ตอนที่ 450 ไม่อยากติดค้างเขา / ตอนที่ 451 พวกลูกยังเป็นไปได้หรือเปล่า

กับดักรักในรอยแค้น

ตอนที่ 450 ไม่อยากติดค้างเขา 

 

 

           กงจวิ้นฉือเดินเข้ามาหาฉู่เจียเสวียน ยื่นมือตบๆ หลังของเธอ 

 

 

           “เจียเสวียน คุณอย่ากังวลไปเลย” เสียงอันอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น น้ำเสียงมีความสับสนเล็กน้อย 

 

 

           “เอ่อ จวิ้นฉือ ฉันอยากจะปรึกษาคุณเรื่องนึง” หลังจากฉู่เจียเสวียนพยักหน้าพูดกับกงจวิ้นฉือแล้ว ก็ยื่นมือลากกงจวิ้นฉือออกไปนอกห้องคนไข้ 

 

 

           ประตูห้องคนไข้ปิดลง ฉู่เจียเสวียนพูดกับกงจวิ้นฉือ “จวิ้นฉือ ฉันไม่อยากติดค้างเผยหนานเจวี๋ย ช่วงนี้ฉันขอดูแลเผยหนานเจวี๋ยได้ไหม ไว้เขาหายดีแล้ว ก็เท่ากับว่าฉันชดใช้บุญคุณแล้ว ถึงยังไงเขาก็บาดเจ็บเพราะฉัน” 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรู้ว่าหากพูดกับกงจวิ้นฉือแบบนี้ เขาจะต้องลำบากใจแน่นอน แต่ว่าเธอไม่อยากติดค้างบุญคุณเผยหนานเจวี๋ยจริงๆ 

 

 

           บุญคุณของเขาหนักเกินกว่าที่จะต้องการเป็นหนี้ 

 

 

           เมื่อได้ยินคำพูดของฉู่เจียเสวียนแล้ว หัวใจของกงจวิ้นฉือทั้งหวาดกลัวทั้งดีใจ กลัวว่าในใจของฉู่เจียเสวียนยังคงมีเผยหนานเจวี๋ย ดีใจที่ฉู่เจียเสวียนยินดีที่จะบอกเล่าความคิดของเธอและใส่ใจความรู้สึกของเขา 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนเห็นว่ากงจวิ้นฉือไม่ตอบ นึกว่าเขาไม่พอใจ ดังนั้นจึงรีบพูดขึ้น “ถ้าคุณรู้สึกอึดอัด งั้นก็ช่างมันเถอะ ไว้ฉันชดใช้บุญคุณครั้งนี้ของเขาวันหลังก็ได้” 

 

 

           “ไม่เป็นไร เจียเสวียน คุณคุยกับผมได้ ผมดีใจมาก” กงจวิ้นฉือส่ายหัว มองฉู่เจียเสวียนพร้อมกับยิ้ม รอยยิ้มบนใบหน้าทำให้เห็นแล้วรู้สึกถึงสายลมแห่งฤดูใบไม้ผลิ 

 

 

           “จริงเหรอ” ฉู่เจียเสวียนพูดขึ้น แววตาที่มองกงจวิ้นฉือมีความยินดี ที่จริงเธอเป็นกังวลมากว่าเขาจะถือสา ถึงอย่างไรเธอกับเผยหนานเจวี๋ยก็เคยเป็นคนรักกันมาก่อน 

 

 

           ไม่ว่าผู้ชายคนไหนก็คงไม่เต็มใจ 

 

 

           “จริงอยู่แล้ว ผมเชื่อใจคุณ” เสียงอันอบอุ่นของกงจวิ้นฉือดังขึ้น มองฉู่เจียเสวียนพร้อมกับพูด แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม 

 

 

           เขาเชื่อใจเธอ เขารู้ว่าเธอมีความคิดของเธอเอง 

 

 

           ถ้าหากคนสองคนรักกัน ก็ควรจะเชื่อใจซึ่งกันและกันไม่ใช่เหรอ 

 

 

           ฉู่เจียเสวียนรู้สึกซาบซึ้งใจ ยื่นมือกอดกงจวิ้นฉือ หลายปีมานี้ เขาสนับสนุนอยู่เคียงข้างเธอและให้พลังแก่เธอมาโดยตลอด เธอจะไม่มีวันทำผิดต่อเขา 

