ตอนที่ 277

Legend of the mythological genes

มีภูเขายักษ์สามลูกอยู่ซ้อนกันและภูเขาที่นั่นมีอากาศหนาแน่น ทุกอย่างดูเหมือนจะอันตรายมาก

ภูเขาเหล่านี้ซ้อนกันก็จริง แต่สภาพแวดล้อมแตกต่างกันมาก

ที่ชั้นล่างมีภูเขาสีดำที่สร้างขึ้นจากหินแข็งจำนวนมาก เรียงซ้อนกันเหมือนเป็นหนึ่งเดี่ยว มีความสูงประมาณ 1,000 เมตรและมีลักษณะคล้ายกับแท่งเหล็กทั้งก้อนกดลงบนพื้น เป็นรากฐานที่มั่นคงสนับสนุนภูเขาอีกสองลูกที่ซ้อนกันสูงอยู่ด้านบนนั้น

ภูเขาลูกที่สองเต็มไปด้วยป่าไม้ บรรยากาศมืดครึ้มและน่ากลัว แสงแดดไม่สามารถทะลุเข้าไปในป่าได้ เนื่องจากความหนาแน่นของต้นไม้ ความมืดปกคลุมทุกอย่าง

สำหรับชั้นบนสุดนั้นภูเขาเป็นโพรงขึ้นมาอย่างสมบูรณ์ มันกลายเป็นป้อมปราการบนภูเขาที่มีลักษณะคล้ายรังผึ้ง เป็นเหมือนรังของมังกรและรังของเสือ ซึ่งสามารถทำลายชีวิตของคนโง่เขลาได้

นี่เป็นหนึ่งในสถานที่เลวร้ายสุดในโลกของภูเขาและทะเล ภูเขาสามชั้น!

มีภูเขาสามลูกซ้อนกันอยู่ตามชื่อ

แม้ว่านี่จะเป็นสภาพแวดล้อมที่เลวร้ายตามธรรมชาติ แต่สิ่งที่น่ากลัวกว่าคือเผ่าที่เข้ามาอาศัยอยู่ที่นี่เผ่าเจิ้ง!

ตามข้อมูลจากสมาคมการบ่มเพาะเผ่าเจิ้งเป็นเผ่าพันธุ์มนุษย์หายากในโลกนี้ ลักษณะเฉพาะของพวกเขาคือความดุร้ายและพวกเขาก็เป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติ พวกเขามีความสามารถในการควบคุมเลือด – ซึ่งทำให้พวกมันมีศักยภาพในการฆ่าที่ยิ่งใหญ่ นี่เป็นเผ่าระดับจ้าวปีศาจในโลกแห่งจิตวิญญาณนี้

ในความเป็นจริงเมื่อมนุษยชาติค้นพบดาวเคราะห์ดวงนี้เป็นครั้งแรก กลุ่มทหารกลุ่มแรกที่เข้ามาที่นี่ได้ถูกกำจัดออกไป พวกเขาทั้งหมดถูกเผ่าเจิ้งสังหารโดยโดยไม่มีข้อยกเว้น

ในขณะนี้  ที่มุมหนึ่งซึ่งอยู่ไม่ไกลจากภูเขาสามชั้น ทีมของเฟิงหลินเฝ้าสังเกตอยู่สายตาของพวกเขาจับจ้อง

ร่างจำนวนมากในชุดเกราะกระดูกที่เดินเข้าและออกจากภูเขาสามชั้น

เผ่าเจิ้งสามารถแบ่งออกเป็นฝ่ายชายและฝ่ายหญิง

ฝ่ายชายมีรูปร่างสูงและมีกล้าม สูงประมาณสามเมตรและดูดุร้ายมาก

สำหรับฝ่ายหญิงพวกเธอทั้งหมดมีรูปร่างสวยงามได้รูปและมีเสน่ห์

นี่เป็นเผ่าที่แปลกมาก

แม้ว่ารูปร่างหน้าตาของพวกเขาจะแตกต่างกันไป แต่สถานะพลังสูงมาก เฟินหลินไม่กล้าประมาท

สมาชิกแต่ละคนของเผ่าเจิ้งมีสถานะที่ทรงพลังมากกว่า 100  นี่เป็นเผ่าพันธุ์เหนือธรรมชาติโดยกำเนิด พวกเขาเกิดมาพร้อมคุณสมบัติที่สูงพอที่จะเป็นทหาร

