ตอนที่ 649 ไม่ใช่ง่ายๆ

Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย

ชูฮันไม่ได้สังเกตเห็นการกระทำของบูชาเลย เขาเขวี้ยงหวังไคออกมาจากกระเป๋าทันทีที่เข้ามาห้องและสื่อสารกับหวังไคผ่านความคิดในหัว “ไป! ไปตรวจสอบดูทั้งภายในและภายนอก ที่ที่ใช้ซ่อนยาพิษ ที่ที่ใช้ซ่อนคน หามาให้หมด!”

 

หวังไคที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้อง มองมาที่บูชาและอดไม่ได้ที่จะเตือนชูฮัน “ชูฮัน นายไม่คิดเหรอว่าไม่แน่ที่เด็กคนนี่มาตามหานายอาจจะเพราะเรื่องอื่น?”

 

ชูฮันเงยหน้าขึ้น เขาใช้จิตใต้สำนึกระวังภัยของตัวเอง “ไม่ใช่ว่ามีคนตามหาตัวฉันอยู่และเธอถูกส่งมาเพื่อฆ่าฉันเหรอ?”

 

หวังไคหมดคำพูด “ฉันเชื่อสมองของฉัน”

 

บูชามองชูฮัน ที่ยังคงกวาดตามองไปรอบๆหลังจากที่เข้ามาข้างใน เธอทนรอไม่ไหวจนต้องพูดขึ้นมา “พี่กำลังหาอะไรอยู่?”

 

ชูฮันที่กำลังจะตอบ แต่ทันทีที่หันกลับมาเห็นบูชาที่ได้ถอดเสื้อคลุมออกไปแล้วก็อดไม่ได้ที่จะกวาดสายตามองทั้งตัวของบูชา มันแตกต่างไปจากภาพที่เมื่อครั้งเคยมีเสื้อคลุมอยู่บนร่าง เมื่อเหลือแต่ชุดกระโปรงสีแดงมันยิ่งขับผิวและเรือนร่างของเธอให้เด่นเข้าไปอีก

 

เด็กสาวคนนี้แตกต่างจากเมื่อครึ่งปีก่อนอย่างน่าตกใจ เธอสูงขึ้น ทรวดทรงชัดเจนขึ้น รูปร่างของเธอมันน่าเย้ายวนแก่ชายที่พบเห็นเหลือเกิน…

 

เมื่อได้เห็นสายตาที่จับจ้องมาตรงๆของชูฮัน ชายผู้วิเศษในสายตาของบูชา อารมณ์ของบูชาก็พรุ่งพล่านทันที ยิ่งเมื่อเห็นมือของชูฮันที่เอื้อมเข้ามาเธอ…

 

“เธอร้อนเหรอไง?” ทว่าจู่ๆชูฮันก็ถามประโยคนี้ออกมา ซึ่งมันทำให้บูชามึนงงอย่างมาก ชูฮันสบตากับบูชาโดยไม่มีแววตาของความกระหายใดๆเลย “ตอนที่ฉันเจอเธอครั้งแรก เธอก็ถอดเสื้อคลุมออก และนี้ก็ถอดอีก ทำไมต้องถอดเสื้อออกทุกครั้งที่เจอฉัน?”

 

บูชาตะลึง ตาเบิกกว้างและไม่สามารถนึกคำพูดอะไรออกได้ในตอนนี้ ภาพตรงหน้านั้นมันเหนือเกินความคาดหมายของเธอเกินไป ทำไมชูฮันถึงเมินเฉยคนสวยอย่างเธอได้ลงคอ?

 

“รีบใส่เสื้อเร็วเข้า วันนี้ดูเหมือนอุณหภูมิจะประมาณเจ็ดองศา? ไม่หนาวเหรอไง?” ชูฮันดูเหมือนจะไม่รับรู้ถึงความคิดในแววตาบูชา และอีกครั้งที่เขาหยิบเสื้อคลุมขึ้นมาคลุมตัวบูชา

 

ชูฮันดูเหมือนจะไม่เห็นความผิดพลาดในสายตาของบัวชาและเสียงเสื้อคลุมถูกปกคลุมตัวบูชาอีกครั้ง

 

ไม่ต้องพูดถึงเลยว่าบูชาตะลึงขนาดไหน แม้แต่หวังไคที่ซ่อนตัวอยู่ที่มุมห้องยังหมดคำพูด เช่นเดียวกับทีมกุ้งเสือดำที่ซ่อนตัวอยู่บนหลังคาซึ่งมองเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้รู้ว่าท่านพลเอกปฏิบัติตัวกับผู้ชายและผู้หญิงเท่าเทียมกันแบบนี้?

