SpyingBlade มองไปที่ปากของเด็กคนนั้นและเห็นว่ามีกรดกำลังจะถูกพ่นออกมา เขากระชับปืนแน่น เกิดความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ในใจของเขา ฟางชิตบไหล่เขาเบาๆ “คุณควรจะขอบคุณเธอ …”

“ขอบคุณ …” SpyingBlade พูดใส่หลัง Cold Moon

“ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก เพียงแค่อย่าทำให้หัวหน้าผิดหวังก็พอ …” Cold Moon ตอบโดยไม่หันหลังกลับมามอง

หลังจากเก็บรวบรวมข้อมูลเสร็จแล้ว เธอจึงหันไปมองทั้งสองคน “รีบออกไปจากที่นี่กันเถอะ”

บนรถไฟขากลับ SpyingBlade นึกถึงประสบการณ์ที่เพิ่งผ่านพ้นไป เขามองไปที่ Cold Moon ผู้ซึ่งกำลังนั่งหลับตาอยู่ ‘ประสบการณ์แบบไหนกันที่เธอได้เผชิญมา จนทำให้เธอกลายเป็นคนเลือดเย็นแบบนี้ได้ ฉันจะสามารถโหดเหี้ยมเลือดเย็นได้เหมือนเธอหรือไม่? ก่อนหน้านี้ฉันเกือบจะเสียชีวิตอย่างน่าสมเพชไปแล้ว บางทีฉันอาจจะอยู่แต่ในโลกที่สงบสุขมากจนเกินไป ในตอนนี้ ฉันได้เห็นด้านมืดของโลกที่สงบสุขนี้แล้ว ฉันตระหนักได้ว่าฉันนั้นโง่เง่าเกินไป แม้แต่ฟางชิที่อายุน้อยกว่าฉันมากหลายปี ก็ยังใจแข็งและเด็ดเดี่ยวมากกว่าฉัน’

ฟางชิเก็บปืนสีเงิน “ก่อนที่จะเข้าเล่นเกม ผมเป็นคนธรรมดามากๆ ผมเป็นแค่เด็กนักเรียนมัธยมปลายที่เก่งคนหนึ่งเท่านั้น”

“เกมคืออะไร?” SpyingBlade นึกถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของฟางชิ

