ตอนที่ 408 เย่เซิ่งเทียนตายแล้ว
แววตาของเฉิงเทียนกุ้ยเปลี่ยนเป็นเย็นชา เขาไม่คิดว่าเย่เซิ่งเทียนจะไม่รู้จักผู้หลักผู้ใหญ่มากขนาดนี้ ปฏิเสธกระทั่งความหวังดีจากเขา แล้วยังกล้าหักหน้าเขาต่อหน้าทุกคนอีก
หยวนเวินจินพยักหน้า รับรู้คำสั่งของเฉิงเทียนกุ้ย
ในความคิดของทุก ๆ คนนั้น เย่เซิ่งเทียนจะต้องตาย !
ต่อให้ลูกสาวของเย่เซิ่งเทียนจะตายไปก็ตาม มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรทั้งนั้น !
หากเทียบกับเกียรติยศตระกูลเย่แล้ว ชีวิตของคนทั้งสองก็แทบจะไม่มีค่าอะไร !
ไม่มีใครสามารถมาหยามเกียรติตระกูลเย่ได้ !
เสาหลักอย่างตระกูลเย่ เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ของคนมากมาย
ผู้คนมากกว่าแปดในสิบส่วนล้วนมีความเกี่ยวโยงกับตระกูลเย่ทั้งนั้น หากเรือลำนี้จะต้องจมลง คนในเรือทั้งหมดก็คงไม่เหลือทางรอด
พวกเขาทั้งหมดล้วนมีผลประโยชน์ร่วมกับตระกูลเย่ การที่เย่เซิ่งเทียนที่ลงมือกับตระกูลเย่ถือเป็นการทำลายผลประโยชน์ร่วมของพวกเขา
การที่พวกเขาไต่เต้ามาจนถึงระดับนี้ได้ ก็เพราะเรื่องของผลประโยชน์ทั้งสิ้น
ถ้าเย่เซิ่งเทียนไม่ตายวันนี้ ก็ไม่ต่างจากพวกเขาทั้งหมดโดนตบหน้า !
ดังนั้น จึงไม่มีใครเลยที่กล้าคิดจะท้าทายกับตระกูลอันยิ่งใหญ่นี้ เนื่องจากเบื้องหลังของพวกเขาเต็มไปด้วยเครือข่ายอันน่ากลัวมากมาย !
และเพราะแบบนี้เองที่ทำให้หลี่อิงหมินเริ่มลังเล ไป๋เฉินและคนเหล่านี้เองต่างก็เริ่มคิดได้แล้วว่า เย่เซิ่งเทียนแทบจะไม่มีโอกาสเอาชนะได้เลย
ไม่ใช่เพราะเย่เซิ่งเทียนไม่แข็งแกร่ง แต่เพราะตระกูลเย่แข็งแกร่งเกินไปต่างหาก !
แม้ว่าไป๋เฉินจะรู้เรื่องราวการล่มสลายของตระกูลโจวว่ามีเย่เซิ่งเทียนเป็นผู้เกี่ยวข้อง แต่ว่าเมื่อเทียบกับตระกูลเย่แล้ว ความต่างชั้นของทั้งสองตระกูลคือระดับไข่กับก้อนหิน
ตระกูลโจวคือไข่ ส่วนตระกูลเย่คือหิน แถมยังเป็นหินเคลือบเหล็กอีกด้วย !
พวกเขาคือตระกูลอันยิ่งใหญ่ในต้าเซี่ย ไม่มีใครกล้ามาเป็นคู่ต่อสู้ของพวกเขา
ขนาดรัฐบาลเองก็ยังไม่กล้าลงมือง่าย ๆ
เพราะมันจะส่งผลกระทบมากเกินไป
เห็นได้ชัดว่านี่คือสัตว์ร้ายขนาดมหึมา ส่วนเย่เซิ่งเทียนไม่ต่างจากมดตัวเล็ก ๆ ที่จู่ ๆ คิดจะมาท้าทายตระกูลเย่ มันไม่ต่างจากรนหาที่ตายเลย
แม้เย่เซิ่งเทียนจะสังหารเย่เสียงและหงหยวนต่อหน้าพวกเขาไป แต่นั่นก็ไม่ต่างจากการแค่เร่งเวลาตายของตัวเองเท่านั้น
แม้จะมีบางคนที่รู้ว่าตระกูลโจวถูกทำลายลงโดยเย่เซิ่งเทียนก็ตาม แต่การที่เขาอยากจะจัดการกับตระกูลเย่ มันก็ไม่ต่างจากมดจู่โจมช้างเลยไม่ใช่หรือ ?
แต่จนกระทั่งตอนนี้ เรื่องวุ่นวายจนถึงป่านนี้แล้วก็ยังไม่มีคนของตระกูลเย่คนไหนเสนอหน้าออกมาเลย ผู้ที่รับผิดชอบทุกอย่างกลับเป็นเฉิงเทียนกุ้ยและหยวนเวินจิน !