 

“พี่ไม่ต้องการเหรอ?” ความผิดหวังในน้ำเสียงของบูชานั้นชัดเจนมาก เธอถอนหายใจ “แล้วที่เราคุยกัน?”

 

ชูฮันนั่งลงทันที และเทชาลงในแก้ว น้ำเสียงเรียบนิ่งยังคงเล่นตามบทต่อไป “เอาล่ะ ใครส่งเธอมาฆ่าฉัน?”

 

คำถามของชูฮันทำให้ไม่ว่าจะเป็นหวังไคหรือทีมกุ้งเสือดำทนดูต่อไปไม่ไหว

 

บูชาตะลึงค้างและสักพักหนึ่งเธอก็หัวเราะออกมา

 

ชูฮันไม่สามารถเข้าใจความคิดของบูชาในตอนนี้ได้ เขายังคงพยายามทดสอบต่อไป “เธอมีชื่อเสียงมากตอนนี้ ใครๆก็รู้จักชื่อเธอ แถมยังอยู่บนรายชื่อของเสากิน หน่วยข่าวกรองของฉันบอกว่าเธอไม่เข้าร่วมกับองค์กรไหนเลย เพราะงั้นตอนนี้เธอเป็นนักล่าสินะ?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ในใจบูชาก็อดไม่ได้ที่จะมีความสุข แววตาของเธอเป็นประกาย “พี่เคยได้ยินเกี่ยวกับฉันไหม?”

 

ชูฮันไม่เข้าการกระทำของบูชาเลยสักนิด จู่ๆทำไมเธอมีท่าทางมีความสุขแบบนี้ หากเขาก็ส่ายหัวอย่างซื่อสัตย์ “ไม่เลย ฉันอยู่ที่ซางจิงและกำลังประชุมอยู่ ตอนนั้นพวกเขากำลังตรวจสอบรายชื่อของคนดังบนอันดับ และเธอก็เป็นหนึ่งในนั้น จากข้อมูลของหน่วยข่าวกรองของซางจิง”

 

หวังไครีบเข้ามาแทรกความคิดของชูฮันทันที “ชูฮัน หยุดพูดเดี๋ยวนี้ นายโง่เหรอไง?”

 

มันมีสีหน้าเอือมระอาปรากฏบนใบหน้าของชูฮัน เขาเมินเฉยหวังไคและเลือกที่จะพูดต่อกับบูชา

 

เมื่อได้ฟังคำบอกเล่าของชูฮัน บูชาก็ไม่รู้สึกผิดในใจอีก มันมีเปลวไฟลุกโชนในนัยน์ตาของเธอและยิ้มเยาะที่มุมปาก “พี่นี่มันเลือดเย็นจริงๆ พี่เหยียบย่ำคนมากมายขึ้นไปเรื่อยๆ ตอนนั้นพี่ก็ผลักฉันออกไปจากเส้นทาง ฉันไม่เข้าใจเลยสักนิด ทำไมพี่ถึงไม่ยอมรับฉัน?”

 

ชูฮันหรี่ตา มันเป็นทางเลือกสุดท้ายสำหรับเขาในการขับไล่บูชาไปเมื่อหกเดือนที่แล้ว ทุกคนอย่างมันเกิดจากความสามารถของบูชาที่ตื่นขึ้นมา เธอจะไม่แข็งแกร่งขึ้นถ้ายังอยู่กับเขา ในมุมมองของชูฮัน คนเราจะแข็งแกร่งขึ้นได้เมื่อได้อยู่ด้วยตัวเอง เผชิญความลำบากด้วยตัวเอง และเขาก็ไม่ได้มีหน้าที่ที่จะต้องมารับผิดชอบดูแลใครทั้งนั้น

 

ในตอนนั้นที่เขาขับไล่บูชาไป เขารู้อยู่แล้วว่าอย่างไรในอนาคตเขาจะต้องได้เจอกับเธออีกอย่างแน่อนน บูชาจะต้องเกลียดเขาแน่ๆ เพราะอย่างนั้นพอเจอกันเขาจึงมั่นใจว่าบูชาจะต้องมาเพื่อฆ่าเขา แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่?

