ตอนที่ 43

Ranker’s Return

[เปิดใช้งาน ‘ผู้ชำนาญการต่อสู้’ แล้ว]

 

[ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[ค่าสถานะ ‘พลังงานการต่อสู้’ ทำให้ค่าสถานะของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[ปาร์ตี้อีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าคุณ]

 

[ค่าสถานะจะได้รับการเพิ่มขึ้นอีก]

 

“คลื่นพระจันทร์เสี้ยว!”

 

ลำแสงพลังงานสีฟ้าเปล่งประกายรูปทรงพระจันทร์เสี้ยวพุ่งฉีกกระชากเหล่าก็อบลิบทะเลทรายอย่างรุนแรง ยิ่งจำนวนของพวกมันมีเพิ่มมากขึ้นเท่าไหร่ พวกมันก็ยิ่งถูกฆ่าโดยคลื่นพระจันทร์เสี้ยวมากขึ้นเท่านั้น ทังอีเองก็เริ่มเคลื่อนไหวด้วยเช่นกัน สายฟ้าสามสายพุ่งผ่านไปยังพวกก็อบลินทะเลทรายอย่างรวดเร็ว อานุภาพของมันแทบไม่ต่างอะไรจากคลื่นพระจันทร์เสี้ยวของฮยอนนูเลย

 

– ปกติก็อบลินทะเลทรายโดนเล่นงานได้ง่ายขนาดนั้นเลยเหรอ?

 

– ปกติขนาดล่ากันเป็นปาร์ตี้ยังไม่เร็วเท่านี้เลย

 

– บอสใหญ่ประจำซอยไม่ได้มีแค่ฝีมือ แต่ดาบของเขาก็ยังดีมาก ๆ อีกด้วย

 

ผู้ชมที่ดูการต่อสู้ของฮยอนนูอยู่เริ่มตั้งคำถาม เขาแข็งแกร่งเกินไป มาตรฐานฝีมือของเขานั้นไม่อาจเทียบได้กับผู้เล่นเลเวลต่ำ ควรจะเทียบกับเขากับผู้เล่นเลเวลสูงผู้พาเด็ก ๆ เก็บเลเวลจึงจะเหมาะสมกว่า อย่างไรก็ตามมีผู้ชมบางส่วนได้ตั้งข้อสันนิษฐานว่าบอสใหญ่ประจำซอยอาจจะมีความสามารถในการทะลวงพลังป้องกันของศัตรูได้ และทุกคนก็ยอมรับมัน

 

– บางทีเขาอาจจะมีสกิลทะลวงพลังป้องกันก็ได้ อีกอย่างฉันคิดว่าดาบเขาอย่างน้อยก็น่าจะเป็นระดับแรร์นะ

 

– น่าอิจฉาจริง ๆ ที่มีสกิลแบบนั้น

 

– ถ้ามีสกิลทะลวงพลังป้องกันละก็ พวกกิลด์ใหญ่ ๆ จะรับเข้ากิลด์แบบไม่มีเงื่อนไขเลยละ

 

– ฉันว่าจะไปซื้อหนังสือสุ่มทักษะหน่อยดีกว่า

 

***

 

ฮยอนนูดื่มน้ำยาฟื้นฟูพลังเวทหลังจากที่ไม่ได้ใช้มันมานาน ค่าพลังเวทมนตร์ของเขาไม่ได้จัดว่าต่ำมากนัก ทว่ามันก็ยังไม่เพียงพอสำหรับการต่อสู้ที่เปรียบดั่งนรกนี้

 

“ทังอี! นายเหลือพลังเวทอีกเท่าไหร่?”

 

“เหลืออยู่อีกราว ๆ ครึ่งนึง แต่ดูเหมือนเจ้าตัวน่ารังเกียจพวกนี้จะไม่ลดจำนวนลงเลยนะ ไอ้เจ้านายท่าน”

 

ฮยอนนูและทังอีใช้เวลากว่าสามสิบนาทีแล้วในการต่อสู้กับพวกก็อบลินทะเลทราย พวกเขาต่างก็ใช้ทักษะที่มีทันทีเมื่อเวลาคูลดาวน์หมดลง อย่างไรก็ตามจำนวนของพวกมันนั้นมีมากเสียจนราวกับว่าทักษะต่าง ๆ ที่พวกเขาใช้ออกไปไม่มีผลอะไรเลย

 

‘อีกไม่นานตัวฉันก็จะเลเวลอัพแล้ว คงไม่น่าเป็นอะไรหรอก แต่พลังเวทของทังอีนี่สิ…’

