ตอนที่ 374

The Strongest Hokage

แม้ว่าจะดูเหมือนว่า ไนโตะ กำลังท่องไปใน แคว้นแห่งน้ำ อย่างไร้จุดหมาย แต่จริง ๆ แล้ว ไนโตะ กำลังมุ่งหน้าไปยัง หมู่บ้านคิริ เพราะเขาคิดว่าในเมื่อ ฐานขององค์กรแสงอุษา ตั้งอยู่ใน แคว้นแห่งน้ำ ดังนั้นพวกเขาก็คงจะเกี่ยวข้องกับ หมู่บ้านคิริ

 

เช่นเดียวกับในการ์ตูน หมู่บ้านอาจถูกควบคุมโดยพวกเขาอยู่เบื้องหลัง

 

ไนโตะ ค่อย ๆ เดินเข้าไปในพื้นที่ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ อย่างไรก็ตามเกล็ดหิมะก็กระเด็นออกจากตัวของ ไนโตะ ก่อนที่พวกมันจะโดนตัวเขา

 

สีของหิมะขาวกว่าสีผมของ ไนโตะ เล็กน้อย

 

ครั้งสุดท้ายที่ ไนโตะ ไปเยือนที่ แคว้นแห่งเหล็ก เขาก็เจอกับภาพที่คล้ายกัน แต่ในตอนนั้น ไนโตะ กำลังรีบไปที่การประชุม 5 คาเงะ ดังนั้นเขาจึงไม่มีเวลาสนุกกับหิมะ

 

ไนโตะ ไม่ต้องการเร่งความเร็วเพื่อข้ามไปยังอีกฝากหนึ่งอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกผ่อนคลายเป็นอย่างมากที่ได้เห็นภาพนี้ ดังนั้นเขาจึงใช้สัมผัสพิเศษเพื่อสัมผัสกับหิมะเป็นระยะทางหลายไมล์ ซึ่งทำให้การมองเห็นในใจของเขาชัดเจนมาก

 

เขาสัมผัสได้ถึงเกล็ดหิมะทุกชิ้นที่ตกลงบนพื้นซึ่งทำให้เขารู้สึกขอบคุณที่เทพเจ้าได้สร้างภาพที่สวยงามแบบนี้ขึ้นมา

 

เมื่อมองไปรอบ ๆ ด้วยการตรวจจับของ ไนโตะ เขาก็มองเห็นเมืองเล็ก ๆ เมืองหนึ่ง

 

เมืองนี้ไม่ได้อยู่บนเส้นทางที่ ไนโตะ กำลังเดินทางไป มันอยู่คนละทางเลยด้วยซ้ำไป ดังนั้นเขาจึงไม่สนใจและเดินต่อไป

 

แต่เมื่อเขาเข้าใกล้เมืองนั้นขึ้นเรื่อย ๆ ทั้งเมืองก็อยู่ในการตรวจจับของเขา ทันใดนั้น ไนโตะ ก็เบิกตากว้างขึ้นเผยให้เห็นหน้าตาที่ประหลาดใจออกมา!

 

…….

 

ในเมืองเล็ก ๆ นั้นมีเด็กคนหนึ่งอายุประมาณ 5 – 6 ขวบอยู่คนหนึ่ง เขากำลังนั่งเงียบ ๆ ท่ามกลางหิมะข้างถนน

 

เสื้อผ้าที่เขาสวมอยู่ดูซีดและเก่า เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นเด็กกำพร้าเร่ร่อนขออาหารอยู่ท่ามกลางอากาศที่หนาวเย็น แต่ชาวบ้านก็เดินผ่านเขาไปอย่างไม่สนใจ

 

แม้ว่าเขาจะดูสกปรกนิดหน่อย แต่เขาก็ดูเหมือนเด็กที่มีสุขภาพดี แต่มองเผิน ๆ แล้วเขาดูเหมือนเด็กผู้หญิงมากกว่า

