ตอนที่ 852 : หลงดังเฉิง

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 852 : หลงดังเฉิง

 

เมื่อครู่ที่ผ่านมา ฉินหยุนดึงเครียดและหวาดกลัวหากต้องสูญเสียสิ่งล้ําค่าเช่นวิญญาณมังกรมันคือการสูญเสียครั้งใหญ่

 

“เจ้าไม่อาจไปที่ใดได้! ข้ายังคิดวางเดิมพันต่อครั้งนี้ข้าจะทวงคืนวิญญาณมังกรศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันรวมถึงเม็ดยาต้นกําเนิดพลังงานราชันกลับคืนมา!”อาการบาดเจ็บที่มือของเซียนหมูจิ้งหายดีแล้วนางจึงขยับมาขวางทางฉินหยุนเอาไว้

 

ฉินหยุนมองทางหลงฉวนอู่ จากนั้นจึงมองเซียนหลงเขาเผยเสียงหัวเราะกล่าว“คิดอยากทวงกลับคืนทั้งหมดในคราวเดียวหรือ? เช่นนั้นเจ้าก็ต้องหาสิ่งที่ทัดเทียมกันมา ยังมีอันใดให้ใช้เดิมพันอีกลองพูดกล่าว”

 

หลงฉวนอู่หมดตัวแล้ว ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่เผยท่าที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออกเช่นนี้เขาราวกับคนไร้ทางเลือกที่จนตรอกผู้คนเวลานี้เริ่มสงสัยว่าเซียนหมูจิ้งคิดใช้อันใดมาเดิมพันนางต้องการทวงสิ่งของล้ําค่าเหล่านั้นกลับคืนทั้งหมดดังนั้นสิ่งที่นางจะน่าออกมาต้องล้ําค่ายิ่งกว่านั้น

 

“ดาบเซียนของข้า!” เซียนหมูจิ้งนําดาบของนางออกมาเผย

 

“ข้าหาได้ต้องการดาบเซียนของเจ้าไม่ ดังนั้นจึงไม่คิดเล่นด้วย!” ฉินหยุนกล่าว

 

ยามผู้คนพบเห็นเซียนหลจึงนําเอาดาบเซียนออกมาใช้เป็นเดิมพันพวกเขาต่างอุทานที่ภายในหลงฉวนอู่ย่อมมีอุปกรณ์เซียนทว่าภายหลังใช้งานต้องส่งกลับคืนแก่ผู้อาวุโสดังนั้นจึงไม่อาจน่ามาเป็นเดิมพันเช่นนั้นเขาคงนําออกมาวางเสนอไปนานแล้ว

 

“ดาบเซียนของข้า มูลค่าย่อมทัดเทียมได้กับวิญญาณมังกร! เหตุใดเจ้าจึงไม่ต้องการ?” เซียนหลลิ้งคําราม “เจ้าราชันยุทธ์ตัวเล็กจ้อย หากมีดาบเซียน เช่นนั้นผู้คนย่อมริษยาเจ้าไม่รู้จบสิ้น!”

 

“ข้าจึงไม่ต้องการ สิ่งของที่ข้ามีตอนนี้กล่าวได้ว่าล้ําค่าเสียยิ่งกว่าดาบเซียนของเจ้า!” แม้ฉินหยุนไม่มีกระที่ศักดิ์สิทธิ์วิญญาณปรโลกหรือค้อนเทวะเก้าตะวัน เขาก็ยังไม่คิดต้องการวัตถุหายากดังเช่นดาบเซียน

 

เซียนหมูจิ้งกลายเป็นร้อนรน นางกัดฟันแน่นและกล่าวออกมา “อย่างนั้น… ข้าจะใช้เรือนร่างนี้เป็นเดิมพันกับเจ้า!”

