บทที่ 299 จะไม่แต่งงานใหม

รักหวานอมเปรี้ยว

ภายในคลินิก คุณหมอกำลังจัดการแผลไหม้ที่หลังมือเปปเปอร์อยู่

มายมิ้นท์ยืนข้างๆ สองมือกำแน่น ถามด้วยสีหน้าจริงจัง “คุณหมอคะ มือเขาจะเป็นอะไรมากไหม?”

ได้ยินว่าบนมือมีเส้นประสาทเยอะมาก เธอกลัวว่าเส้นประสาทบริเวณมือเขาจะเกิดปัญหา แล้วส่งผลกระทบต่อการดูแลตัวเองในอนาคต

ถ้าเป็นแบบนั้น เธอไม่สามารถชดใช้คืนได้ ยังไงแล้วเขาก็ได้รับบาดเจ็บเพราะช่วยชีวิตเธอ

เปปเปอร์เห็นคิ้วที่ขมวดแน่นของมายมิ้นท์ รวมถึงความร้อนอกร้อนใจในดวงตา ก็เอ่ยปากเบาๆ “ไม่ต้องห่วง มือฉันไม่เป็นอะไรหรอก”

มายมิ้นท์รู้ว่าเขาจงใจพูดแบบนี้ จึงไม่สนใจเขา แค่มองคุณหมอ รอคำตอบจากคุณหมอ

คุณหมอโยนสำลีเปื้อนเลือดทิ้งไป แล้วตอบกลับ “มือคุณผู้ชายท่านนี้ไม่เป็นอะไรมาก โดนกรดกำมะถันไม่เยอะ แค่กัดกร่อนผิวหนัง รอเวลาผ่านไปให้ผิวมันเกิดใหม่ก็พอ แต่อาจจะทิ้งรอยแผลเป็น”

ได้ยินคำพูดคุณหมอ หัวใจกังวลของมายมิ้นท์ ก็กลับมาสู่สภาพเดิมในที่สุด “งั้นก็ดี”

ใบหน้าเปปเปอร์อ่อนโยนลง “เห็นไหม ฉันพูดถูก”

มายมิ้นท์กลอกตาใส่เขา

ในเวลานี้ โทรศัพท์เธอก็ดังขึ้นมา

มายมิ้นท์หยิบออกมาดู ลาเต้โทรมา

เธอไม่รอช้า หยิบโทรศัพท์เดินออกไปนอกประตูคลินิก

เมื่อครู่นี้เปปเปอร์เหลือบเห็นเบอร์ที่โทรหามายมิ้นท์ แล้วเห็นเธอจงใจไปรับสายข้างๆ การแสดงออกบนใบหน้าก็ไม่ค่อยพอใจ มือที่วางบนโต๊ะก็กำขึ้นมาทันใด

คุณหมอเห็นสถานการณ์เป็นแบบนี้ ก็ดันแว่นสายตาผู้สูงอายุ “อะไรน่ะ คุณผู้ชายคุณคลายมือสิ จู่ๆ คุณกำแน่นแบบนี้ ฉันใส่ยาให้คุณไม่ได้นะ”

เปปเปอร์ขมวดคิ้ว สุดท้ายก็คลายมือขวาที่กำแน่น

แต่สายตาเขา ยังคงจ้องที่ประตูคลินิกอย่างคลุมเครืออยู่ตลอด

ด้านนอกคลินิก มายมิ้นท์เอาโทรศัพท์แนบหู รับสายแล้ว “เต้”

“มิ้นท์ เธอไม่เป็นอะไรใช่ไหม?” ปลายสาย ลาเต้เพิ่งประชุมเสร็จออกมา ได้ยินผู้ช่วยบอกว่ามีพวกหัวรุนแรงโยนกรดกำมะถันใส่มายมิ้นท์ ทำให้เขาร้อนใจรีบโทรมาถาม

“ผู้ช่วยบอกว่าเธอโดนโยนกรดกำมะถันใส่ เป็นเรื่องจริงไหม?” สองมือลาเต้กำโทรศัพท์แน่น เสียงเต็มไปด้วยความเครียดและเป็นห่วง

มายมิ้นท์พยักหน้า “เป็นเรื่องจริง”

“แล้วเธอบาดเจ็บหรือเปล่า? บาดเจ็บตรงไหนไหม? สาหัสไหม?” ลาเต้ได้ยินเธอบอกว่าเป็นเรื่องจริง ก็ตกใจกลัวจนหัวใจแทบบินออกมา แล้วรีบถามอีกสองสามคำถาม

มายมิ้นท์ได้ยินเขายังคงเป็นห่วงตนอย่างไม่ปิดบัง ในใจก็เกิดความอบอุ่นไหลเวียน ใบหน้ายิ้มตอบกลับ “เต้ นายใจเย็นก่อน ไม่ต้องห่วงนะฉันไม่เป็นอะไร ฉันไม่ได้รับบาดเจ็บด้วย มีคนช่วยฉันไว้ ไม่งั้นฉันจะมาคุยโทรศัพท์กับนายดีๆ ได้ไงล่ะ”

ได้ยินคำพูดนี้ ทันใดนั้นลาเต้ก็โล่งอกมาก “งั้นก็ดีแล้วๆ ฉันตกใจแทบตาย!”

