ตอนที่ 854 : หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร

Nine Sun God King เทพราชันเก้าตะวัน

ตอนที่ 854 : หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร

 

ฉินหยุนไม่เคยถูกกัดเช่นนี้มาก่อน เวลานี้รู้สึกเจ็บยิ่ง ด้วยความสิ้นคิด และคําแนะนําในช่วงเวลานี้ของหลงอวี้คัง เขาอดไม่ได้ที่จะยื่นมือออกไปใช้เคล็ดวิชา…

 

“อ้า!” เซียนหลูจิ้งพลันหยุดขณะถูกขย่าจดจนส่งเสียงครางออก

 

เซียนหลูจิ้งกราดเกรี้ยว ดาบเซียนพลันปรากฏในมือ จ้วงแทงเข้าใส่ฉินหยุนด้วยใบหน้าอันเย็นเยียบ

 

ฉินหยุนหลบเลี่ยงไปซ่อนตัวด้านหลังหลงทั้งเฉิง ทางด้านหลงคังเฉิงยังตั้งตัวไม่ทันต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ผู้อื่นต่างก็ไร้ซึ่งคําพูดกล่าวใดเช่นกัน

 

“หยุดที่ตรงนั้น!” หลงคังเฉิงตะโกนดัง เขาปลดปล่อยสายลมอ่อนนุ่มพัดพาเซียนหลูจิ้งไม่ให้เข้ามาใกล้

 

เซียนหลูจิ้งถูกฉินหยุนขย้ำจุดต่อหน้าผู้คน นางทั้งอับอายและนึกโกรธแค้น จนถึงขั้นคิดสังหารฉินหยุนเสีย ที่นี่กระนั้นนางทราบ ว่าด้วยหลงคังเฉิงอยู่ที่นี่นางจะไม่อาจท่าอันใดได้

 

“ข้าชนะแล้ว จ่ายมาตามที่ตกลง อย่าได้คิดบิดพลิ้ว!” ฉินหยุนกล่าว พร้อมก้าวเดินเข้าไปเก็บศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันจากบนพื้น

 

ผู้คนสํานักมังกรฟ้าเวลานี้ต่างเหม่อมองศิลาต้นกําเนิดจักรพรรดิราชันห้าสิบก่อนหายวับเข้ากระเป๋าผู้อื่น โดยเฉพาะกับผู้คนตระกูลหลง พวกเขารู้สึกใจสลายยามพบเห็น ก่อนศิลาเหล่านั้นสําคัญกับพวกเขาอย่างมากลํา

 

“หลงอวี้เทียน เจ้าก่อเรื่องละเมิดกฎของคฤหาสน์ราชันมังกร! เจ้าได้ย่ายสตรีต่อหน้าผู้อื่น เป็นเจ้าก่อคดีความอย่างอุกอาจที่ล่วงละเมิดเรือนร่างสตรี!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงที่นึกขึ้นได้พลันเอ่ยคำขึ้น

 

บรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ต่างทราบกฎของตระกูลหลงราวกับหลังฝ่ามือตนเอง พวกเขาตอนนี้ยืนกรานกันคนแล้วคนเล่า เซียนหลูจิ้งเมื่อได้ยิน นางจึงเริ่มสบถด่าทอฉินหยุนร่วมด้วย

 

ฉินหยุนตื่นตะลึง เซียนหลูจิ้งเอารัดเอาเปรียบต่อเขาก่อน เหตุใดผู้คนเหล่านี้จึงไม่กล่าวถึงยามบุรุษถูกกระทํา?

 

“หลงคังเฉิง เจ้าเป็นผู้ที่รับหน้าที่เรื่องกฎของตระกูลเช่นกัน หลานชายเจ้าละเมิดกฎของตระกูล จงกล่าวมาว่าควรทําอย่างไรต่อ?” ชายชราขึ้นเสียงกล่าวคํา “อย่าได้คิดว่าเจ้าจะต่อต้านกฎของตระกูลได้”

 

ผู้คนล้วนทราบว่าหลงคังเฉิงคือคนหัวเก่า ผู้ซึ่งภักดีและพิทักษ์กฎของตระกูลมาโดยตลอด เวลานี้ถือเป็นความอับอายครั้งหนึ่งของเขาแล้ว

 