 

ได้ยินคํากล่าว ผู้คนต่างนิ่งค้ง หลายคนที่นี้ล้วนเป็นนายน้อยของตระกูลชนชั้นสูง พวกเขาคุ้นเคยกับการพนันดียิ่งนําสิ่งของออกมาใช้แทนเงินย่อมเป็นเรื่องพบเห็นได้บ่อยครั้ง

 

แต่แล้วเซียนหมูจิ้ง สตริงดงามหมดจดที่เป็นตัวตนราชันยุทธ์ระดับสูงทั้งยังมาจากแดนเซียนอ้างว้างนางที่สูงส่งราวสวรรค์ประทาน กลับต้องการใช้เรือนร่างตนเองเป็นเดิมพัน

 

เรื่องชวนขบขันยิ่งกว่า คือเซียนหมูจิ้งประกาศใช้เรือนร่างตนเองเดิมพันต่อหน้าคู่หมั้นเช่นหลงฉวนอู่

 

“หมูจิ้ง พวกเราควรพอได้แล้ว กลับไปหารือกับผู้อาวุโส!” หลงฉวนอู่ตะโกนบอก

 

“ข้าไม่ไป ข้าต้องเอาชนะมัน!” เซียนหมูจิ้งเผยความมั่นใจอันเปี่ยมล้น

 

หลงฉวนอู่ยิ่งเป็นกังวล เพราะเรือนร่างของเซียนหมูจิ้งคือสิ่งที่เขาปรารถนามาโดยตลอด

 

สาเหตุว่าทําไมเขาจึงนําสิ่งของดีเลิศล้ําทั้งหลายออกมาเป็นเดิมพัน ก็เพราะต้องการเอาใจเซียนหลจิ้งเพื่อต้องการได้เชยชมเรือนร่างของนาง

 

เพราะหลังได้มีเพศสัมพันธ์กับนาง ชีพจรวิญญาณของเขาจะได้กลายเป็นชีพจรเซียน ด้วยเหตุนั้นมันจึงคุ้มค่าที่น่าเอาของล่าค่าเช่นวิญญาณมังกรออกมาเป็นเดิมพัน

 

ฉินหยุนหัวเราะ “ข้าหาได้สนใจเรือนร่างเจ้าไม่! นอกจากนี้แล้วร่างกายเจ้ายังไม่ล้ําค่าเทียบเท่าวิญญาณมั่งกรและศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชัน!”

 

ค่ากล่าวเหล่านี้ เป็นผลให้เซียนหลจึงต้องกระทืบเท้าโกรธเคืองนางแหวเสียงดัง “เรือนร่างข้าจึงเป็นสมบัติที่ไม่อาจประเมินค่า… เจ้าทราบหรือไม่ว่าที่แดนเซียนอ้างว้าง มีกี่คนที่ต้องการเรือนร่างของข้า? พวกมันพร้อมเสนอสิบวิญญาณมังกร รวมถึงศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันนับไม่ถ้วนด้วยซ้ํา! ทว่าเป็นเจ้าที่ดวงตามืดบอด!”

 

ฉินหยุนทราบดี ว่าร่างกายเซียนหมูจิ้งเป็นสิ่งล้ําค่าเพียงใดกระนั้นเขาก็ไม่คิดสนใจ

 

“อย่างนั้นบอกกล่าวร่างกายเจ้ามีอันใดพิเศษ?” หลงอว์ทั้งหัวเราะถาม

 

“ตราบเท่าที่มีเพศสัมพันธ์กับข้าบุคคลผู้นั้นย่อมได้ก่อเกิดชีพจรเซียน!เจ้าควรทราบ เซียนทั้งหลายในแดนเซียนอ้างว้างยังมีเพียงแค่ชีพจรวิญญาณ! ด้วยชีพจรวิญญาณ ทําให้ดูดกลืนได้เพียงแต่พลังงานเซียนเก้าตะวันอย่างเชื่องช้า!แต่หาก… หากได้ร่วมหลับนอนกับข้าไม่เพียงแต่จะได้รับชีพจรเซียนแต่จะได้รับอย่างน้อยถึงเจ็ดชีพจรเซียน!”เซียนหมูจิ้งกล่าวเสียงดังฟังชัดคํากล่าวเหล่านี้กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องชวนอับอายต่อนาง

