ตอนที่ 631

The Divine Nine Dragon Cauldron

สิ่งที่ซือหยูทิ้งเอาไว้รึ?

 

ทุกคนแปลกใจ ดวงตาเริ่มมีความสงสัย…

 

ซือหยูคิดไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ก่อนที่จะไปแล้วรึว่าศัตรูจะมาจู่โจม? และเพราะอย่างนั้น…เขาถึงทิ้งบางอย่างเอาไว้ให้พวกเขา?

 

ฟึ่บ!

 

ลูกแก้วสูงสิบห้าศอกเปล่งแสงสี่สายออกมาจากกระเป๋าของฉินเซี่ยนเอ๋อ มันเริ่มหมุนรอบตัวนาง พวกมันเปล่งแสงที่ต่างกัน ฉินเซี่ยนเอ๋อลูบลูกแก้วด้วยความดีใจ

 

“สมบัติวิเศษที่ใช้ป้องกันรึ?”

 

หลงจื้อชิงเริ่มสงสัย เขาคิดว่าสิ่งที่ซือหยูทิ้งเอาไว้ควรจะเป็นสมบัติใช้โจมตีที่ทรงอำนาจ

 

แม้จะเป็นการร่วมมือจากคนจำนวนมาก พวกเขาก็มิอาจปกป้องชั้นเกราะไม่ให้ถูกทำลายได้ เขาจึงต้องสงสัยว่าสมบัติที่ใช้ป้องกันที่ซือหยูทิ้งเอาไว้จะทำอะไรได้

 

ถ้าหากซือหยูอยู่ที่นี่ เขาก็อาจจะพอมีหวัง แต่กับสมบัติจิ๊บจ๊อยเช่นนี้ อย่างมากมันก็ควรจะเป็นสมบัติเทพระดับสูง เขาคิดไม่ออกเลยว่ามันจะป้องกันการโจมตีจากชาวต่างโลกได้อย่างไร

 

ผู้เฒ่าเฉินแววตาหม่นหมองในไม่นาน เขายิ้มอย่างขมขื่น

 

“ซือหยูคงไม่รู้ว่าชั้นเกราะในผนึกสิบแปดชั้นมีพลังเทียบเท่าสมบัติเทพระดับสูง หากซ้อนทับกันแล้วก็มีพลังไม่น้อยไปกว่าสมบัติกึ่งวิญญาณ สมบัติที่เขาทิ้งเอาไว้คงใช้อะไรไม่ได้”

 

ถ้าซือหยูทิ้งสมบัติวิเศษที่จู่โจมได้รุนแรงสุดยอดเอาไว้ พวกเขาก็อาจจะมีหวังให้จัดการกับศัตรูได้ แต่สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าได้ดับแสงแห่งความหวังของพวกเขาไปจนหมด

 

ฉินเซี่ยนเอ๋อไม่พอใจกับท่าทางของหลงจื้อชิงและคนอื่นที่เหลือ

 

“พี่ซือหยูบอกว่าเราจะปกป้องทั้งพันธมิตรผู้คุมสวรรค์ได้ด้วยสิ่งนี้”

 

หลงจื้อชิงทำได้แค่ยิ้มอย่างขมขื่นเมื่อมองหน้านาง มีเพียงคู่หมั้นอันบริสุทธิ์ของซือหยูเท่านั้นที่จะหลับตาเชื่อคำพูดของเขา

 

“เอาเถอะ สมบัตินี้ซือหยูทิ้งไว้เพื่อปกป้องเจ้า เจ้าควรจะเป็นคนใช้มัน”

 

หลงจื้อชิงเศร้าหมอง เขามองเหล่าผู้เฒ่าและทหารด้วยสีหน้านั้น

 

“พวกท่าน โปรดถอนกำลัง ชั้นเกราะจะถูกทำลายในไม่นาน ข้าจะทำให้เรือรบทำลายตัวเอง จงปกป้องยอดฝีมือของมนุษย์ในทวีปนี้และหนีไปในทุกทิศทาง ถ้าทำแบบนี้อาจจะมีคนหนีไปได้ คนเหล่านั้นคือความหวังสุดท้ายของทวีปเฉินหลง”

 

ทำให้เรือรบทำลายตัวเองรึ? หัวใจของพวกเขาโศกเศร้ายิ่งนักเมื่อได้ยินคำสั่ง สถานการณ์มาถึงจุดที่สิ้นหวังถึงเพียงนี้แล้วรึ?

