ตอนที่ 457: เรื่องบังเอิญ!

Crazy Leveling System

CLS ตอนที่ 457: เรื่องบังเอิญ!

 

เมื่ออี้เทียนหยุนตัดสินใจแล้ว บรรพชนเผ่าภูตก็ไม่พูดอะไรอีก แต่แสดงรอยยิ้มคลุมเครือออกมาแล้วพูดขึ้นว่า “ไม่ว่าท่านราชาภูตจะเลือดทางไหน พวกเราก็จะสนับสนุนท่าน เรื่องทั้งหมดที่นี่ ปล่อยให้พวกเราจัดการเอง ท่านไปยกพลังเข้าสู่ระดับราชาวิญญาณอย่างวางใจเถอะ”

 

อี้เทียนหยุนยิ้ม ที่เขาต้องการก็คือความรู้สึกนี้ แต่เริ่นหลงไม่สามารถทำอย่างนี้ได้ แม้อาณาจักรเทียนหลงจะมีคนที่มีความสามารถอยู่เป็นจำนวนมาก แต่จิตใจของมวลชนที่มีต่อเขานั้นด้อยกว่าอี้เทียนหยุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาที่หายตัวไปหลายปี ดังนั้นจึงจำเป็นต้องนั่งบัญชาการอยู่ในอาณาจักรเทียนหลงด้วยตัวเอง

 

หลังจากเลือกที่ตั้งเมืองหลวงแล้วเสร็จ ก็ไม่มีเรื่องของอี้เทียนหยุนอีก ขณะที่มีเวลาว่าง อี้เทียนหยุนก็มาที่ห้องฝึกฝน พร้อมกับเปิดลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุงขั้นสูงขึ้น สิทธิ์ในการสุ่มที่ได้มาเมื่อก่อนหน้า แน่นอนว่าเขาย่อมไม่ปล่อยให้เสียเปล่า

 

“เปิดให้ข้า!”

 

อี้เทียนหยุนใช้สิทธิ์ในการสุ่มอย่างรวดเร็ว วงล้อลอตเตอรี่ก็เริ่มหมุนอย่างเร็วจี๋ พร้อมกันนั้นเขาก็เปิดใช้งานโชคดีขึ้น ทำให้ค่าโชคของเขาระเบิดออกมาในทันที ก่อนหน้านี้เขายกระดับให้กับมันหนึ่งครั้ง ทำให้ค่าโชคของเขายิ่งน่าสะพรึงขึ้นไปอีก

 

ภายใต้ค่าโชคดีสูง เขาไม่เชื่อว่าจะไม่สามารถเปิดหมวดความสามารถเทวะออกมาไม่ได้! หมวดความสามารถเทวะในลอตเตอรี่รุ่นนี้เขายังไม่ได้ได้มาก่อน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเอาออกมาให้ได้ ดูสิว่าจะได้ความสามารถเทวะแบบไหนออกมา

 

แม้ว่าความสามารถเทวะที่เขามีในตอนนี้จะมาก แต่ใครจะรังเกียจที่จะมีความสามารถเทวะมากเกินไปกันล่ะ? ความสามารถเทวะนี้ แน่นอนยิ่งมีมากเท่าไหร่ยิ่งดี เมื่อถึงตอนเปิดใช้ ศัตรูของเขาจะต้องถูกโจมตีจนร่างแหลกอย่างแน่นอน

 

“ขอให้เป็นหมวดความสามารถเทวะเถิด ขอหมวดความสามารถเทวะ…..”

 

อี้เทียนหยุนภาวนาในใจ ค่าความดีของเขานั้นสูงมาก ทั้งยังบวกโชคดีเข้าไปอีก แล้วอย่างนี้ยังจะไม่ได้หมวดความสามารถเทวะอีกเหรอ?

 

อย่างรวดเร็ว วงล้อก็หมุนช้าลง จนในที่สุดเข็มก็หยุดลงตรงหมวดพิเศษ ไม่ใช่หมวดความสามารถเทวะ

 

“ไม่ได้ความสามารถเทวะจริงๆ…..”

 

อี้เทียนหยุนไม่สามารถหลบเลี่ยงความรู้สึกผิดหวังได้ ดูเหมือนว่าหมวดความสามารถเทวะนี้จะได้มายากจริงๆ ขนาดค่าความดีไม่ต่ำนะ ยังไม่สามารถเปิดหมวดความสามารถเทวะออกมาได้ง่ายๆ ไม่รู้ว่าลอตเตอรี่กำหนดอัตราสำเร็จไว้แค่ไหน แต่เขามั่นใจว่ายิ่งกงล้อระดับสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งมีโอกาสได้ไอเทมหายากต่ำลงไปเท่านั้น

 

ยังไงก็ตาม เขาก็สุ่มได้หมวดหายากเป็นอันดับสอง ซึ่งแค่นี้ก็ดีมากแล้ว

 

“ไม่รู้ว่าของที่ได้มาจะเป็นอะไร?” อี้เทียนหยุนรู้สึกตื่นเต้น ถึงยังไงนี่ก็เป็นถึงหมวดหายากอันดับที่สอง ย่อมไม่ให้ของที่น่าผิดหวังมาอย่างแน่นอน ดังนั้นเขาจึงรู้สึกคาดหวัง

 

“ติ๊ง….”

