เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 451
ภายในใจของฝ่ายตรงข้ามคิดอะไร ต่างก็รู้อยู่แก่ใจ
หลันเจิ้นเปลี่ยนหัวข้อสนทนา ทันใดก็พูดติดตลกว่า: “เย่เทียน ลูกชายสองคนของคุณเย่กวงกับเย่ขวง แล้วก็ครอบครัวพี่ชายของคุณล้วนตายด้วยเงื้อมมือของหยางเฟิง หรือว่าภายในใจของคุณจะไม่มีความเกลียดชังเลย? หรือว่าคุณไม่คิดที่จะแก้แค้น?”
ได้ยินเช่นนี้
รูม่านตาของเย่เทียนก็หดตัวอย่างรุนแรง
เดิมทีมือที่ต้องการจะเล่นหมากรุก ก็หยุดชะงักลง
เกลียดชัง?
ทำไมเขาจะไม่เกลียด!
ลูกชายทั้งสองของตนเอง ล้วนตายด้วยน้ำมือของหยางเฟิง
ถึงแม้เย่กวงจะปฏิบัติไม่ดีต่อเขาอย่างไร
แต่ถึงอย่างไรก็เป็นลูกชายของเขา!
ความแค้นจากการฆ่าลูก
ไม่ยอมอยู่ร่วมใต้ฟ้าเดียวกันกับศัตรูแน่นอน!
มิหนำซ้ำ
ครอบครัวของเย่ห้าวพี่ชายของตนเอง ก็ตายด้วยน้ำมือของหยางเฟิงเหมือนกัน
ความแค้นนี้ เรียกได้ว่าเป็นความแค้นบัญชีเลือด
แต่หากต้องการแก้แค้น มันก็ไม่ง่ายเหมือนที่พูด
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าในตอนนี้เขาก็เป็นเพียงคนพิการคนหนึ่ง
เพียงแต่หยางเฟิง ไม่ใช่ลูกเขยคนนั้นของตระกูลเย่เมื่อปีนั้นอีกแล้ว
หยางเฟิงในตอนนี้ คือราชาตงไห่!
ในตงไห่ ใครกล้าเป็นศัตรูกับหยางเฟิง ก็มีเพียงหนทางตายเพียงทางเดียว!
เย่เทียนก็อายุแปดสิบกว่าปีแล้ว
เขายังอยากถึงแก่กรรมด้วยโรคชราอยู่
จะกล้าไปรนหาที่ตาย ไปหาหยางเฟิงเพื่อแก้แค้นได้อย่างไรกัน?
“เฮ้อ!”
เย่เทียนทอดถอนใจ แล้วโยนตัวหมากรุกทันที: “ไม่เล่นแล้ว! หลันเจิ้น สิ่งที่คุณพูดอยู่นี้ ก็คือคุณกำลังยั่วยุให้เกิดความขัดแย้งในตระกูลเย่ของพวกเรา! หยางเฟิงเป็นหลานเขยของฉัน ระหว่างฉันกับเขาจะมีความเคียดแค้นอะไรต่อกันละ? พวกเราล้วนเป็นญาติพี่น้องกันทั้งนั้น!”
หลันเจิ้นขมวดคิ้ว
ญาติอะไรกัน?
หลานเขยอะไรกัน?
เขาไม่เชื่อว่า เย่เทียนจะไม่เกลียดหยางเฟิงจริงๆ!
เพียงแต่เย่เทียนจิ้งจอกแก่ผู้นี้ ซ่อนเอาไว้ลึกๆ ไม่กล้าแสดงความคิดภายในใจตนเองออกมา
หยางเฟิงในตอนนี้ แข็งแกร่งเพียงใดในตงไห่
ใครจะไม่รู้
ไม่ต้องพูดถึงที่ตงไห่
ถึงแม้จะเป็นที่เมืองเอก ก็ไม่มีใครสามารถขัดขวางหยางเฟิงได้!
ตาแก่พิการอย่างเย่เทียนนี้จะกล้าผิดใจกับหยางเฟิงหรือ?
