ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 375 เยี่ยนจ้าวเกอผู้ร้ายกาจ

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

บัดนี้ราชันปีศาจอัคคีนามเฉิงฮวงกำลังโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ

อีกฝ่ายวางแผนซ่อนของล้ำค่า ไม่ให้กลิ่นอายไหลออกด้านนอก นี่เป็นสิ่งที่มันคิดได้

ทว่าแม้แต่ร่องรอยก็หายไปด้วย นี่เหนือกว่าความคาดหมายของเฉิงฮวงนัก

การเข้าไปใต้ทะเลลึก ก่อให้เกิดอุปสรรคต่อการรับรู้ของเผ่าพันธ์ปีศาจอัคคีจริงๆ แต่ด้วยพลังฝึกปรือของราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวง คาดว่าถึงกั้นไว้ด้วยทะเลลึกหมื่นจั้ง คิดหาจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต ย่อมไม่ใช่เรื่องยาก

ราชันปีศาจอัคคีเปิดการรับรู้ครอบคลุมทุกสรรพสิ่ง คล้ายกับหว่านแหขนาดยักษ์ก็ไม่ปาน

ทุกๆ สิ่งรอบตัว กระทั่งสิ่งมีชีวิตทุกชนิดในท้องทะเล ต่างปรากฏในดวงตาของมัน

เยี่ยนจ้าวเกอเพิ่งประมือกับปีศาจอัคคีจุ้ยฉือมา ทำร้ายมันจนบาดเจ็บสาหัส

ราชันปีศาจอัคคีจดจำกลิ่นอายของเยี่ยนจ้าวเกอผ่านบาดแผลของจุ้ยฉือ ถึงแม้ว่าในท้องทะเลจะไม่ได้มีแค่เยี่ยนจ้าวเกอผู้เดียว แต่ขอแค่เขาโผล่ขึ้นในสายตาของเฉิงฮวง มันจะจับเป้าหมายได้ทันที

แต่ว่าตอนนี้ไม่เพียงแต่แหวนเท่านั้น แม้แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็หายไปด้วย ร่องรอยหายสาปสูญ แม้จะเป็นราปีศาจอัคคีเฉิงฮวงที่มีพลังฝึกปรืออยู่ในขั้นสุดยอด ในตอนนี้ดวงตาของมันก็ยังมองไม่เห็นสิ่งใด

ทว่าจอมยุทธ์ระดับมหาปรมาจารย์ขั้นซ่อนจิต จะซ่อนตัวจากการค้นหาด้วยจิตของเฉิงฮวงที่มีพลังเท่าจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ได้อย่างไร

ปีศาจอัคคีเป็นเผ่าพันธุ์ที่มีนิสัยใจร้อน ต่อให้เป็นราชันปีศาจอัคคีก็ไม่มีข้อยกเว้น อย่างไรก็เป็นนิสัยแต่กำเนิด

แต่มิได้หมายความว่าพวกมันไร้สติปัญญา

ตอนที่ราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงพบว่าตนหาเยี่ยนจ้าวเกอไม่พบ ขณะที่กำลังโมโหอยู่นั้น มันก็เริ่มคิดว่านี่เป็นหลุมพราง

ถ้าหากมียอดฝีมือเผ่ามนุษย์ที่มีระดับเดียวกับมันหรือใกล้เคียงอยู่ใกล้ๆ คงจะมีวิธีช่วยเยี่ยนจ้าวเกอซ่อนตัวจากมัน

นี่เป็นตัวล่อที่จอมยุทธ์เผ่ามนุษย์เตรียมไว้ เพื่อใช้โจมตีมันหรือไม่

ถึงจะเดือดดาล แต่เฉิงฮวงจำเป็นต้องคำนึงถึงความเป็นไปได้นี้

มันมาที่นี่ทันทีด้วยคามเร็วของราชันปีศาจอัคคี เยี่ยนจ้าวเกอไม่มีทางหนีพ้นขอบเขตการรับรู้ของมัน

แต่ไม่ว่าเฉิงฮวงจะหาอย่างไร ล้วนไม่พบร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอ

ความรู้สึกนี้ทำให้เฉิงฮวงหงุดหงิด ไฟโทสะยิ่งเพิ่มขึ้น

กลางทะเลลึกในตอนนี้ ก้อนน้ำแข็งก้อนหนึ่งดำลังลอยเงียบๆ ไม่ได้ลอยขึ้นสู่ผิวน้ำ กลับกันมันค่อยๆ จมลง