 

“ทังอี! นายใช้แค่บัฟพอ เก็บสายฟ้าไว้ใช้เฉพาะตอนที่ฉันอยู่ในอันตรายเท่านั้น”

 

“เข้าใจแล้ว! ไอ้เจ้านายท่าน”

 

ฮยอนนูพุ่งกลับไปหาพวกก็อบลินอีกครั้ง ฮยอนนูเข่นฆ่าพวกมันจนเลือดสีเขียวสาดกระจายเจิ่งนองอยู่เต็มไปหมด ไม่มีอะไรหยุดฮยอนนูได้จริง ๆ เขาไล่ฆ่าพวกก็อบลินอย่างบ้าคลั่ง เลเวลของเขาใกล้จะอัพเต็มทีแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่จำเป็นต้องประหยัดพลังเวทอีกต่อไป

 

[คุณได้ฆ่าก็อบลินชาแมนแห่งทะเลทราย]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

‘เลเวลอัพแล้ว!’

 

ฮยอนนูรอข้อความแจ้งเตือนนี้มานาน เขารู้สึกได้เลยว่าพลังเวทของตัวเองกลับมาเต็มอีกครั้ง ไม่รอช้าเขารีบใช้คลื่นพระจันทร์เสี้ยวออกไปทันที มันตัดร่างกายของพวกก็อบลินนับสิบตัวออกเป็นสองส่วนและทำให้การต่อสู้ในสมรภูมินี้หยุดชะงักไปชั่วขณะ

 

‘ทังอีก็ใกล้จะเลเวลอัพแล้ว’

 

“ทังอี นายใช้เวทมนตร์เต็มที่ได้เลย!”

 

เมื่อสิ้นเสียงของฮยอนนูแล้ว แสงสว่างวาบของสายฟ้าก็พุ่งผ่านขากมือของทังอีเข้าโจมตีพวกก็อบลินชาแมนที่กำลังหวาดกลัวอยู่โดยทันที

 

“คิรุก!”

 

เสียงร้องของพวกมันยังไม่ทันจะได้ดังออกมาอย่างสุดเสียงก็ขาดหายไปพร้อมกับร่างกายเสียก่อน ก็อบลินชาแมนทั้งสามตัวต่างก็ถูกเผาจนกลายเป็นตอตะโกทั้งหมด

 

“ยิงได้เยี่ยม!”

 

***

 

ตัวละครที่ผู้เล่นบังคับในเกมนั้นไม่ใช่ร่างกายจริง ๆ ของผู้เล่น ความแข็งแกร่งของตัวละครจะแสดงผลตามค่าสถานะภายในเกมโดยตรง อย่างไรก็ตามการจดจ่อสมาธิไปยังตัวละครในเกมก็มีขีดจำกัดอยู่ ส่วนใหญ่แล้วผู้เล่นทั่ว ๆ ไปมักจะจดจ่ออยู่กับเกมได้แค่ราว ๆ 10 ถึง 30 นาทีต่อการออกล่าหนึ่งครั้งเท่านั้น ทว่าในกรณีของฮยอนนูนั้นแตกต่างออกไป เพราะว่าเขาได้แสดงความเหนือชั้นของการจดจ่อออกมาให้เห็นจากการล่าเรดบอสมังกรทะเลทรายแห่งความแปรปรวน

 

– ดูเหมือนว่าเขาคงจะล่าพวกก็อบลินได้หมดแน่ ๆ

 

– ทำไมเขาถึงสู้ได้นานขนาดนี้กัน?

 

– ถ้าเป็นฉันแค่สิบห้านาทีก็แทบจะไม่ไหวแล้ว หมอนี่มันปีศาจชัด ๆ

 

“ไอ้เจ้านายท่าน! เหลืออีกแค่ตัวเดียวเท่านั้น”

 

“ใช่แล้วทังอี! อีกแค่ตัวเดียวก็จบแล้ว”

 

การต่อสู้ของฮยอนนูและทังอีใกล้จะสิ้นสุดลงแล้ว ฝ่ายตรงข้ามเหลือเพียงแค่ตัวเดียวเท่านั้น อย่างไรก็ตามทั้งฮยอนและทังอีต่างก็ใกล้จะถึงขีดจำกัดแล้วด้วยเช่นกัน พวกเขาเข่นฆ่าพวกก็อบลินทะเลทรายมาจะเกือบครบชั่วโมงแล้ว พื้นที่ที่พวกเขายืนอยู่ตอนนี้เจิ่งนองไปด้วยเลือดของพวกก็อบลินจำนวนมาก