 

ฉินหยุนครอบครองวิญญาณเทวะเก้าตะวัน มันเทียบเท่าเก้าชีพจรวิญญาณแม้ในแดนเซียนอ้างว้างเขาก็ยังสามารถดูดกลืนพลังงานเซียนได้รวดเร็วดังนั้นเขาจึงไม่หิวกระหายใดต่อชีพจรเซียน

 

ถ้อยคําเหล่านี้ เป็นผลให้หลายคนต่างต้องมองหลงฉวนอ่อย่างนึกขบขัน! เพราะหลงฉวนอู่ยังไม่เคยร่วมสัมพันธ์กับเซียนหมูจิ้ง กล่าวได้ว่าควรค่าแก่การเย้ยหยัน

 

ผู้คนต่างไม่แปลกใจ ที่เขาพยายามเอาใจเซียนหมูจิ้งถึงเพียงนั้นเพราะเวลานี้พวกเขาได้ทราบกระจ่างชัดว่าหลงฉวนอู่หาได้มีความรู้สึกใดต่อเซียนหมูจิ้งเพียงสนแต่คุณประโยชน์ของร่างกายนางก็เท่านั้น

 

“ชีพจรเซียนมีประโยชน์กับเซียน ข้าไม่ทราบด้วยซ้ําว่าตนเองจะก้าวขึ้นเป็นเซียนได้หรือไม่ ดังนั้นย่อมไม่สนใจมัน!”ฉินหยุนเผยยิ้ม

 

“เจ้าไม่สนใจชีพจรเซียน แต่อย่าได้บอกว่าไม่สนใจสาวงามฟ้าประทานดังเช่นเซียนหมูจิ้ง! นี่เจ้ายังเป็นบุรุษอยู่หรือไม่?” ชายหนุ่มคนหนึ่งหัวเราะดังเอ่ยถาม

 

“ใช่แล้ว! หากเจ้าเอาชนะ เช่นนั้นเท่ากับได้รับทั้งสาวงามและชีพจรเซียน! นี่ถือเป็นเรื่องวิเศษชวนคุ้มค่า!”

 

“เร่งรีบรับค่า! หากเจ้าชนะ ก็มีแต่เจ้าที่ได้ผลประโยชน์อันใหญ่หลวง!”

 

คนหนุ่มหลายคนต่างกล่าววาจากระตุ้น แต่ยามได้เห็นใบหน้าดํามืดของหลงฉวนอู่ พวกเขาพลันต้องชะงักปาก!

 

ฉินหยุนกล่าว “หากข้าชนะ หลงฉวนอ่อย่างไรแล้วก็ไม่ปล่อยให้เจ้าไปกับข้า ดังนั้นข้าจึงไม่เล่นด้วย! ด้วยบรรดาผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้าหนุนหลังเขาเพียงนั้น ข้าย่อมไม่รับเดิมพันเจ้า! เช่นกันข้าหาได้สนใจเรือนร่างเจ้าไม่!”

 

เซียนหมูจิ้งกระทืบเท้าอย่างโกรธแค้น “สารเลวนักเจ้าไม่สนใจข้าทว่าหลายผู้คนสนใจ! เมื่อใดเจ้าเอาชนะเช่นนั้นจะใช้ข้าหาผลประโยชน์จากผู้อื่นอีกมากมายยังได้!”

ฉินหยุนส่ายศีรษะกล่าวคําตอบ“ข้าไม่เชื่อใจเจ้าไม่มีอะไรรับประกันได้ว่าเมื่อถึงเวลาเจ้าจะไม่หนี!ตัวเจ้าไม่อาจยืนยันอะไรได้ มีแต่สัญญาปากเปล่าว่าจะติดตามข้ากลับไปร่วมหลับนอนก็เท่านั้น!หากเจ้าพ่ายแพ้และ หนีหายเล่า? เจ้าแพ้เจ้าเลือกหนี้หากเจ้าชนะ เช่นนั้นเอาของจากข้าอย่างนั้นหรือ!นี่ไม่ใช่การตบทรัพย์ผู้คนกลางแจ้งโดยไม่ลงทุนใดเลยหรือไร?”