“ตามกฎของตระกูล เมื่อเกิดเรื่องราวเช่นนี้ขึ้น โทษทัณฑ์สูงสุดคือคุมขังสิบปี ต่ําสุดคือครึ่งปี! ในเมื่อเพียงสัมผัส เช่นนั้นก็จองจําเป็นเวลาห้าปี!” ชายชราแค่นเสียงกล่าว

 

“พวกเจ้าดวงตามืดบอดกันหรือไร? นางต่างหากจึงเป็นฝ่ายกัดข้าก่อน พิจารณาจากการเปิดศึกโดยไม่ได้รับอนุญาต เหตุใดจึงไม่ลงโทษต่อนาง? นอกจากนี้แล้ว ข้าสัมผัสร่างนางก็เพราะความเจ็บปวดที่นางกัด กระนั้นยังคิดกักขังข้าถึงห้าปีงั้นหรือ?” ฉินหยุนตะโกนถามกราดเกรี้ยว

 

“ในกรณีนั้น พวกเราจะคุมขังเจ้าเป็นเวลาครึ่งปี นั้นถือเป็นโทษต่ําสุดแล้ว!” ชายชรากล่าว

 

“ได้ ครึ่งปี!” หลงคังเฉิงตะโกนรับ

 

จองจําครึ่งปีไม่นับเป็นอะไร ทว่าอีกสองวันงานประลองยุทธ์ในคฤหาสน์ราชันมังกรจะเริ่มขึ้น ผู้ชนะจะได้รับวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะ ฉินหยุนไม่อาจทนอยู่ในห้องขังถึงครึ่งปีได้ ไม่เช่นนั้นเขาจะพลาดโอกาส

 

“ท่านปู่ ไม่มีทางไม่เข้าห้องขังเลยหรือ? ข้าได้ยินว่าหากสร้างความดีความชอบแก่ตระกูลมากพอ เช่นนั้นก็หลบเลี่ยงโทษทัณฑ์ได้” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“กฏนั้นมีอยู่จริง ทว่าจําเป็นต้องมีผู้อาวุโสห้าคนเห็นพ้อง และพวกผู้อาวุโสล้วนอยู่ฝ่ายโน้นจนหมดสิ้น…” หลงคังเฉิงขมวดคิ้วตอบคํา

 

บรรดาผู้อาวุโสเหล่านี้ย่อมเข้าข้างสํานักมังกรฟ้า พวกเขาจะไม่มีทางยอมรับปล่อยให้ฉินหยุนพ้นจากห้อง

 

“ไม่มีวิธีอื่นแล้วหรือขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถามด้วยความกังวล “ในอีกสองวันจะมีงานประลองยุทธ์ ข้าต้องกา รสังหารหลงฉวนอู่ในงานประลองนั่น!”

 

หลงฉวนอู่ได้ยินจึงส่งเสียงหัวเราะดัง “หัวล้านตัวบัดซบ เพียงเจ้าเอาชนะข้าในการงัดข้อ ไม่ใช่หมายความถึงเจ้าจะเอาชนะข้าในศึกประลอง! คิดอยากสังหารข้าหรือ? ช่างอ่อนต่อโลกนัก!”

 

ฉินหยุนไม่คิดยอมเป็นฝ่ายเดียวซึ่งถูกดูหมิ่น เขาเลือกเผยเสียงเย็นกล่าวคําออก “หลงฉวนอู่ อย่าได้อวดดีเกินไปนัก ถึงตอนนั้นข้าย่อมสังหารเจ้าได้!”

 

หลงอวี้คังทราบว่าฉินหยุนร้อนรนคิดอยากทวงวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะกลับคืน เขาจึงเสนอความคิดตนเองออกมา “น้องชาย โอกาสไม่ใช่ว่าหมดสิ้นที่ตรงนี้ เจ้าเลือกที่จะเข้าสู่หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรด้วยตนเองได้!”

 

ได้ยินคําหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร บรรดาคนหนุ่มที่นี้ต่างสูดอากาศดังเฮือก นั่นถือเป็นสถานที่จองจำชวนสะพรึงที่สุดของคฤหาสน์ราชันมังกร

 

“ได้ยินว่าหลายคนในคฤหาสน์ราชันมังกรที่การฝึกฝนแตกซ่าน ร่วงหล่นสู่เต๋าอสูร พวกเขาเหล่านั้นต่างถูกจองจําเอาไว้ในที่แห่งนั้น!”