 

“คิรุก! คิรุก!” ฮ็อบก็อบลินตะโกนใส่ฮยอนนู บางทีมันอาจจะกำลังโกรธที่พรรคพวกทั้งหมดถูกฆ่าตายก็ได้ อย่างไรก็ตามฮยอนนูไม่ได้สนใจมันมากนัก ตอนนี้เขาอยากจะพักเต็มแก่แล้ว

 

‘แค่ฉันล่าเจ้านี่เสร็จก็จะได้พักแล้ว’

 

ด้วยจิตใจที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความต้องการอยากจะพักฮยอนนูรีบพุ่งเข้าหาศัตรูโดยทันที การเคลื่อนที่ของเขาในครั้งนี้เหนือกว่าที่ผ่าน ๆ มา ค่าพละกำลังของเขาเกิน 400 ไปแล้วเนื่องจากผลของเซตไอเทมแห่งยักษ์ และนั่นทำให้เขาแทบไม่ต้องกังวลกับการต่อสู้เลย

 

“คิรุก!!!” ฮยอนนูสร้างบาดแผลให้แก่ฮ็อบก็อบลินไปทั่วร่าง แต่ถึงอย่างนั้นมันก็ยังพุ่งเข้าใส่ฮยอนนูโดยไม่สนใจว่าเลือดกำลังไหลออกมาจากบาดแผลของมัน

 

ฮยอนนูใช้ดาบยาวปลายมนของเขารับมือกับฮ็อบก็อบลิน เขาใช้ประโยชน์จากการที่มันบุกเข้ามาหาโดยเหวี่ยงดาบยาวปลายมนไปครั้งหนึ่งเพื่อทำลายสมดุลของร่างกาย ก่อนจะอาศัยจังหวะที่มันชะงักปล่อยพลังงานจากดาบออกมาโจมตี ช่วงสุดท้ายของการต่อสู้ดำเนินมาถึงแล้ว มันผ่านไปได้อย่างราบรื่นและไม่มีปัญหาติดขัด รูปแบบการต่อสู้ของฮยอนนูในครั้งนี้ดูดุเดือดและรุนแรงมากกว่าครั้งไหน ๆ

 

ไม่นานนักเสียงชุดเกราะของฮ็อบก็อบลินที่กำลังแตกออกก็ดังขึ้น สัญญาณยุติการต่อสู้ในครั้งนี้ดังขึ้นแล้ว ร่างกายของมันในตอนนี้ไร้ซึ่งเครื่องป้องกันใด ๆ

 

‘มันจบแล้ว’

 

ฮยอนนูพุ่งเข้าไปอีกครั้ง เขาเร่งความเร็วของตนจนถึงขีดสุด พลังงานดาบขนาดมหึมาวาดผ่านร่างของฮ็อบก็อบลินไปพร้อมกับสัญญาณชีพของมันที่หลุดลอยในทันที

 

[คุณได้ฆ่าฮ็อบก็อบลินแห่งทะเลทราย]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

– ว้าว! บอสใหญ่ประจำซอยนี่สุดยอดไปเลยจริง ๆ

 

– ยอดเยี่ยมมาก!

 

– ทำได้ดีมากบอสใหญ่ประจำซอย

 

– ผู้คลั่งไคล้บอสใหญ่ประจำซอย บริจาคให้คุณ 333 โกล์ด

 

– แฟนคลับบอสใหญ่ประจำซอย บริจาคให้คุณ 777 โกล์ด

 

การหาทางออกจากดันเจี้ยนอันยาวนานถือว่าผ่านไปได้ด้วยดี แม้ว่าตอนจบมันจะดูวุ่นวายไปบ้าง ทว่าสุดท้ายการสตรีมของเขาก็ผ่านไปอย่างราบรื่นและฮยอนนูก็ยังได้รับโกลด์คอยน์อยู่ดี

 

“ทุกคนครับ ในที่สุดผมก็ผ่านดันเจี้ยนนี้จนได้ สตรีมครั้งต่อไปของผมจะเป็นวันศุกร์เหมือนกับอาทิตย์ที่แล้ว ไว้เจอกันครั้งหน้านะครับ”

 

– บอสใหญ่ประจำซอยนี่ลุยงานหนักจริง ๆ

 

– อยากจะให้วันศุกร์มาถึงเร็ว ๆ จัง

 

