ThornyRose เฝ้ามองในขณะที่สมาชิกทีม Happy Firmaments ค่อยๆล็อคออฟออกไป และถอยหายใจออกมา จากนั้นเธอก็เริ่มวางแผนบทบาทของทุกคน เธอต้องการกำหนดหน้าที่หลักของทุกคนให้อย่างชัดเจน บทบาทที่สำคัญที่สุดของนักดาบปีศาจคือ มือสังหารที่คอยจัดการฮีโร่แผงหลัง สำหรับในโหมดฮีโร่นั้น บทบาทของเขาอาจจะเป็นตัวฟาร์มป่า หรือไม่ก็โซโล่เลน หลินหลี่และเจ้าหมียักษ์ก็สามารถเล่นโซโล่เลนได้เช่นเดียวกัน จริงๆแล้วหลินหลี่ก็สามารถฟาร์มป่าได้ แต่ด้วยอารมณ์ของหลินหลี่ มันคงจะไม่เหมาะสักเท่าไหร่ บางทีในอนาคต ตำแหน่งของ SpyingBlade ค่อนข้างคล้ายคลึงกับเย่ฉาง แต่ตัวละครของเขาก็เอนไปในการฟาร์มป่ามากกว่า ตัวละครจอมหมัดเหล็กได้มอบให้ FrozenCloud ไปแล้ว ดังนั้นภายในทีมของเธอจึงมีผู้เล่นตัวละครแร็งค์ S เพิ่มมาอีกหนึ่งคน ถ้าตัวเธอหรือ FrozenBlood ได้ผ่านการทดสอบเลื่อนระดับ นั่นคงจะเป็นเรื่องที่ดีมากๆ เพื่อที่จะก้าวไปสู่แร็งค์ SS พวกเธอได้รับการฝึกอบรมมาเป็นเวลาสองปีแล้ว แต่พวกเธอก็ยังไม่พร้อม เธอไม่ได้หวังว่าจะได้รับการเลื่อนระดับด้วยตัวของเธอเอง เธอเพียงแต่รอโอกาสที่จะได้รับการทดสอบเลื่อนตำแหน่งเป็นคู่อยู่เท่านั้น

“เมื่อเห็นพวกเขาทั้งหมดเลื่อนระดับแล้ว ฉันรู้สึกไม่เต็มใจที่จะยอมรับเรื่องนี้ได้เลย…” FrozenBlood พึมพำ

“เพียงแค่รักษาสถานะเดิมของพวกเราเอาไว้ก่อน การทดสอบเลื่อนระดับของพวกเราจะถูกจัดขึ้นในอีกครึ่งเดือนข้างหน้า…” ThornyRose พูดอย่างช้าๆ

บ้านพักริมทะเล

“เย่เทียน พรุ่งนี้เป็นการทดสอบของเธอแล้วนะ เธอมั่นใจไหม?” เย่ฉางถาม

“อื้อ หนูจะทำให้ดีที่สุด…” เย่เทียนพยักหน้า เธอเห็นหลินหลี่ดูเหมือนกำลังทำพิธีสาปแช่งอันชั่วร้ายบางอย่าง ทำให้หัวใจของเธอขุ่นเคือง ‘เขากำลังสาปแช่งฉัน…’

วันต่อมา

ทุกคนมาเฝ้าดูการทดสอบของเย่เทียน การสอบเลื่อนระดับของตัวซัพพอร์ตจะแตกต่างจากตัวละครอื่นๆ มันเป็นการทดสอบในโหมดการต่อสู้แบบกลุ่ม สิ่งที่ทำให้ FrozenCloud หลั่งเหงื่อเย็นออกมาก็คือ ทีมฝั่งตรงข้ามของเย่เทียน พวกเขาเป็นตัวนุ๊กเกอร์ทั้ง 5 คน ที่มีสกิลการโจมตีที่รุนแรงเป็นอย่างมาก (Nuker / นุ๊กเกอร์ คือ ฮีโร่ที่มีสกิลแรงโคตรๆ สามารถเด็ดหัวฮีโร่ฝั่งตรงข้ามให้ตายได้ภายในคอมโบเดียว ไม่ว่าจะเป็นสกิลกลุ่มหรือสกิลเดี่ยวก็ตาม) ส่วนทางด้านทีมของเย่เทียน เธอมีเพียงนักดาบ 1 คน ส่วนที่เหลือนั้นเป็นตัวซัพพอร์ตทั้งหมด ถ้านับรวมเย่เทียนไปด้วย ทีมของเธอมีตัวละครซัพพอร์ตถึง 4 คนเลยทีเดียว เพียงการแข่งขันผ่านไปแค่ 1 นาที ไม่มีใครสามารถทนดูได้อีกต่อไป ด้านทีมของเย่เทียนถูกยัดสกิลใส่จนไม่เหลือแม้แต่ซากศพ