 

“หอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรมีผู้คุมทั้งเก้าที่เก่งกาจ หากเอาชนะพวกเขาได้หมดสิ้น เช่นนั้นค่อยมีโอกาสได้ออกมา!”

 

“ตัวหัวล้านผู้นี้เพียงถูกจองจ่าครึ่งปี กระนั้นกลับคิดเลือกไปยังหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรอย่างนั้นหรือ?”

 

หลงคังเฉิงเอ่ยคําเบา “อวี้เทียน หากเจ้าเข้าไปยังหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร จะออกมาได้ก็ต่อเมื่อเอาชนะผู้คุมทั้งเก๊ได้เท่านั้น…”

 

“สถานการณ์ที่ภายในเป็นอย่างไรบ้างขอรับ?” ฉินหยุนเอ่ยถาม

 

“ปกติดี แม้ผู้คนภายในการฝึกฝนแตกซ่านร่วงหล่นสู่เต๋อสูร ทว่าก็มีน้อยนิดที่ยังมีอาการคลุ้มคลั่ง ภายในค่อนข้างอยู่ดี ผู้ที่ยากรับมือ ก็มีแต่ผู้คุมทั้งเก้าชั้น!” หลงคังเฉิงกล่าวตอบ

 

“ขอรับ เช่นนั้นข้าเลือกเข้าไปยังหอคอยเก้มังกรทัณฑ์อสูร!” ฉินหยุนตอบรับมาดมั่น

 

ในเมื่อหลงอวี้คังแนะนําให้เขาเข้าไปยังหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร เช่นนั้นก็หมายความถึงเชื่อมั่น ว่าฉินหยุนแข็งแกร่งพอที่จะออกมาได้ บรรดาผู้อาวุโสตระกูลหลงเวลานี้ต่างเผยรอยยิ้มเปื้อนใบหน้ากันจนเปี่ยมล้น

 

“เป็นเจ้าแส่หาความตายมาสู่ตนเอง อย่าได้กล่าวโทษเรื่องนี้ต่อพวกเรา!” ผู้อาวุโสตระกูลหลงเผยรอยยิ้มชั่วร้ายอย่างไม่คิดปิดบัง

 

กลุ่มคนต่างคุมตัวฉินหยุน ก่อนจะออกบินมุ่งหน้าไปยังหอคอยสูงเก้าชั้นภายในคฤหาสน์ราชันมังกร

 

หอคอยแห่งนี้ขนาดใหญ่โต รูปลักษณ์เป็นสี่เหลี่ยมกว้างกว่าหนึ่งร้อยเมตร แต่ละชั้นสูงลิบลิ่ว ภายนอกผู้คนล้วนได้เห็น ว่าแต่ละชั้นของหอคอยนี้เป็นสังเวียนประลอง มันคือสถานที่สําหรับต่อสู้เพื่ออยู่รอด ฉินหยุนกําลังก้าวเดินเข้าไปยังชั้นแรก

 

“เมื่อเจ้าเข้าไปแล้ว ให้หาทางไปจนถึงชั้นที่เก้า เอาชนะผู้คุมชั้นที่เก้า และจงออกมาจากประตูของชั้นที่เก้า!” ชายชราหัวเราะร่วน “หากเจ้าไม่อาจเอาชนะ เช่นนั้นก็ต้องติดอยู่ภายในนี้ไปชั่วชีวิต!”

 

“ผู้คนด้านในต่างแข็งแกร่ง กระนั้นไม่เคยมีผู้ใดออกมาจากหอคอยนี้ได้ตลอดเวลาที่ผ่านมา!”

 

หลงคังเฉิงตบไหล่ฉินหยุนและเผยคํากล่าว “ผู้คุมแต่ละชั้นเชี่ยวชาญพลังที่ทําให้ผู้คนเกิดจิตสับสน ดังนั้นผู้ซึ่งการฝึกฝนแตกซ่านร่วงหล่นสู่เต๋อสูรจึงเป็นฝ่ายเสียเปรียบอย่างร้ายแรง พวกเขาแทบไม่อาจต้านทานพลัง ดังกล่าวได้ ทว่าเจ้าไม่ใช่ เจ้านั้นไม่ได้การฝึกฝนแตกซ่าน!”

