ตอนที่ 438 เขาจะต้องเปลี่ยนใจแน่นอน / ตอนที่ 439 ขนาดชุดนี้ยังไม่มีปัญญาซื้อ

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 438 เขาจะต้องเปลี่ยนใจแน่นอน 

 

 

           ในตู้โชว์เสื้อ มีชุดสีแดงยาวลายลูกไม้ตัวหนึ่ง ตัวกระโปรงนั้นเรียบง่าย หวังอวิ๋นไฉ่เห็นแล้วก็ชอบในทันที 

 

 

           “อีอีลูก เดรสตัวนี้เป็นยังไงบ้าง เหมาะกับลูกมาก” หวังอวิ๋นไฉ่เอื้อมมือสัมผัสกับเนื้อผ้า มันเรียบเนียนและละเอียดอ่อน เบาสบายมาก เธอหยิบมันมาเทียบบนตัวของฉู่อีอี 

 

 

           พนักงานเห็นแล้วก็รีบเข้ามา บนใบหน้ามีรอยยิ้มมืออาชีพพร้อมกับพูด “คุณผู้หญิงทั้งสองสายตาดีจริงๆ ค่ะ เดรสตัวนี้เป็นคอลเลคชั่นใหม่ของร้านพวกเรา ทั้งโลกนี้มีแค่ตัวเดียว” 

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินแล้วริมฝีปากก็ยกยิ้ม คิดในใจ ถ้าหากเธอสวมชุดนี้แล้วไปหาเผยหนานเจวี๋ยล่ะก็ เขาจะตกหลุมรักเธออีกครั้งหรือเปล่า 

 

 

           “อีอี ลูกรีบไปลองดูสิ ดูว่าพอดีตัวหรือเปล่า ถ้าพอดีพวกเราก็ซื้อเลย” หวังอวิ๋นไฉ่ครุ่นคิด ผลักฉู่อีอีไปเปลี่ยนเสื้อที่ห้องลองเสื้อ 

 

 

           ในห้องลองเสื้อ หลังจากฉู่อีอีเปลี่ยนเดรสเสร็จแล้ว มองดูตัวเองที่งดงามในกระจก ริมฝีปากยกยิ้ม เห็นฟันจัดเรียงกันสวยงาม เธอเชื่อว่าถ้าเธอไปหาเผยหนานเจวี๋ยแบบนี้ เขาจะต้องเปลี่ยนใจอย่างแน่นอน 

 

 

           หลังจากหวังอวิ่นไฉ่เห็นฉู่อีอีที่เปลี่ยนเสื้อเสร็จแล้ว ก็เดินเข้าไปหา แววตาส่องประกายอันน่าทึ่ง 

 

 

           ลูกสาวของเธอสวยจริงๆ สวยกว่าฉู่เจียเสวียนนั่นไม่รู้ตั้งกี่เท่า ขอเพียงเธอมีกำลังใจกลับมา ก็ยังสามารถเปลี่ยนความคิดของเผยหนานเจวี๋ยได้ 

 

 

           “สวยจริงๆ!” เดินเข้าไปหาฉู่อีอี หวังอวิ๋นไฉ่ร้องชมเต็มที่ 

 

 

           “คุณหนูคะ ชุดนี้เข้ากับคุณมากจริงๆ” พนักงานเป็นใครกัน ท่าทางที่มองฉู่อีอีนั้นเห็นได้ชัดว่าชอบเดรสตัวนี้มาก 

 

 

           เธอรีบชมฉู่อีอียกใหญ่ ดวงตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม ฉู่อีอีได้ยินแล้วในใจก็ยิ่งพองโต 

 

 

           “ได้ เอาตัวนี้แหละ ใส่ถุงให้ด้วย” ฉู่อีอีที่เปลี่ยนเสื้อออกมา ยื่นชุดให้พนักงานด้วยความเย่อหยิ่ง วางมาดราวกับเป็นเจ้าหญิง 

 

 

           “ได้ค่ะ คุณหนู รบกวนถามว่าคุณจะใช้เงินสดหรือว่ารูดบัตรคะ” พนักงานพาฉู่อีอีกับหวังอวิ๋นไฉ่มานั่งบนโซฟา เอ่ยถามด้วยความนอบน้อม 

 

 

           “รูดบัตร” ฉู่อีอีเอื้อมมือหยิบบัตรใบหนึ่งออกมาจากกระเป๋า ส่งให้พนักงาน พนักงานรับด้วยสองมือ ถือบัตรแล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์จ่ายเงิน 

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่นั่งอยู่ข้างฉู่อีอี ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม 

 

 

           “อีอีเอ๊ย คืนนี้ลูกก็ใส่เดรสตัวนี้ไปหาเผยหนานเจวี๋ย ให้เขามองลูกให้เต็มตา ลูกน่ะ จะต้องมัดใจของเขาได้อยู่หมัดแน่” หวังอวิ๋นไฉ่มองฉู่อีอีพูดด้วยความจริงใจ พร้อมกุมมือของเธอไว้ 