 

กล่องเล็กๆ ตกลงมาในช่องเก็บไอเทม เขารีบเปิดกล่องขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นอย่างรวดเร็ว

 

“ติ๊ง ยินดีด้วย ผู้เล่นอี้เทียนหยุนได้รับไอเทมหายาก “ผ้าคลุมเงา” สำเร็จ!”

 

ผ้าคลุมเงา : สามารถต้านทานการโจมตีจากพลังระดับราชาวิญญาณได้ 10 วินาที, คูลดาวน์ 1 ชั่วยาม

 

“ของดี!”

 

อี้เทียนหยุนร้องออกมาอย่างอดไม่อยู่ นี่เป็นเอฟเฟ็กเดียวกับผ้าคลุมเงาที่เขามีก่อนหน้า แม้เวลาจะยาวเท่ากัน แต่ความสามารถในการต้านทานการโจมตีกลับเพิ่มขึ้นขั้นใหญ่ ผ้าคลุมเงาก่อนหน้านี้สามารถต้านทานการโจมตีได้เพียงระดับผันแปรวิญญาณเท่านั้น ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่าผ้าคลุมเงาที่ได้มาทีหลังนี้ มีความสามารถในการปกป้องชีวิตดีกว่ามากแค่ไหน

 

ลอตเตอรี่รุ่นปรับปรุงขั้นสูงนี้ สมกับเป็นระดับสูงจริงๆ บางทีกระทั่งของจากหมวดจิปาถะก็อาจจะเป็นของที่ดีมาก ส่วนเรื่องจำนวนครั้งในการสุ่มก็ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากสุ่มได้หมวดจิปาถะจริงๆ มันคงจะไม่คุ้ม

 

ค่าความคลั่ง 2 ล้าน จำนวนนี้ยากจะตัดใจจริงๆ

 

หลังจากได้สมบัติชิ้นนี้มา ก็หมายความว่าเขาได้ปลดภัยขึ้น ต่อให้เผลอเข้าไปถูกกับดักอะไรเข้า เขาก็จะไม่มีปัญหา

 

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าการเข้าไปยังทางผ่านใต้พิภพในคราวนี้จะปลอดภัยขึ้น” อี้เทียนหยุนพยักหน้า พร้อมกับเดินออกจากห้องฝึกไป อย่างรวดเร็ว เขาก็พบชิเสวี่ยอวิ๋น เธอกำลังป้อนผลไม้วิญญาณให้กับเหยียนเอ๋อ เหยียนเอ๋อก็ไม่ได้มีท่าทางต่อต้านอะไร ทั้งยังกินด้วยท่าทางเอร็ดอร่อย

 

เห็นท่าทางของทั้งสอง อี้เทียนหยุนก็ยิ้มออกมา ดูแล้วราวกับเป็นแม่ลูกกันจริงๆ ยังไงก็ตาม เมื่อมองไปที่เหยียนเอ๋อ ในใจของเขาก็กระตุก เขาควรจะส่งเหยียนเอ๋อกลับรังฟีนิกซ์ก่อนดีหรือเปล่า?

 

อย่างแรกเลยนี่เป็นภารกิจ หากสำเร็จ นอกจากจะได้รางวัลแล้ว เขายังจะได้รับการสนับสนุนจากเผ่าฟีนิกซ์ด้วย ยิ่งคิดก็ยิ่งรู้สึกว่าดีกว่า ส่วนทางด้านทางผ่านใต้พิภพนั้น สามารถเอาไว้ทีหลังได้

 

หลังจากคิดอย่างกระจ่างแล้ว อี้เทียนหยุนก็เดินไปพูดตรงหน้าพวกเธอว่า “ท่านน้า ข้าคิดว่าจะส่งเหยียนเอ๋อกลับรังฟีนิกซ์ของเธอก่อน แม่ของเธอเชื่อในตัวข้า ข้าต้องส่งเธอกลับรังฟีนิกซ์”

 

“นี่ต้องพาไปส่งคืนจริงๆ เหรอ….” ชิเสวี่ยอวิ๋นมีท่าทางไม่อาจตัดใจ เพิ่งจะได้อยู่ด้วยกันเพียงแปบเดียว ก็ต้องส่งเธอกลับแล้ว นี่ทำให้เธอรู้สึกไม่อาจตัดใจได้จริงๆ

 

“ผู้อื่นเชื่อใจมอบให้ข้า ไม่ว่ายังไงก็ต้องพาไปส่งให้สำเร็จ” ก่อนหน้านี้อี้เทียนหยุนสาบานไว้ ดังนั้นไม่ว่ายังไงก็ต้องทำให้สำเร็จ ต่อให้ไม่เห็นแก่ภารกิจ เขาก็ต้องนำเหยียนเอ๋อกลับไปยังรังฟีนิกซ์อย่างแน่นอน

 

ในนั้นถึงจะเป็นสถานที่ใช้ชีวิตที่ดีที่สุดของเธอ โลกภายนอกไม่ใช่บ้านที่แท้จริงของเธอ

 

“เฮ้อ….” ชิเสวี่ยอวิ๋นถอนหายใจ จากนั้นก็ถามว่า “แล้วเจ้ารู้หรือว่ารังฟีนิกซ์อยู่ที่ไหน?”

