ตอนที่ 460 เจ้าควรจะเข้าใจความรู้สึกนั้น / ตอนที่ 461 ทั้งชีวิตนี้ข้าไปจากจวนมหาเสนาบดีไม่ได้แล้ว

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 460 เจ้าควรจะเข้าใจความรู้สึกนั้น

 

 

เซียวเหยี่ยนโผล่เข้ามาในหัวซ้ำไปซ้ำมา แค่แต่งงานทำไมถึงยากเย็นเช่นนี้ พลิกผันไปมา เธอไปยั่วโมโหใครกันแน่ นึกไม่ถึงว่าจะมีเรื่องวุ่นวายขนาดนี้ จนปัญญาจริงๆ

 

 

กำลังใจลอยอยู่ จู่ๆ ก็มีเสียงเคลื่อนไหวจากข้างนอก หลิงอวี้จื้อถึงได้มีสติกลับมาว่าตนเองนั่งอยู่คนเดียวตั้งนานแล้ว รีบวางหนังสือในมือลงทันที

 

 

ลู่ชิงชิงผลักประตูเข้ามา หลิงอวี้จื้อยิ้มให้ลู่ชิงชิง รีบย้ายที่นั่งอีกด้าน

 

 

“ชิงชิง เจ้ามาแล้ว รีบนั่งสิ”

 

 

ลู่ชิงชิงนั่งลงข้างๆ หลิงอวี้จื้อ ไม่แต่งหน้าทาแป้ง หน้าขาวซีด ไม่มีสีเลือดแม้แต่น้อย สีหน้าไม่ดีเลย ตัวก็ซูบผอมลงไปไม่น้อย

 

 

หลายวันมานี้นางไม่ออกไปไหนเลย และรู้เรื่องมาจากสาวใช้ว่าหลิงอวี้จื้อจะแต่งเข้าจวนท่านอ๋องพร้อมกับพระชายารอง จึงมาเยี่ยมหลิงอวี้จื้อโดยเฉพาะ กลัวว่าเธอจะคิดไม่ตก

 

 

เห็นลู่ชิงชิงสภาพแย่ขนาดนี้ หลิงอวี้จื้อก็ตบหลังมือนางเบาๆ

 

 

“เจ้าต้องดูแลสุขภาพด้วยนะ เจ้าดูสิ เจ้าซีดเซียวจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว ข้ายังจำครั้งแรกที่พบเจ้าได้ ท่าทางสุภาพเรียบร้อยของเจ้าน่าดูมาก”

 

 

“หลายวันมานี้แค่ไม่ได้พักผ่อนให้ดีเท่านั้นแหละ เจ้าวางใจเถิด! ข้าไม่เป็นอะไร”

 

 

ลู่ชิงชิงฝืนยิ้มออกมา หลายวันมานี้นางไม่ยอมพบหลิงจื่อเฉิง ในใจทุกข์ทรมานมาก ความรักในอดีตยังคงวนเวียนให้เห็น

 

 

พอนึกถึงเรื่องระหว่างเขากับชิวจวี๋ ก็เหมือนหนามยอกอก เรื่องบางเรื่องเกิดขึ้นแล้วก็คือเกิดขึ้น นางจนปัญญาจะไปคิดว่าเรื่องมันไม่เคยเกิดขึ้น

 

 

“ไม่ทรมานตนเองน่ะถูกต้องแล้ว ชิงชิง ข้าอยากให้เจ้าสบายดี”

 

 

“ไม่ต้องพูดเรื่องของข้าแล้ว เดี๋ยวข้าก็สบายดี

 

 

หลายวันมานี้จื่อเฉิงไปหาชิวจวี๋บ่อยๆ ตอนนี้ชิวจวี๋คงจะมีพื้นที่ในใจเขาบ้างแล้ว ไม่พักต้องพูดเรื่องที่เขาทิ้งชิวจวี๋ไม่ลง ถึงแม้เขาจะใจร้ายใจดำกับนาง เมื่อนึกถึงที่เขาเอาของๆ ข้าไปให้ชิวจวี๋ ข้าก็ยกโทษให้เขาไม่ได้จริง ๆ

 

 

ช่างมันเถิด ข้าเสียค่าโง่ให้กับความหลงใหลชั่ววูบไปแล้ว ตอนนี้เป็นเช่นนี้ก็ดี”

 

 

“พี่ใหญ่ยังไม่ได้รักชิวจวี๋จริงๆ เขาเพียงแต่ใจอ่อนเกินไป ชิวจวี๋แสดงละครเก่งปานนั้น เขาหวั่นไหวก็ด้วยความสงสาร นี่เป็นความผิดของเขา

 

 

ถึงแม้ข้าจะเป็นน้องสาวของเขา แต่จะไม่ช่วยพูดแก้ตัวแทนเขา ข้าอยู่ข้างเจ้า ชิงชิง สรุปก็คืออย่าทำให้ตนเองลำบากถูกต้องแล้ว ข้าก็มิได้หวังให้เจ้าต้องกล้ำกลืนฝืนทนเพื่อรักษาหน้าทุกฝ่าย”