 

ชายชราหัวเราะเผยค่า “แม้มันไม่ได้การฝึกฝนแตกซ่าน แต่หากสภาพจิตใจไม่มั่นคงเมื่อใดก็พร้อมแตกซ่านได้ทุกเมื่อ!”

 

ฉินหยุนไม่คิดหวั่นเกรง เขากล่าวรับคํา “ข้าจะออกมาภายในสองวัน! ข้าได้ลงทะเบียนเข้าร่วมงานประลองยุทธ์เรียบร้อยแล้ว นั่นคือโอกาสที่ข้าจะได้จัดการหลงฉวนอู่!”

 

ผู้คนต่างคิด ว่าเป้าหมายแท้จริงของเขาคือล้างแค้นให้แก่บิดา กระนั้นเป้าหมายแท้จริง มันคือการทวงวิญญาณยุทธ์มังกรและหงส์อมตะกลับคืน

 

หลงคังเฉิงพยักหน้ารับ “อวี้เทียน หากเจ้าสามารถสังหารหลงฉวนอู่เช่นนั้นข้าก็มีของขวัญล้ําค่ามอบให้!”

 

ฉินหยุนเกิดนึกสงสัยปรารถนาได้ทราบยามรับฟัง

 

“ของขวัญล้ําค่าอันใดกันขอรับ?” หลงอวี้คังพลันถามขึ้น

 

“ของที่ดียิ่ง!” หลงคังเฉิงหัวเราะร่วน “ไปได้แล้ว!”

 

ฉินหยุนปลอมตัวเป็นหลงอวเทียนได้สําเร็จ แม้แต่หลงคงเฉิงยังเชื่อในตัวเขา

 

ผู้คนตระกูลหลงต่างยังค้างคา ผู้คนของสํานักมังกรฟ้ากลับกังวลยิ่งกว่า เพราะพวกเขาไม่อาจทวงคืนสิ่งล้ําค่าของสํานักเช่นวิญญาณมังกรเซียนได้ ฉินหยุนเวลานี้ถูกคุมตัวโดยกลุ่มชายชรา ก่อนจะถูกผลักเข้าสู่ภายในชั้นที่หนึ่งของหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูร

 

ทันทีเมื่อเข้ามา เขาสัมผัสได้ถึงออร่าหลากหลาย เหล่านี้มีกันกว่าหนึ่งร้อยคน แต่ละคนต่างนั่งขัดสมาธิอยู่มุมหนึ่งของพื้นที่ มีทั้งชาย หญิงชรา หนุ่ม และส่วนใหญ่เป็นคนของตระกูลหลง ซึ่งมีทั้งขอบเขตวรยุทธ์วิญญาณ ขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ํา รวมถึงราชันยุทธ์ ทว่าไม่มีจักรพรรดิยุทธ์ พวกเขาพบเห็นเด็กใหม่เข้ามาเยือน เวลานี้จึงเร่งรีบเดินมาด้วยความสงสัยใคร่รู้

 

“เจ้าหนู ดูไปแล้วยังเยาว์ แต่กลับการฝึกฝนแตกซ่านแล้ว? มันเกิดอันใดขึ้น? เจ้าฝึกฝนวิชามารหรือพื้นฐานไร้ซึ่งเสถียรภาพ? หรือจะเป็นสาเหตุอื่น?” ชายชราผู้หนึ่งกล่าวถาม

 

“ไม่ใช่ใดทั้งสิ้น ข้าละเมิดกฎของตระกูลจึงถูกสั่งคุมขังเป็นเวลาครึ่งปี กระนั้นขาไม่คิดถูกคุมขังเป็นเวลานานจึงตัดสินใจเข้ามายังหอคอยเก้ามังกรทัณฑ์อสูรนี้!” ฉินหยุนกล่าวตอบ

 

ผู้คนได้รับฟัง เสียงหัวเราะพลันระเบิดดังออก

 

“เจ้าหนูน้อย เจ้ามันโง่งมยิ่งนัก!”

 

“เจ้าจะไม่อาจไปถึงชั้นที่เก้าตลอดชั่วชีวิตด้วยกําลังเท่าที่มี!”

 

“หน้าโง่ยิ่งนัก เจ้าสมควรยอมรับโทษจองจําครึ่งปีนั้นแต่โดยดี เหตุใดจึงเลือกเข้ามายังสถานที่เช่นนี้กัน?”