 

 

           ฉู่อีอีพยักหน้า กำลังจะอ้าปาก พนักงานก็เดินเข้ามาหาพวกเธอ “ขอโทษนะคะคุณหนู วงเงินในบัตรนี้ไม่พอค่ะ” 

 

 

           “วงเงินไม่พอ?” ฉู่อีอีสงสัย รับบัตรมา แล้วส่งบัตรอีกใบให้กับพนักงาน 

 

 

           พนักงานรูดบัตรในมือของฉู่อีอีอีกครั้ง แต่เธอก็บอกว่าวงเงินไม่พอ 

 

 

           ฉู่อีอีอดไม่ได้ที่จะโมโห เธอมีบัตรเยอะขนาดนั้น แต่ละใบจะมีวงเงินไม่พอได้อย่างไร เดรสตัวนั้นราคาสูงมากนักเหรอ 

 

 

           ลุกขึ้นยืนด้วยความเกรี้ยวกราด แล้วเดินไปยังเคาน์เตอร์ หวังอวิ๋นไฉ่ตามอยู่ด้านหลัง 

 

 

           “เกิดอะไรขึ้น บัตรใบนี้ก็มีเงินนี่นา!” ฉู่อีอีกล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ แววตาเผยความดุร้าย 

 

 

           เมื่อพนักงานเห็นท่าทางวางอำนาจของฉู่อีอีแล้ว แม้จะไม่พอใจแต่ก็ไม่กล้าแสดงออกมาอย่างโจ่งแจ้ง 

 

 

           “คุณหนูคะ หรือว่าคุณจะจ่ายเป็นเงินสดดีคะ ทั้งหมดหนึ่งแสนแปดพันแปด…” พนักงานเอ่ย แววตาที่มองฉู่อีอีเผยความสงสัย 

 

 

           หนึ่งแสนพันพันแปด ใครจะพกเงินสดติดตัวเยอะขนาดนั้น โง่หรือเปล่า 

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยินแล้ว เอื้อมมือเปิดกระเป๋า หยิบบัตรใบหนึ่งออกมากจากข้างในแล้วยื่นให้กับพนักงาน “รูดของฉันเถอะ” 

 

 

 

 

 

       ตอนที่ 439 ขนาดชุดนี้ยังไม่มีปัญญาซื้อ 

 

 

           ก็แค่แสนกว่าเหรียญ ขอเพียงฉู่อีอีมัดใจของเผยหนานเจวี๋ยได้อีกครั้ง เธอจะกลัวว่าไม่ได้เงินแสนนี้คืนมางั้นเหรอ เป็นคนก็ต้องมองการณ์ไกลถึงจะดี 

 

 

           “ติ๊ดๆ…” จู่ๆ เครื่องพีโอเอสก็ดังขึ้น ยังคงเห็นได้ชัดว่าวงเงินไม่พอ 

 

 

           ทันทีที่หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยิน สีหน้าก็เปลี่ยนทันที “นี่มันเรื่องอะไรกัน เธอจำได้ว่าบัตรใบนี้ยังมีสองแสนนี่นา” 

 

 

           ยื่นมือหยิบบัตรในกระเป๋าออกมาอีกใบ ส่งให้พนักงาน แต่ว่าวงเงินก็ไม่พอเหมือนเดิม 

 

 

           คราวนี้ถึงตาพนักงานไม่พอใจบ้าง แววตาที่มองพวกเธอก็ไม่สบอารมณ์สุดขีด ยื่นมือหยิบชุดเดรสที่พับไว้อย่างเรียบร้อยออกมาจากถุง 

 

 

           “คุณผู้หญิงทั้งสอง ขอโทษนะคะ วงเงินไม่พอ ฉันจะเอาชุดกลับไปไว้ที่เดิม ไม่งั้นพวกคุณจะจ่ายเงินสดก็ได้ค่ะ” น้ำเสียงของพนักงานยังคงมีความเกรงใจ แม้จะไม่พอใจแต่ก็ยังเข้าใจเหตุผลที่ว่าลูกค้าต้องมาก่อนเสมอ 

 

 

           แต่ว่าทันทีที่ฉู่อีอีได้ฟังก็ไม่พอใจแล้ว ในหูของเธอ ความหมายของพนักงานก็คือ “ไม่มีปัญญาซื้อเสื้อ ก็รีบไปซะ” จุดติดไฟโกรธในใจขึ้นมาทันใด 

 

 

           แววตาที่มองพนักงานก็โกรธมากเช่นกัน พวกเธอเป็นเพียงพนักงานตัวเล็กๆ เท่านั้น ยังกล้าหัวเราะเยาะเธอ 

