ตอนที่ 282

Legend of the mythological genes

“โถงสอบที่89 ทีมที่เข้าสู่รอบที่สองคือทีมของเฟิงหลินจากระบบสุริยจักรวาล สมาชิกในทีมคือเฟิงหลิน ยานา แอริส อี้และซูลี่… “

 

เสียงหุ่นยนต์ดังขึ้นพร้อมกับเสียงปรบมือ

ทีมที่รอดชีวิตหลายทีมจ้องมองพวกเขาทั้งห้าด้วยใบหน้าที่แปลกประหลาดใจ

ทีมของเฟิงหลินมาจากระบบสุริยจักรวาล ซึ่งเป็นภูมิภาคที่ทรุดโทรม ยิ่งไปกว่านั้นพวกเขาห้าคนเป็นผู้เพียงผู้บ่มเพาะระดับสูง พวกเขาจัดการทีมที่โดดเด่นและดุร้ายอื่น ๆ ได้ยังไง?

แม้แต่ทีมพาลาดินชื่อดังก็ไม่สามารถเอาชนะทีมนี้ได้

แย่งอาหารจากปากเสือ มันอันตรายแค่ไหน?

พวกเขามีเทคนิคอะไร?

ทีมที่รอดชีวิตเคยถูกทีมพาลาดินกำจัด ดังนั้นพวกเขาจึงรู้ว่าทีมพาลาดินแข็งแกร่งแค่ไหน ยิ่งพวกเขาคิดเกี่ยวกับมันมากเท่าไร พวกเขาก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นมากขึ้น

สมาชิกห้าคนจากทีมพาลาดินยืนอยู่ด้านข้าง ร่างของพวกเขาดำคล้ำจากการถูกไฟฟ้าช็อตและหน้าตาของพวกเขาก็มืดเหมือนถ่าน

พวกเขาไม่ได้แพ้ในแง่ของความแข็งแกร่ง แต่พวกเขาไม่เด็ดขาดพอ

ด้วยความสามารถของพวกเขา พวกเขาสามารถลอบเข้าไปในรังของเผ่าเจิ้งและคว้าลูกปัดผลึกวิญญาณมาได้ แต่พวกเขาตัดสินใจที่เลือกความปลอดภัย โดยการโจมตีทีมเล็กๆ และเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่ มันทำให้พวกเขาพลาดโอกาสนี้ไป

พวกเขาไม่ได้คาดหวังว่าทีมของเฟิงหลินจะเด็ดขาดขนาดนี้ พวกเขาได้บุกเข้าไปฆ่าผู้นำเผ่าเจิ้งโดยไม่เตรียมการมาก

ยิ่งพวกเขาเข้าใจเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งยอมรับความจริงนี้ได้ยากขึ้นเท่านั้น

 

“อย่ามีความสุขเร็วเกินไป! รอบที่สองคือการต่อสู้ระหว่างดวงดาว แกควรอธิษฐานให้ดีกว่าที่แกจะไม่ต้องมาเผชิญหน้ากับเรา ไม่เช่นนั้นเราจะทำให้แกรู้ว่ายังมีอะไรที่น่ากลัวกว่าความตาย!” เขาพูดอย่างเย็นชาและหันไปพร้อมกับเพื่อนอีกสี่คนของเขา

(คนแพ้มีสิทธิ์พูดอะไรแบบนั้นด้วย?)

เฟิงหลินมองกลับอย่างเย็นชา ไม่ตอบโต้

แม้ว่าทีมพาลาดินจะแพ้ แต่พวกเขาก็ยังได้อันดับสองและได้รับโอกาสเข้าร่วมในการต่อสู้ระหว่างดวงดาว มันไม่ใช่งานยากสำหรับพวกเขาในการเข้าสู่รอบต่อไป

อย่างไรก็ตามแพ้ก็คือแพ้!

แม้ว่าทั้งสองทีมจะได้พบกันในรอบที่สองของการสอบ พวกเขาก็คิดว่าทีมของเฟิงหลินจะยังคงมีพลังเท่าเดิม?

ด้วยทรัพยากรด้านการบ่มเพาะที่เพียงพอ เฟิงหลิน รู้ว่าทีมของเขาจะก้าวหน้าอย่างรวดเร็ว

พวกนั้นไม่ได้มีผลต่อใจเขา

หากพวกเขาต้องเจอกันจริงๆในรอบที่สอง พวกเขาก็ต้องต่อสู้กันอยู่ดี ไม่จำเป็นต้องพูดมาก

 

“น่าทึ่ง! ไม่คิดเลยว่าทีมของพวกเธอสามารถเข้าสู่รอบต่อไปได้ในครั้งเดียว!” ผู้ตรวจสอบเต็มไปด้วยความชื่นชม “พวกเธอผ่านการสอบรอบแรกแล้ว และจะมีเวลา 20 วันเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับรอบที่สอง ตอนนี้เธอจะสามารถเข้าถึงทรัพยากรการบ่มเพาะไร้สิ้นสุดที่เราเตรียมไว้ให้ได้ เธอสามารถใช้ได้เท่าที่ต้องการ เตรียมตัวให้พร้อม การสอบรอบที่สองนั้นโหดร้ายเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้ !”