[ผู้เล่น NightSky ทดสอบการเลื่อนระดับล้มเหลว…]

“เย่เทียน ครั้งนี้ไม่ได้เป็นความผิดของเธอหรอก ถ้าจะโทษ ก็ต้องโทษทีมของเธอที่มีตัวซัพพอร์ตเยอะเกินไป… เอ่อ… และทีมฝ่ายตรงข้ามก็เป็นตัวละครทั้ง 5 ตัวที่เป็นตัวนุ๊กเกอร์ทั้งหมด…” ThornyRose ปลอบประโลมเย่เทียน

“เธอสามารถลองใหม่อีกครั้งได้ ในครั้งต่อไปนะ…” เย่ฉางพูดอย่างเฉยเมย

“ไม่ต้องรู้สึกแย่ไปหรอกนะเย่เทียน เธอยังมีโอกาสอีกเยอะ…” จางเจิ้งเฉียงก็ปลอบโยนเธอด้วยเช่นกัน ข้างหลังพวกเขาทั้งสองคน หลินหลี่พยายามปั้นหน้า และทำน้ำเสียงยียวนออกมา “เย่เทียน~ เป็นเหมือนกับเจ้าไก่น้อย~ เธอพ่ายแพ้~ เธอห่วย~” เย่เทียนกำหมัดของเธออย่างเหนียวแน่น และได้แค่กรีดร้องอยู่ภายในใจ ‘อ๊ากกกกกกก!! ไอบัดซบหลินหลี่! ทั้งหมดนี่เป็นเพราะคำสาปแช่งของแก! ไม่อย่างนั้นฉันจะได้การสุ่มแบบนี้ได้ยังไงกัน! ตัวละครทั้งหมด 5 ตัว แต่มีตัวละครซัพพอร์ตถึง 4 ตัว! ฉันจะทำอะไรได้นอกจากรอเวลาตายเท่านั้น!? มันไม่มีแผนอะไรที่จะสามารถพลิกมาชนะได้เลย เมื่อต้องมาเจอกับสถานการณ์แบบนี้…’

สัปดาห์ต่อมา ในคืนวันอังคาร นอกบ้านพักริมทะเล

บนชายหาด ไม่มีใครอยู่รอบตัวพวกเขาเป็นในระยะ 10 กิโลเมตร เย่ฉางเริ่มให้คำแนะนำแก่ SpyingBlade, ฟางชิ และหลินหลี่ในการปลดล็อคยีนครั้งแรกของพวกเขา สิ่งที่ทำให้เย่ฉางตกตะลึงและตกใจเล็กน้อยก็คือ หลินหลี่เป็นคนแรกที่ประสบความสำเร็จ และเขายังดำเนินการต่อเพื่อปลดล็อคยีนที่สองของเขาได้อย่างง่ายดายอีกด้วย พลังแฝงทั้งสองของเขาคือการคาดการณ์และพลังจิตที่เหมือนกับพลังของเย่เทียน แต่สิ่งที่น่าแปลกใจมากที่สุดสำหรับเย่ฉางก็คือ พลังจิตของหลินหลี่แข็งแกร่งมาก เขาลองให้เย่เทียนแข่งขันกับหลินหลี่โดยใช้พลังจิต และทั้งสองคนก็ต่อสู้กันตัวต่อตัว จนแม้แต่เย่เทียนก็ตะลึง ความแข็งแกร่งพลังจิตของหลินหลี่อาจจะสูงกว่าเธอ และขอบเขตจิตวิญญาณของเขาดูเหมือนจะคล้ายกับของเธอ มันเกิดอะไรขึ้น? เขาไม่ใช่มนุษย์เทียม แต่หลังจากคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ดูดีๆอีกครั้ง มันก็อาจจะเป็นเพราะว่า เขาได้รับเลือดจากพ่อของเธอ แต่เธอก็ยังรู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างถูกซุกซ่อนเอาไว้อยู่