 

“ท่านเจ้าพันธมิตร…แล้วท่านล่ะ?”

 

ผู้เฒ่าเฉินถาม ถ้าหากเรือรบระเบิดตัวเอง ผู้เฒ่าหลายคนอาจจะหนีไปได้ แล้วตัวเจ้าพันธมิตรเองเล่า?

 

หลงจื้อชิงมองท้องนภาและยิ้มด้วยความเศร้าใจ

 

“พันธมิตรผู้คุมสวรรค์มาถึงจุดจบเพราะข้า ข้าละอายนักที่ต้องไปพบกับบรรพบุรุษตระกูลหลง ละอายนักที่ต้องไปเจอกับเจ้าพันธมิตรคนก่อนๆกับเหล่าผู้เฒ่า ข้าจะอยู่ที่นี่ต่อสู้จนท้ายสุดกับราชาโลกดับสูญ ข้าจะสู้ต่อไปตราบเท่าที่มีลมหายใจ ข้าจะยื้อเวลาให้พวกเจ้าได้หนี”

 

ดวงตาหลงจื้อชิงมุ่งมั่นแม้จะเผชิญหน้ากับความตาย ทุกคนจะหนีไปได้ แต่เขาที่เป็นเจ้าพันธมิตรจะต้องอยู่และตายไปพร้อมกับราชาโลกดับสูญเพื่อความหวังสุดท้ายของมวลมนุษย์

 

ผู้เฒ่าเฉินตกใจมาก หลงจื้อชิงเป็นเจ้าพันธมิตรของพวกเขา และเจ้าพันธมิตรของพวกเขายังยินดีจะสละชีวิตตัวเองเพื่อคนหมู฿่มาก

 

“ท่านพ่อ ข้าจะอยู่กับท่าน”

 

หลงหวูชิงยิ้มอย่างอ่อนหวาน รอยยิ้มนี้เต็มไปด้วยความภาคภูมิใจ จิตวิญญาณนักสู้ และความมุ่งมั่นแบบเดียวกัน นางดูราวกับวีรสตรีที่น่าจดจำ

 

“ข้าจะต้องออกไปที่ใด ข้าจะลืมบ้านของข้าได้รึ? พันธมิตรผู้คุมสวรรค์คือบ้านของข้า ข้าไม่มีที่อื่นใดนอกจากที่นี่”

 

ผู้เฒ่าเฉินหัวเราะและไปยืนข้างหลงจื้อชิง

 

“นับข้าด้วยสิ”

 

ผู้เฒ่าอีกคนเดินเข้ามา เขายืนข้างหลงจื้อชิงอย่างใจเย็น

 

จากนั้นก็มีผู้เฒ่าราวแปดคนที่เลิกคิดหนีและเลือกแบบเดียวกัน หลงจื้อชิงรู้สึกขอบคุณเป็นอย่างมาก แต่เขาก็ส่ายหน้าอย่างหนักแน่น

 

“พวกเจ้ามิต้องสละชีวิตตัวเอง พวกเจ้ามีภารกิจสำคัญที่ต้องทำ นั่นคือการปกป้องและนำเด็กที่มีพรสวรรค์หนีไปอย่างปลอดภัย ถ้าพวกเจ้าไม่ไปด้วย กล้าอ่อนเหล่านั้นคงจะต้องตายแน่”

 

“ผู้เฒ่าเฉิน ข้าฝากด้วย”

 

หลงจื้อชิงโค้งคำนับให้ผู้เฒ่าเฉินและผู้เฒ่าคนอื่น

 

“ท่านผู้เฒ่าทั้งหลาย ข้าจะทิ้งลูกหลานของทวีปเฉินหลงฝากไว้กับพวกท่าน”

 

ทุกคนโศกเศร้าอย่างมากเมื่อได้ฟังคำของหลงจื้อชิง พวกเขาไม่อยากให้เขาจบลงเช่นนี้

 

“ท่านพ่อ!”

