บทที่ 467 พระมาขวางฆ่าพระ เซียนมาขวางกวาดล้างเซียน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 467 พระมาขวางฆ่าพระ เซียนมาขวางกวาดล้างเซียน
ไม่รอให้พวกเขาลงมือ ทั้งร่างของกู้ชูหน่วนเปล่งแสงสีม่วง

จากระดับสองนางเข้าสู่ระยะเบื้องต้นระดับสามโดยตรง

กลับมาดูที่จอมมารจากขึ้นสุดยอดระดับหกลดลงมาถึงระยะกลางระดับหก

ตูม……

กู้ชูหน่วนเลื่อนขั้นอีกครั้ง เพิ่งขึ้นเป็นระยะกลางระดับสาม

จอมมารลดลงถึงระยะเบื้องต้นระดับหก

ทุกคนในทั้งเหตุการณ์ตะลึงงันแล้ว

แม้ว่าจอมมารจะลดระดับขั้นลง

ก็เป็นไปไม่ได้ที่กู้ชูหน่วนจะเพิ่มขึ้นเพียงขั้นเดียวนี่นา

ต้องรู้ว่าตัวเลขของระดับชั้นยิ่งสูงขึ้น คิดต้องการจะขึ้นไปอีกระดับขั้นหนึ่งก็ยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ

จอมมารลดลงจากขั้นสูงสุดระดับหกสู่ระยะเบื้องต้นระดับหก อย่างน้อยจากระดับสองกู้ชูหน่วนจะสามารถขึ้นไปสู่ระดับสี่ได้ถึงจะถูก แต่นางเพิ่งจะขึ้นไปได้เพียงระยะกลางระดับสามเท่านั้น

หรือว่ากำลังภายในที่นางดูดซับได้น้อยเกินไป?

แล้วมองดูใบหน้าเล็กๆที่เจ็บปวดจนแทบจะเปลี่ยนรูปของนางอีกครั้ง จะดูอย่างไรก็ไม่เหมือนลักษณะท่าทางที่ดูดรับกำลังภายในไปเพียงแค่เล็กน้อยเท่านั้นนี่

ยิ่งไปกว่านั้น ด้านข้างยังมีเสวียซาอีกน่ะ

เสวียซาน่าเวทนายิ่งกว่า จากระดับห้าร่วงลงไปถึงระยะเบื้องต้นระดับสี่โดยตรง

“เคล็ดวิชากลืนพลัง……นี่……”

ผู้เฒ่าฮัวกังวลใจจนอยู่ไม่สุข

เขาก็ต้องการจะแยกพวกเขาออกจากกัน แต่ทันทีที่เขามีส่วนร่วม นอกซะจากว่ากู้ชูหน่วนจะถอนฝ่ามือด้วยตัวเอง ไม่เช่นนั้นเขาก็จะเผชิญหน้ากับเหตุการณ์เดียวกันกับพวกเขา

ตอนนี้ เหมือนว่าหลานสาวของเขาจะไม่รู้วิธีการควบคุมเคล็ดวิชากลืนพลัง

“ข้าไปหยิบอุปกรณ์ช่วยมาแยกพวกเจ้า” ผู้เฒ่าฮัวกล่าว

“ไร้ประโยชน์” จอมมารกล่าวอย่างไม่เกรงใจ

เขาไม่ยอมทำร้ายกู้ชูหน่วน จึงทำได้เพียงทำร้ายตัวเอง เพื่อปกป้องกู้ชูหน่วน หากเป็นเช่นนี้ ก็มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเสียชีวิตไปตรงนั้น

แต่เขาก็ยินยอมพร้อมใจ

ช่วงเวลาที่อยู่ในภวังค์ ราวกับว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่างแล้ว

กำลังภายในของเย่จิ่งหานลดฮวบลงไปมาก คิดว่าน่าจะเป็นเพราะถูกพี่สาวดูดไปสินะ

ไม่นานมานี้ เขาได้ต่อสู้กับเวินเส้าหยีอีกครั้ง เวินเส้าหยีน่าอนาถยิ่งกว่า วิทยายุทธลดลงเหลือเพียงระยะเบื้องต้นระดับสี่เท่านั้น เวลานั้นเขายังสงสัยอยู่ว่าทำไมเวินเส้าหยีถึงเปลี่ยนเป็นอ่อนแอได้ขนาดนั้น