สำหรับผู้ที่กล้าเข้ามาโดยไม่พิจารณาให้ดี พวกเขาก็จะถูกกำจัดไปอย่างไม่ต้องสงสัย

เผ่าเจิ้งแห่งภูเขาสามชั้นจะออกมาเป็นระยะๆ พวกเขาเป็นเหมือนคนโบราณ

เมื่อพวกเขากลับมาที่ภูเขา ร่างกายของพวกเขาจะถูกย้อมไปด้วยเลือดและมีคำพูดแปลกๆ เช่นเทพเจ้าแห่งความป่าเถื่อนออกมาจากปากของพวกเขา

ดวงตาของยานาเปล่งประกายแสงสีทอง เธอพยายามที่จะแกะภาษาดั้งเดิมนี้

กลางคิ้วของเฟิงหลินส่องแสงสีเงิน พลังวิญญาณของเขาถูกบีบ เขาส่งมันออกมาพยายามตรวจสอบภายในของภูเขาสามชั้น

ยีนวิญญาณของเขาพัฒนาสูงสุดถึง 10 และยีนลิงหินวิญญาณถึง5

แต่ละจุดที่เพิ่มขึ้นจะช่วยให้พลังวิญญาณของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาก

ตอนนี้เฟิงหลินพยายามอย่างเต็มที่ที่จะตรวจสอบสถานการณ์จากพื้นที่ห่างออกไปประมาณสองร้อยกิโลเมตร เขาสามารถมองเห็นทุกสิ่งได้อย่างชัดเจน เหมือนกล้องจุลทรรศน์คุณภาพสูงที่ปรับความแม่นยำได้ถึง 0.01 มม.

ใช้มุมมองทางจิตวิญญาณของเขา ทุกอย่างในโลกไม่มีอะไรปิดบังเขาได้

สายลมอ่อนโยนพัดผ่านเข้ามาในถ้ำของเผ่าเจิ้ง แต่สมาชิกชนเผ่าดั้งเดิมของเผ่าเจิ้งดูเหมือนจะไม่รู้สึกอะไรเลย

แสงสีแดงทอดยาวปรากฎในนิมิตของเขา

เฟิงหลินรู้สึกเพียงว่าการรับรู้ของเขาเข้าไปในอุโมงค์สีแดง ปราณที่แปลกแทรกซึมเข้าไปในพื้นที่อย่างสมบูรณ์ ไหลเข้าไปในร่างกายของคน

ปราณจิตวิญญาณ นี่คือปราณจิตวิญญาณ!

ปราณจิตวิญญาณที่นี่พุ่งออกมาเหมือนกระแสน้ำ จมในความรู้สึกของเขาทันที

ส่วนด้านในของถ้ำสร้างขึ้นจากคริสตัลสีแดงสด ปราณจิตวิญญาณนั้นรุนแรงมากจนเฟิงหลินสั่นสะท้านอย่างไม่สมัครใจ

ภูเขาสามชั้นแห่งนี้เป็นเหมืองผลึกวิญญาณ!

พลังวิญญาณของเฟิงหลินยังคงไหลขยายออกไปทุกทิศทุกทาง สถานที่นี้เป็นเหมือนรังผึ้งที่มีแยกหลายพื้นที่ ด้านในนั้นมีความยุ่งเหยิงและซับซ้อนเป็นอย่างมาก มีวังใต้ดินปรากฏขึ้นและทุกห้องมีไว้ให้พักอาศัย เครื่องมือดั้งเดิมของพวกเขานั้นทำมาจากผลึกวิญญาณ ตัวอ่อนของชนเผ่าดั้งเดิมสามารถมองเห็นได้จากที่นี่

หวือ

จากส่วนลึกของถ้ำ ลมที่พัดออกมาราวกับคนหายใจ สิ่งน่ากลัวดูเหมือนจะซ่อนอยู่ลึกภายในมีกลิ่นอายที่หนักหน่วงมากอย่างไม่มีใครเทียบ

อย่างน้อยที่สุดสถานะพลังของสิ่งมีชีวิตนั่นน่าจะเกิน 3,000 ขึ้นไป!