เยี่ยนจ้าวเกอ อาหู่ และพ่านพ่านมองทิวทัศน์ของทะเลลึกภายในน้ำแข็ง

พวกเขาไม่ได้เงยหน้าขึ้นไปมอง ไม่คิดจะดูการเคลื่อนไหวของราชันปีศาจเฉิงฮวง

การรวมกลุ่มกันของสายตา และการเพ่งของดวงตา เป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะทำให้ราชันปีศาจตัวนั้นรู้ตัว ทั้งยังเผยร่องรอยของทุกคน

‘เพราะปีศาจอัคคี ทำให้น้ำทะเลร้อนเย็นไม่เท่ากัน กลับเพิ่มความรุนแรงให้กับคลื่นใต้น้ำ ปกติไม่เร็วขนาดนี้’ เยี่ยนจ้าวเกอพยักหน้าเล็กน้อย

ขณะที่คิด เยี่ยนจ้าวเกอก็ใช้ปราณจิตราปริมาณน้อยของตน ทำให้ก้อนน้ำแข็งคงสภาพต่อ

อาหู่มองน้ำแข็งย้อยเก้าแท่งที่เชื่อมกันเป็นก้อนน้ำแข็งด้วยความประหลาดใจ

คนที่อยู่ด้านในสามารถรับรู้ถึงอุณหภูมิของสภาพแวดล้อมภายนอกได้ผ่านก้อนน้ำแข็ง

ตอนที่รับรู้ว่าอุณหภูมิของน้ำทะเลด้านนอกลูบอลน้ำแข็งค่อยๆ ตกลง เยี่ยนจ้าวเกอก็รู้ว่า พวกตนกำลังรอดพ้นจากน่านน้ำที่อาณาเขตพลังของราชันปีศาจอัคคีครอบคลุมอยู่

เยี่ยนจ้าวเกอยิ้ม ใช้ปราณจิตรากระซิบกับอาหู่ ‘เอาล่ะ ตอนนี้พูดกันได้แล้ว แต่ห้ามส่งเสียง’

อาหู่เกาศีรษะทันที กล่าวด้วยรอยยิ้มซื่อว่า ‘คุณชาย วิธีการของคุณชายอดเยี่ยมยิ่ง’

‘น้ำแข็งย้อยเก้าแท่งนี้มีชื่อว่าอะไรหรือขอรับ’

‘นี่คือวัตถุดิบที่ใช้ตกแต่งข่ายอาคมบึงน้ำแข็ง ความจริงยังสร้างไม่เสร็จดี จึงยังแสดงความสามารถที่แท้จริงออกมาไม่ได้ แต่ว่าสำหรับตอนนี้ มันช่วยพวกเราซ่อนตัวได้’

‘แน่นอนว่าใช้รับมือกับปีศาจอัคคี หรือจอมยุทธ์ซึ่งใช้ลมปราณธาตุไฟได้เท่านั้น ไม่มีผลต่อผู้อื่น’

เยี่ยนจ้าวเกอมองน่านน้ำด้านนอก ‘ต้องขอบคุณคลื่นใต้น้ำที่มีความเร็วเพิ่มขึ้น ทำให้พาพวกเราออกไปได้เร็วมากขึ้นเช่นกัน มิฉะนั้นหากอยู่ที่เดิมต่อ คงจะอันตรายแน่’

ในขณะที่พูด เขารู้สึกได้รางๆ ว่าที่ซึ่งอยู่ไกลออกไป บริเวณที่อยู่เมื่อครู่มีคลื่นพลังที่รุนแรงสุดขีดส่งมา

นั่นคือความโกรธแค้นที่ราชันปีศาจอัคคีอดกลั้นไม่ไหวอีกต่อไป พลังอันบ้าคลั่งนั้นเริ่มกวาดล้างน่านน้ำที่อยู่ใกล้ๆ อย่างดุเดือด

สำหรับการดักซุ่มโจมตีและการคุมคามที่อาจจะเกิดขึ้น สันดานของปีศาจอัคคีทำให้เฉิงฮวงไม่สนใจอีกต่อไป อย่างมากก็สู้กันสักยก

มันไม่ตามหาต่ออีก แต่เริ่มใช้พลังอันแข็งแกร่งของตัวเองปั่นป่วนมหาสมุทร สภาวะนั้นคล้ายกับต้องการทำลายทุกสรรพสิ่ง

เมื่อหาไม่เยี่ยนจ้าวเกอไม่พบ เฉิงฮวงก็คิดขุดอาณาเขตทั้งหมดตรงหน้า สิ่งที่ซ่อนตัว สิ่งที่ไม่ซ่อนตัว ล้วนถูกบดขยี้ ใช้ความได้เปรียบจากพลังอันแข็งแกร่งของตนเอง ไม่ว่าจะปลาเล็กปลาใหญ่ต่างถูกงมขึ้นมา