“หลังผ่านเหตุการณ์หายนะของเมืองเฉียงซานมาได้ ผมและน้องสาวได้ถูกส่งตัวไปยังเมืองหลินไห่ แต่ถงน้อยได้ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ถงน้อยคือสิ่งสำคัญที่สุดที่ผมเหลืออยู่ในโลกใบนี้ ก่อนที่แม่ของผมจะเสียชีวิตลง เธอได้คอยย้ำบอกกับผมเสมอว่า ให้ผมดูแลน้องสาวให้ดีๆ ผมจึงพยายามทำทุกทาง เพื่อจะหาทางรักษาอาการป่วยของน้องสาวผม จู่ๆผมก็บังเอิญรู้จักการแข่งขันในโลกใต้ดิน ซึ่งมันเรียกว่า เกม ผู้จัดการแข่งขันเป็นบอสของโลกใต้ดินคนหนึ่งที่มีชื่อว่า เกมเมอร์ เกมคือการที่ผู้เข้าร่วมการแข่งขันจะต้องเข่นฆ่ากันเอง แล้วผู้รอดชีวิตคนสุดท้ายจะสามารถเติมเต็มความฝันของพวกเขาให้เป็นจริงได้ ความจริงจะบอกว่ารางวัลเป็นเพียงแค่เงินและสถานะบางอย่างเท่านั้นก็ได้ ผมจึงตัดสินใจเข้าร่วมเล่นเกมนี้ โดยการใช้ชีวิตของผมเป็นเดิมพัน ผมฆ่าผู้คนไปเป็นจำนวนมาก แต่ทุกครั้งที่ผมฆ่าคนไป ผมก็จะรู้สึกผิดทุกครั้ง แต่ผมต้องแบกรับความรู้สึกผิดนี้ไว้ให้ได้ ผมคอยบอกกับตัวเองว่า ทุกอย่างนี้ก็เพื่อที่จะช่วยน้องสาวของผม ในสภาพแวดล้อมแบบนั้น ช่วงเวลาที่คุณทำตัวไร้เดียงสา หรือเชื่อถือใครสักคนหนึ่งนั้น มันก็คือช่วงเวลาที่คุณจะตายโดยไม่มีงานศพ ในที่สุดก็เหลือเพียงแค่ผมและเด็กหญิงตัวเล็กๆคนหนึ่ง เธอเป็นเหมือนผม เธอมาที่นี่เพื่อช่วยแม่ของเธอ … และครอบครัวของเธอ ผมคิดกับตัวเองว่า ถ้าเด็กหญิงคนนี้เป็นน้องสาวของผม และเธอก็เข้ามาในเกมโดยโยนความไร้เดียงสาของเธอทิ้งไป และยอมแพ้ความเป็นมนุษย์ของเธอ เธอต้องตัดสินใจอย่างเด็ดเดี่ยวและกล้าหาญขนาดไหน และแล้วในที่สุดผมก็ไม่สามารถฆ่าเธอได้ เธอขอร้องให้ผมใช้เงินส่วนหนึ่งเพื่อช่วยเหลือแม่ของเธอด้วย ในช่วงเวลานั้น ผมจึงถามเธอว่า ถ้าเกิดว่าเป็นเธอที่ชนะ เธอจะใช้เงินจำนวนเล็กน้อยเพื่อช่วยน้องสาวของผมหรือไม่? เธอพยักหน้าและสัญญาอย่างจริงจัง ดังนั้นผมจึงเลือกที่จะฆ่าตัวตาย เพราะผมรู้ดีว่า ถ้าผมฆ่าเธอมันก็เหมือนว่าผมได้ฆ่าถงน้อยนั่นเอง …” คำพูดของฟางชิทำให้ SpyingBlade ครุ่นคิดเป็นเวลานาน เขาจะสามารถอยู่รอดได้ในสภาพแวดล้อมแบบนั้นได้หรือไม่? เขาคิดว่าฟางชิสามารถรักษาความเป็นมนุษย์ของเขาได้ ในขณะที่ยังช่วยให้ฝ่ายตรงข้ามสามารถช่วยชีวิตครอบครัวของเธอไว้ได้อีกด้วย บางทีเขาอาจไม่เหมาะกับภารกิจการฆ่าทำลายล้างแบบนี้ ตอนนี้เขาเข้าใจความหมายของเย่ฉางแล้ว นี่คือเหตุผลที่พวกเขาได้รับเลือก? เขาถอนหายใจแต่ก็ยิ้มจางๆ ‘ผู้ชายคนนั้นช่างเป็นคนลึกลับมากขึ้นเรื่อยๆ’

ณ.บ้านพักริมทะเล

ซูหยี่ยี่ได้ใช้จ่ายเงินไปเป็นจำนวนมาก และด้วยการอนุมัติของอูนา จึงมีห้องน้ำขนาดใหญ่ถูกสร้างขึ้นมา ตอนนี้ผู้หญิงทั้งสามคนพร้อมกับเย่เทียนและถงน้อยต่างอาบน้ำอยู่ข้างในนั้น และกำลังคุยกันอย่างมีชีวิตชีวา สำหรับกลุ่มของเย่ฉาง ทั้งสามคนนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่นและกำลังดูบันทึกการแข่งขัน โดยแต่ละคนต่างชมว่าตัวเองน่ากลัวขนาดไหน

“ในวันพรุ่งนี้ เฉียงหยูจะเข้าร่วมการแข่งขันดาบ เราควรจะสอนการเคลื่อนที่ในการฆ่าให้เธอหรือไม่” จางเจิ้งเฉียงถามขณะที่ดูทีวี