SpyingBlade และฟางชิก็ได้ปลดล็อกยีนครั้งแรกสำเร็จเช่นกัน ด้วยคำแนะนำของเย่ฉาง ทั้งสองเริ่มคุ้นเคยกับพลังใหม่ของพวกเขา ซึ่งทำให้พวกเขารู้สึกถึงความลึกลับและความแปลกใหม่ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเข้าใจได้เพียงเล็กน้อย แต่มันกลับให้ความรู้สึกที่คุ้นเคย ราวกับว่าพวกเขาได้พบกับบางสิ่งบางอย่าง ที่พวกเขาเคยสูญเสียไปก่อนหน้านี้ ตามที่เย่ฉางอธิบายไว้ พวกเขาได้รับพลังอำนาจโดยธรรมชาติของมนุษย์ ที่ถูกปิดผนึกไว้โดยพระเจ้ากลับมาใช้อีกครั้ง นี่เป็นเรื่องที่ลึกลับมากจริงๆ

“ในตอนนี้เราสามารถพิจารณาได้ว่า พวกเรามาจากนิกายเดียวกัน ถ้าอย่างนั้นนิกายของเรามีชื่อเรียกไหม?” SpyingBlade ยิ้มออกมา

เย่ฉางไม่เคยคิดเกี่ยวกับการตั้งชื่อนิกายมาก่อนเลย เมื่อคิดดูอีกที ในตอนนี้นิกายของเรามันก็สมควรที่จะมีชื่อแล้วจริงๆนั่นแหละ เขาเห็นคำว่า ‘ราชาแห่งการปลดล็อค’ บนเสาไฟฟ้าใกล้ๆ และเกิดความรู้แจ้งขึ้นมาโดยทันที “นิกายปลดล็อค…”

“……” SpyingBlade, ฟางชิ และจางเจิ้งเฉียงมีการแสดงออกที่ซับซ้อน ทำไมพวกเขาต้องมีชื่อเสียงเหมือนกับกลุ่มโจร

“มา มา ฉันจะเป็นจ้าวนิกายเอง อาเฉียงและหลินหลี่เป็นรองจ้าวนิกาย ที่เหลือทั้งหมดจะเป็นผู้อาวุโสของนิกาย! โปรดจำไว้ว่าขณะนี้เรามีลูกศิษย์อยู่สองคน…” เย่ฉางพูดอย่างสนุกสนาน

จางเจิ้งเฉียงหยุดการแข่งขันของหลินหลี่และเย่เทียนอย่างเฉื่อยชา และพาทั้งคู่กลับไปที่บ้านพักริมทะเล เย่ฉางมองคนที่เหลืออยู่อีกสองคน “ค่อยๆสร้างรากฐานของพวกนาย เมื่อร่างกายของพวกนายแข็งแกร่งมากขึ้น พวกนายก็จะสามารถใช้พลังได้นานขึ้น พลังของพวกนายก็จะเพิ่มขึ้นตามความแข็งแกร่งของร่างกาย เมื่อพวกนายปลดล็อคยีนที่สอง Cold Moon จะให้ใครบางคนพาพวกนายไปปฏิบัติภารกิจ ดังนั้นจงระวังตัวด้วย โดยเฉพาะ SpyingBlade เธอบอกฉันเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นที่ฐานทัพแล้ว อันที่จริงแล้ว ก็ไม่ใช่ว่านายผิดหรอกที่เห็นใจพวกมนุษย์กลายพันธุ์และสิ่งมีชีวิตเทียมพวกนั้น แต่นายต้องพิจารณาถึงสถานการณ์ด้วย สถานการณ์ที่แตกต่างกันสามมารถก่อให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ฉันก็มีเพื่อนที่กลายพันธุ์ เขาโตขึ้นในสภาพแวดล้อมของมนุษย์ ดังนั้นเขาจึงเข้าใจว่าจะเป็นมนุษย์ได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม พวกที่ถูกปลูกฝังโดยองค์กรนิพพาน ต่างถูกบังคับให้ยอมแพ้ต่อหัวใจที่เป็นมนุษย์ของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาจึงไม่สามารถถือว่าเป็นมนุษย์ได้อีกต่อไป แน่นอนว่า Cold Moon … เฮ้อ ความเกลียดชังสุดขีดของเธอต่อพวกกลายพันธุ์นั้น ทำให้เธอไม่สามารถทนให้พวกมันมายืนอยู่ต่อหน้าของเธอได้ แม้ว่าจะเป็นพวกกลายพันธุ์ที่เป็นกลาง หรือพวกกลายพันธุ์ที่จิตใจดีก็ตาม เธอก็ยังคงเกลียดชังพวกเขาทั้งหมดอยู่ดี แต่อย่างน้อย เธอก็จะไม่ฆ่าคนธรรมดาอย่างแน่นอน ฟางชิอาจจะรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ดี เนื่องจากนายเป็นผู้รอดชีวิตของเมืองเฉียงซานเหมือนกับเธอ เพียงแต่ว่าเธอเป็นคนที่ไม่ได้หนีจนกว่าจะชีวิตของเธอจะสิ้นสุด เธอต่อสู้กับพวกกลายพันธุ์เพื่อปกป้องร่างกายที่กลายเป็นศพของครอบครัวเธอ ในตอนนั้นเธอมีอายุเพียงแค่ 12 ปี โดยการสูญเสียอารมณ์และการแสดงออกทั้งหมดของเธอไป ทำให้กลายเป็นผู้ตื่น! นั่นคือเหตุผลที่เธอไม่สามารถแสดงออกทางอารมณ์บนใบหน้าของเธอได้เลย”