นั่นก็คือการตีโคมไฟในห้องน้ำ——รนหาที่ตาย!
หลันเจิ้นก็ไม่พูดมาก หัวเราะเบาๆ: “ฉันก็แค่หยอกล้อเล่นก็เท่านั้น ทำไมคุณจะต้องจริงจังด้วยล่ะ! เพียงแต่จะว่าไปแล้ว ที่คุณสามารถมีวันนี้ได้ ล้วนเป็นเพราะหยางเฟิง”
“ถ้าไม่ใช่หยางเฟิง ตอนนี้คุณก็ยังคงเป็นผู้นำตระกูลเย่! แล้ววันนี้ ตำแหน่งประธานกรรมการของเฟิงเมิ่งกรุ๊ปก็คือคุณ…….”
“พอได้แล้ว!”
ปัง!
มีเสียงดังขึ้น
เย่เทียนใช้มือตบลงบนกระดานหมากรุกอย่างรุนแรง จนกระดานหมากรุกถูกทำให้พลิกคว่ำ!
เขาจ้องเขม็งมองหลันเจิ้นแล้วกล่าวว่า: “หลันเจิ้น ถ้าคุณขืนพูดคำพูดเหล่านี้อีก ก็อย่ามาโทษว่าฉันไม่เกรงใจคุณก็แล้วกัน!”
“คุณมาถากถางฉันหมายความว่าอะไร? ตระกูลหลันของพวกคุณเป็นคนอย่างไร คิดว่าฉันไม่รู้เหรอ? สาเหตุที่คุณมาหลบอยู่ที่นี่ ไม่ใช่เพราะกลัวว่าเรื่องอื้อฉาวที่ตระกูลหลันของพวกคุณทำจะถูกหยางเฟิงล่วงรู้เข้าหรอกเหรอ?”
“ถึงแม้หยางเฟิงจะเป็นหลานเขยของคุณ แต่หยางเฟิงคนนี้ เป็นคนผดุงคุณธรรมอย่างที่สุดและสามารถลงโทษได้แม้กระทั่งญาติมิตร!”
เย่เทียนโมโหจริงๆ!
หลันเจิ้นไอ้แก่สารเลว
แต่ก่อนคนทั้งสองก็ไม่ค่อยลงรอยกันสักเท่าไร
หลังจากเข้ามาที่บ้านพักคนชรา ก็คือตาต่อตาฟันต่อฟัน
ถ้าไม่ใช่เพราะเห็นว่าหลันเจิ้นสามารถเล่นหมากรุกเป็นเพื่อนตัวเอง เพื่อให้ผ่านช่วงเวลาที่น่าเบื่อไปได้แล้วละก็
ถึงแกจะเป็นอัมพาต!
เขาก็คงตบเข้าให้แล้ว!
ได้ฟังคำพูดนี้แล้ว
สีหน้าของหลันเจิ้น ก็มืดมนในทันที!
เพราะเรื่องที่เก็บเอาไว้ภายในใจของเขา ถูกเย่เทียนเปิดเผยความจริง!
เขากับเย่เทียนต่อสู้กันมาหลายสิบปี
พูดได้ว่าคนทั้งสองเข้าใจฝ่ายตรงข้ามเป็นอย่างดี
พูดไม่เข้าหูเล็กน้อย
ฝ่ายตรงข้ามใครกระดกก้นสักหน่อย
ก็รู้แล้วว่า อีกฝ่ายจะขี้หรืออะไร
ที่เขาดูถูกเย่เทียน ก็เป็นแค่เพียงการพูดไม่คิดเท่านั้น
เมื่อก่อน ตระกูลเย่มีอำนาจแข็งแกร่งกว่าตระกูลหลัน
ผู้นำตระกูลหลันอย่างตนเองนี้ ถูกเย่เทียนกดหัวมาโดยตลอด
นี่จึงทำให้หลันเจิ้นรู้สึกขุ่นเคืองในใจมาโดยตลอด
ตอนนี้จึงเป็นการยาก ที่ได้เห็นเย่เทียนตกทุกข์ได้ยาก
ลูกชายสามคน ตายไปสองคน