เฟิงหลินตัดสินทันที แม้ว่าเขาจะรู้สึกกดดันอย่างไม่น่าเชื่อก็ตาม

เขาส่งพลังวิญญาณออกไปอย่างต่อเนื่อง ต้องการหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทุกสิ่งที่นี่

ยิ่งการรับรู้ของเขาลึกซึ้งมาก ปราณจิตวิญญาณก็ยิ่งมากขึ้นในชั้นบรรยากาศ ตอนนี้ปราณจิตวิญญาณรวมตัวกันเป็นก้อนเมฆ

ความโอ่อ่าด้วยสภาพแวดล้อมปราณจิตวิญญาณเป็นยังไง?

ถ้าหมูธรรมดาอยู่ที่นี่มันจะกลายเป็นสิ่งมีชีวิตเหนือธรรมชาติตราบใดที่มันอยู่นานพอ

เผ่าเจิ้งนี้มีพลังอำนาจอย่างแท้จริง สมาชิกทุกคนดุร้ายมาก

(ใกล้เข้ามาแล้ว!)

ในขณะที่การรับรู้ของเขาก้าวหน้าขึ้น ความรุนแรงของปราณจิตวิญญาณก็เพิ่มขึ้น แรงมกดดันเป็นเหมือนภูเขาทับเขา

เฟิงหลิงต่อต้านตามสัญชาติญาณ

โฮกก! ~

เพียงแค่ความผันผวนเล็กๆน้อย ๆ นี้ดูเหมือนจะเป็นตนเหตุของความน่ากลัวอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ด้วยความโกรธเสียงคำรามกระหายเลือดที่รุนแรงจะถูกปล่อยออกมาจากส่วนลึกและต้องการตามพลังวิญญาณของเฟิงหลินกลับไปยังแหล่งกำเนิด

เฟิงหลินรีบตัดตัวเชื่อมพลังวิญญาณของเขาออกอย่างรวดเร็ว เขาลืมตาขึ้น แต่ในทันใดภูเขาทั้งสามชั้นเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง สมาชิกในเผ่าเจิ้งเป็นเหมือนมดวิ่งออกจากทุกทิศทุกทาง ราวกับกำลังมองหาบางสิ่ง

“เกิดอะไรขึ้น?” ยานาและคนอื่น ๆ ตกใจ

“เปลี่ยน!”

เฟิงหลินใช้วิชาการเปลี่ยนแปลงในทันที เปลี่ยนตัวเองและเพื่อนในทีมของเขาให้กลายเป็นหิน กลิ่นอายของพวกเขาถูกปกปิดทันที

ปึก ปึก ปึก!

เสียงฝีเท้าดังขึ้น

สมาชิกของเผ่าเจิ้งค้นทุกที่ด้วยความโกรธ

วิชาการเปลี่ยนแปลงของเฟิงหลินมาถึงขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงสสารแล้ว ทำให้เขาสามารถปกปิดสสารได้ มันคงไม่ง่ายนักที่จะมองผ่านการปลอมตัวของเขา

สมาชิกค้นหาอยู่ครึ่งวัน แต่ไม่พบอะไรเลย ในที่สุดพวกเขาก็ยอมแพ้และกลับมา

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” ยานาถาม

พวกเขาไม่ได้ทำอะไรเลย ทำไมสมาชิกเหล่านี้จึงวุ่นวายขนาดนี้

“ราชาแห่งเผ่าเจิ้่งน่ากลัวมาก สถานะพลังของเขาสูงอย่างน้อย 3,000 ขึ้นไปและความรู้สึกของเขานั้นไวมาก การรับรู้ทางวิญญาณของฉันถูกเขาพบ หากเราต้องการลอบสังหารเราจะต้องคิดแผนใหม่ หากเราปะทะกันตรงๆเราจะไม่มีโอกาสชนะเลย เราต้องใช้ประโยชน์จากอุปกรณ์ระดับ 5 “เฟิงหลินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น หยิบอุปกรณ์ระดับ 5 ที่พวกเขาครอบครองอยู่ในปัจจุบันออกมา

อุปกรณ์ระดับ 5 ทั้งสามนี้เป็นคือปืนรังสี ระเบิดรังสีและไมโครเมชา

“เราจะจัดสรรอุปกรณ์ทั้งสามนี้ยังไงถึงจะได้ประสิทธิภาพสูงสุด?” เฟิงหลินขอความเห็นจากยานา