“การเคลื่อนที่ในการฆ่า … ให้ฉันคิดก่อนนะ ถ้าเราสามารถปล่อยให้เธอลองใช้ ‘การบิดเกลียว’ แต่แน่นอนว่ามันจะอันตรายมากที่จะใช้การบิดเกลียวในการแข่งขันแบบนี้ งั้นอย่าเลยดีกว่า ให้เธอฝึกช่วงการสร้างรากฐานเสร็จก่อน สำหรับในตอนนี้ การพุ่ง การแทง และการฟันของเธอก็เพียงพอแล้ว ที่จะจัดการกับสถานการณ์ต่างๆได้ โดยที่เธอไม่ต้องใช้พลังแฝงการมองเห็นอนาคตของเธอเลยด้วยซ้ำ …” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย

จางเจิ้งเฉียงยักไหล่ พลังแฝงการมองเห็นอนาคต! มันเป็นความสามารถที่ดีมากๆ ส่วนความสามารถของตัวเขาเองคือ ลางสังหรณ์ ซึ่งแตกต่างจากทักษะด้านการใช้สายตา มันเป็นทักษะที่ไม่ใช้งานผ่านสายตา แต่อาศัยประสาทสัมผัสทำให้เขาได้รับรู้คำเตือนในอีก 0.3 วินาทีล่วงหน้า นอกจากประสาทสัมผัสของเขาแล้ว เขายังสามารถกระตุ้นทักษะนี้ในเส้นประสาทสมอง เพื่อให้สามารถเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย

“อาเฉียง นายได้ปลดล็อคยีนตัวที่สามของนายไปแล้ว นายจึงสามารถผ่อนและเร่งพลังได้ตามที่ใจต้องการ ยีนที่เป็นตัวล็อคที่สี่น่าจะเกี่ยวกับสไตล์การต่อสู้ของนาย ดังนั้นมันจึงสำคัญเป็นอย่างยิ่ง …” เย่ฉางอธิบาย หลินหลี่นั้นก็รู้ว่าพวกเขากำลังพูดถึงอะไรกัน แต่เนื่องจากมันต้องมีปัญหาบางอย่าง เย่ฉางจึงไม่ได้ช่วยปลดล็อคยีนให้เขา เขาถอนหายใจและถามขึ้นมาว่า “พี่ใหญ่ขาว ผมยังต้องการที่จะปลดล็อคยีนเหมือนกันนะ!”

“เอาล่ะ หลินหลี่รออีกสักสองสามวันนะ รอให้ SpyingBlade และฟางชิกลับมากันก่อน แล้วฉันจะช่วยปลดล็อคยีนแรกให้นายเอง…” เย่ฉางบอกพร้อมกับลูบหัวหลินหลี่เบาๆ ในอดีตเขาคิดว่าหลินหลี่ไม่มีพรสวรรค์ในด้านศิลปะการต่อสู้ ดังนั้นเขาจึงไม่ได้สอนหลินหลี่ แต่เมื่อตอนอยู่ในตระกูลฉิน หลินหลี่แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการเลียนแบบที่น่ากลัว และเมื่อเร็วๆนี้เขาได้รู้ว่าร่างกายของหลินหลี่ไม่อ่อนแอเท่าที่เขาคิดไว้ การควบแน่นและการควบคุมพลังซี่ของเขานั้นดีมากๆ สิ่งเดียวที่เขายังสงสัยก็คือ ทำไมเลือดของเขาไม่ได้มีผลใดๆต่อหลินหลี่เลย ‘เมื่อตอนฉันได้ใช้เลือดรักษาเขา ทำไมเขาถึงไม่มีผลข้างเคียงใดๆ … บางทีหลังจากการปลดล็อคยีนแรกให้เขาแล้ว มันน่าจะมีคำตอบ’

“อืม!” ปอยผมของหลินหลี่ตั้งขึ้นและขยับไปมาอย่างมีความสุข ในขณะที่เขายังดูทีวีต่อไป