 

 

           “พวกแกหมายความว่าไง หัวเราะเยาะว่าฉันไม่มีปัญญาซื้อเสื้อของพวกเธอหรือไง” ฉู่อีอีเอ่ยปาก น้ำเสียงเฉียบคม 

 

 

           หลายมาวันนี้เธอหาที่ระบายความโกรธไม่ได้ ครั้งนี้พอได้หลุดปากก็จะไม่เกรงใจแล้ว 

 

 

           เธอได้รับความอับอายขายหน้ามากมายจากเผยหนานเจวี๋ยและฉู่เจียเสวียน อีกทั้งยังมีเฉิงเฮ่า ตอนนี้แม้แต่พนักงานตัวเล็กๆ ก็ยังรังแกเธอ 

 

 

           “คุณหนู พวกเราไม่ได้หมายความว่าแบบนั้น…” 

 

 

           “เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ฉู่อีอีคนนั้นหรอกเหรอ” 

 

 

           ไม่รู้ว่าจู่ๆ ใครพูดขึ้นเสียงดัง แต่ละคนต่างหันไปมองฉู่อีอีแล้ว “ใช่เธอจริงๆ ด้วย” 

 

 

           “เธอยังกล้าออกมาช้อปปิ้งอีกเนอะ” 

 

 

           เพียงชั่วครู่ เสียงพูดคุยกับในร้านเสื้อผ้าดังต่อเนื่องกันเป็นระลอก ฉู่อีอียกมือขึ้นคลำหน้า แว่นดำขนาดใหญ่บนใบหน้าถูกถอดไปนานแล้วตั้งแต่ตอนที่เธอเปลี่ยนเสื้อผ้าเมื่อครู่ 

 

 

           ในเวลานี้เธอรีบเอื้อมมือสวมแว่นดำกลับบนใบหน้าอีกครั้ง คิดพยายามบิดบังใบหน้าของตัวเอง ไม่ต้องการให้คนจำได้ 

 

 

           ทันทีที่เหล่าพนักงานได้ยิน แววตาที่มองฉู่อีอีก็เปลี่ยนเป็นเย็นชา 

 

 

           “ขนาดชุดนี้ยังไม่มีปัญญาซื้อ ก็อย่าออกมาช้อปปิ้งเลย” 

 

 

           “เอาชุดนี้กลับไปแขวน” เมื่อพนักงานพูดจบก็เอาชุดนี้กลับไปแขวนที่เดิมแล้ว 

 

 

           ฉู่อีอีได้ยินเสียงวิพากย์วิจารย์ของทุกคน สีหน้าก็เขียวคล้ำ โมโหสุดขีด 

 

 

           หวังอวิ๋นไฉ่ได้ยินลูกสาวถูกด่าทอ ก็ไม่พอใจทันที ยื่นมือชี้ด่าคนที่อยู่รอบตัว 

 

 

           “พวกแกพูดอะไรน่ะ? ฉันจะตีพวกแกตายให้หมดเลย!” หวังอวิ๋นไฉ่พูด ต้องการจะพุ่งไปหาคนเหล่านั้นที่อยู่ข้างกาย 

 

 

           “ไม่น่าล่ะที่ลูกสาวหน้าไม่อายแบบนี้ ที่แท้เพราะมีแม่หน้าไม่อาย” 

 

 

           “นั่นสิ มีแม่แรงขนาดนี้ ลูกสาวจะดีได้สักแค่ไหนเชียว?” 

 

 

           “เอ๊ะ เธอได้ยินหรือเปล่า ว่าเมื่อก่อนเขาเป็นเมียน้อย เห็นว่าแย่งสามีของพี่สาวตัวเองน่ะ!” 

 

 

           “หา? ไม่จริงมั้ง?” 

 

 

           สีหน้าของฉู่อีอีราวกับกำลังเล่นกล ไม่ว่าแว่นดำจะใหญ่แค่ไหนก็ไม่สามารถซ่อนใบหน้าที่โกรธแค้นและอับอายของเธอได้ 

 

 

           “พวกแกพูดอะไรน่ะ!” ฉู่อีอีชี้นิ้วไปที่ผู้คนรอบตัวโดยไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์แม้แต่น้อย มองพวกเขาพร้อมด่าทอเนื่องด้วยความโมโห ยื่นมือถอดแว่นดำบนใบหน้า ดวงตาแดงก่ำ 

 

 

           “ว้าว ดูเร็วๆ รีบอัดคลิปไว้ ดารากิริยาแย่แบบนี้ พวกเราถ่ายแล้วเอาลงบนเน็ต ให้ทุกคนเห็นว่าเธอเป็นคนยังไง” 

 

 

           พวกคนที่ชอบความครึกครื้นพูดคุยกัน หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายฉู่อีอีไม่หยุด