ตอนที่ 1673 การมาถึงของแขกไม่ได้รับเชิญ

Monster Paradise

ตอนที่ 1673 การมาถึงของแขกไม่ได้รับเชิญ

 

แดนเทพ เมืองเคียวโลหิต ศูนย์ใหญ่เคียวแห่งความตาย

 

ในห้องประชุม สีหน้าของใต้สวรรค์กับสมาชิกเคียวโลหิตไม่สู้ดี

 

ที่นั่งตรงข้ามใต้สวรรค์บนโต๊ะประชุมคือชายผมแดงเคราแดง

 

เขาวางขาสองข้างพาดโต๊ะ ร่างกายส่วนบนเอนพิงเก้าอี้ เขามีบุหรี่ในปากและก็กำลังพ่นควันด้วยท่าทางเหมือนนักเลง

 

“ข้าจะให้เวลาเจ้าคิดอีกหน่อยว่าเจ้าอยากขอให้หลินฮวงเผยตัวไหม แต่ทว่า ข้าขอแนะนำให้เจ้ารีบตัดสินใจเพราะพ่อแม่ของข้าไม่คิดจะถามด้วยดีๆหรอกนะ”

 

“ผู้อาวุโส หลินฮวงไม่ปรากฏตัวเลยนับตั้งแต่เขาเข้ามิติลับในฐานะซิวมู่เมื่อสองปีก่อน ถ้าไม่ใช่เพราะท่านพูดถึงเขา เราคงคิดว่าเขาตายไปแล้ว” หนึ่งในสมาชิกเคียวโลหิตพูด

 

ชายผมแดงพ่นควันและจับจองใต้สวรรค์”ใต้สวรรค์ ข้าได้ยินมาว่าเจ้าสนิทกับหลินฮวงพอตัว แถมยังดูแลเขาอย่างดีในอดีต เจ้าได้ติดต่อกับเขาไหมตั้งแต่นั้น?”

 

“ไม่”ใต้สวรรค์ตอบอย่างไร้อารมณ์”ข้าดูแลเขาดีเพราะเขามีพรสวรรค์สูง ข้ารู้สึกว่าเขาต้องประสบความสำเร็จและตัดสินใจฝึกเขา หลังเขาหายตัวไป ข้าพยายามติดต่อเขา แต่ก็เปล่าประโยชน์

 

“ยังไงซะ ข้าก็ยุ่งกับการเตรียมการผสานมาตลอดสองปี ข้าไม่มีเวลาไปใส่ใจเรื่องอื่น”

 

ค่าตอบของใด้สวรรค์ดูมีเหตุผล แต่อีกฝ่ายเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อเขา

 

ชายผมแดงดีดขี้เถ้าบุหรี่และเหลือบมองใต้สวรรค์ น้ำเสียงของเขายังราบเรียบ

 

“พูดตามตรง ข้าเป็นคนขี้เกียจ ไม่ว่าข้าจะเจอปัญหาอะไร ข้าก็มักหวังว่าจะแก้ไขมันในทางที่ง่ายสุดการจัด การกับคนที่โกหกไม่ใช่งานถนัดของข้า แต่ทว่า พวกของข้าบางคนถนัดด้านนี้ ข้าหวังว่าพวกเจ้าจะยังปากแข็ง กันแบบนี้ตอนพวกเขาปรากฏ ไม่งั้นผลที่ตามมาอาจร้ายแรง”

 

“เอาล่ะ ข้าหมดธุระแล้ว”ชายผมแดงเหลือบมองบุหรี่เขา ซึ่งดับแล้วและขยิ้มัน จากนั้นก็จุบุหรี่ใหม่”เจ้าคงไม่ว่าอะไรใช่ไหมถ้าเราจะยืมห้องประชุมของเจ้าสักพัก?”