 

 

           “เอาล่ะ พวกเรากลับกันเถอะ พรุ่งนี้ค่อยมาเยี่ยมเขาดีไหม” กงจวิ้นฉือเอ่ย มองฉู่เจียเสวียนด้วยสีหน้าอ่อนโยน 

 

 

           “โอเค” ฉู่เจียเสวียนตอบ บนใบหน้ามีรอยยิ้ม 

 

 

           เธอรู้ว่าเผยหนานเจวี๋ยอยู่ที่โรงพยาบาลจะต้องมีคนดูแลอย่างแน่นอน ฉะนั้นเธอจึงไม่เป็นห่วง 

 

 

           หลังจากเข้าไปดูเผยหนานเจวี๋ยแล้วก็ออกจากห้องคนไข้กับกงจวิ้นฉือ ขณะที่มาถึงหน้าโรงพยาบาลก็คิดไม่ถึงว่าจะเจอคุณแม่เผย 

 

 

           หลังจากคุณแม่เผยทราบข่าวว่าเผยหนานเจวี๋ยเกิดเรื่องและพักรักษาอยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว ก็รีบมาทันที เมื่อเธอเห็นฉู่เจียเสวียนกับกงจวิ้นฉือก็ตกใจ 

 

 

           มองดูฉู่เจียเสวียนตรงหน้านั้นช่างแตกต่างกับเมื่อสามปีก่อนมากจริงๆ บุคลิกสูงส่งสง่างามอย่างเห็นได้ชัด ความปลื้มปริ่มวูบผ่านในแววตาของเธอ เดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียน 

 

 

           เมื่อฉู่เจียเสวียนเห็นคุณแม่เผย ก็พยักหน้าตามมารยาท “คุณป้าเผย ไม่เจอกันนานเลยค่ะ” 

 

 

           “เจียเสวียน ไม่เจอกันตั้งนาน ฉันจำเธอไม่ได้เลย เธอเพิ่งไปเยี่ยมหนานเจวี๋ยเหรอ” คุณแม่เผยเดินเข้าไปหาฉู่เจียเสวียนพร้อมเอ่ย บนใบหน้ามีรอยยิ้ม 

 

 

           เมื่อเห็นกงจวิ้นฉือที่อยู่ข้างกายเธอ แววตาก็มีความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด 

 

 

           “ค่ะ คุณป้าก็ไปเยี่ยมเขาเถอะค่ะ ฉันกับจวิ้นฉือยังมีธุระ ขอตัวก่อนนะคะ” พูดจบก็ควงแขนของกงจวิ้นฉือ พยักหน้าให้เธอเดินผ่านเธอไปข้างหน้า 

 

 

           เธอไม่ได้ชอบหรือไม่ชอบคุณแม่เผย ตอนที่เธอตั้งครรภ์ เธอก็เคยทำดีกับเธอ 

 

 

           คุณแม่เผยมองดูเงาของฉู่เจียเสวียนที่ไกลออกไป ละสายตาแล้วเดินไปยังห้องของเผยหนานเจวี๋ย 

 

 

           ในห้องคนไข้ หลังจากฉู่เจียเสวียนไปแล้วเผยหนานเจวี๋ยก็ตื่นขึ้น ในขณะนี้เขากำลังนั่งอยู่บนเตียง 

 

 

           เมื่อเห็นว่าคนที่ผลักประตูเข้ามาคือคุณแม่เผย เผยหนานเจวี๋ยเลิกคิ้ว จากนั้นก็เอ่ยขึ้น “แม่ แม่มาได้ยังไง” 

 

 

           ขณะที่ถ่ายทอดสดเมื่อครู่ สิ่งที่ฉู่อีอีทำไปทั้งหมดนั้นได้แพร่กระจายไปทั่วบนอินเทอร์เน็ตแล้ว เพียงชั่วเวลาหนึ่งฉู่อีอีกลายเป็นเป้าหมายการด่าทอของคนหลายพันหลายหมื่นคน แม้ว่าเธอจะเข้าคุกไปแล้ว ผู้คนที่เลือดร้อนบางคนยังรู้สึกว่าการลงโทษของฉู่อีอีนั้นเบาบางเกินไป 

