ แถมยังเลี้ยงอยู่ในท้องของเฉินยาง ล้วนเป็นสิ่งที่เขาหวงที่สุด จะไม่ระวังได้อย่างไร 

 

 

ความเศร้าในใจที่มาเป็นระลอกทำเอานางรู้สึกแย่ เพียงแต่ใบหน้าก็ดันแสดงออกไม่ได้ นางยิ้มมากขึ้น แสร้งทำเป็นท่าทางดีใจพูดยินดีว่า “เช่นนี้ดีแล้ว ตั้งครรภ์แล้วเป็นเรื่องน่ายินดี ท่านอ๋องคงดีใจมากกระมัง เช่นนั้นท่านก็ต้องระวังร่างกายของตัวเอง ลูกคนแรกสำคัญที่สุด” 

 

 

 

 

 

—— 

 

 

ตอนที่ 350 ชีวิตสงบสุขบินไปแล้ว 

 

 

 

 

 

เฉินยางยิ้มตอบรับ สายตามองไปที่แสงอาทิตย์ เพียงพริบตาเดียว แสงที่อยู่ตรงหน้าก็ถูกสีสันสองก้อนบังเอาไว้ มองไกลๆ ก็เหมือนดั่งดอกไม้สองดอก พอมองใกล้ๆ แล้วก็ได้เห็นรูปร่างอรชรอ่อนช้อย ที่แท้ก็เป็นซ่งจูและหลี่หรู 

 

 

พอเคารพเสร็จ เฉินยางกำลังจะเรียกลุกขึ้น ซั่งเหมยกลับชิงพูดก่อนนางว่า “พระชายารองทั้งสองท่านเมื่อคืนก็รวมกันเล่นไพ่อีกแล้วหรือ นี่ยามใดแล้ว น้อมทักทายยังต้องให้นายหญิงพวกเรารอพวกท่านอีก” 

 

 

คนมาแล้ว เฉินยางก็ไม่อยากคิดเล็กคิดน้อยมากมายเช่นนั้น นางดึงซั่งเหมย พูดด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “พวกเจ้านั่งลงคุยกันเถิด” 

 

 

นางยังคงไม่ชินที่จะวางมาด สั่งคนใช้ก็ไม่ถนัด ไม่เหมือนกับลูกสาวตระกูลร่ำรวยอย่างพวกนาง บนตัวนางมีกลิ่นอายอ่อนโยนอยู่ตลอด ยามโกรธก็ยากจะทำเอาคนกลัวได้ ความโกรธมาไวไปไว หากไม่มีใครหาเรื่องนาง ต่อให้ไม่จัดการ ปล่อยผ่านได้ก็ปล่อยผ่านไปเลย 

 

 

ซ่งจูเป็นตัวอย่างคนโง่ที่ไร้สมองแถมยังชอบอวด แม้แต่เฉินยางที่ไม่ค่อยฉลาดนักก็ดูออกว่านางถูกหลี่หรูใช้งาน สืบหนทางให้นาง เพียงแต่นางไม่ฉลาดเอง หลานสาวของเจ้ากรมศาลต้าหลี่ซื่อกลับสะท้อนนางจนดูโง่เขลานัก เพียงแต่พวกนางแย่งชิงของพวกนางเอง ขอเพียงไม่ยุ่งเกี่ยวกับนาง นางก็ไม่ชอบยุ่งเกี่ยวนัก 

 

 

ก่อนที่เฝิงเยี่ยไป๋จะไปก็กำชับนางว่าอย่าได้ขี้เกียจแล้วก็นอน ต้องออกไปเดินข้างนอกบ้าง อย่างไรเสียว่างอยู่ก็ไม่มีสิ่งใดจะทำ นอนไปนอนมานางก็มึน ออกไปเดินเล่นเสียบ้างก็ดีเช่นกัน ทั้งหมดนี้นางก็ได้เจอแล้ว น้อมทักทายก็แล้ว นางส่งสายตาให้ซั่งเหมย ให้นางส่งคนกลับไปทั้งหมด 