 

“เชิญ ผู้อาวุโส”หนึ่งในสมาชิกเคียวโลหิตตอบกลับทันที

 

ขณะที่พวกใต้สวรรค์กำลังจะออกไป พวกเขาก็ได้ยินเสียงของชายผมแดงอีกครั้ง

 

“โอ้ ใช่ ตอนพวกของเรามาถึง พวกเจ้าสามารถพาพวกเขามาที่นี่ได้เลย”

 

หลังใต้สวรรค์กับคนอื่นออกไป พวกเดียวที่อยู่ในห้องประชุมก็คือชายผมแดงกับชายอีกสองคนที่นั่งอยู่ทางซ้ายกับขวาของเขา ผู้ไม่พูดอะไรมาตลอด

 

ชายทางซ้ายเหมือนศพเดินได้ มีผิวหนังและกระดูกคล้ายมัมมี”คนที่ชื่อใต้สวรรค์โกหกอย่างเห็นได้ชัดทำไมถึงไม่กักตัวเขาไว้และบังคับให้เขาติดต่อหลินฮวง?”

 

“ถ้าเราอ่านความทรงจำเขาโดยตรง บางที่เราออาจได้อะไรมา”คนทางขวาที่สูงกว่าสามเมตรพยักหน้าเห็นด้วย

 

“พวกเจ้าสองคนคิดจริงๆเหรอว่าเราสามารถทำตามใจชอบได้แค่เพราะเราขออนุญาตตรวจสอบจากราชันย์แล้ว?”ชายผมแดงเหลือบมองคนของเขา “นี่คืออาณาเขตของราชันย์ทุกอย่างที่เราทำอยู่ภายใต้การจับตาดู”

 

“นอกจากนี้ องค์กรชั้นนำของอาณาเขตภายใต้ย่อมได้รับการคุ้มครองขององค์กรในจักรวาล ตัดสินจากระดับขององค์กรในมหาพิภพนี้ เคียวแห่งความตายถือเป็นองค์กรชั้นนำและได้รับการคุ้มครอง

 

“ถ้าเราอยากลงมือ เราต้องมีเหตุผล ไม่งั้นราชันย์จะเข้ามาแทรกแซง”

 

ชายผมแดงสูบควันเข้าปอด และพ่นก่อนพูดต่อ“มันไม่คุ้มที่จะขัดแย้งกับราชันย์ในเรื่องไม่สำคัญแบบนี้”

 

“แล้วตอนนี้เราจะทำยังไง?”มนุษย์ซากศพถาม

 

“เราจะรอ”ชายผมแดงตอบ

 

ใต้สวรรค์กับพรรคพวกเดินออกห้องประชุมหน้าเศร้า

 

แม้ครั้งนี้จะมีแค่สามคนที่มา แต่ทั้งหมดก็คือจ้าวเทวะ

 

ใต้สวรรค์ไม่อาจระบุพลังของชายผมแดงที่เป็นหัวหน้าได้เลย แต่ทว่า เขาสามารถสัมผัสได้ว่าคนสองคนที่แทบไม่พูดคือจ้าวเทวะขั้นกลาง

 

เขาตระหนักดีถึงภัยคุกคามที่เล็ดรอดจากทั้งสองคนนี้

 

ส่าหรับชายผมแดง ใต้สวรรค์เดาว่าเขาเป็นจ้าวเทวะขั้นสูง

 

ปมของเรื่องนี้คือมีมากกว่าสามคนที่มาถึงในมหาพิภพ

 

เนื่องจากองค์กรระดับเจ็ดอย่างวิหารเทพนักรบกับนครหลวงเทพแปะคำสั่งจับหลินฮวงภายใต้การบีบบังคับจากชายผมแดง เคียวแห่งความตายจึงไม่มีทางเลือกนอกจากทำตาม

 

ชายผมแดงกล่าวไว้ชัดเจน หากพวกเขาไม่ตัดความสัมพันธ์กับหลินฮวงตอนนี้ เขาจะถือว่าเคียวแห่งความตายเป็นศัตรู

 

ถ้าพวกเขาหาตัวหลินฮวงไม่เจอ พวกเขาจะไม่มีทางเลือกนอกจากล่างแค้นโดยการกวาดล้างเคียวแห่งความตาย

 

ไม่ว่าใต้สวรรค์จะสนิทกับหลินฮวงแค่ไหน เขาก็ไม่อาจเสียสละสมาชิกทั้งหมดเพื่อปกป้องเขาได้