 

หลงหวูชิงเริ่มกระวนกระวาย แต่หลงจื้อชิงก็โบกมือ

 

“หวูชิง ไม่ต้องพูดแล้ว อย่างไรวันหนึ่งทุกคนก็ต้องตาย ข้าแค่เลือกสถานที่ตายของตัวเองเท่านั้น”

 

เขาหันกลับไป

 

“ที่ข้าห่วงที่สุดก็คือเจ้า ใครกันจะมาดูแลเจ้าแทนข้าตอนที่ข้าจากไปแล้ว?”

 

เขาเข้าใจแล้วว่าฉีตงไล่รู้สึกอย่างไรตอนที่ถูกกักขังและเป็นห่วงบุตรสาว

 

“ข้าหวังให้เจ้าอยู่อย่างปลอดภัย เมื่อภัยร้ายสูญสิ้น จงหาคู่ครองที่เหมาะสมและสืบสายเลือดตระกูลหลงต่อไป ถ้าเจ้าทำได้ ข้าก็คงนอนตายตาหลับ”

 

หลงจื้อชิงยิ้มอย่างขมขื่น

 

เขาเสียบุตรชายไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ ภารกิจสืบทอดตระกูลต้องตกไปอยู่บนบ่าของบุตรสาว

 

“ท่านพ่อ…”

 

หลงหวูชิงไหล่สั่น ดวงตารื้นไปด้วยน้ำตา

 

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

 

เรือรบสั่นสะเทือน ชั้นเกราะสองชั้นเริ่มจางลง ชั้นเกราะทั้งหมดกำลังจะถูกทำลายในไม่นาน

 

ต่อมา เรือรบสั่นอย่างแรง การรวมพลังโจมตีจากภายนอกนั้นน่ากลัวมาก

 

และเมื่อถึงช่วงเวลาสุดท้าย…

 

“ทุกท่านจงเตรียมพร้อม ตอนที่ชั้นเกราะถูกทำลาย ข้าจะทำให้เรือรบทำลายตัวเอง จงดูแลตัวเองให้ดี”

 

หลงจื้อชิงหยิบเอาแก้วสีเลือดออกมาจากอกและบีบไว้ในมือ

 

บางคนร่ำไห้ บางคนหัวเราะอย่างขื่นขม พันธมิตรผู้คุมสวรรค์จะถูกทำลาย พวกเขาทุกคนหลับตารอให้เวลานั้นมาถึง

 

ปั้ง! ปั้ง! ปั้ง!

 

เรือรบสั่นแรงขึ้น ชั้นเกราะเริ่มแตกสลาย แก่นกฎสวรรค์ในมือหลงจื้อชิงส่งเสียงแตกเมื่อเขาบีบแน่นขึ้น

 

เรือรบของพันธมิตรผู้คุมสวรรค์พร้อมจะระเบิดตัวเองได้ตลอดเวลา…

 

แต่ในตอนนั้นเอง ฉินเซี่ยนเอ๋อใช้งานลูกแก้วทั้งสี่ได้สำเร็จหลังจากที่อัดพลังลงไปมาก

 

“ยากนักที่จะใช้ชุดสมบัติที่พี่ซือหยูทิ้งไว้!”

 

นางเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก

 

“ผนึก!”

 

ฉินเซี่ยนเอ๋อชี้นิ้วออกไป ลำแสงพุ่งออกจากลูกแก้วทั้งสี่

 

ลำแสงสี่สายรวมกันเป็นม่านแสงสี่สี ชั้นเกราะทั้งหมดถูกม่านแสงปกคลุม

 

ปั้ง!

 

เสียงแหลมดังก้อง เรือรบสั่นเบาๆ ม่านเกราะสองชั้นที่เหลือถูกทำลายไป แต่แสงหนาแน่นขนาดใหญ่ได้ทะลวงผ่านชั้นเกราะออกมาจากเรือรบ!