ตอนที่ 347 เอาตัวรอดเป็นยอดดี / ตอนที่ 348 ยุให้รำ ตำให้รั่ว

ลิขิตฟ้าชะตารัก

ตอนที่ 347 เอาตัวรอดเป็นยอดดี 

 

 

 

 

 

“ใช่แล้วเพคะเสด็จพ่อ ทรงดูสิว่าเขาพูดจามั่วซั่วส่งเดชเพียงใด หลักฐานอยู่ตรงหน้าแท้ๆ ยังบอกว่าถูกใส่ความอีก นี่ก็จงใจจะโยนความผิดทั้งหมดให้กับท่านแม่ใช่หรือไม่” อวี้จื่อเยียนได้รับสายตาชี้นำของอนุรองแล้วจึงพลอยพูดขึ้นมา 

 

 

เมื่อถูกคนทั้งสองพูดขึ้นมาเช่นนี้ หลิงอ๋องที่ได้ยินก็ยิ่งโกรธขึ้นมาอีก “เจ้าช่างกล้านักนะหวังหลงจู๊ ยังกล้าที่จะพูดจาส่งเดชในจวนหลิงอ๋องแห่งนี้อีก ช่างน่ารังเกียจยิ่งนัก! หากวันนี้เราไม่ลงโทษเจ้าเสียบ้างก็คงไม่รู้ฤทธิ์เดชของเราเสียแล้ว ต่อไปนี้พวกเจ้าบ่าวไพร่ก็คงจะไม่เห็นจวนหลิงอ๋องแห่งนี้อยู่ในสายตา!”  

 

 

ในยามที่เขากำลังจะร้องเรียกคนให้เข้ามานั้น อนุรองก็กลับเอ่ยขัดขึ้นมาว่า “ช้าก่อนเพคะท่านอ๋อง เรื่องของหวังหลงจู๊นั้นชำระความแล้ว ทว่ายังมีเรื่องของเจาเอ๋อร์ที่เป็นสาวใช้ของคุณหนูรองอีก ไม่แน่ว่านางอาจจะร่วมมือกับหวังหลงจู๊ก็เป็นได้นะเพคะ จงใจที่จะใช้อำนาจที่คุณหนูรองได้มาจากเฉียนหลงจู๊ จากนั้นก็ยักยอกเงินของจวนอ๋องของเรา หากเป็นเช่นนั้นจริง อย่างไรก็ไม่อาจปล่อยเอาไว้นะเพคะ” 

 

 

“ทหาร นำบัญชีที่เจาเอ๋อร์ดูแลมาให้เราดู” ท่านอ๋องได้ยินอนุรองกล่าวออกมาเช่นนี้ สายตาก็พลันหันมองไปทางเจาเอ๋อร์ แล้วจึงเรียกให้คนนำบัญชีมาดู ยิ่งดูท่าทีของเขาก็ยิ่งผิดปกติ แต่สีหน้ากนั้นลับดีกว่าตอนที่ดูบัญชีของหวังหลงจู๊มาก เมื่อดูจนจบแล้ว หลิงอ๋องก็ยื่นให้อวี้อาเหราเงียบๆ น้ำเสียงเย็นๆ ก็ดังขึ้น “เจ้าก็ดูด้วยเถอะ” 

 

 

“เพคะ” อวี้อาเหรารับมาเปิดดูเล็กน้อย เนื้อหาด้านในก็มีหลายๆ จุดที่เจาเอ๋อร์เอื้อประโยชน์ให้หวังหลงจู๊มีโอกาสยักยอกเงินของจวนหลิงอ๋องอยู่จริง ถึงได้ทำให้จวนหลิงอ๋องเสียหายมากขนาดนี้ ชั่วขณะนั้นนางก็ไม่รู้จะกล่าวอย่างไร ทำได้เพียงมอบให้เจาเอ๋อร์ดู จากนั้นจึงเอ่ยถามขึ้นว่า “เจ้าเคยแตะต้องของพวกนี้มาก่อนหรือไม่” 