ยานาไตร่ตรองพยายามคิดกลยุทธ์ หลังจากนั้นเธอก็บอกคำตอบของเธอ “มอบปืนรังสีควอนตัมให้ซูลี่ เขาสามารถใช้ความเร็วเพื่อใช้กลยุทธ์การรบแบบกองโจร สามารถปลดปล่อยศักยภาพสูงสุดของปืนได้ มอบไมโครเมชาให้กับอี้เขาสามารถโจมตีจากระยะไกลและการป้องกันของเขาไม่เพียงพอ ด้วยไมโครเมชามันจะสามารถยกระดับการป้องกันและความเร็วของเขาได้ สำหรับระเบิดรังสี เฟิงหลินนายรับไป นายเป็นคนที่มีพลังแข็งแกร่งที่สุดในทีมของเรา นายจะมีโอกาสได้เข้าใกล้ราชาเผ่าเจิ้งและปลดปล่อยพลังของมันได้!”

เมื่อเทียบกับเฟิงหลิน อี้ ซู่ลี่และสองพี่น้องนั้นเหมาะกับตำแหน่งสนับสนุน มันไม่ง่ายเลยที่พวกเขาจะปลดปล่อยศักยภาพของระเบิดได้

ทุกอย่างเพื่อชัยชนะ ดังนั้นยานาจึงไม่ลำเอียงและเธอไม่ได้จัดสรรอุปกรณ์ระดับ 5 ให้กับตัวเองหรือน้องสาวของเธอ

“ยาระเบิดวิญญาณทั้งห้าขวดนี้ถือได้ว่าเป็นยาทางพันธุกรรมระดับกลางขั้นสูง ภายในสิบนาทีมันจะทำให้สถานะพลังของเราเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นสองเท่า เราแต่ละคนจะใช้คนละขวดและเราต้องใช้สิ่งนี้ให้ดีที่สุด”ทีมของเฟิงหลินแบ่งกันคนละขวด หลังจากนั้นพวกเขามุ่งเน้นไปที่การบ่มเพาะ

ศักยภาพทางพันธุกรรม 1.2, 1.2, 1.2 …

ในไม่ช้าเฟิงหลินก็ได้รับแต้มหลุดพ้น

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้เพิ่มมันลงในยีน เขาต้องการใช้มันในช่วงเวลาสำคัญเพื่อฟื้นฟูความแข็งแกร่งของเขา

หลังจากนั้นไม่นานสมาชิกคนอื่น ๆ ในทีมของเขาก็ฟื้นสู่จุดสูงสุด

“ไปกันเถอะ” เฟิงหลินพยักหน้าให้พวกเขา ครู่ต่อมาพลังลิงหัวใจจำนวนมหาศาลก็พุ่งออกมาจากกึ่งกลางคิ้วของเขา

สมาชิกในทีมของเขาและตัวเขาเองตอนนี้กลายเป็นสมาชิกห้าคนของเผ่าเจิ้งไม่มีใครสามารถบอกความแตกต่างได้

ทีมของเฟิงหลินย้ายเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ ถ้ำมืดอยู่ตรงหน้าพวกเขา มันเหมือนกระเพาะปลายักษ์ตัวหนึ่งที่สามารถกินทุกอย่างในโลกได้

“กูลิกัวกัว … ” ในขณะนี้มีเสียงแปลกๆดังขึ้น ยามของเผ่าเจิ้งหกคนจู่ ๆ ก็เดินออกมา หอกของพวกเขาชี้มาที่ทีมของเฟิงหลินขณะที่ถาม

พวกเขาดุร้ายมาก ตราบใดที่ทีมของเฟิงหลินไม่ตอบ พวกนั้นก็ไม่ลังเลเลยที่จะใช้หอกแทกทันที

“จิจิ … วูวู .. นาจิ…” ยานาตอบอย่างใจเย็น คุยกับทหารยาม

ความเป็นศัตรูของทหารยามเหล่านี้หายไปทันที และพวกเขาก็ก้าวไปข้างหน้า ทำให้ทีมของเฟิงหลินสามารถผ่านไปได้

