บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 630

“ได้ค่ะ”

เมเดลีนเดินตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปด้วยท่าทีที่สง่างาม

เมื่อเดินผ่านเจเรมี่ เธอหยุดเดินและตั้งคำถามที่เหน็บแนมกับเขา “นี่เรียกว่าความเชื่อใจที่นายมีให้อย่างนั้นเหรอ?

มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยในขณะที่หัวเราะเบา ๆ ภาพรอยยิ้มที่บานสะพรั่งของเธอสะท้อนเข้ามาในดวงตาของเจเรมี่ มันทำให้เข้าถึงนึกถึงกุหลาบแดงที่บานสะพรั่ง สวยงาม ไหลไปตามอารมณ์ และบางครั้งก็เปิดเผยเข้าถึงง่ายในแบบของตัวเอง

อีวอนราวกับกำลังแหวกว่ายอยู่ในสายธารแห่งความปีติยินดีอย่างลับ ๆ ในขณะที่เห็นว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจพาตัวเมเดลีนขึ้นรถไป

คาเลนกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งราวกับได้ยกภูเขาทั้งลูกออกจากอก เมื่อเห็นว่าเจเรมี่กำลังจะเดินออกไป เธอเข้าไปห้ามปรามทันที

“ตอนนี้ลูกคงจะเห็นตัวจริงของมันแล้วใช่ไหม เจเรมี่? ลูกเองคงจะรักผู้หญิงอย่างมันไม่ลงอีกแล้ว แม่พูดถูกไหม? ในอดีตพวกเรารวมตัวกันใส่ร้ายและทรมานมัน แล้วจะทำไม? ตระกูลวิทแมนไม่ได้ติดหนี้บุญคุณอะไรมันสักหน่อย มันสมควรโดนแล้ว!”

เจเรมี่ไม่อยากจะเสวนากับคาเลนอีก เขาเดินออกไปอีกครั้ง

“จะไปไหนน่ะลูก เจเรมี่? นี่คงไม่ได้จะไปแก้ต่างแทนนังผู้หญิงคนนั้นใช่ไหม?!”

“ผมอยากอยู่คนเดียว” เขาเอ่ยออกมาอย่างเย็นชา และเดินจากไปโดนไม่หันหลังกลับมามอง

เนื่องจากกลัวว่าจะทำให้เจเรมี่โกรธ อีวอนจึงกลับมาสร้างความสัมพันธ์อันดีกับคาเลนทันทีที่เขาเดินจากไป “อย่าโกรธไปเลยค่ะ คุณป้าคาเลน เจเรมี่รักเมเดลีนมาก มันก็สมเหตุสมผลแล้วนี่คะที่เขาจะรู้สึกแย่แบบนี้ ปล่อยให้เขาอยู่คนเดียวสักพักเถอะค่ะ”

คาเลนรู้สึกขุ่นเคือง แต่ยั้งปากเอาไว้ทัน

เมเดลีนถูกนำตัวมาที่สถานีตำรวจ และเจเรมี่ก็ไม่ได้กลับบ้านเลยนับตั้งแต่ตอนนั้น

อีวอนหาข้ออ้างที่จะอยู่เป็นเพื่อนคาเลน ดังนั้นเธอจึงอยู่ที่วิลล่าทั้งคืน

เมื่อเห็นผู้ดูแลสาวเข็นรถเข็นของนายท่านอาวุโสวิทแมนมารับประทานอาหารเย็นที่ห้องอาหาร อีวอนเงยหน้าขึ้นไปมองหน้านายท่านอาวุโสที่กำลังมองเธอด้วยสายตารังเกียจ

เธอตอกกลับสายตานั้นไป ‘รอก่อนเถอะ คืนนี้ฉันจะกล่อมแกนอนหลับฝันดีเลย ไอ้แก่!’

ชายชรามองกลับไปอย่างขุ่นเคืองก่อนที่จะขยับริมฝีปาก “เมเด… ลีน…”

เขาเอ่ยออกมาเป็นชื่อของเมเดลีนชัดเจนแม้ว่าจะพยายามอย่างยากลำบาก

การออกเสียงเริ่มชัดเจนมากกว่าเมื่อตอนกลางวัน ชายแก่คนนี้คงต้องจากโลกนี้ไปโดยไวเสียแล้ว!

ในขณะที่อีวอนกำลังคิดเรื่องนี้อยู่เพลิน ๆ เสียงไม่พอใจของคาเลนก็ดังขึ้น “เลิกเรียกชื่อเมเดลีนสักทีจะได้ไหมคะ ผู้อาวุโส นังนั่นถูกตำรวจจับไปเรียบร้อยแล้วค่ะ มันสารภาพออกมาหมดเปลือกว่ามันเป็นคนที่ทำร้ายฉัน! มันยังขโมยของมีค่าของฉันไปด้วย ฉันจะต้องทำให้มันนอนกินข้าวแดงในคุกไปตลอดชีวิตแน่!”

ท่าทีของชายชราเปลี่ยนไปอย่างมากหลังจะเธอพูดจบ “ไม่…”

เขาพยายามพูดออกมาให้เป็นคำอย่างยากลำบาก “ไม่ใช่… เมเดลีน!”

อีวอนใจเต้นไม่เป็นส่ำด้วยความกลัวที่ว่านายท่านอาวุโสจะพูดออกมาเป็นคำ เธอจึงสั่งผู้ดูแลให้พาตัวนายท่านอาวุโสออกไปทันที

คาเลนไม่สนใจอยู่แล้ว และตอนนี้ทั้งเจเรมี่และวินส์ตันเองก็ไม่อยู่บ้าน ไม่มีอะไรที่เธอจะต้องกลัว

หลังจากรับประทานอาหารมื้อเย็นเสร็จ อีวอนรออย่างใจจดใจจ่อ จนกระทั่งถึงตอนดึกสงัด เธอแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าที่เคยใส่ไปบ้านพักคนชรา ตอนที่ปลอมตัวเป็นเมเดลีน แม้ว่าเธอจะถูกจับได้ แต่ด้วยวิกผมปลอมและหน้ากากอันนี้ เมเดลีนก็จะกลายเป็นแพะรับบาปแทนเธออีกครั้ง

เมื่อสังเกตเห็นว่ากล้องวงจรปิดหยุดทำงานเรียบร้อยแล้ว อีวอนเดินไปปิดไฟทั้งหมดเพื่อให้แน่ใจ ขณะย่องเข้าไปในห้องของนายท่านอาวุโส

เมื่อแน่ใจแล้วว่านายท่านอาวุโสนอนหลับอยู่บนเตียงและมีเสียงกรนดังขึ้น เธอหยิบหมอนแล้วกดเข้าไปที่หน้าของนายท่านอาวุโส

“ตายซะเถอะ ไอ้แก่! ฉันอยากรู้จริง ๆ ว่าแกจะยังมีปัญญาพูดอะไรได้อีกไหมถ้าแกตายไปแล้ว!”

เธอยิ้มเยาะราวกับฆาตรกรและกดหมอนแรงขึ้น

จากนั้น ไฟทั้งหมดสว่างขึ้น!