และแล้วการสตรีมครั้งที่สามก็จบลง

 

***

 

มีคำถามที่ว่าใครจะได้รับผลกระทบหนักสุดเมื่อการสตรีมของฮยอนนูเริ่มจะโด่งดัง คำตอบที่ได้นั้นไม่ใช่พวกกิลด์ใหญ่ ๆ แต่เป็นสตรีมเมอร์ที่มีชื่อเสียงคนอื่น ๆ ต่างหาก กิลด์ใหญ่ ๆ ต่างก็มีรายได้มากมาย ดังนั้นจึงทนได้แม้การสตรีมของพวกเขาจะเริ่มเสื่อมความนิยมลงก็ตาม ทว่าสำหรับพวกสตรีมเมอร์นั้นต่างออกไป โกลด์คอยน์ที่ได้จะเพิ่มขึ้นหรือลดลงนั้นขึ้นอยู่กับจำนวนสปอนเซอร์เป็นสำคัญ

 

เทียนฮูสตรีมเมอร์ผู้โด่งดังของจีนคือหนึ่งในสตรีมเมอร์ที่มีรายได้ส่วนใหญ่มาจากสปอนเซอร์ล้วน ๆ

 

“ถ้างั้นคุณจะยกเลิกสปอนเซอร์เหรอครับ?”

 

“เราต้องการที่จะถอนโฆษณาที่เคยแทรกเอาไว้ในสตรีมของคุณทั้งหมดครับ”

 

“ผมเคยบอกว่าผมไม่ต้องการเงิน แค่โฆษณาก็พอ ผมเคยพูดแบบนั้นเอาไว้ไม่ใช่เหรอครับ?”

 

ในตอนที่เทียนฮูพูดจบนั้นเอง โฮเล่ยผู้เป็นประธานบริษัทปอร์เช่สาขาหนึ่งของจีนก็เริ่มเอ่ยปากอธิบายว่า “นั่นก็เป็นไปตามที่ผมพูดเมื่อกี้นี้ คำตอบของทางบริษัทออกมาแล้วว่าคุณบอสใหญ่ประจำซอยนั้นมีภาพลักษณ์เหมาะกว่าคุณเทียนฮูครับ”

 

การประกาศอย่างชัดเจนของโฮเล่ยทำให้เทียนฮูถึงกับต้องหลับตาลง

 

“ถ้างั้นวันนี้ผมคงต้องขอตัวก่อน หวังว่าเราจะได้เจอกันใหม่ในโอกาสหน้านะครับ”

 

เทียนฮูแตะใบหน้าของตัวเองเบา ๆ เพื่อไม่ให้สีหน้าบึ้งตึงของเขาปรากฏออกมาให้เห็น และเมื่อโฮเล่ยออกจากออฟฟิศไปแล้ว เทียนฮูก็ระเบิดอารมณ์ของเขาออกมา “ฉันมันเป็นตัวอะไรกัน? จะดีกว่าบอสใหญ่ประจำซอยไม่ได้เลยเหรอ? ฉันไม่เหมาะเท่าเขาสินะ? ถึงได้มาหาแล้วพูดเรื่องบ้า ๆ แบบนี้?!”

 

หลังจากตะโกนออกมาแล้วเทียนฮูก็หยิบสมาร์ทโฟนออกมาแล้วโทรหาใครบางคน “หลิวใช่ไหม? นี่ฉันเอง”

 

“พี่เทียน? โทรหาผมมีเรื่องอะไรเหรอครับ?”

 

“นายมีเวลาว่างไหมวันนี้? มาเจอกันหน่อยสิ”

 

“ถ้าพี่เรียกผมแบบนี้ยังไงผมก็ต้องไปอยู่แล้วครับ”

 

“ได้ ถ้างั้นเดี๋ยวฉันจะให้เวลาและสถานที่ไปนะ”

 

“ได้เลย ไว้เจอกันนะครับ”

 

“บอสใหญ่ประจำซอยสินะ? ฉันจะรอดูว่านายจะรับมือได้นานขนาดไหนเมื่อต้องอยู่ต่อหน้าเกาลูน”

 

ชายที่เทียนฮูโทรหาเมื่อกี้นี้มีชื่อว่าหลิวเซย เขาเป็นหนึ่งในสมาชิกระดับสูงคนสำคัญของสมาพันธ์เกาลูนที่โอ้อวดตัวเองว่ามีสมาชิกมากที่สุดในเกมอารีน่า

 

“รอก่อนเถอะ บอสใหญ่ประจำซอย!”