 

เมื่อเห็นชูฮันเงียบไป บูชาที่ใจหนึ่งก็รักใจหนึ่งก็เกลียดก็พูดต่อ “พี่รู้ไหมว่าฉันต้องเจอกับอะไรบ้างตลอดหกเดือนที่ผ่านมา?”

 

เมื่อเห็นว่าบูชาดูเหมือนจะไม่ได้เกลียดตัวเองเลย ชูฮันก็อารมณ์ดีขึ้นมาและเริ่มผ่อนคลาย เขาแตะจมูกตัวเองและถาม “อะไรบ้างล่ะ?”

 

บูชาอดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงความลำบากมากมายที่เธอเผชิญตลอดหกเดือนที่ผ่านมา “ในเดือนแรกหลังจากการที่พลังของฉันตื่นขึ้นมามันทรมานมาก มันยาวนานเหมือนเป็นปี แล้วไหนจะหวาดกลัวที่จะเจอซอมบี้ระหว่างทางตลอดเวลา และยิ่งกลัวยิ่งกว่าเมื่อไปปรากฏตัวที่ค่ายผู้รอดชีวิต ฉันหวาดกลัวแม้กระทั่งผู้คน”

 

เมื่อเห็นท่าทางโศกเศร้าของบูชา ชูฮันก็แทบทนไม่ไหว เขาพยายามปลอบใจเธอ “ไม่เป็นไร อย่าร้อง นี่มันเป็นกระบวนการเติบโตที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอคิดว่าตอนนี้เธอเป็นเธอคนเดิมเหรอไง? เธอเติบโตจนสวยงามราวกับดอกไม้ของมาตุภูมิ”

 

หวังไค “…”

 

ทีมกุ้งเสือดำ “…”

 

บูชาชะงัก หลังจากสบตากับชูฮันเธอก็อดไม่ได้ที่จะเศร้าใจขึ้นมาอีกครั้ง “ตอนนั้นที่ฉันต้องใช้ชีวิตคนเดียวในป่า ต้องทนกับความหนาวและเปียกชื้น ฉันป่วยหนักจนไข้ขึ้นสูงถึง 45 องศา”

 

“พระเจ้า นี่เธอสามารถทนร้อนถึง 45 องศาโดยไม่ไหม้ได้ด้วยเหรอ?!” ชูฮันเด้งตัวขึ้นอย่างประหลาดใจ “นี่มันทำลายสถิติของมนุษยชาติชัดๆ! สุดยอด!”

 

หวังไค “…”

 

ทีมกุ้งเสือดำ “…”

 

บูชาไม่อยากจะเชื่อสายตา เธอได้แต่ถอนหายใจกับตัวเอง “พี่ชูฮัน ฉันไม่ดูสวยในชุดแดงนี่เหรอ?”

 

ชูฮันกลับเข้าสู่ความจริงจัง เขามองบูชาทั้งตัว “ดูดีออก!”

 

ในที่สุดเมื่อเห็นว่าชูฮันกลับเขาสู่เส้นทางแล้ว บูชาก็หน้าแดงอายขวยเขิน เขาก้มหน้าลงและถามอย่างอายๆ “ฉันใส่สีแดงอย่างที่พี่เคยบอกไง ทำไมตอนนั้นพี่ถึงบอกว่าสีแดงเหมาะกับฉัน?”

 

ชูฮันพยายามอย่างหนักที่จะระลึกความจำ เขาจำได้ว่าเหมือนเขาเคยบอกกับบูชาว่าเธอเหมาะกับชุดสีแดง “สีแดงมันดียังไงน่ะเหรอ เพราะมันเป็นเหมือนเลือด เพราะถึงอย่างไรแล้วเธอชอบฆ่า เธอจะได้ไม่ต้องซักเสื้อผ้าทุกครั้งหลังจากฆ่าคนเสร็จ!”

 

บูชา “…”

 

หวังไค “…”

 

ทีมกุ้งเสือดำ “…”

 

ภายใต้การทดสอบของชูฮัน บรรยากาศภายในห้องที่ตอนแรกเหมือนจะอบอุ่นได้แตกกระจาย คำตอบของชูฮันนั้นเหนือเกินกว่าที่ใครจะคาดถึง แถมมันยังทำให้บูชาอ่อนแรง ทันใดนั้นเธอก็รู้สึกหมดคำจะพูดต่อ เธอพยายามอย่างดีที่สุดแต่แล้วชูฮันกลับทำลายทุกอย่างทันทีภายในเวลาสั้นๆ