วันถัดมา

SpyingBlade และฟางชิได้กลับมาถึงบ้านพัก พวกเขาเดินตรงไปที่ห้องของตัวเองและล้มลงนอนบนเตียง พวกเขาต่างตกอยู่ในห้วงของความคิด พวกเขานึกถึงฉากเมื่อคืนที่ผ่านมา ความรู้สึกที่ซับซ้อนมากมายเกิดขึ้นภายในใจของพวกเขา …

สโมสร Thorns and Roses

เย่ฉางตัดสินใจไปทดสอบก่อนเย่เทียน เขาเขกหัวเย่เทียนเบาๆ “เป็นเด็กก็ควรหัดรู้จักตามหลังผู้ใหญ่…”

เย่เทียนพยักหน้า ตอนแรกเธอควรจะเป็นคนที่สาม แต่ถ้าพ่อของเธอต้องการจะทดสอบก่อนมันก็ไม่เป็นไร มันไม่สำคัญว่าเธอต้องรอไปอีกวัน ตราบเท่าที่พ่อของเธอนั้นมีความสุข เธอก็ยินดีเสมอ เธอยิ้มเหมือนเด็กน้อย

ThornyRose ปลดล็อคแผนที่ แผนที่ถูกสุ่มได้ทะเลป่าไผ่ ต้นไผ่สีเขียวมรกตนับหมื่นนับพันต้น โผล่ขึ้นมาในสายลมเหมือนคลื่นทะเล

เย่ฉางเลือกใช้ตัวละครนักรบปีศาจ และยืนอยู่ที่ปลายด้านหนึ่งของสะพานไม้ไผ่ที่แกว่งไปแกว่งมา ส่วนอีกด้านหนึ่งของสะพานคือนักรบชุดเกราะสีดำที่ถือคาตานะยาว เขามีผมสีดำยาวและผูกเป็นหางม้าลากยาวลงไปถึงเอว เขามีใบหน้าแหลมคมและดวงตาดุจนกอินทรี คาตานะยาว 2 เมตรถูกแขวนไว้ในแนวนอนหลังเอวของเขา ภายใต้ชุดเกราะสีดำคือชุดนินจาที่ตึงกระชับ เขามองมาที่นักรบปีศาจและยิ้มเยาะ “คนจีน! ให้ฉันดูวิถีดาบของนาย …”

“นี่คือวิถีดาบของฉัน เข้ามาเลยพวกชาวเกาะ(ญี่ปุ่น) …” เย่ฉางพูดพร้อมกับใช้มือซ้ายจับดาบยาว ส่วนมือขวาจับดาบตรง

“การทดสอบทั้งสามครั้งนั้นยากลำบากมาก Lightless Blade, Slapping Taoist และตอนนี้ยังเป็น Instant Killer – Makuramaru เขายังเป็นแชมป์ 3 สมัย และความแข็งแกร่งของเขาก็ไร้ที่ติ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วงจังหวะการฆ่าฉับพลันของเขา เขาเป็นหัวหน้าของ Cut of Heaven เขามีทั้งคุณธรรมและความแข็งแกร่ง เขามีชื่อเสียงอยู่ในระดับโลก ไอคนชั้นต่ำอาจจะมีการต่อสู้ที่ยากลำบาก เพื่ออธิบายให้เข้าใจถึงวิถีดาบของ Makuramaru คำพูดที่ดีที่สุดก็น่าจะเป็น รวดเร็วและรุนแรง เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการฆ่าอย่างฉับพลัน…” ThornyRose มองไปที่ฝ่ายตรงข้ามและเริ่มอธิบาย

“เพื่อนของฉันจะไม่แพ้พวกชาวเกาะคนไหนทั้งนั้น …” จางเจิ้งเฉียงยิ้มกว้าง

“ถูกแล้ว!” หลินหลี่และเย่เทียนตอบพร้อมกัน ซึ่งนี่เป็นบางสิ่งบางอย่างที่ไม่ค่อยจะเกิดขึ้น