เฟิงหลินและคนอื่น ๆ คุ้นเคยกับสิ่งที่คาดไม่ถึงดี พวกเขาดำเนินการต่อไปอย่างสงบนิ่ง เคลื่อนเข้าไปยังส่วนลึกของถ้ำ

ภายในภูเขานั้นมีผลึกจำนวนนับไม่ถ้วนมองเห็นอยู่รอบ ๆ ฉากที่หรูหรานี้ทำให้ยานา อี้และคนอื่น ๆ ตื่นเต้น

อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากส่วนลึกอยู่ ที่ซ่อนทำให้พวกเขาไม่กล้าที่จะปล่อยตัวไปกับจินตนาการ

พวกเขาเพ่งความสนใจและทำให้แน่ใจว่าจะหลีกเลี่ยงสมาชิกคนอื่น ๆ ของเผ่าเจิ้ง ขณะที่พวกเขาเดินเข้าไปในส่วนลึกของถ้ำ แรงกดดันไร้รูปร่างก็ยิ่งหนัก

“ดูนั่นสิ!” เฟิงหลินชี้ไปที่ทางตันของเส้นทางปัจจุบัน มีสมาชิกนับสิบของเผ่าเจิ้งที่มีเขาบนหัวยืนคุ้มกันอยู่ กลิ่นอายพวกเขาแตกต่างจากสมาชิกทั่วไป แค่ดูก็บอกได้ว่าเป็นพวกระดับสูง

ในสภาพแวดล้อมพวกเขา ไม่มีสมาชิกสักคนกล้าเข้าใกล้

เห็นได้ชัดว่านี่คือสถานที่ที่ราชาอยู่ มันถือเป็นเขตต้องห้าม

หากพวกเขาเดินไปที่นั่น ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจะถูกฆ่า

ทีมเฟิงหลินทำได้แค่ซ่อนตัว สังเกตสถานการณ์ไปก่อน

“การป้องกันของราชาตระกูลเจิ้งจะแน่นหนามาก เราไม่มีทางลอบเข้าไปได้เลย”ทั้งห้าจ้องฉากตรงหน้า

รังนี้เหมือนรังมังกรและถ้ำเสือ มันอันตรายมาก

แม้จะผ่านไปนาน พวกเขาก็ไม่พบจุดบอด พวกเขาไม่มีโอกาสลงมือเลย

มันไม่ง่ายสำหรับพวกเขาที่จะลอบเข้าไป

“ใจเย็น ไม่ต้องรีบร้อน”เฟิงหลินสงบสุด เขาพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น”ลูกปัดผลึกวิญญาณอยู่ข้างใน มันยังเป็นเป้าหมายสุดท้ายสำหรับทีมอื่น และไม่ช้าก็เร็วก็ต้องปะทะกับเผ่าเจิ้ง เราต้องรอให้สถานการณ์เปลี่ยนและหาโอกาสลงมือ แม้จะโอกาสเดียวเพื่อล่าราชาและเวลาก็บีบรัด เราก็ไม่ควรบุ่มบ่าม”

ยานาและคนอื่นพยักหน้า พวกเขายังเข้าใจว่าพวกเขาตื่นตระหนกเกินไป

ทั้งห้าสงบสติลง ทำเหมือนนักล่ามากประสบการณ์ขณะรอให้เหยื่อทำผิดพลาด

หนึ่งวันผ่านไป

สองวันผ่านไป

สามวันผ่านไป!!
ในชั่วพริบตา พวกเฟิงหลินก็ได้ตั้งค่ายในรังมาสามวันแล้ว

ราชาเผ่าเจิ้งยังอยู่ในส่วนลึกของรัง มันดูเหมือนจะหลับลึก

ยิ่งไปกว่านั้น พวกชั้นสูงของเผ่าเจิ้งยังเหมือนหุ่นยนต์ และก็ไม่ดูเหมือนจะรู้จักเหนื่อยล้าเลย

เพียงเมื่อสมาชิกทีมของเฟิงหลินเริ่มกังวลและเกือบหมดความอดทน ความวุ่นวายก็พลันปะทุ จากด้านนอก เสียงต่อสู้สามารถได้ยิน

ดวงตาของเฟิงหลินเบิกกว้าง

“ถึงเวลาแล้ว ลงมือเลย!”