 

 

 

 

 

     ตอนที่ 451 พวกลูกยังเป็นไปได้หรือเปล่า 

 

 

           ฉู่อีอีเดิมทีเป็นเทพธิดาในใจของทุกคน แต่ตอนนี้กลับลงเอยเช่นนี้ ก็อาจกล่าวได้ว่าเธอรับผลกรรมที่เธอก่อเอง ไม่ควรค่าแก่ความเห็นอกเห็นใจ 

 

 

           “มาเยี่ยมลูกไม่ได้เหรอ ไหนแม่ดูซิว่าเจ็บแค่ไหน” คุณแม่เผยพูดพลางต้องการจะดูบาดแผลบนหลังของเผยหนานเจวี๋ย แต่ว่าเผยหนานเจวี๋ยกลับไม่ยอมให้เธอดู 

 

 

           “แม่ครับ ไม่เป็นไร” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ย แววตามีความอ่อนโยน 

 

 

           บนโลกนี้ยังมีคนที่เป็นห่วงเขาไม่ใช่หรือไง อย่างน้อยเขาก็ยังมีแม่ที่รักเขา 

 

 

           คุณแม่เผยเฝ้าดูการยืนกรานของเผยหนานเจวี๋ย ได้แต่ถอนหายใจ ลากเก้าอี้มาตัวหนึ่งแล้วนั่งลงข้างเขา 

 

 

           “ลูกดูลูกสิ ตอนนั้นก็บอกลูกแล้วว่าอย่าเข้าใกล้ฉู่อีอี ลูกก็ไม่เชื่อ ตอนนี้เป็นไงล่ะ” คุณแม่เผยเห็นสภาพของเผยหนานเจวี๋ยในตอนนี้ ในใจก็รู้สึกเจ็บปวด 

 

 

           เธอก็บอกเขาตั้งนานแล้ว ผู้หญิงอย่างฉู่อีอีจะเอาไว้ไม่ได้ เขาก็ไม่ฟัง จะต้องไปต่อให้ได้ ตอนนี้เป็นยังไงล่ะ 

 

 

           ถูกผู้หญิงคนนั้นทำร้ายจนกลายเป็นแบบนี้ ส่วนฉู่เจียเสวียนก็คบหากับผู้ชายคนอื่น 

 

 

           “แม่ ผมรู้แล้ว” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยอย่างขมขื่น เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เขาก็ได้แต่รับผลที่ตัวเองก่อไว้ เขายังจะพูดอะไรได้ล่ะ 

 

 

           เขาผิดมาโดยตลอด ผิดอย่างร้ายแรงแบบนั้น เขามีสิทธิ์อะไรขอร้องให้คนอื่นยกโทษ? 

 

 

 “ลูกน่ะ เมื่อกี้แม่เห็นฉู่เจียเสวียน เขาเปลี่ยนไปมากจริงๆ จนแม่ยังจำไม่ได้เลยนะ ก่อนหน้านี้เห็นเขาในทีวีก็รู้สึกว่าเขาเปลี่ยนไปแล้ว ตอนนี้ได้เห็นอีกทีคิดไม่ถึงว่าเธอจะกลายเป็นคนสวยขนาดนี้ ลูกเอ๊ย ลูกกับเจียเสวียนยังเป็นไปได้หรือเปล่า” คุณแม่เผยนึกถึงเรื่องที่เพิ่งเจอฉู่เจียเสวียนเมื่อครู่ก็พูดขึ้น 

 

 

ได้ยินคำพูดของคุณแม่เผย มุมปากของเผยหนานเจวี๋ยยิ้มขมขื่น ตอนนี้เขามีสิทธิ์อะไรที่จะให้ฉู่เจียเสวียนมาอยู่เคียงข้างเขา 

 

 

           เขาทำร้ายเธออย่างสาหัสแบบนี้ เมื่อนึกว่าเคยทำร้ายเธอเธออย่างล้ำลึกเพราะฉู่อีอี หัวใจของเขาก็เจ็บปวดมากจนทำอะไรไม่ถูก 

 

 

