บทที่ 195 อยากต่อยคุณแต่แรกแล้ว(1)
เวลานี้ ผู้จัดการสวมชุดสูทคนหนึ่งได้ยินเสียงทางนี้ทะเลาะกัน จึงรีบเดินมา
ด้านหลังเขามีบอดี้การ์ดร่างกายกำยำตามอยู่กลุ่มหนึ่ง สายตาแต่ละคนดุดัน ล้วนดูน่าเกรงขาม
“เกิดอะไรขึ้น? ใครกันที่มาก่อเรื่องที่นี่?”
เกาจวิ้นเว่ยเห็นผู้จัดการคนนี้ ก็พูดขึ้นอย่างวางมาดว่า “คุณคือคนดูแลที่นี่?”
“ใช่ครับ” คนคนนั้นพยักหัวพูดว่า “ผมชื่อหลี่โม่ เป็นผู้จัดการดูแลนิทรรศการนี้ คุณคือใคร?”
เกาจวิ้นเว่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ผมเกาจวิ้นเว่ยเป็นเจ้าของศูนย์นิทรรศการ”
หลี่โม่พูดขึ้นว่า “ที่แท้ก็คุณชายเกา ไม่รู้ว่าคุณชายเกาโวยวายอยู่ที่นี่ ด้วยเรื่องอะไร?”
เกาจวิ้นเว่ยพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า “ลูกน้องของพวกคุณทำงานไม่เป็นเลย ผมอยากเข้าไปดูรถสองคันนั้นใกล้ๆ ก็ไม่ยอมให้ผมเข้าไป หมายความว่ายังไง? ดูถูกผมหรือ?”
หลี่โม่ยิ้มพูดขึ้นว่า “ขออะไรคุณชายเกา รถสองคันนี้ลูกค้าซื้อไปแล้ว ตอนนี้กำลังรอลูกค้ามารับรถไป เบื้องบนของเรามีคำสั่ง รถสองคันนี้มูลค่าสูงมาก นอกจากเจ้าของรถ ใครก็แตะต้องไม่ได้”
เกาจวิ้นเว่ยขมวดคิ้วถามขึ้นว่า “งั้นก็แสดงว่าไม่เห็นแก่หน้าผมเลยใช่ไหม?”
“ขออภัย” หลี่โม่พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า “เห็นแก่หน้าใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น อย่าว่าแต่คุณชายเกา ต่อให้เป็นพระเจ้ามาเอง ถ้าเขาไม่ใช่เจ้าของรถ ก็จับต้องรถไม่ได้”
เกาจวิ้นเว่ยโกรธแทบตาย ต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้ โดยเฉพาะอยู่ต่อหน้าเซียวชูหรัน พูดดียังไง พวกเธอก็ไม่เห็นแก่หน้ากันเลยใช่ไหม?
ดี
งั้นก็อย่าหาว่าผมไม่ให้ความเกรงใจ
แล้วเขาก็ตะโกนพูดในทันใดว่า “ได้ พวกคุณเก่งกันขนาดนี้ งั้นศูนย์นิทรรศการของพวกเรานี้เล็กเกินไป ต้อนรับพวกคุณไม่ไหว ดังนั้นเชิญพวกคุณขนของออกไปเลย”
หลี่โม่พูดขึ้นว่า “คุณชายเกา ทำแบบนี้เกินไปไหม? ยังไงพวกเราก็เซ็นสัญญาเช่ากันแล้วนะครับ อีกอย่างพวกเราก็ได้จ่ายเงินไปแล้ว คุณจะยกเลิกสัญญาหรือ?”
“ยกเลิกสัญญาแล้วยังไง?” เกาจวิ้นเว่ยพูดขึ้นอย่างโกรธเคืองว่า “ผมยอมจ่ายค่ายกเลิกสัญญา เพื่อไล่พวกคุณให้ออกไปจากที่นี่”
เวลานี้จางเจวียนรีบเข้ามากระซิบพูดว่า “ประธานเกา หากพวกเรายกเลิกสัญญา ค่าปรับคือสามเท่าของค่าเช่า หากท่านประธานรู้เข้า จะต้องโกรธอย่างแน่นอน….”
ทันใดนั้น เกาจวิ้นเว่ยก็หดตัวลงทันที
เย่เฉินมองดูอยู่ด้านข้างอย่างมีความสุข หัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “ประธานเกา ด้วยสถานะอย่างคุณ ยังจับต้องรถคันนี้ไม่ได้ แค่ลูบจับเองก็ยากขนาดนี้เลยหรือ? โธ่ เจ้าของศูนย์นิทรรศการทั้งที ช่างน่าอายยิ่งนัก”
เกาจวิ้นเว่ยพูดขึ้นอย่างโมโหว่า “ใครบอกว่าผมจับต้องไม่ได้?”
พูดเสร็จ เขาหันหน้าไป ผลักหลี่โม่ทิ้ง พูดขึ้นด้วยเสียงเยือกเย็นว่า “วันนี้รถคันนี้ผมจะจับให้ได้ ถ้าไม่อยากตายก็ไม่ต้องเข้ามาขวาง ไม่อย่างนั้นผมจะโทรศัพท์ หาคนมาจัดการคนคนนั้นทิ้งทันที”
เห็นเกาจวิ้นเว่ยกำลังจะพุ่งไปที่แอสตันมาร์ตินONE77รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่นคันนั้นแล้ว หลี่โม่ร้อนใจขึ้นมาทันที จึงรีบสั่งให้บอดี้การ์ดไปขวางเขาไว้
เกาจวิ้นเว่ยคิดไม่ถึงว่าพวกบอดี้การ์ดพวกนี้จะกล้ามาขวางทางตน จึงตะโกนพูดขึ้นว่า “บอดี้การ์ดศูนย์นิทรรศการทุกคน มานี่ทุกคน”
บอดี้การ์ดที่เฝ้ารถอยู่พวกนี้ ล้วนจ้างมาจากภายนอก แต่ศูนย์นิทรรศการเดิมก็มีบอดี้การ์ดอยู่ไม่น้อย จำนวนคนจึงไม่ได้น้อยกว่าอีกฝ่าย มองดูกันว่าใครจะกลัวใคร
หลี่โม่เห็นบอดี้การ์ดของศูนย์นิทรรศการวิ่งมาแล้วหลายคน อาจจะเกิดการต่อสู้กันได้ จึงรีบโทรไปหาฉินกาง