เขาลูบหน้าอก “จริงสิมิ้นท์ เมื่อกี้เธอบอกว่ามีคนช่วยเธอไว้ ใครเหรอ? ฉันต้องไปขอบคุณเขา ขอบคุณที่เขาช่วยเธอไว้ และช่วยโลกทั้งใบเอาไว้”

“โลกทั้งใบ?” มายมิ้นท์ส่ายหน้าอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก “นี่นายกำลังพูดอะไรน่ะ?”

ลาเต้เช็ดเหงื่อบนหน้าผากที่เมื่อครู่ไหลออกมาเพราะความร้อนใจ “ฉันไม่ได้พูดไร้สาระนะ เขาช่วยชีวิตเธอ แล้วช่วยชีวิตโลกทั้งใบเอาไว้”

ราเม็งไอ้หมอนั่นมันเป็นบ้า

ถ้าให้มันรู้ว่ามิ้นท์ได้รับบาดเจ็บจากกรดกำมะถัน มันต้องทำลายล้างโลกแน่ๆ ดังนั้นที่เขาพูดแบบนี้ถูกต้องแล้วล่ะ

มายมิ้นท์ไม่รู้ในใจลาเต้กำลังคิดอะไร แค่คิดว่าเขากำลังพูดเล่น จงใจแหย่ให้เธอดีใจ

“เอาล่ะเต้ จริงจังหน่อย” มายมิ้นท์ทัดผมข้างหู “เมื่อกี้นายถามฉัน ว่าใครช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันจะบอกนายตอนนี้ คนคนนั้นก็คือเปปเปอร์”

“ว่าไงนะ?” ลาเต้ตกตะลึง สองวินาทีต่อมาก็ยืนยันอีกครั้ง “เธอบอกว่าเปปเปอร์?”

“เขานั่นแหละ” มายมิ้นท์พยักหน้า

ลาเต้ขมวดคิ้ว “เขาไปอยู่ที่เธอได้ไง?”

มายมิ้นท์นวดขมับ “เรื่องนี้มันยาว แต่เขาช่วยฉันไว้จริงๆ ถ้าไม่มีเขา ตอนนี้ฉันต้องอยู่โรงพยาบาลแน่”

ลาเต้เบ้ปาก “ในเมื่อเขาเป็นคนช่วย งั้นก็ไม่ต้องขอบคุณแล้ว เป็นการชดใช้ของเขาที่เคยทำแบบนั้นกับเธอในอดีต”

“อย่าพูดแบบนี้ คนละเรื่องอย่าเอามาผสมกัน เมื่อก่อนเขาก็ช่วยฉันไว้สองสามครั้ง บุญคุณความแค้นระหว่างฉันกับเขามันเสมอกันมานานแล้ว เพราะงั้นครั้งนี้ที่เขาช่วยชีวิตฉันไว้ ฉันไม่ขอบคุณเขาไม่ได้” มายมิ้นท์ตอบ

ลาเต้เงียบไป

ผ่านไปสักพัก เขาก็เอ่ยปากอีกครั้ง “งั้นเธอจะขอบคุณเขายังไง?”

“ฉันไม่รู้ ถึงเวลาค่อยถามเขาดูว่าอยากได้อะไรก็แล้วกัน” มายมิ้นท์พูดพึมพำไม่แน่ใจ

ลาเต้ขมวดคิ้ว “ถ้าเขาบอกว่า จะให้เธอแต่งงานกับเขาใหม่ เธอก็จะตกลงเหรอ?”

มายมิ้นท์หัวเราะ “นายคิดว่าเป็นไปได้เหรอ? ถ้าเขาทำแบบนี้จริง ฉันทำให้มือฉันเป็นแผลเหมือนมือเขาได้ ถือเป็นการตอบแทนที่เขาช่วยฉันวันนี้ สรุปก็คือ ฉันจะไม่แต่งงานใหม่กับเขา ไม่มีวัน!”