 

ฉินหยุนไม่ใช่คนโง่ เขาทราบกระจ่างชัดดีว่าเซียนหลจึงเป็นตัวตนเจ้าเล่ห์เพียงใด นางไม่เคยทําตัวอย่างไรเหตุผลเพียงแต่เคยมัวเมาหลงกับความรักจนดวงตามืดบอดก็เท่านั้น เวลานี้นางทราบความดํามืดของโลกกระจ่างชัด

 

เห็นได้ชัดว่าหลงฉวนอทราบความคิดของเซียนหมูจิ้ง ดังนั้นเขาจึงไม่กล่าวห้ามแม้ครึ่งคําผู้คนยามได้รับฟังเวลานี้ต่างคิดว่าเซียนหมูจิ้งเสนอแผนการอันชั่วร้ายเพียงใดออกมา

 

“เหอะ… หากเจ้าไม่ต้องการ เช่นนั้นก็ไม่! จงรอข้า แล้วข้าจะเอาชนะเจ้าที่ในงานประลองยุทธ์ให้จงได้!”เซียนหมูจิ้งกล่าวอย่างเดือดแค้น

 

ฉินหยุนพบเห็นกลลวงของเซียนหลจิ้งแต่แรกเริ่มเซียนหลจิ้งและหลงฉวนอู่ต่างอยู่ร่วมกันมาเป็นเวลานานกระทั่งจบยังไม่เคย เห็นได้ชัดว่านางไว้นวลสงวนตัวเพียงใด ไม่มีทางที่นางจะขายเรือนร่างตนเองแก่ใครก็ไม่รู้อย่างเด็ดขาด

 

หลงอคงพลันหัวเราะดังขึ้น “สุดท้ายข้าจึงได้เข้าใจว่าเหตุใดแล้วพี่ชายฉวนอผู้นี้จึงไปละเล่นที่หอคณิกาทั้งวันเพราะไม่อาจสัมผัสสาวงามข้างกายได้นี่เอง…ฮ่าฮ่าฮ่า!”

 

“หลงอวดัง หากเจ้ายังกล้ากล่าววาจาไร้สาระอีก ข้าจะฉีกเจ้าออกเป็นชิ้น!” หลงฉวนอู่คารามดวงตาเวลานี้แทบสามารถยิงสายฟ้าพร้อมเสียงฟ้าคํารามเขย่าพื้นโลกได้

อย่างกะทันหันออร่าอันหนักอึ้งพลันมาเยือน เหล่านี้เป็นออร่าของครึ่งเซียนและจักรพรรดิยุทธ์! บรรดาคนหนุ่มที่นี้ต่างเร่งรีบเดินไปต้อนรับบรรดาผู้อาวุโสที่มาเยือน

 

“พวกเจ้าทําอันใด? มีเหตุวิวาทกันหรือ?” หนึ่งในผู้อาวุโสเอ่ยถาม

 

“พวกเราหาได้วิวาทกัน เพียงแต่ขันแข่งงัดข้อและเดิมพันสิ่งเล็กน้อย!” หลงอวดังเผยยิ้มตอบ

 

คนหนึ่งเร่งรีบเดินเข้าไป บอกกล่าวต่อบรรดาผู้อาวุโสถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ยามผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้าได้ทราบเรื่องราว เขาจึงเผยประกายโทสะ ปรากฏต่อหน้าหลงฉวนอู่ในพริบตาพร้อมตบใบหน้าอีกฝ่ายอย่างกราด เกรี้ยว

 

“ฉวนคู่ พวกเราให้เจ้าหยิบยืมวิญญาณมังกรไปเพื่อหาทางได้รับวิชามังกรสวรรค์ภายหลังต้องส่งมันกลับคืนสํานัก… นั้นคือวิญญาณมังกรเซียน เป็นสิ่งสําค่ามหาศาล แต่เจ้าถึงขั้นนําออกมาใช้เป็นเดิมพันช่างรู้จักสร้าง เรื่องอัปยศได้ดีนัก!”