 

 

ยังดีที่คนเหล่านี้ล้วนมีสายตา ต่างมองหน้ากันไม่พูดอะไร หากอยู่ต่อไปก็ไม่สบายใจ ซ่งจูนั่งไม่ติดเสียก่อน ลุกขึ้นมาลา หลี่หรูแววตาเปล่งประกาย ถามอย่างเรียบเฉยว่า “เมื่อครู่ตอนที่มาข้าได้ยินเหล่าสาวใช้คุยกัน บอกว่าพระชายามีเรื่องดี ข้าบังอาจเสียหน่อย อยากจะมาที่นี่เผื่อได้เจอเรื่องดีบ้าง หากพระชายาไม่รังเกียจ ก็ให้ข้าอยู่เป็นเพื่อนท่านเถิด” 

 

 

ขาที่ซ่งจูก้าวออกไปนั้นหดกลับมาอีกครั้ง มองหลี่หรูด้วยความไม่เข้าใจ ก็ใช่ ทั้งสองคนนี้ก็ยังไม่ไปเลย ทิ้งนางไว้เพียงคนเดียวได้อย่างไร นางถึงได้ขยับสะโพกนั่งกลับไปอีก พูดเสริมว่า “เรื่องดี? พระชายามีเรื่องดีอะไร ข้าก็อยากแตะเรื่องดีเสียหน่อย” 

 

 

น่าอวี้นิ่งเงียบอยู่ครู่หนึ่ง พอได้ยินว่าทั้งสองคนนี้อยากจะแตะเรื่องดีบ้าง จึงป้องปากยิ้มขึ้นมา “พวกเจ้ายังไม่รู้เลย จวนท่านอ๋องของพวกเรามีเรื่องดีแล้ว ในท้องพระชายามีท่านอ๋องน้อย” 

 

 

ตอนแรกเฉินยางไม่อยากจะเปิดเผย ตัวเองใช้ชีวิตอย่างเงียบๆ ก็พอแล้ว แต่เดิมนางก็ขี้เกียจที่จะเจอพวกนาง คราวนี้กลับถูกผลักเข้าไปอยู่กลางพายุ คิดใช้ชีวิตอย่างสงบสุขคงเป็นไปไม่ได้เสียแล้ว 

 

 

นางหันศีรษะมองน่าอวี้ แล้วเม้มปากนิ่งเงียบลง 

 

 

ซ่งจูและหลี่หรูก็ต่างตกใจ ต่างสบตากัน แล้วแสดงความยินดีกับนาง 

 

 

เฉินยางรู้ว่าคำพูดของพวกนางไม่ได้พูดจากใจ ก็ไม่สนใจ ตอนนี้นางไม่สนใจสิ่งใดๆ แล้ว นางลูบท้อง แล้วพูดใจกว้างว่า “พวกเจ้าแสดงความยินดีกับข้า ข้าก็ขอบคุณพวกเจ้า วันนี้อากาศดี ข้าคิดจะออกไปเดินเล่น พวกเจ้าก็เชิญตามสบายเถิด หลังจากนี้ก็ไม่ต้องน้อมทักทายแล้ว ข้าลุกไม่ขึ้น พวกเจ้าก็ลุกไม่ขึ้น กลับทำเอาต่างรบกวนกันแล้ว” 

 

 

ตอนที่นางพูดประโยคนี้ไม่ได้มีท่าทางยโสแม้แต่น้อย นิ่งเรียบถึงขั้นมองอารมณ์ไม่ออก ตอนที่ไปกลับมาท่าทางกระฟัดกระเฟียดเล็กน้อย ไม่ให้ซั่งเหมยซั่งเซียงประคองนาง ตัวเองก้าวเท้ายาวๆ เดินออกไปแล้ว 

 

 

เดือนเศษเท่านั้น ท้องยังไม่โตเลย ท่าทีก็ยังคงเป็นท่าทีเมื่อแต่ก่อน ยามที่เดิน ยังมีท่าทางเหมือนเด็ก