ตอนนี้คิดดู เกรงว่ากำลังภายในของเวินเส้าหยีก็คงจะถูกพี่สาวดูดไปด้วยเช่นกัน

ดูดกำลังภายในของสามยอดฝีมือในยุคนี้ไปแล้ว นางเพิ่งจะขึ้นสู่ระยะกลางระดับสามเท่านั้น นี่ก็ย่ำแย่เกินไปหน่อยแล้ว

แล้วเวินเส้าหยีมีความสัมพันธ์อะไรกับนางอีก? ทำไมถึงได้ถูกดูดพลังไปได้มากมายขนาดนั้น?

ร่างกายของเย่จิ่งหานได้รับบาดเจ็บสาหัส แม้จะเดินไม่กี่ก้าวก็ลำบาก แต่เขาก็ยังกัดฟันแน่นเพื่อรวบรวมกำลังภายในทั้งหมด ไม่กี่วินาทีก่อนที่จอมมารจะลงมือ กำลังภายในอันมหาศาลก็ระเบิดมาทางพวกเขา ฝืนบังคับแยกพวกเขาทั้งสามออก

“ฟู่ว……”

“ฟู่ว……”

“ฟู่ว……”

กู้ชูหน่วน เย่จิ่งหาน รวมทั้งเสวียซาล้วนกระอักเลือดทั้งหมด

จอมมารกลับเปล่งเสียงอัดอั้นไม่พอใจออกมาทีหนึ่ง

“นายท่าน…..”

“หลานสาว……”

“จอมมาร……”

เหล่าคนรับใช้ตะโกนเสียงดัง ต่างพากันวิ่งเข้าไปประคองเจ้านายของตัวเอง

เย่จิ่งหานบาดเจ็บหนัก เส้นลมปราณทั้งร่างก็แทบจะแปรผันย่ำแย่ พิษเย็นที่ยังไม่คงที่ในเดิมทีเพราะได้รับการกระตุ้นและบาดเจ็บสาหัส กำเริบขึ้นอีกครั้ง

เขาสั่นเทา ทั้งตัวเย็นเฉียบ แม้แต่คิ้วและเส้นผมสีดำก็ย้อมไปด้วยน้ำค้างแข็งชั้นหนึ่ง

แต่เขากัดฟันแน่น มองดูกู้ชูหน่วนด้วยความกังวล

กู้ชูหน่วนไม่ได้ดีไปกว่าเย่จิ่งหานเท่าไหร่

สีหน้าของนางซีดขาว ใกล้จะหมดลม สามารถพูดได้ว่าลมออกมาก ลมเข้าน้อย

“หมอหลวง หมอหลวงล่ะ รีบตรวจดูให้พระชายาสิ”

“ขอรับขอรับขอรับ……”

จอมมารอุ้มร่างกายอันไร้เรี่ยวแรงของกู้ชูหน่วนขึ้น จับชีพจรของนาง บนใบหน้าอันสง่างามเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“พลังลมปราณทั้งสามในร่างกายชนปะทะกัน ภายนอกบาดเจ็บสาหัส เสียเลือดมากเกินไป ทุกรอยบาดแผลเข้าลึกถึงกระดูก และเส้นลมปราณทั้งหมดถูกปิดกั้น”

จอมมารไม่มีความลังเลแม้แต่น้อย อุ้มกู้ชูหน่วนขึ้นมา ลอยขึ้นไปในอากาศคิดต้องการออกไปจากที่นี่

ค่ายกลของเรือนพักร้อนชิวเฟิงกักขังพวกเขาไว้

ดวงตาอันดุร้ายของจอมมารปล่อยแรงสังหารอันรุนแรงออกมา แรงสังหารรุนแรงจนทำให้คนทั้งหมดในเหตุการณ์ตกตะลึง

แรงสังหารช่างแข็งแกร่งมากนัก

เขาคิดจะทำอะไร?

จอมมารชำเลืองมองทุกคนที่อยู่ตรงนั้น เค้นเสียงออกมาจากซอกฟันประกอบเป็นประโยคหนึ่ง “วันนี้ใครกล้าขัดขวางที่ข้าพานางออกไป พระมาขวางฆ่าพระ เซียนมาขวางกวาดล้างเซียน”