SpyingBlade พยักหน้าช้าๆ มีบางสิ่งบางอย่างเกิดขึ้นที่เมืองเฉียงซานเมื่อ 5 ปีก่อน ซึ่งหมายความว่าตอนนี้ Cold Moon อาจจะอายุยังไม่ถึง 18 ปี! เธอเป็นเพียงแค่เด็กสาวเมื่อตอนเกิดหายนะขึ้น เขาเริ่มนึกไปถึงภาพเด็กสาวที่อ่อนแอ ที่กำลังดิ้นรนต่อสู้ด้วยชีวิตน้อยๆของเธอกับพวกกลายพันธุ์ เมื่อเทียบกับตัวเขา… เขานั้นช่างอ่อนหัดมากจริงๆ

“มีพวกกลายพันธ์ุที่ดีด้วยหรอครับ?” นี่คือสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของฟางชิมาก ทำให้คิ้วของเขาขมวดขึ้น เขาก็เป็นคนที่เกลียดพวกกลายพันธุ์มากเช่นกัน

“ใช่แล้ว ฉันจะอธิบายเรื่องนี้อยู่พอดี ‘กลายพันธ์ุ’เป็นคำเรียกโดยรวม แต่โดยทั่วไปแล้วกลายพันธุ์มีสามประเภท ประเภทแรกเป็นแบบธรรมชาติ ประเภทที่สองจะได้รับการอบรมสั่งสอน ประเภทที่สามเกิดจากตัวเร่งปฏิกิริยา เช่นยา, การทดลอง และกลายเป็นความชั่วร้าย ประเภทแรกเป็นกลายพันธุ์ดั่งเดิม โดยส่วนใหญ่จะไม่แตกต่างจากมนุษย์มากนัก หลายคนมักอาศัยอยู่ในฐานะฤาษี, นักบวช พวกเขามีความแข็งแกร่งและภูมิปัญญาที่ผิดปกติ ประเภทที่สองเป็นพวกกลายพันธุ์ที่พยายามรักษาความเป็นมนุษย์เอาไว้ แต่ส่วนมากพวกเขาถูกลบลักษณะของความเป็นมนุษย์ออกโดยองค์การนิพพาน หรือองค์กรหมื่นวิญญาณเพื่อเปลี่ยนไปเป็นอาวุธ ประเภทที่สามจัดว่าเป็นอาวุธโดยสมบูรณ์แบบ โศกนาฏกรรมของเมืองเฉียงซานเกิดจากประเภทที่สาม พวกมันเป็นพวกกลายพันธ์ุที่เกิดจากอาวุธชีวเคมีบางอย่าง ในขณะที่นักสู้กลายพันธุ์แบบเทียมขององค์กรนิพพาน ก็เข้าร่วมในการก่อหายนะครั้งนั้นอีกด้วย” เย่ฉางอธิบาย