 

แท้จริงมันเป็นถึงวิญญาณมังกรเซียน! ผู้คนต่างระเบิดเสียงฮือฮายามได้ทราบ ฉินหยุนยังไม่ได้พิจารณามันถี่ถ้วนตอนนี้จึงได้ทราบแล้ว ว่าเหตุใดเซียนหมูจิ้งจึงยอมทุ่มสุดตัวเพื่อวิญญาณมังกร

 

“ท่านผู้อาวุโส นี่เป็นความผิดข้าเอง หากไม่ใช่เพราะข้า ฉวนอู่ก็คงไม่พ่ายแพ้!” เซียนหลงออกหน้าพร้อมเผยสีหน้าสํานึกผิด ดวงตาของนางรื้นน้ําตา นางกล่าวสะอื้น “เพื่อเอาชนะทวงวิญญาณมังกรกลับคืนข้าได้เดิมพันกับมันผู้นั้น ทว่ามันไม่รับการเดิมพัน!”

 

ฉินหยุนสบถต่อเซียนหลดิ้ง สตรีผู้นี้พร้อมตลบตะแลงได้ทุกเมื่อ ก่อนหน้าผู้คนต่างได้เห็นกระจ่างเซียนหลจึงต้องการเก็บวิญญาณมังกรไว้เสียเอง

 

ฉินหยุนยังนึกสงสัย ว่าเซียนหมูจิ้งจงใจล่อลวงให้หลงฉวนอุ่นําเอาวิญญาณมังกรออกมาใช้เป็นเดิมพันเพราะครั้งหลงฉวนอู่พ่ายแพ้ เขาไม่ยินดีอย่างถึงที่สุดที่ต้องส่งมอบวิญญาณมังกรในเวลานั้นอาจเป็นเซียน หมูจิ้งที่กล่าวต่อเขา ว่าจะทวงมันกลับคืนมาและส่งมอบให้

 

ทว่าเซียนหมูจิ้งได้กลับคํา เบื้องหน้า นางได้กล่าวว่าเมื่อใดชนะ วิญญาณมังกรจึงเป็นของนาง

 

“สตรีที่โฉดชั่ว หลงฉวนอู่คงถูกนางหยอกล้อจนตายตกแล้ว!” หลิงหยุนเอ๋อหัวเราะดัง

 

ได้เห็นสตรงดงามเย็นเยือกเช่นเซียนหมูจิ้งบีบน้ําตา บรรดาผู้อาวุโสสานักมังกรฟ้าจึงไม่อาจกล่าวคําอื่นใดพวกเขาได้ทราบแล้ว ว่าก่อนหน้านางได้ใช้เรือนร่างเป็นเดิมพัน กระทั่งเผยความลับของร่างกายนางออกมากล่าวได้ว่านางเสียสละครั้งใหญ่

 

เพี้ยะ!

 

ชายชราตบใบหน้าหลงฉวนอู่รุนแรง หลงฉวนอู่ถึงขั้นถูกตบหน้าสอนสั่งต่อหน้าผู้คนมากมายเห็นได้ชัดว่าเรื่องราวครั้งนี้ชวนให้ตึงเครียดเพียงใด

 

ผู้อาวุโสตระกูลหลงเร่งรีบก้าวเดินมาทางฉินหยุนพร้อมกล่าว “หลงอว์เทียนใช่หรือไม่? จงเร่งรีบส่งวิญญาณมังกรนั้นออกมา รวมถึงศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชัน และเม็ดยาต้นกําเนิดพลังงานราชัน!อย่าได้ทําให้ความสัมพันธ์ของสองฝ่ายต้องมัวหมอง! เจ้าก็เพียงละเล่นไปเรื่อย!”