 

นอกจากนี้ มันเป็นแค่การแปะภารกิจตามล่า พวกเขาไม่ได้ขอให้ไปตามล่าหลินฮวง

 

มันเป็นการประนีประนอมแล้ว

 

ใด้สวรรค์เชื่อว่าหลินฮวงจะเข้าใจสถานการณ์ของพวกเขา

 

“เราจะทำยังไงกัน?”เกาหถึงถามใต้สวรรค์ผ่านคลื่นเสียง

 

ใต้สวรรค์เงียบไปพอได้ยินคำถาม

 

เขาไม่รู้ว่าเขาจะทำอะไรได้บ้าง ตอนนี้ สิ่งเดียวที่เขาทำได้คือพยายามเก็บที่ซ่อนของหลินฮวงไว้เป็นความลับ

 

เขาไม่รู้ว่าสถานที่ซ่อนก่อนหน้าของหลินฮวงอย่างเขตดาวนักล่าปีศาจนั้นได้โดนทำลายไปแล้ว

 

“ข้าคิดว่าชายผมแดงคนนั้นไม่ได้โกหก พวกพ้องของเขาน่าจะอันตรายกว่า ทันทีที่พวกเขามาหาเรา เราอาจเจอปัญหาใหญ่” อีกคนพูดด้วยความกังวล

 

“เจ้ากำลังบอกว่าเราควรทรยศหลินฮวงเพื่อประโยชน์ของเคียวแห่งความตาย?”ใต้สวรรค์ชำเลืองมองเลือดไร้ขอบเขต

 

ตลอดมา เขาให้ความเคารพอย่างสุดซึ่งต่อผู้อาวุโสที่ก่อตั้งเคียวแห่งความตาย แต่ทว่า ตอนนี้ ใต้สวรรค์รู้สึกว่าเลือดไร้ขอบเขตนั้นเห็นแก่ตัว

 

“ใต้สวรรค์ ผู้อาวุโสเลือดไร้ขอบเขตไม่ได้มหายความอย่างนั้น” ข้างพวกเขา จิ้งจอกเก้าหาง หูเซียนเอ๋อร์พูดขึ้น”ข้าคิดว่าอย่างน้อยเราก็ควรหารือกัน”

 

“มันไม่สำคัญว่าเราจะวางแผนยังไง เมื่อเราเคลื่อนไหว อัตราชนะเราจะเป็นศูนย์”ใต้สวรรค์ส่ายหัว

 

ในฐานะจาวเทวะ เขานั้นรู้ดีถึงช่องว่างระหว่างตัวเขากับสามไรเดอร์

 

“แล้วถ้าเราร่วมมือกับวิหารเทพนักรบและองค์กรอื่นละ?นั่นจะไม่ได้ผลเหรอ?”หูเซียนเอ่อร์ถามต่อ

 

“ทำไมเจ้าถึงคิดว่าวิหารเทพนักรบกับนครหลวงเทพถึงทำการละเมิดกฏและแปะประกาศจับหลินฮวงละ? ทำไมเจ้าถึงคิดว่าพวกเขาเปิดเผยมันต่อสาธารณะ?พวกเขาไม่ได้ทำแบบนี้มาหลายยุคแล้ว”ใต้สวรรค์ถามกลับ

 

“เพราะ..พวกเขาโดนข่มขู่โดยบุคคลภายนอกเหล่านี้?”หูเซียนเอ๋อร์ตอบอย่างไม่มั่นใจ

 

“ขอข้าพูดแบบนี้ ชายผมแดงในห้องประชุมสามารถทำลายองค์กรระดับเจ็ดทั้งหมดในแดนเทพได้ง่ายๆ ด้วยตัวคนเดียว สิ่งที่ใต้สวรรค์พูดทำให้เหล่าสมาชิกเคียวโลหิตตกตะลึง พวกเขาพูดไม่ออกไปชั่วขณะ

 

ขณะที่บรรยากาศเริ่มเย็นชา แหวนสื่อสารของใต้สวรรค์ก็สั่น…