บทที่ 199 คนจนก็คือคนจน(1)
เมื่อวินาทีที่เย่เฉินสร้อยข้อมือแบบสมาร์ทปลดล็อกแอสตันมาร์ตินONE77 ทุกคนในที่เกิดเหตุต่างก็ตะลึง
ทุกคนอุทานในใจว่า แอสตันมาร์ตินONE77คันนี้ เป็นของเย่เฉินจริงๆด้วย
เกาจวิ้นเว่ยก็อึ้ง นี่เกิดอะไรขึ้น?
เย่เฉินไม่ใช่เป็นแค่ลูกเขยสวะแต่้งเข้าหรือ?
เขาจะซื้อรถราคาแพงขนาดนี้ได้ยังไง?
จางเจวียนยิ่งตะลึง “นี่…นี่เป็นเรื่องเหลือเชื่อมาก ผู้ชายคนนี้ที่ต้องให้ผู้หญิงเลี้ยง มีปัญญาซื้อแอสตันมาร์ตินONE77ด้วยหรือ?”
เวลานี้เย่เฉินพาเธอ มาตรงข้างประตูที่นั่งด้านข้าง พร้อมยิ้มพูดว่า “ที่รัก ขึ้นรถเถอะ ผมจะพาคุณไปกินลมชมวิว”
เซียวชูหรันถามด้วยสีหน้าแปลกใจว่า “รถคันนี้เป็นของคุณจริงๆหรือ?”
เย่เฉินพยักหัว พร้อมพูดว่า “แน่นอน กุญแจก็อยู่ตรงนี้ ผมจะโกหกคุณหรือ?”
พูดจบ เย่เฉินรีบพูดกระซิบข้างหูเธอว่า “ที่รัก ที่จริงรถคันนี้ฉินกางให้ผมยืมมาขับเล่น บอกว่าให้ผมลองขับดู เมื่อกี้ผมตั้งใจอวดต่อหน้าเกาจวิ้นเว่ย คุณอย่าเปิดโปงผมนะ”
เดิมเย่เฉินก็ไม่ค่อยสนใจรถที่โอ้อวดเกินไปสองคันนี้ วันนี้หากไม่ใช่เพราะหวังเต้าคุนบอกว่าภรรยาอยู่ที่นี่ เขาไม่อยากแม้แต่จะมาเอารถสองคันนี้
อีกอย่าง เขาก็รู้นิสัยภรรยาดี รถแบบนี้ เธอไม่ยอมที่จะขับออกมาเป็นประจำทุกวันแน่ นั่นเป็นการโอ้อวดมากเกินไป
ดังนั้นเขาจึงพูดโกหกออกไปแบบนั้น หลังจากพาภรรยาไปสัมผัสแล้ว ค่อยขับรถกลับมา ยกทั้งสองคันให้หลี่โม่คนนั้นดูแลต่อไป
เซียวชูหรันค่อยเข้าใจ ในขณะเดียวกันก็ค่อยโล่งอก
เธอก็กลัวว่าเย่เฉินจะโกหกคนพวกนั้นไปมากกว่านี้ และยิ่งพูดโกหกเรื่องก็จะยิ่งไปกันใหญ่ แบบนั้นอาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมาภายหลังได้
ในเมื่อคนอื่นให้เขายืมรถเพื่อลองขับเล่นๆ อย่างนั้นตนเองก็ไม่ต้องกังวลอะไรมากแล้ว
คิดถึงตรงนี้ ในใจเธอค่อยโล่งอก และก็อยากรู้อยากเห็นแอสตันมาร์ตินONE77คันนี้มาก
ถึงแม้เซียวชูหรันจะไม่ใช่ผู้หญิงที่รอบมาก แต่รถสปอร์ตหรูขนาดนี้ เธอก็ยังคงอยากที่จะเข้าไปลองนั่งสักครั้ง
ดังนั้นเธอจึงค่อยๆโน้มตัวลง เข้าไปนั่งในรถแอสตันมาร์ตินONE77สุดหรูคันนี้
เย่เฉินไม่รีบร้อนที่จะเข้าไปนั่ง หันไปมองเกาจวิ้นเว่ยกับจางเจวียนที่มองจนอึ้งอยู่นั้น แล้วหัวเราะเยาะพร้อมพูดขึ้นว่า “คนจนก็คือคนจน กลับไปเก็บเงินก่อนแล้วค่อยมาอวด จะได้ไม่ต้องอับอายขายขี้หน้า”
พูดจบ แล้วก็ขี้เกียจที่จะดูสีหน้าเศร้าโศกของพวกเขา เข้าไปนั่งในรถอย่างเก๋ไก๋ แล้วก็กดสวิตช์สตาร์ทเครื่องยนต์
ทันใดนั้น เสียงเครื่องยนต์อันทรงพลังของรถสปอร์ตดังกึกก้องไปทั่วห้องโถงนิทรรศการ
เซียวชูหรันเองก็ไม่เคยขับรถหรูระดับนี้ นั่งอยู่ตรงที่นั่งคนขับ กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น จับพวงมาลัยไว้อย่างตื่นเต้น แล้วก็สตาร์ทรถ
รถหรูชั้นนำแอสตันมาร์ตินONE77 ขับออกไปอย่างช้าๆภายใต้สายตาของทุกคน ขับรถลงมาจากทางลาดอีกด้านหนึ่งของเวที
ออร่าที่แรงกล้า ทำให้เกิดความรู้สึกระทึกขึ้นมาทันที
เกาจวิ้นเว่ยนิ่งอึ้งไป รถคันนี้เป็นของไอ้คนจนคนนั้นจริงๆหรือ? นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่
สีหน้าจางเจวียนก็ขาวซีด หากรถสองคันนี้เป็นของเย่เฉิน งั้นเมื่อกี้ตนก็ได้ล่วงเกินเขาไปแล้วอย่างรุนแรง?
เธอบ่นพึมพำขึ้นอย่างอดทนไม่ไหวว่า “นี่ไม่น่าเป็นไปได้ เขาเป็นเขยสวะแต่งเข้าของตระกูลเซียวไม่ใช่หรือ? ไปเอากุญแจรถมาจากไหน?”
ยังไงเกาจวิ้นเว่ยก็ยอมรับไม่ได้ ว่าเย่เฉินมีปัญญาซื้อรถแอสตันมาร์ตินONE77คันนี้ได้จริงๆ เขากัดฟันพูดขึ้นว่า “คนจนคนนั้น จะต้องขโมยกุญแจมาอย่างแน่นอน”
ผู้จัดการหลี่โม่ได้ยินประโยคนี้แล้ว ในใจโกรธเคืองอย่างมาก คนโง่สองคนนี้ ยังกล้าละเมิดล่วงเกินอาจารย์เย่? รนหาที่ตายจริงๆ
เข้าหันหน้าไปมองเกาจวิ้นเว่ยกับจางเจวียน พร้อมพูดขึ้นด้วยความโกรธว่า “ล่วงเกินอาจารย์เย่ แล้วยังกล้ามาเห่าที่นี่”
พูดเสร็จ แล้วก็หันไปสั่งบอดี้การ์ดว่า “ลงมือให้หนักๆ”
เกาจวิ้นเว่ย โดนสามหมัดสองเท้าของบอดี้การ์ดโจมตีจนล้มลงนอนกับพื้น จากนั้นก็ถูกดึงกระชากผมบนหัว ตบหน้าอย่างรุนแรง ไม่นานก็ถูกตบจนหน้าปูด