อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 469 เขาเป็นคนโง่หรือ?
จนขณะที่กู้ชูหน่วนฟื้นขึ้นมาช้าๆ สิ่งที่ประทับเข้าตาก็คือจอมมารที่เท้าคางอยู่ ลืมตาอันมีเสน่ห์สองข้างที่มีสีต่างกันมองดูกู้ชูหน่วน

เมื่อเห็นนางฟื้น ดวงตาของจอมมารก็เปล่งประการขึ้นมา สีหน้ามีดีใจจนเกินจะบรรยาย

ดวงตาคู่นั้นไม่มีการวางแผน ใสสะอาดจนไม่มีสิ่งเจือปนแม้แต่น้อย แวววับจับตากว่าดวงดาวที่สว่างที่สุดในท้องฟ้าซะอีก

“พี่สาว ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว”

แต่ละฉากก่อนหน้าที่จะสลบไม่ได้สติถาโถมไหลทะลักเข้ามาในจิตใจของนาง

กู้ชูหน่วนกวาดตามองสถานที่ที่ไม่คุ้นเคยเบื้องหน้า เอ่ยถาม “ที่นี่คือที่ไหน?”

“ภูเขาหยุนฉี ส่วนหนึ่งของเผ่าปีศาจ”

“เจ้าพาข้าออกมาหรือ? แล้วเย่จิ่งหานล่ะ พวกเจ้าสู้กันแล้วหรือ?” กู้ชูหน่วนไถ่ถามอย่างรีบร้อน ไม่กล้าจินตนาการว่าหลังจากที่ไฟโทสะของพวกเขาปะทุขึ้น จะมีคนตายมากน้อยเท่าไหร่

“เปล่า เขากลัวข้า ยอมรับความพ่ายแพ้แล้วปล่อยพวกเราออกมาอย่างเชื่อฟัง”

กู้ชูหน่วนไม่เชื่อแม้สักคำ

เย่จิ่งหานกลัวเขา?

ทั้งยังยอมรับความพ่ายแพ้อีก?

ถึงจะฝันก็เป็นไปไม่ได้

“พูดความจริง” นางกล่าวเตือน

จอมมารกล่าวอย่างเฉยเมยเล็กน้อย “ใครจะรู้ว่าเขาเป็นบ้าอะไรขึ้นมา บางทีอาจจะไม่อยากทำเรื่องวุ่นวายใหญ่โตจนดูไม่ได้เกินไปล่ะมั้ง”

กู้ชูหน่วนนิ่งเงียบไปชั่วครู่หนึ่ง

เพราะนางบาดเจ็บสาหัสเกินไป เย่จิ่งหานกลัวว่าจะทำให้การรักษาของนางล่าช้า จึงได้ปล่อยพวกเขาออกมาเองสินะ ​​

เมื่อนึกถึงเย่จิ่งหาน ในใจของกู้ชูหน่วนก็อัดอั้น

“เป็นอะไรไป ยังเจ็บแผลอยู่ใช่หรือไม่?”

ตอนนี้กู้ชูหน่วนเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าทั้งตัวของตัวเองถูกพันด้วยผ้าพันแผลเป็นชั้นๆ พันจนแทบจะเหมือนกับมัมมี่

บาดแผลทั้งหมดลึกเข้าไปถึงกระดูก นางไม่รู้ว่าซือโม่เฟยใส่ยาอะไรให้นาง แม้ว่าจะไม่เจ็บปวดขนาดนั้นเหมือนก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังเจ็บปวดเป็นอย่างมากอยู่ดี

แต่ผ้าพันแผลทั่วร่างนี้ ทำให้นางไม่มีปัญญาจะตรวจดูบาดแผลได้ แม้กระทั่งขยับเล็กน้อยตัวก็ลำบาก

กู้ชูหน่วนกล่าวด้วยความโกรธเคือง “ซือโม่เฟย เจ้ามัดข้าไว้จนเป็นเช่นนี้ คิดจะทำอะไร?”