 

 

หลิงอวี้จื้อถอนหายใจเบาๆ วิธีที่ชิวจวี๋ใช้อยู่ตอนนี้ ใช้ไปได้ไม่นาน ก็เพียงพอจะมีที่ยืนในใจของหลิงจื่อเฉิงจริงๆ แม่นางดอกบัวขาว หลอกใช้ความสงสารของผู้ชาย บรรลุเป้าหมายทีละก้าวๆ

 

 

คนเราก็มักจะเป็นเช่นนี้ ทุ่มเทหมดกำลังเพื่อแย่งชิงสิ่งที่เกินเอื้อม เมื่อเอื้อมคว้าได้แล้วกลับไม่รู้จักรักษา

 

 

ลู่ชิงชิงถือว่าเป็นหญิงสาวที่มีอารมณ์แรงอยู่บ้าง นางไม่ยอมเรื่องเหล่านี้ เธอชื่มชมที่นางมีสติเช่นนี้ ลู่ชิงชิงเป็นเพื่อนคนเดียวของเธอในจวนมหาเสนาบดี

 

 

“ไม่ต้องพูดแล้ว ข้าไม่มีปัญหาอะไร อวี้จื้อ เจ้ากับท่านอ๋องเหมาะสกันขนาดนี้ ตอนแรกข้าก็นึกว่าเจ้าจะได้ออกเรือนอย่างราบรื่นดี นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะมีปัญหา ต่อไปเจ้าตัดสินใจจะทำอย่างไร”

 

 

หลิงอวี้จื้อหลบตาลง ตอบอย่างสัตย์จริงว่า

 

 

“ข้าไม่รู้”

 

 

“งานแต่งครั้งนี้ไทเฮาเป็นผู้รับสั่ง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่เจตนาของท่านอ๋อง อวี้จื้อ หลายเดือนมานี้ท่านอ๋องปฏิบัติต่อเจ้าอย่างไร ข้าก็เห็นกับตาตนเอง ดูออกว่าเขาชอบเจ้ามาก เจ้าแต่งกับเขาไม่ผิดหวังแน่ เขาจะดีต่อเจ้ามาก”

 

 

“เขาจะดีต่อข้าจริงๆ แต่ข้ายอมรับให้เฉินปี้อยู่ด้วยไม่ได้ ชิงชิง เจ้าควรจะเข้าใจความรู้สึกนั้น”

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 461 ทั้งชีวิตนี้ข้าไปจากจวนมหาเสนาบดีไม่ได้แล้ว

 

 

ลู่ชิงชิงถอนหายใจเบาๆ หนึ่งครั้ง

 

 

“ข้าเข้าใจความหมายของเจ้า เจ้าไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น เจ้าลองฟังดูว่าท่านอ๋องว่าอย่างไร ดูว่าเขาจะจัดแจงและจัดการคุณหนูเฉินอย่างไร

 

 

คุณหนูเฉินเป็นคนที่ไทเฮายัดเยียดให้เขา ในใจท่านอ๋องก็คงอึดอัดมากพออยู่แล้ว ตอนนี้เจ้ายังห่างเหินกับเขาเพราะเรื่องนี้อีก ท่านอ๋องจะไม่ลำบากใจไปมากกว่านี้อีกหรือ

 

 

อวี้จื้อ เจ้าอย่ารังเกียจว่าข้าปากมากเลย ข้ารู้สึกว่าหากเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เจ้าควรจะยืนอยู่ข้างท่านอ๋อง ดูว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร ไม่ใช่ผลักไสเขาไปเพราะเรื่องนี้ ได้พบคนที่รักใคร่ใจตรงกันไม่ใช่เรื่องง่าย”

 

 

หลิงอวี้จื้อเงียบ คำพูดของลู่ชิงชิงไม่เหมือนกับเจตนาของคนอื่นเลย คำพูดนี้กลับฟังขึ้น สถานการณ์ในตอนนี้เป็นเช่นนี้จริงๆ

 

 

เฉินปี้ถูกมู่หรงกวานเย่ว์ยัดเยียดให้เซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนพิจารณาถึงความปลอดภัยของเธอจึงยอมรับพระราชเสาวนีย์นี้ และรับปากว่าเฉินปี้จะได้แค่ชื่อตำแหน่งไปเพียงชั่วคราว รอจนได้โอกาสเหมาะสมแล้วจะส่งเฉินปี้ออกนอกจวนไป

 

 

หากเธอมองตนเองกับเซียวเหยี่ยนเป็นคนเดียวกัน เช่นนั้นเฉินปี้ก็เป็นเพียงปัญหาเล็กน้อยที่ทั้งสองคนได้พบเจอเท่านั้น เธอกับเซียวเหยี่ยนสามารถแก้ปัญหานี้ด้วยกัน เธอไม่สบายใจเพราะรู้สึกว่าการที่เฉินปี้เข้ามาเป็นการละเมิดเธอ