คุณท่านเย่จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่ได้โพล่หน้าออกมาให้เห็น
ขนาดหัวหน้าตระกูลคนปัจจุบันที่ปรากฏตัวออกมาต้อนรับเมื่อสักครู่ ตอนนี้ก็หายตัวไปไหนซะแล้ว
เกิดอะไรขึ้นที่นี่ พวกเขาถึงไม่รู้ได้ยังไง จะไม่มีใครไปแจ้งพวกเขาเหรอ ?
พวกเขารู้เรื่องตั้งนานแล้ว แต่ทำเป็นเพิกเฉย ไม่สนใจ เหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุก ๆ คนต่างก็รู้จุดนี้ดี
สองราชาบู๊เดินออกมาด้านหน้า พูดเสียงราบเรียบว่า “เย่เซิ่งเทียน ต้องบอกว่าแกกล้ามาก ขนาดฉันเองยังรู้สึกชื่นชมแกอยู่บ้างเลย แต่ว่า ตระกูลเย่ไม่ใช่ที่ที่จะให้แกมาสร้างความอับอายให้ได้ วางใจเถอะ ฉันจะจัดการแกและลูกสาวแกให้เร็วที่สุด ไม่ให้พวกแกทั้งสองต้องตายอย่างทรมานแน่นอน”
พูดจบ ร่างของราชาบู๊คนหนึ่งก็ปกคลุมไปด้วยลมปราณสังหาร เตรียมพร้อมที่จะลงมือ
เย่เซิ่งเทียนพูดอย่างสงบว่า “เข้ามาพร้อมกันเถอะ จะได้ไม่เสียเวลา”
ราชาบู๊อีกคนถึงกับโมโหจนเลือดขึ้นหน้า “ไอ้เด็กเวร แกมันบ้ามากเกินไปแล้ว ได้ งั้นข้าขอประลองกระบวนท่าใของแก !”
อย่างไรก็ตาม เมื่ออยู่ต่อหน้าคนมากมาย ราชาบู๊ทั้งสองก็ไม่อยากทำให้ตัวเองเสียหน้า พยายามรักษาท่าทีของตนเองเอาไว้
แต่อย่างว่า ในช่วงความเป็นความตายอย่างนี้ใครมันจะมาสนใจท่าทีของเขากันเล่า ?
ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนประเภทอย่างเย่เซิ่งเทียนที่ปีนขึ้นมาจากนรกเลยด้วยซ้ำ !
จะว่าไปแล้ว เย่เซิ่งเทียนก็ยังคงเป็นห่วงลูกสาวของตนเองอยู่
ดังนั้นแล้ว เมื่อลงมือต้องลงมือให้ถึงตาย !
“ยังไงเขาก็ไม่รอด ข้าเดาว่าแค่กระบวนท่าเดียวเขาก็รับมือไม่ได้แล้ว คนทั้งสองเป็นถึงผู้แข็งแกร่งราชาบู๊เชียวนะ !”
“นักบู๊ อาจารย์บู๊ ปรามาจารย์ ปรามาจารย์ผู้ยิ่งใหญ่ พญาบู๊ ราชาบู๊ เซียนบู๊ เทพบู๊ นี่คือการแบ่งความแข็งแกร่งในโลกบู๊ตอนนี้ แม้การแสดงยังไม่ชัดเจน แต่ผู้ที่สามารถมาจนถึงระดับราชาบู๊ได้ ล้วนเป็นผู้มีพรสวรรค์หนึ่งในหมื่น หนึ่งในแสนคน ! ซึ่งในกองทัพ ระดับของราชาบู๊มีเพียงแค่ระดับนายพลเท่านั้น !”
“หอมังกรเทพ ประมุขหอคือเจ้าเทพ ต่อมาคือเทพสงครามทั้งสามอย่างรักษาเมืองยอดหล้าและสุดขั้ว รองจากนั้นคือสี่ราชาสงครามอย่าง ราชาปรับอุดร ราชาปรับทักษิณ ราชาปรับประจิมและราชาปรับบูรพา หลังจากนั้นคือแปดนายพล !! นายพลเฉิงเทียบได้กับระดับนายพล ตอนนี้มันคงรู้แล้วว่าระดับนายพลราชาบู๊แข็งแกร่งมากขนาดไหน !”
คนดูต่างพูดคุยกัน ไม่มีใครได้สนใจเย่เซิ่งเทียน
แม้แต่หลี่อิงหมินที่ส่งโลงศพมาเสร็จก็หลบอยู่ด้านหลังที่ห่างออกไป เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสัตว์ร้ายเหล่านี้ ยังทำให้หายใจแทบไม่ออก
ต้องรู้ว่า ตระกูลหลี่ที่เป็นถึงราชวงศ์เกาะดาว
ทุกวันนี้ยังต้องรู้สึกเกรงกลัวตระกูลเย่อยู่นะ
“เจ้าเทพเย่จะชนะไหม ?”
หลี่อิงหมินรู้สึกกดดันให้กับเย่เซิ่งเทียนไม่น้อย ไม่ใช่ว่าเขาไม่เชื่อใจเย่เซิ่งเทียน แต่เพราะตระกูลเย่นั้นแข็งแกร่งเกินไป แข็งแกร่งจนน่ากลัว !
แต่ทันใดนั้น ฉากต่อมา ก็ถึงกับทำให้ทุกคนต่างตกตะลึง !