“อ๋อ……หมอบอกว่า ท่านเลือดออกมากเกินไป อยากจะห้ามเลือดไว้ ก็ทำได้เพียงพันแผลเท่านั้น ข้ากลัวว่าพวกเขาจะพันแผลไม่ดี จึงให้พวกเขาช่วยพันให้ท่านมากขึ้นอีกสองสามชั้น”

ความคิดโมโหจนแทบตายกู้ชูหน่วนก็มีแล้ว “นี่คือสองสามชั้นหรือ? นี่มันหลายสิบชั้นแล้วไหมล่ะ?”

“แบบนี้ก็ดีมากไม่ใช่หรือ สามารถห้ามเลือดของพี่สาวได้โดยสมบูรณ์แล้ว”

“ให้ตายสิ ตอนนี้เป็นหน้าร้อน เจ้าพันแผลหลายชั้นขนาดนี้ คืออยากให้แผลของข้าเปื่อยเน่าเป็นหนองหรือไง?”

กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าตัวเองรู้จักคนโง่เช่นนี้ได้อย่างไร

จอมมารของเขานี่ได้มาอย่างไรกัน?

แค่สติปัญญาเช่นนี้ ทำไมยังมีชีวิตมาถึงตอนนี้ได้อีก?

อาการบาดเจ็บภายในของนางรุนแรงมากเป็นที่สุด ทันทีที่โมโหนี้ นางรู้สึกได้ว่าอาการบาดเจ็บภายในก็รุนแรงขึ้นไปอีก

ซือโม่เฟยตระหนักได้ในทันใด “เหมือนว่าจะใช่ หากว่าแผลใต้ผ้าพันแผลเน่าเปื่อยแล้วจะทำอย่างไร?”

“ยังจะทำอย่างไรได้อีก แน่นอนว่าต้องรีบแกะออก” นางพูดด้วยความอดทนอดกลั้น

“แต่หมอบอกว่า ทันทีที่แกะออก ก็อาจจะเสียเลือดอีกได้”

“เช่นนั้นเจ้าให้พวกเขาพันไว้สองรอบก็ได้แล้ว เพียงแค่พันอย่างเหมาะสมถูกต้อง สองรอบก็เพียงพอแล้ว”

“ก็ได้ เช่นนั้นข้าจะพันให้ท่านเอง”

“ทำไมถึงเป็นเจ้า?”

“ทั้งตัวท่านล้วนเป็นบาดแผล พวกเขาพันแผลให้ท่าน เช่นนั้นก็เห็นท่านทั้งหมดแล้ว ชายหญิงแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้น่ะ”

เจ้าลูกหมานี่

เขายังรู้ซะด้วยว่าชายหญิงแตะเนื้อต้องตัวกันไม่ได้

งั้นเขาไม่ใช่ผู้ชายหรือ?

“เจ้าหาหมอผู้หญิงมาก็ได้ เผ่าปีศาจที่สง่าผ่าเผย คงไม่ได้ไม่มีแม้แต่หมอผู้หญิงสักคนหรอกนะ?”

“เอ้อ ทำไมข้าถึงลืมไปได้นะ ให้คนมา ไปหาหมอผู้หญิงเข้ามาสองสามคน”

กู้ชูหน่วนเหลือกตาขึ้น

แทบจะสลบไปอีกครั้ง

“ฉะนั้น บาดแผลของข้าก็เป็นเจ้าพันแผลให้ทั้งหมดหรือ?”

“จะไม่ใช่ได้ไงล่ะ พันแผลอยู่นานเชียวล่ะ เอ๊ะ ทำไมพันผ้าพันแผลนี่ถึงแก้ไม่ได้ ตอนที่ข้ามัดไว้แน่นเกินไปหรือไม่ มัดตายไปโดยตรงแล้ว”

กู้ชูหน่วนปิดปาก

คุยกับคนโง่แบบนี้ นางกลัวว่าสติปัญญาจะร่วงหล่น