           จู่ๆ ก็นึกถึงคำพูดประโยคหนึ่ง สิ่งที่เจ็บปวดที่สุดในโลกคือการผลักดันคนที่คุณรักให้ผู้อื่นด้วยน้ำมือของคุณเอง 

 

 

           หึหึ บังเอิญว่าเขาก็คือคนนั้นที่ผลักไสเธอไป 

 

 

           สามปีก่อน เขาผลักเธอออกไปจากมือของเขาเอง ตอนนั้นข้างกายเธอมีกงจวิ้นฉือแล้ว เธอจะชอบเขาอีกได้อย่างไร 

 

 

           “แม่ เขามีแฟนแล้วนนะ” เผยหนานเจวี๋ยเอ่ยด้วยน้ำเสียงขมขื่น ความเจ็บปวดแพร่กระจายอยู่ในดวงตา 

 

 

           ตอนที่เขาเข้าใจทุกอย่างมันก็สายไปเสียแล้ว มองย้อนกลับไป คนที่เคยรักคุณไม่ได้อยู่ที่เดิมอีกแล้ว 

 

 

           “มีแฟนแล้วยังไง เจ้าลูกคนนี้นี่ ยังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอ ฟังแม่นะ เอาฉู่เจียเสวียนกลับมาเป็นเมียซะ” คุณแม่เผยพูดขึ้น แววตาเปี่ยมด้วยรอยยิ้ม 

 

 

           เมื่อก่อนเธอหัวโบราณมากเกินไป ไม่ได้ไว้หน้าฉู่เจียเสวียน แต่ว่าตอนนี้เห็นเธอโดดเด่นขนาดนี้ เธอหวังเหลือเกินว่าเผยหนานเจวี๋ยจะอยู่ด้วยกันกับเธอ 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ยได้ยินคำพูดของคุณแม่เผย ได้แต่ยิ้มไม่พูดอะไร 

 

 

           ใช่แล้ว ฉู่เจียเสวียนยังไม่แต่งงานไม่ใช่เหรอ ยังไม่แต่งงานก็แสดงว่าเขายังมีโอกาสไม่ใช่เหรอ 

 

 

           อีกอย่าง เธอคือผู้หญิงคนนั้นที่ช่วยเขาไว้ในตอนนั้น เขาเคยสาบานว่าจะดูแลเธออย่างดีชั่วชีวิต ตอนนี้เมื่อเวลาล่วงเลยไปหลายปีและได้พลาดไปหลายสิ่ง เขายิ่งติดค้างเธอเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เธอจะต้องชดใช้ให้เธออย่างงดงามถึงจะถูก 

 

 

           อีกด้านหนึ่ง หลังจากที่ฉู่อีอีถูกส่งเข้าคุกแล้ว เธอก็ร้องตะโกนอยู่ในนั้น ในเวลานี้เธอกำลังจะเป็นบ้าไปแล้ว 

 

 

           “พวกแกปล่อยฉันออกไปนะ! ปล่อยฉันออกไป!” สองมือของฉู่อีอีเกาะลูกกรง คำรามใส่คนที่เดินอยู่ในทางเดดิน ดวตาทั้งสองข้างร้องไห้จนบวมแดง ดวงตายิ่งเต็มไปด้วยสีเลือด 

 

 

           แต่ว่าต่อให้เธอตะโกนจนลำคอแหบแห้ง เสียเหงื่อจนหมดตัวก็ไม่มีใครตอบเธอสักคน 

 

 

           เผยหนานเจวี๋ย คุณช่างใจร้ายเหลือเกิน บอกจะไม่รักก็ไม่รักแล้ว 

 

 

           หรือว่าการที่เธออยู่ข้างกายเขาหลายปีนี้ เขาไม่เคยรักเธอเลยงั้นเหรอ เขาโยนเธอเข้าคุกเพียงเพราะฉู่เจียเสวียนได้อย่างไรกัน 

 

 

           ฉู่เจียเสวียน แกมันคนชั่ว ฉันจะต้องไม่ปล่อยแกแน่ ไว้ฉันออกไปแล้ว ฉันจะทำให้แกตาย ทำให้แกตาย! ฮ่าๆๆ 

 

 

           แววตาของฉู่อีอีเปี่ยมไปด้วยความเกลียดชัง มือที่จับลูกกรงนั้นกลายเป็นสีขาว