ประโยคสุดท้ายเธอพูดจริงจังมาก

ลาเต้อึ้งไป ไม่กี่วินาทีต่อมาก็ค่อยๆ ได้สติกลับมา ยิ้มออกมา “มิ้นท์เธอเป็นคนพูดนะ ฉันจำเอาไว้แล้วนะ ถ้าอนาคตเธอเสียใจภายหลัง ฉันจะไม่ยอม”

“ไม่เสียใจภายหลังหรอก” มายมิ้นท์ยิ้มอย่างหมดหนทางขณะตอบ

ลาเต้จึงหมดห่วงในใจ ทั้งร่างผ่อนคลายขึ้น “จริงสิมิ้นท์ ที่เธอพูดเมื่อกี้ ทำให้เป็นแผลเหมือนเขา เขาบาดเจ็บเพราะช่วยเธอใช่ไหม?”

“อืม กรดกำมะถันกระเซ็นโดนหลังมือเขา แต่ไม่ค่อยสาหัสนัก ตอนนี้กำลังอยู่เป็นเพื่อนเขาใส่ยาที่คลิกนิก เดี๋ยวจะไปสถานีตำรวจ พวกชาวเน็ตที่สนับสนุนส้มเปรี้ยว มันแจ้งความแทนส้มเปรี้ยว”

“อุบ!” ลาเต้อดไม่ได้ที่จะหัวเราะฮ่าๆ เสียงดัง “ให้ตายเถอะ นี่มันทหารร่วมรบของเรา ช่วยส้มเปรี้ยวแจ้งความ กลัวส้มเปรี้ยวเข้าคุกช้าหรือไง?”

มายมิ้นท์ก็กระตุกมุมปากเช่นกัน “ก็คงงั้น เอาล่ะเต้ ไม่คุยกับนายแล้ว ฉันจะไปดูแผลเปปเปอร์หน่อยว่าจัดการเป็นยังไงบ้างแล้ว”

“ได้ รอฉันทำงานเสร็จก่อน ฉันจะไปหาเธอที่สถานีตำรวจ” ลาเต้พยักหน้า

สิ้นสุดบทสนทนาทางโทรศัพท์ มายมิ้นท์ก็วางโทรศัพท์แล้วกลับไปที่คลิกนิก

คุณหมอทายาให้เปปเปอร์เรียบร้อยแล้ว กำลังพันผ้าพันแผล

เปปเปอร์เห็นเธอเข้ามา ดวงตาเกิดประกาย “ลาเต้คุยอะไรกับคุณ?”

เขามีน้ำเสียงสามีที่จับผิด

มายมิ้นท์เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋า “ไม่มีอะไร เท่าไรคะ?”

เธอถามคุณหมอ

คุณหมอพูดจำนวนตัวเลขหนึ่งออกมา

มายมิ้นท์ถือกระเป๋าเงิน ควักเงินหยวนสองใบวางไว้บนโต๊ะ

คุณหมอพันผ้าพันแผลให้เปปเปอร์เสร็จแล้ว หยิบเงินแล้วไปหาเงินทอน

เปปเปอร์มองมือตัวเอง ลองกำดู แต่มันโดนรัดจนตึงเกินไป เขากำมือไม่ได้เลย นิ้วก็เคลื่อนไหวไม่ค่อยได้

จากเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่า วันเวลาต่อจากนี้ เขาจะใช้ชีวิตไม่ค่อยสะดวก

มายมิ้นท์เห็นดังนี้ ก็ผลุบตาลง “ที่จริงคุณไม่จำเป็นต้องช่วยฉัน”

เปปเปอร์ชะงักการกระทำที่มือ จากนั้นก็หรี่ตามองเธอ “ทำไมพูดแบบนี้?”

“เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันเลย คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงอันตรายแบบนี้เพื่อช่วยฉันไว้จริงๆ กรดกำมะถันอันตรายแค่ไหน คุณไม่มีทางไม่รู้” มายมิ้นท์สบตาเขา

เปปเปอร์เม้มริมฝีปากบาง “ฉันรู้”

“แล้วคุณยัง……”

“ก็คุณไม่เหมือนใคร” เปปเปอร์ขัดจังหวะคำพูดเธอ “สำหรับคุณ เราไม่ได้เป็นอะไรกัน แต่สำหรับฉันมันไม่ใช่ คุณคือคนที่ฉันรัก ถ้าไม่ช่วยแม้แต่คนที่ตัวเองรัก ฉันจะช่วยใครได้?”

เขาจ้องมองเธอด้วยแววตารักลึกซึ้ง

มายมิ้นท์รู้สึกว่าสายตาเขาร้อนแรงมาก มันทำให้เธอไม่ชินและอึดอัดอย่างมาก เบือนหน้าไปข้างๆ “ไม่ว่ายังไง คุณช่วยฉันไว้แล้ว บุญคุณนี้ฉันจะไม่ลืม ตราบใดที่คุณไม่พูดถึงการแต่งงานใหม่ หรือขอให้ฉันคบกับคุณ คุณต้องการอะไรก็ได้หมด”