 

“ว่าไปแล้ว เจ้าละเมิดกฏใดของตระกูลจึงถูกคุมขังครึ่งปี?”

 

“เรื่องหน้าโง่เป็นแน่!”

 

ผู้คนต่างระเบิดเสียงหัวเราะกันอีกคราหนึ่ง

 

ฉินหยุนยังคงอาการสงบเสงี่ยม เขากล่าวตอบ “ผู้คุมคุกอยู่ที่ใด? ข้าคิดอยากเอาชนะเขาโดยเร็วเพื่อออกไปเข้าร่วมงานประลองยุทธ์!”

 

ชายหนุ่มจมูกแหลมผู้หนึ่งพลันก้าวเดินออกมาและแค่นเสียง “ผู้คุมคุกอย่างนั้นหรือ? เจ้าเพียงเพิ่งมาถึง กระนั้นคิดท้าทายผู้คุมคุกแล้ว? เจ้าสมควรทราบ ผู้คุมคุกสู้เพียงสองครั้งต่อวัน หนึ่งในตอนเช้า และอีกหนึ่งในตอนบ่าย! พวกเราหลายคนต่างตั้งแถวรอคอย เจ้าเพียงเพิ่งมาถึง คิดหรือว่าจะได้สู้กับเขาโดยเร็วเพียงนั้น?”

 

“ตอนนี้ก็ดีกมากแล้ว อีกไม่นานสมควรถึงเวลารุ่งสาง ดังนั้นผู้คุมคุกจะรับคําท้าตอนนั้น? เช่นนี้ก็ด ข้าจะได้สู้กับเขาโดยไม่เสียเวลามาก!” ฉินหยุนเผยยิ้ม

 

“อวดดีนัก เหตุใดเจ้าจึงจะได้สิทธิ์ท้าประลองต่อเขา?” ชายหนุ่มจมูกยาวขึ้นเสียงกล่าวถาม

 

“เพราะข้าแข็งแกร่ง!” ฉินหยุนหัวเราะตอบ

 

“ข้าเกลียดพวกคนอวดดีเช่นเจ้านัก! ให้ข้าได้สอนสังบทเรียนแก่เจ้า! ตอนนี้ขาดกระสอบทรายซ้อมมือพอดีนับแต่วันนี้ เจ้าจะกลายเป็นกระสอบทรายส่วนตัวของข้า!” ชายหนุ่มจมูกยาวคํารามกล่าวคํา

 

“เจ้าหรือ? เจ้าเป็นตัวบัดซบอันใดกัน?” ฉินหยุนกำหมัดแน่น

 

“สารเลวนัก! ข้ายอมให้เจ้าได้เป็นกระสอบทรายแล้ว สมควรสํานึกรู้บุญคุณเสียบ้าง! ในเมื่อเจ้าไม่คิดยอมรับเช่นนั้นนับแต่นี้ก็เป็นข้ารับใช้!” ล่าแสงทองม่วงพลันระเบิดออกจากร่างชายหนุ่มจมูกแหลม มันแปรเปลี่ยนเป็นร่างจําแลงมังกรทองม่วง

 

“วิญญาณยุทธ์มังกรทองม่วงของหลงป่วถือว่ายอดเยี่ยมในหมู่พวกเรา! พลังลึกล้ําปลายหอกของเขาเวลานี้สมควรเป็นขอบเขตวรยุทธ์ลึกล้ําระดับสูงสุดแล้วกระมัง?”

 

“เจ้าหัวล้านนั้นเก่งกาจเพียงใด? ให้เดาสมควรเป็นขอบเขตวรยุทธ์ลึกล่ระดับกลาง!”

 

“เจ้าหัวล้านนั้นจบสิ้นแล้ว ยั่วยุหลงป่วเพียงนั้น สภาพคงจบไม่สวยเท่าใดนัก!”

 

ที่นี่มีคนหนุ่มหลายคน พวกเขาเวลานี้คล้ายกําลังรับชมเรื่องสนุก

 

“เจ้าหัวล้าน เร่งรีบเรียกหาข้าเป็นนายท่าน แล้วข้าจะให้เจ้าได้เป็นม้า!” ร่างจําแลงมังกรทองม่วงของหลงปั๋วเผยเขี้ยวเล็บพุ่งเข้าโจมตี มันมาพร้อมพลังมังกรอันแข็งแกร่ง