 

แม้ว่าอากาศจะหนาวเย็นเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนเขาจะไม่รู้สึกหนาวเลย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังตัวสั่น

 

ไม่ใช่เพราะเขาหนาว แต่เขาหิว

 

การขอทานในสภาพอากาศเลวร้ายเช่นนี้เป็นเรื่องที่ยาก

 

หิมะไม่ได้ทำให้ความร้อนในร่างกายของเขาหายไป แต่ความหิวที่อยู่ในท้องของเขากำลังทำให้เขาอ่อนแอลงและค่อย ๆ ระบายความร้อนออกจากร่างกาย เขากำลังจะตายเพราะความหิว

 

ทันใดนั้นขนมปังชิ้นหนึ่งก็ตกลงไปในชามที่อยู่ต่อหน้าเขา

 

ดวงตาของเขาเป็นประกายทันทีเมื่อเห็นขนมปังชิ้นนั้น แม้ว่าร่างกายของเขากำลังจะหมดแรง แต่เขาก็เงยหน้าขึ้นทันทีและมองไปที่ชายที่ให้อาหารแก่เขา

 

“ขอบคุณ…ขอบคุณครับ”

 

แม้ว่าเขากำลังจะตายเพราะความหิวโหยและอยากกินขนมปังชิ้นนั้นมาก แต่เขาก็ยังคงแสดงความขอบคุณออกมาก่อน

 

ร่างตรงหน้าของเขาสวมเสื้อคลุมสีขาวและมีผมสีหิมะ และดูราวกับว่าเขาเป็นหนึ่งเดียวกับหิมะอย่างสมบูรณ์

 

ในสภาพอากาศแบบนี้ เขาไม่ค่อยเห็นคนแต่งตัวแบบนี้มาก่อน

 

หลังจากขอบคุณเขาเสร็จ เขาก็หยิบขนมปังขึ้นมาจากนั้นก็เริ่มกิน

 

ไนโตะ มองไปที่เด็กชายที่อยู่ตรงหน้าเขาด้วยสายตาที่อธิบายไม่ถูก ไนโตะ รู้จักเด็กคนนี้เป็นอย่างดี

 

สภาพอากาศไม่สามารถทำอะไรเด็กคนนี้ได้เพราะ ขีดจำกัดสายเลือด ของเขาที่เกี่ยวข้องกับน้ำแข็ง

 

สถานการณ์ที่เกิดขึ้น , ขีดจำกัดสายเลือด , อายุ , เส้นเวลา , สถานที่ สิ่งเหล่านี้ชี้ชัดว่าเด็กคนนี้ก็คือ ฮาคุ

 

เมื่อมองไปที่ ฮาคุ ที่แทบจะไม่มีแรงกินขนมปังที่อยู่ในมือ ไนโตะ ก็รู้สึกเศร้าแทนเด็กคนนี้

 

ฮาคุ มาจาก ตระกูลยูกิ สามารถพูดได้ว่าเขาเกิดมาพร้อมกับพรสวรรค์ที่สูงกว่าคนทั่วไป ท้ายที่สุดแล้ว ตระกูลยูกิ ก็มีขีดจำกัดสายเลือดที่แข็งแกร่ง แต่ไม่ใช่ทุกคนในตระกูลที่จะสามารถปลุกพลังนั้นขึ้นมาได้ เช่นเดียวกับ ตระกูลอุวิฮะ ที่ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถปลุกเนตรขของพวกเขาได้

 

สำหรับ แคว้นแห่งไฟ การมี ขีดจำกัดสายาเลือด ถือว่าเป็นพรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม อย่างไรก็ตามสำหรับ แคว้นแห่งน้ำ แห่งนี้ การมี ขีดจำกัดสายาเลือด ไม่ใช่พรสวรรค์ที่ยอดเยี่ยม แต่พวกเขาถือว่ามันเป็นคำสาป

 