 

 

“ไม่เคยเจ้าค่ะ บ่าวเพียงเก็บบัญชีเหล่านี้เอาไว้เท่านั้น จากนั้นก็ตามคุณหนูไปที่เมืองตะวันตก ของพวกนี้บ่าวก็ไม่เคยรู้มาก่อนเลยเจ้าค่ะ” เจาเอ๋อร์ส่ายหน้า 

 

 

ในใจของอวี้อาเหราก็รู้ดีว่า ดูท่าแล้วคงมีคนตั้งใจลงมือตอนที่พวกนางไม่อยู่ในจวนเป็นแน่ 

 

 

สายตาของนางพลันมองไปที่ร่างของอนุรอง แม้จะใช้หัวแม่เท้าคิดก็รู้ดีว่าเป็นนางที่ทำเรื่องนี้แน่ ทว่าตอนนี้ไม่มีหลักฐานใดๆ เลยแม้แต่น้อย พูดไปก็คงไม่มีคนเชื่อ หลังจากที่คิดได้เช่นนี้ นางก็ก้าวไปข้างหน้า แล้วเอ่ยปากขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นๆ 

 

 

“เสด็จพ่อ เรื่องนี้ก็เป็นความผิดของเจาเอ๋อร์จริงๆ เพคะ เป็นเพราะนางออกไปกับลูกถึงได้ปล่อยโอกาสให้คนมาเล่นตุกติกกับบัญชี จนทำให้หวังหลงจู๊ทำเรื่องเช่นนี้ได้ ทั้งยังต้องลากเจาเอ๋อร์ให้พลอยฟ้าพลอยฝนไปด้วย อีกทั้งยังส่งผลมาถึงตัวลูกเช่นนี้ ขอให้เสด็จพ่อทรงไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเพคะ!” 

 

 

“คุณหนูรอง นี่ท่านหมายความว่าอย่างไร” หวังหลงจู๊ตกตะลึง 

 

 

“นี่ก็ชัดเจนแล้วว่าเป็นเพราะเจ้ายักยอกเงินของจวนและก็กลัวว่าจะถูกค้นพบเข้า ดังนั้นจึงอาศัยช่วงที่ข้าไม่อยู่ในจวนเล่นตุกติกกับบัญชีนี่ หรือว่าไม่ใช่?” อวี้อาเราถามขึ้นอย่างดุดัน บนใบหน้าไม่มีความลังเลเลยแม้แต่น้อย เรื่องในวันนี้ตอนนี้ก็ไม่อาจแก้ไขได้แล้ว อนุรองเตรียมตัวเล่นงานนางจนพร้อมสรรพ เพื่อเป็นการปกป้องเจาเอ๋อร์ นางจึงจำต้องปล่อยเลยตามเลย ล้วนผลักความรับผิดชอบไปให้หวังหลงจู๊ 

 

 

ไม่ใช่ว่านางใจร้าย แต่หวังหลงจู๊นั้นก็ไม่อาจสลัดความผิดในครั้งนี้ได้อีกต่อไปแล้ว เรื่องทั้งหมดถูกกำหนดเอาไว้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่กับเจาเอ๋อร์นั้นไม่เหมือนกัน ขอเพียงนางหลุดพ้นจากขอกล่าวหา เช่นนั้นนางก็สามารถรักษาชีวิตได้แล้ว เพราะอย่างนั้นอวี้อาเหราจึงจำต้องทำเช่นนี้ 

 

 

“บัญชีนี้เป็นท่านที่เก็บรักษาเอาไว้ หากไม่ใช่เจาเอ๋อร์และหวังหลงจู๊ร่วมมือกัน ไหนเลยจะทำบัญชีปลอมขึ้นมาได้ เพราะอย่างนั้นคุณหนูรอง ท่านก็อย่าได้โดนหลอกอีกเลย” อนุรองเอ่ยปาก 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 348 ยุให้รำ ตำให้รั่ว 