 

“ถูกต้องแล้ว เร่งรีบส่งพวกมันกลับคืนมา! เดิมก็เป็นความผิดเจ้า ที่ล่อลวงให้ผู้อื่นตกหลุมพรางการพนันดังนั้นเร่งรีบส่งพวกมันกลับคืน!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงอีกคนหนึ่งตะโกนกล่าวดังขึ้น

 

ฉินหยุนกล่าวตอบโต้ “ข้าใช้ความสามารถตนเองจนชนะได้รับพวกมันมา เหตุใดจึงต้องส่งกลับคืน? หากพวกมันไม่อาจยอมรับความพ่ายแพ้ เช่นนั้นก็ไม่สมควรหน้าใหญ่วางเดิมพันสูง ข้าคิดหยุดเล่นหลายครั้งคราทว่าเป็นพวกมันที่บีบบังคับให้ข้าเล่น! แล้วเหตุใดข้าจึงต้องรับผิดชอบต่อเรื่องราวนี้?”

 

“บัดซบ เจ้ากล้าดีอย่างไรกล่าววาจาสามหาวต่อหน้าผู้อาวุโส? เจ้าไม่ใช่ผู้เติบโตขึ้นในคฤหาสน์ราชันมังกรช่างไม่รู้ผู้ใดสูงต่ําและไร้มารยาทนัก! ให้ข้าสอนสั่งบทเรียนแก่เจ้า!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงส่งฝ่ามือคิดตบใบหน้าฉินหยุนฉินหยุนจึงเร่งรีบหลบเลี่ยง

 

“เจ้ากล้าหลบงั้นหรือ! ข้าจะถลกหนังหน้าเจ้าออกมา!” ชายชราพุ่งทะยาน หลงอวดังเร่งรีบเคลื่อนตัวไปสกัดต้านรับ

 

ผู้คนสํานักมังกรฟ้าเวลานี้ต่างผ่อนคลายกันแล้ว พวกเขาทราบดี ว่าบรรดาผู้อาวุโสตระกูลหลงจะเป็นผู้ทวงวิญญาณมังกรกลับคืนมาให้

 

“หลงอวดัง หลงอวเทียน บิดาพวกเจ้าล้วนตายจาก ให้ข้าได้เป็นตัวแทนมันสอนสั่งบทเรียนแก่เจ้า!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงขึ้นเสียง เขาคือครึ่งเซียน คิดจัดการราชันยุทธ์สองคนเป็นเรื่องง่ายดาย พลังปลดปล่อยเผยออก เขาเลือกโจมตีหลงอวดังก่อน ขณะฝ่ามือกําาลังจะฟาดออกนั้นเอง…

 

อย่างกะทันหัน แสงอันเย็นเยือกพลันวูบปรากฏ มือของครึ่งเซียนเลือนหาย ตั้งแต่หัวไหล่ของเขาถูกสับฟันร่วงหล่น โลหิตต้องสาดกระเซ็นดั่งน้ําพุจากหัวไหล่ ฉินหยุนตื่นตะลึง เมื่อครู่เขาตระเตรียมนําหลงอว์ทั้งหลบหนีออกจากที่นี้เป็นเขาไม่คาดคิดว่าจะมีผู้ใดกล้าลงมือในสถานการณ์เช่นนี้

 

“ข้า หลงทั้งเฉิงยังไม่ได้ตายจาก ไม่ใช่หน้าที่ตาเฒ่าเช่นเจ้าจะมาสอนสั่งหลานชายข้า!” ค่ากล่าวเผยออกชายวัยกลางคนหล่อเหลาผู้หนึ่งที่สวมใส่ชุดสีเทาได้ปรากฏตัวต่อหน้าหลงอวดัง

 

ผู้นี้คือปู่ของหลงอวดังที่เก็บตัวฝึกฝนยาวนานหลายปียิ่ง แท้จริงแล้ว เขายังมีรูปลักษณ์เป็นชายวัยกลางคนเท่านั้นเอง