ฮาคุ เกิดในหมู่บ้านแห่งนี้ ชาวบ้านเกลียดพลังนั้นและกลัวมัน แม่ของ ฮาคุ ก็มีพลังแบบเดียวกัน แต่เธอเก็บมันไว้เป็นความลับแม้กระทั่งกับสามีของเธอ อย่างไรก็ตามเมื่อพวกเขารู้เรื่องพลังของเธอ พ่อของ ฮาคุ ก็พาชาวบ้านไปฆ่าแม่ของเขา และก่อนที่พวกเขาจะสังหาร ฮาคุ ด้วยความโกรธ ฮาคุ ก็ปลุกพลังของเขาขึ้นมาและฆ่าทุกคน

 

ด้วยเหตุนี้ ฮาคุ จึงเป็นเด็กกำพร้าตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาและออกเดินทางไปทั่วทั้ง แคว้นแห่งน้ำ

 

เพราะอุบัติเหตุครั้งนั้น ฮาคุ จึงเริ่มกลัวความสามารถของเขาเช่นเดียวกับชาวบ้านที่ถูกเขาฆ่า เขามองว่าพลังนี้เป็นคำสาป

 

ฮาคุ แค่กลัวและไม่มีเป้าหมายเช่นเดียวกับ คิมิมาโร่ พวกเขาเป็นแค่คนบริสุทธิ์ที่จะมีชีวิตที่แตกต่างไปจากเดิมถ้าพวกเขาไม่ได้พบเจอกับคนอย่าง ซาบุสะ และ โอโรจิมารุ

 

ไนโตะ ไม่คิดว่าจะได้พบเขาในเมืองนี้

 

“นายชื่ออะไร?”

 

ไนโตะ ยืนอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบ ๆ มองไปที่เด็กชายที่กินขนมปังของเขาเสร็จและถามเบา ๆ

 

“ฮาคุ ครับ…”

 

คำตอบของเด็กชายไม่ได้ทำให้ ไนโตะ แปลกใจ ท้ายที่สุดแล้วก็มีแค่ไม่กี่คนในโลกนี้ที่จะมี คาถาน้ำแข็ง และมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับ ฮาคุ

 

ฮาคุ ไม่กล้าสบตากับ ไนโตะ เขาไม่รู้ว่าทำไม ไนโตะ ยังยืนอยู่ที่เดิม เพราะแม้ว่าจะมีคนเอาอาหารมาให้เขา พวกเขาก็จะเดินจากไปในทันที พวกเขาไม่สนใจเขาเลย

 

เมื่อ ฮาคุ กินขนมปังที่ ไนโตะ ให้จนเสร็จ เขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม ไนโตะ อย่างอ่อนแรงเมื่อสังเกตว่า ไนโตะ ยังไม่เดินออกไป

 

“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ คุณผู้ชาย?”

 

ไนโตะ ยิ้มและพูดว่า “ฉันต้องการให้นายตามฉันมา”

 

หลังจากนั้น ไนโตะ ก็หันกลับมาและเดินออกจากเมืองไป

 

ฮาคุ ตัวสั่นด้วยความตกใจ เขามองไปที่ด้านหลังของ ไนโตะ ที่เดินห่างออกไปเรื่อย ๆ

 

จนในที่สุด ไนโตะ ก็เดินลับหายไปในหิมะอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้น ฮาคุ ก็ดึงสติกลับมาได้ จากนั้นเขาก็พยายามใช้แรงที่เหลือทั้งหมดพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นและวิ่งตรงไปยังทิศทางที่ ไนโตะ หายไป

 

ในที่สุดก็มีคนที่เห็นเขามีตัวตนอยู่บนโลกใบนี้จริง ๆ เสียที มันเหมือนกับมีแสงปรากฏขึ้นในโลกมืดแห่งนี้และเขาก็อดไม่ได้ที่จะตามมันไปอย่างมีความหวัง

 

แสงนั้นคือ ไนโตะ