 

 

 

 

 

ถูกหลอกหรือ? อวี้อาเหราแอบหัวเราะในใจ นางที่อยู่กับเจาเอ๋อร์มานานเพียงนี้มีหรือจะไม่รู้ จะต้องให้อนุรองทำตัวยุให้รำตำให้รั่วอยู่ตอนนี้ไปทำไม? ให้นางไปเล่นกับเด็กสามขวบเถิดไป แต่เจตนาของอนุรองนั้นก็ชัดเจนว่าไม่ใช่นาง แค่ขอให้หลิงอ๋องเชื่อก็เพียงพอแล้ว 

 

 

และอวี้อาเหราเองก็คงถูกมองว่าเป็นธิดาเอกที่ไม่ได้เรื่องได้ราว แม้คนใช้คนสนิททำเรื่องเช่นนี้ก็ยังไม่รู้ 

 

 

นางไม่พูดอะไรออกมา ทำเพียงฟังอนุรองว่าต่อไป “คุณหนูรอง ไม่ใช่ว่าข้าน้อยพูดจาไม่น่าฟัง แต่ท่านนั้นเป็นถึงธิดาตระกูลใหญ่ เดิมทีก็ไม่ควรมายุ่งกับเรื่องราวเช่นนี้ ข้าน้อยไม่ได้บอกว่าไม่ไว้ใจคุณหนูรอง แต่ท่านยังอายุน้อยเกินไป จึงอาจจะโดนหลอกได้โดยง่าย ก่อนหน้านี้จวนของเราก็เกิดเรื่องเข้าใจผิดขึ้นมามากแล้ว อาจจะมีการยุงให้รำตำให้รั่วขึ้นก็เป็นได้” 

 

 

“ยุให้รำตำให้รั่ว?” มุมปากของอวี้อาเหรายกโค้งเป็นรอยยิ้มเย็นชา 

 

 

“ก็ไม่ใช่หรืออย่างไร” อนุรองพยักหน้าลงอย่างมีเลศนัย ก่อนจะหันมองไปทางหลิงอ๋อง “ท่านอ๋อง ท่านว่าที่หม่อมฉันกล่าวมามีเหตุผลหรือไม่เพคะ” 

 

 

“วาจาของเจ้าก็มีเหตุผลอยู่บ้างจริงๆ” หลิงอ๋องพยักหน้าลงเล็กน้อย แต่กลับขมวดคิ้วแน่น “แต่ว่าเจาเอ๋อร์เป็นคนที่เราเลือกให้อาเหรากับมือของเราเอง อีกทั้งนางยังเติบโตขึ้นมาในจวนนี้ หากกล่าวถึงเรื่องที่ทำผิดขัดต่อจวนหลิงอ๋องนี้ก็ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้” 

 

 

“ท่านอ๋องทรงมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้วเพคะ มีใครบ้างเล่าที่จริงใจไม่หน้าไหว้หลังหลอก? ไม่อย่างนั้นหม่อมฉันที่กล่าววาจาอยู่ตั้งนานเช่นนี้ แต่ก็ไม่เห็นว่านางจะแก้ตัวออกมาสักคำ นี่นางก็อาจจะยอมรับแล้วก็เป็นได้ เช่นนั้นนางถึงได้ไม่กล้าเอ่ยปากอะไรออกมา!” อนุรองแค่นเสียงออกมาอย่างไม่พอใจ 

 

 

อวี้อาเหารู้สึกขันยิ่งนัก ก่อนหน้านี้หวังหลงจู๊พูดแก้ตัว นางก็ว่าเขากลัวจนพูดจาส่งเดช ตอนนี้เจาเอ๋อร์ไม่ตอบโต้ ก็กลายเป็นยอมรับผิดไปเสียอีก ความจริงแล้วจะพูดหรือไม่พูด อนุรองก็หาเรื่องมาให้ผิดจนได้ ปากของนางก็ช่างร้ายกาจยิ่งนัก! 