“ว้าว คิดถึงผลประโยชน์มากมายนั่นสิ!” เฟิงหลินคิดอย่างลึกซึ้ง

 

ผู้ที่ผ่านการสอบรอบแรกจะได้รับการปฏิบัติเหมือนเมล็ดพันธุ์ที่มีศักยภาพ!

มนุษย์ระหว่างดวงดาวไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างมากในการหาคนมีพรสวรรค์

กระสวยอวกาศปล่อยทิ้งไว้ผ่านรูหนอนและนำผู้สมัครที่รอดชีวิตหลายคนกลับสู่ปิระมิดทองคำ ผู้ที่ถูกกำจัดจะออกไป ในขณะที่ผู้ที่ประสบความสำเร็จจะอยู่รอรอบต่อไป

หลังจากกลับไปที่บ้านของพวกเขาแล้ว ทีมของเฟิงหลินก็ไม่ได้แยกกันทันที พวกเขาพูดคุยกันถึงสิ่งที่พวกเขาควรเตรียมสำหรับการแข่งขันรอบต่อไป

 

“ทุกคนเราผ่านการทดสอบรอบแรกเแล้ว และตอนนี้เราจะต้องเตรียมตัวให้พร้อมใน 20 วันข้างหน้า! ไม่อย่างนั้นด้วยระดับความแข็งแกร่งปัจจุบันของเรา มันคงยากที่เราจะผ่านการสอบรอบต่อไป!” เฟิงหลินเป็นคนแรกที่พูดออกมา

ทุกคนพยักหน้า

“20 วันคงสั้นเกินไป! เราทุกคนได้รับบาดเจ็บ หลังจากฟื้นตัว เราจะสามารถเพิ่มพลังของเราได้เล็กน้อย มันคงยากสำหรับเราที่จะบรรลุการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพ!” อี้พูดเสียงต่ำ

“นั่นไม่เสมอไป!” เฟิงหลินส่ายหัวเบา ๆ แล้วพูดพร้อมยิ้ม

“อืม นายมีข้อเสนอแนะอะไรบ้าง?” ยานาถามอย่างสงสัย

“พวกเธอไม่อยากรู้หรอว่าทำไมฉันถึงรู้เรื่องตำนานมากมาย ฉันจะบอกทุกคนตอนนี้แหละ!” เฟิงหลินพูดอย่างสงบ

 

อี้และซูลี่สั่นไหว พวกเขามองตากันโดยสัญชาตญาณ เมื่อพวกเขานึกถึงสัญญาที่เฟิงหลินเคยให้ไว้ก่อนหน้านี้

สีหน้าของยานาเองก็เปลี่ยนไปดูเหมือนว่าเธอจะสนใจมาก

 

“ฉันเป็นสมาชิกของสมาคมการบ่มเพาะลับ ผู้ก่อตั้งกลุ่มนี้คือบบรรพชนเต๋าหงจุนที่ยิ่งใหญ่และลึกลับ ท่านมีความชำนาญในการบ่มเพาะระดับสูงมาก! ตราบใดที่นายสามารถทำภารกิจให้สำเร็จได้ นายจะได้รับความรู้เกี่ยวกับตำนานอันล้ำค่า! … “หลังจากการสอบรอบแรก เฟิงหลินก็รู้ศักยภาพและนิสัยของสมาชิกสี่คนเป็นอย่างดี เขาตัดสินใจที่จะรับพวกเขาเข้าสมาคมอย่างเป็นทางการในฐานะสมาชิกของสมาคมยีนในตำนาน

แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่แข็งแกร่ง แต่ถ้าพวกเขาเติบโต พวกเขามีความเป็นไปได้ที่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริงในอวกาศระหว่างดวงดาว จากนั้นพวกเขาก็จะเป็นสมาชิกที่คอยช่วยเหลือเขาในสมาคมยีนในตำนาน

(มีความรู้ด้านตำนานมากมาย?บรรพชนเต๋าหงจุน?ช่างเป็นชื่อที่หยิ่งยโสมาก!