 

 

หากเธอคับข้องใจเซียวเหยี่ยนเพราะเรื่องนี้ แต่งเข้าจวนไปแล้วทำหมางเมินกับเซียวเหยี่ยน อย่างนี้นับว่าเป็นการเสริมโอกาสให้เฉินปี้ได้ใกล้ชิดเซียวเหยี่ยน สุดท้ายสองคนก็ยิ่งถอยห่างกัน ความรักครั้งนี้ก็จบสิ้น

 

 

เธอเริ่มย้อนถามตนเอง ผลลัพธ์อย่างนี้เป็นสิ่งที่ตนเองต้องการหรือไม่ จะทิ้งผู้ชายที่สำคัญกว่าชีวิตตนเองเพราะอุปสรรคที่มู่หรงกวานเย่ว์สร้างให้จริงๆ หรือ เช่นนั้นตนเองจะมาเสียใจภายหลังหรือไม่

 

 

เรื่องนี้พูดไปแล้วก็โทษเซียวเหยี่ยนไม่ได้ เขากำลังแก้ไขเรื่องนี้ ขอเพียงแค่เวลาเท่านั้น ปัญหาล้วนอยู่ที่ตัวเธอเอง เพราะเธอยังผ่านบททดสอบใจด่านนี้ไม่ได้

 

 

หลิงอวี้จื้อถามตนเองซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายก็มีคำตอบ สถานการณ์ในตอนนี้สามารถบรรยายได้อย่างนี้ เธอกับเซียวเหยี่ยนเจอปัญหา เธอไม่ได้ร่วมมือกับเซียวเหยี่ยนเพื่อป้องกันศัตรูภายนอก แต่กลับสร้างความขัดแย้งภายใน คิดเช่นนี้ คนที่ลำบากที่สุดก็คือเซียวเหยี่ยน ทั้งถูกบังคับให้แต่งงานกับผู้หญิงที่ไม่อยากแต่งงานด้วย แล้วยังต้องเผชิญหน้ากับเธอที่โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

 

 

เธอคิดมาตลอดว่าตนเองกับเซียวเหยี่ยนนั้นถูกกั้นด้วยวัฒนธรรมที่ห่างกันหลายพันปี และหวังว่าเซียวเหยี่ยนยอมรับเธอในเรื่องเหล่านี้

 

 

คิดดูให้ดีแล้วเส้นทางที่เดินมานี้ เซียวเหยี่ยนเปลี่ยนแปลงไปมาก แต่เธอไม่มีอะไรเปลี่ยนไปเลยสักนิด

 

 

เซียวเหยี่ยนคอยพูดกับเธอเสมอว่า เธอไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนอะไรเลย ทุกสิ่งทุกอย่างให้เขาทำเองทั้งหมด เธอก็รู้สึกสบายใจ ไม่ต้องทำอะไรเลยจริงๆ ให้เซียวเหยี่ยนเปลี่ยนตัวเองให้เข้ากับเธอ ส่วนเธอก็ยังเป็นหลิงอวี้จื้อผู้ทำอะไรตามอำเภอใจเช่นเดิม

 

 

คิดถึงสิ่งเหล่านี้ หลิงอวี้จื้อก็เริ่มรู้สึกผิด ระหว่างเธอกับเซียวเหยี่ยน เซียวเหยี่ยนเป็นคนที่ต้องยอมแลกมากกว่าจริงๆ บางทีเซียวเหยี่ยนอาจจะเป็นคนที่ชอบเธอก่อน เธอเคยชินกับการที่เซียวเหยี่ยนรักและตามใจ

 

 

หลิงอวี้จื้อเผยรอยยิ้มออกมา เธอยิ้มสดใสให้กับลู่ชิงชิง

 

 

“ขอบใจนะ ชิงชิง ได้ยินที่เจ้าพูดแล้ว ข้าก็คิดได้ทันที ตาสว่างแล้ว ดีที่เจ้ามา มิเช่นนั้นข้าก็ไม่รู้เลยว่าตนเองจะวุ่นวายไปจนถึงเมื่อไหร่”

 

 

“เจ้าคิดได้ก็ดีแล้ว หวังว่าเจ้าจะออกเรือนไปอย่างมีความสุข”

 

 

หลิงอวี้จื้อยื่นมือไปจับไหล่ลู่ชิงชิงไว้

 

 

“อื้ม เจ้าก็ต้องสบายดีด้วยนะ ต่อไปหากอยากไปจากจวนนี้ก็บอกข้า ข้าจะจัดการให้”

 

 

ลู่ชิงชิงส่ายหน้า

 

 

“ข้าไม่เคยคิดจะไป ทั้งชีวิตนี้ข้าไปจากจวนมหาเสนาบดีไม่ได้แล้ว”