 

 

เจาเอ๋อร์เห็นดังนั้น ในที่สุดก็คืนสติรีบคุกเข่าลงกับพื้นในทันที “บ่าวใจซื่อมือสะอาดมาโดยตลอด หากอนุรองสงสัยในตัวบ่าว อยากจะลงโทษอย่างไรก็ตามแต่ใจเถิดเจ้าค่ะ เรื่องนี้ไม่ว่าบ่าวจะผิดหรือไม่ผิด ก็เป็นเพราะบ่าวเลินเล่อจึงทำให้ผู้อื่นสบโอกาส ขอให้ท่านอ๋องทรงลงโทษเถิด บ่าวจะไม่ว่าอะไรเลยสักคำ!” 

 

 

“เจาเอ๋อร์ เจ้าไม่ได้ผิดเหตุใดจะต้องยอมรับด้วย?” อวี้อาเหราตกใจจนหน้าถอดสี 

 

 

“คุณหนู เกรงว่าบ่าวคงไม่อาจอยู่รับใช้ท่านได้อีกต่อไปแล้ว แต่ท่านจงเชื่อว่าเจาเอ๋อร์นั้นซื่อสัตย์ต่อท่าน ไม่กล้าทำผิดปิดบังท่าน อีกทั้งยังไม่ได้ยั่วยุให้ความสัมพันธ์ระหว่างท่านและอนุรองให้ร้าวฉาน คนอื่นอาจจะไม่เชื่อก็ไม่เป็นไร แต่คุณหนูท่านต้องเชื่อเจาเอ๋อร์นะเจ้าคะ” เจาเอ๋อร์ก้มหน้าลงต่ำ จนเห็นเพียงเส้นผมสีดำขลับ ร่างกายของนางสั่นสะท้าน ราวกับการพูดครั้งนี้เป็นการกลั่นเอาเรี่ยวแรงเฮือกสุดท้ายของนางออกมา 

 

 

อวี้อาเหรารีบเข้าไปประคอง “เจ้ารีบลุกขึ้นเถิด เหตุใดข้าจะไม่เชื่อเจ้ากัน?” 

 

 

ยามนี้อนุรองก็ร้องตวาดขึ้น “นางชั้นต่ำ! หากเจ้ายังกล้าแสดงละครต่อหน้าคุณหนูรองอีกก็อย่าหาว่าข้าไม่เกรงใจ! คุณหนูรอง ท่านอย่าได้ฟังวาจาสวยหรูของนางเลย ที่ข้าน้อยพูดก็เพื่อท่านนะเจ้าคะ” 

 

 

อย่างไรเจาเอ๋อร์ก็ไม่กล้าลุกขึ้นมา นางทำเพียงหมอบอยู่กับพื้นไม่ไหวติง อวี้อาเหราหยัดกายลุกขึ้นยืน แล้วมองตรงๆ ไปทางอนุรอง “อนุรองช่างปรารถนาดียิ่งนัก พูดเพียงประโยคเดียวก็ผลักความผิดทั้งหมดมาที่สาวใช้ของข้า ในใจยังมีเมตตาธรรมหลงเหลืออยู่หรือไม่?” 

 

 

“อาเหรา เหตุใดเจ้าถึงพูดกับอนุรองเช่นนั้น?” หลิงอ๋องเม้มปากแล้วเอ่ยขึ้น 

 

 

“เสด็จพ่อ นี่ก็ไม่ใช่ว่าลูกพูดจาไปเรื่อยเปื่อย แต่เรื่องนี้ลูกก็เก็บไว้ในใจเป็นนานแล้วเพราะไม่อยากให้เสด็จพ่อเสียพระทัย แต่ตอนนี้ลูกก็เก็บเอาไว้ไม่อยู่แล้วเพคะ”