ยานากับอีกสามคนคิด

 

“มีความรู้ในตำนานมากมาย?รวมถึงตำนานหมอผีด้วยไหม?” อี้เป็นคนแรกที่ถามคำถาม สายตาของเขามีความรีบเร่งและความตื่นเต้น

“ใช่แล้ว!” เฟิงหลินพยักหน้าเขามีความมั่นใจนี้เพราะความรู้ตำนานของเขา รวมถึงสมการทางพันธุกรรม

“ แม้แต่ตำนานกรีก? ระบบตำนานทั้งหมดด้วยหรอ?” ยานาคิดว่าสิ่งนี้ยากที่จะเชื่อ

“แน่นอน!” เฟิงหลินยิ้มและพูด

บรรพชนเต๋าหงจุน?

บุคคลนี้มีลักษณะยังไง?

พวกเขาไม่เคยได้ยินชื่อผู้อาวุโสที่ยิ่งใหญ่ท่านนี้ในอวกาศระหว่างดวงดาวมาก่อน

พวกเขาสี่คนต่างคาดเดา

เฟิงหลินยิ้มแจ่มใสและไม่ได้พูดอะไร ตั้งแต่ต้นจนจบไม่ว่าพวกเขาจะคิดอะไร พวกเขาไม่สามารถเดาได้ นี่เป็นเพียงเกราะที่เขาใช้ซ่อนความลับของเขา

เมื่อเห็นว่าพวกเขาลังเล เขากล่าวเสริมว่า “มันไม่ง่ายเลยที่จะเข้าร่วมสมาคมยีนในตำนาน! ฉันขอแนะนำให้พวกนายเป็นสมาชิกชั่วคราวเท่านั้น ถ้าต้องการเข้าร่วมสมาคมยีนในตำนานจริงๆ พวกนายจะต้องผ่านการทดสอบของบรรพชนเต๋าหงจุน! “

 

ข้อกำหนดในการเข้าร่วมสมาคมการบ่มเพาะเสมือนนั้นเข้มงวดมาก!

ยานาและคนอื่นๆอดไม่ได้ที่จะรู้สึกสนใจ

หลังจากใช้เวลาร่วมกันมานาน พวกเขาก็รู้ว่าเฟิงหลินไม่ใช่คนที่จะพูดถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ถ้าพวกเขาสามารถได้รับความรู้ในตำนานที่มีค่าจริงๆ มันจะเหมือนการได้ลาภครั้งยิ่งใหญ่ของพวกเขา!

 

“เราจะเข้าร่วมได้ยังไง?” ยานาถามคำถามที่พวกเขาทุกคนกังวล

“จะต้องมีคำเชิญของสมาชิกภายใน! บอกรหัสของเธอในจักรวาลเสมือนจริงมา หลังจากที่พวกเราเข้าไป ฉันจะส่งตราให้พวกเธอเพื่อเข้าสู่สมาคมยีนในตำนาน หากไม่มีของชิ้นนี้ พวกเธอจะไม่สามารถค้นหาที่อยู่ของสมาคมยีนในตำนานได้! ” เฟิงหลินกล่าวอย่างใจเย็นไม่แสดงความผิดปกติใด ๆ

 

สิ่งต่าง ๆ จะน่าสนใจมากขึ้น เมื่อมันลึกลับ!

 

ยานาและคนอื่น ๆ มองหน้ากันอย่างรวดเร็ว โดยมีความรู้สึกแปลก ๆ ที่สมาคมยีนในตำนานนี้อาจนำรางวัลที่ไม่สามารถจินตนาการได้มาให้พวกเขา พวกเขาทั้งหมดบอกรหัสจักรวาลเสมือนของพวกเขาให้กับเฟิงหลิน

จากนั้นพวกเขาทั้งห้าก็แยกกัน ให้เวลาในการฟื้นฟูพลังงาน แล้วเข้าสู่จักรวาลเสมือนจริงที่ถูกเชิญ

เฟิงหลินยกยิ้มมุมปาก มองทั้งสี่คนเดินอกไป

สิ่งแปลกประหลาดคือเขาไม่ได้เริ่มบ่มเพาะในทันที ด้วยการโบกมือ เขานำเอาหม้อปรุงยาที่ผ่านการปรุงมาเป็นเวลานานแล้ว เตาผสมยาตกลงบนพื้นเกิดเสียงดัง

ตอนนี้เขาเป็นผู้บ่มเพาะระดับสูงแล้วและเข้าใจถึงการเปลี่ยนแปลงพลังงานของโลก การเล่นแร่แปรธาตุโบราณไม่ได้ท้าทายเขาอีกต่อไป

ถ้าเขาต้องการที่จะผ่านการสอบรอบสอง มันไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องใช้ความพยายามในการบ่มเพาะ เขาจะสามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดถ้าเขาเข้าใจการเล่นแร่แปรธาตุ