ถึงแม้จะไม่ทราบถึงสภาวะจิตใจของเฉิงฮวง แต่ดูจากการกระเพื่อมของน้ำด้านหลัง เยี่ยนจ้าวเกอกับอาหู่ก็พอจะเดาความคิดของราชันปีศาจตัวนั้นออก

วิธีการหยาบกระด้างยิ่ง แต่พอราชันปีศาจใช้ออกมา กลับมีแรงกดดันอย่างยิ่ง ถ้าหากพวกเยี่ยนจ้าวเกอซ่อนอยู่ที่เดิม คงยากจะหนีรอดอุ้งมือปีศาจอย่างมันได้

แต่ว่าตอนนี้…

เฉิงฮวงใช้เวลาอยู่นาน ทว่าก็ยังหาร่องรอยของเยี่ยนจ้าวเกอไม่พบ

นี่ทำให้มันอดงงงวยในขณะที่เดือดดาลไม่ได้

มันขยายอาณาเขตการโจมตีของตนเอง บดขยี้น่านน้ำรอบบริเวณอย่างต่อเนื่อง

เพราะมิอาจขวางเยี่ยนจ้าวเกอได้ในทันที มันจึงโจมตีรุนแรงขึ้น ก่อให้เกิดการทำลายล้างอันใหญ่หลวง ส่งผลให้คลื่นใต้น้ำที่รุนแรงกว่าเดิมกระจายไปทั่วสี่ทิศแปดทาง

คลื่นใต้น้ำผลักก้อนน้ำแข็งในน้ำลึกให้ออกห่างจากราชันปีศาจอัคคีที่บ้าคลั่ง ด้วยความรวดเร็วมากกว่าเดิม

ตั้งใจหาด้วยการรับรู้ของตน ก็ไม่เจอ

ใช้พลังกวาดล้างอย่างหยาบกระด้าง ก็ยังไม่เจอ

ความคับข้องใจและความโกรธแค้นในตอนนี้ของราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงทำให้มันคลั่งถึงขีดสุด ด้วยเพราะไม่มีที่ให้ระบายออก

ภายในก้อนน้ำแข็ง อาหู่รู้สึกหวาดกลัวเล็กน้อย ทั้งยังรู้สึกสมน้ำหน้า ‘ครั้งนี้ราชันปีศาจอัคคีตัวนั้นโกรธจนแทบคลั่งแน่ คุณชาย ท่านช่างยอดเยี่ยมนัก’

พ่านพ่านเอียงคอมาเลียใบหน้าของเยี่ยนจ้าวเกออย่างเอาใจ

เยี่ยนจ้าวเกอเคาะศีรษะของพ่านพ่าน กล่าวว่า ‘มันยังต้องการแหวนวงนั้นอยู่ ดังนั้นตอนแรกจึงไม่ใช้พลังกวาดล้าง เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่อแหวน วิธีการแรกสุดสมควรใช้การรับรู้คั้นหา ดังนั้นจึงเป็นโอกาสของพวกเรา’

‘ขอแค่พวกเราหลุดจากวงล้อมมาได้ มันจะอับอายกลายเป็นโทสะ คิดใช้พลังกวาดล้างทุกอย่างอีกครั้ง แต่ไม่มีประโยชน์ กลับก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำที่เคลื่อนตัวเร็วมากขึ้น ช่วยส่งพวกเราไปไกลขึ้น’

‘คุณชาย ต่อจากนี้พวกเราจะไปที่ใดกัน ทางเมืองทะเลมรกตยังมีราชันปีศาจอัคคีหลงเหลืออยู่ หากราชันปีศาจอัคคีที่อยู่ที่นี่หาพวกเราไม่เจอ พวกเราน่าจะกลับไปที่เมืองทะเลมรกตนะขอรับ’ อาหู่กล่าว

‘พวกเรายังชะล่าใจไม่ได้ หลังจากอยู่ห่างมันได้แล้ว ค่อยเผยร่องรอยอีกหนหนึ่ง เพื่อดึงดูดความสนใจของราชันปีศาจอัคคี’ เยี่ยนจ้าวเกอวางแผนอย่างละเอียดรอบคอบ

‘แต่ครั้งนี้จะอันตรายกว่าเดิม ต้องซ่อนตัวในทันทีที่เผยร่องรอย เพื่อไม่ให้โดนการกวาดล้างอย่างบ้าคลั่งจากปีศาจอัคคีตัวนั้น’

ขณะที่พูด ชายหนุ่มรู้สึกว่าด้านหลังมีคลื่นน้ำซัดมาอีก ผลักให้ก้อนน้ำแข็งเคลื่อนที่เร็วขึ้น เขาพลันหัวเราะเหอะๆ ‘นับว่าไม่ต้องพายเรือ ก็มีคนส่งไปด้านหน้า’

‘จิ๊ๆ ข้านี่ร้ายกาจจริงๆ’