 

“นี่ไม่มีปัญหา ข้าจะกลับมาโดยเร็ว” อี้เทียนหยุนมีวิญญาณนำทางอยู่ ดังนั้นเขาเชื่อว่าการหารังฟีนิกซ์นั้น ย่อมไม่มีปัญหาอะไร

 

หากไม่มีวิญญาณนำทาง เขาแน่นอนว่าย่อมไม่มีทางคิดถึงเรื่องนี้ แต่ในเมื่อตอนนี้มีวิญญาณนำทางแล้ว เขาก็ต้องพาเธอกลับไปส่งเป็นอันดับแรก เพราะนี่จะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ไม่เพียงแต่จะทำให้ความเชื่อใจของฟีนิกซ์เพลิงตัวนั้นสำเร็จลุล่วงแล้ว เขายังทำภารกิจสำเร็จอีก เรื่องนี้จึงมีแต่ได้กับได้

 

“ท่านพ่อ พวกเราจะไปไหนกัน?” เหยียนเอ๋อยังคงส่งผลไม้วิญญาณเข้าปากไม่หยุด

 

“กลับบ้าน” อี้เทียนหยุนมองดูเธอแล้วอดไม่ได้จนต้องยิ้มออกมา แม่หนูน้อยคนนี้เริ่มจะเป็นจอมตะกละแล้ว

 

“กลับบ้าน…..” นัยน์ตาที่ใสกระจ่างของเหยียนเอ๋อมีประกายไม่ปกติขึ้นหลายส่วน ราวกับกำลังคิดเรื่องอะไรอยู่ แต่ก็เหมือนกับไม่ได้คิดอะไร

 

สัตว์เทวะแต่ละตัวต่างก็ได้รับความทรงจำจากพ่อแม่ของพวกมัน เมื่อถึงอายุที่เหมาะสม ความทรงจำก็จะเปิดออก ดังนั้น คำพูดประโยคนี้จึงเท่ากับไปสะกิดความทรงจำในส่วนลึกของเธอ แต่ก็ไม่สามารถทำให้นึกออกในเวลาสั้นๆ

 

หลังจากจัดการเรื่องบางอย่างแล้ว อี้เทียนหยุนก็ไม่รอช้า ทันใดนั้นก็พาเหยียนเอ๋อบินออกไป เขาไม่รู้ว่าขุมอำนาจของหมิงเฉินจะมาโจมตีเมื่อไหร่ ดังนั้นเขาจึงต้องรีบทำภารกิจให้สำเร็จโดยไว เพื่อยกระดับความแข็งแกร่งของตน

 

ยังไงก็ตาม ก่อนจากมาเขาก็ได้ทิ้งมังกรยักษ์ทั้งสองไว้ เขาไม่เหลือสัตว์เลี้ยงติดตัวเลยสักตัว ต่างก็ทิ้งพวกมันไว้เพื่อคอยปกป้องที่นี่ เมื่อมีพวกมันอยู่ ต่อให้มีศัตรูที่ทรงพลังเข้ามาโจมตีก็ไม่มีปัญหา

 

หลังจากนั้นเขาก็พาเหยียนเอ๋อบินออกไป และในขณะที่บิน เขาก็เปิดใช้งานวิญญาณนำทางในทันที พร้อมกับพูดขึ้นมาว่า “พาข้าไปยังรังฟีนิกซ์!”

 

“ฟรึบ” ลำแสงเข้าห่อหุ้มตัวเขา จากนั้นเขาก็สัมผัสได้ถึงแรงดูด ที่ฉุดกระชากเขาไปอย่างต่อเนื่อง เขารีบบินตามสัมผัสนั้นไปในทันที หลังจากบินมาเป็นเวลานาน ตรงหน้าสายตาของเขาก็ปรากฏเส้นทางที่อึมครึมขึ้น รอบๆ เต็มไปด้วยป่าสีดำ ดูแล้วให้บรรยากาศน่ากลัวมาก

 

“ตรงนี้มัน คงไม่ใช่ว่า….”

 

อี้เทียนหยุนตกใจ ที่ที่เขาอยู่ในตอนนี้คงไม่ใช่ว่าเป็นทางผ่านใต้พิภพนั่นหรอกนะ!