อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 471 เข้าครัวด้วยตนเอง
ในห้อง

กู้ชูหน่วนปวดจนต้องขมวดคิ้ว

เดิมทีก็ได้รับบาดเจ็บหนักอยู่แล้ว ถูกซื่อโม่เฟยทำเช่นนี้ อาการบาดเจ็บของนางถ้าไม่ได้พักรักษาเป็นเวลาสิบวันถึงครึ่งเดือนคงไม่มีทางดีขึ้นแน่

สิบวันถึงครึ่งเดือน

ห่างจากวันที่พระจันทร์เต็มดวงเหลือเวลาแค่สิบสองวันแล้ว

ภายในสิบสองวัน นางจำเป็นต้องค้นหามุกมังกรอีกสองเม็ดให้พบโดยเร็วที่สุด

เมื่อคิดว่าแค่มุกมังกรเม็ดเดียว ยังต้องรวบรวมกุญแจมากมายขนาดนั้น จึงจะสามารถไขเข็มทิศเปิดฟ้าได้ สุดท้ายค่อยค้นหามุกมังกร จากการชี้นำของเข็มทิศเปิดฟ้า

เวลาสิบสองวัน นางจะค้นหาได้อย่างไร

กู้ชูหน่วนได้เอายาทาแผลออกมาจากแหวนมิติ อดทนต่อความเจ็บล้างแผลแล้วทายาใหม่อีกครั้ง

ร่างกายเจ็บปวดมาก แต่หัวใจนางเจ็บปวดยิ่งกว่า

กู้ชูหน่วนหยิบผ้าพันแผลผืนหนึ่งขึ้นมากัดไว้ในปาก กล้ำกลืนเสียงครางที่เจ็บปวดทั้งหมดลงไปในท้อง

บาดแผลเปื่อยเน่า ตอนที่ล้างบาดแผลที่เปื่อยเน่า กู้ชูหน่วนแทบจะเป็นลมสลบไป

นางบาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ คิดว่าเย่จิ่งหานเองก็คงจะมีสภาพไม่ต่างกันสักเท่าไหร่

บาดแผลใหม่บวกกับแผลเก่า เลือดสดๆไหลออกมาอีกครั้ง

ด้านนอกห้องจอมมารยืนอยู่บนด้านข้างของภูเขาจำลอง มองผ่านช่องแคบๆระหว่างหน้าต่าง เก็บภาพที่กู้ชูหน่วนรักษาบาดแผลของตนเองอยู่ในห้องไว้ในสายตา

ความอดทนของนาง ความเจ็บปวดของนาง ความมุ่งมั่นของนาง หยาดเหงื่อของนาง ไม่มีสิ่งไหนที่ไม่ทำให้จอมมารรู้สึกตื่นตะลึง

เขายากที่จะจินตนาการได้ว่า หญิงสาวคนหนึ่งเมื่อเผชิญกับความเจ็บปวด แต่สามารถยืนหยัดได้เช่นนี้ ยังสามารถใช้มีดขูดเอาชิ้นเนื้อที่เน่าเปื่อยออกไปได้ ด้วยท่าทีอำมหิตเช่นนี้

บาดแผลที่อยู่ด้านหน้าร่างกาย นางจัดการได้ แต่บาดแผลที่อยู่ทางด้านหลัง นางจัดการไม่ได้

จอมมารโบกมือ ส่งสัญญาณให้ท่านหมอหญิงเข้าไปช่วยเหลือ ต้องลงมือเบาๆ อย่าได้ทำให้นางเจ็บ

จอมมารถอนหายใจเบาๆ พึมพำกับตนเอง “เสวียซา เจ้าว่าข้าโง่มากใช่หรือไม่ แม้แต่จัดการกับแผลภายนอกยังทำไม่ได้ ยังทำให้พี่สาวต้องบาดเจ็บซ้ำซ้อนอีก ”

เสวียซาที่รอรับใช้อยู่ข้างๆ จากมุมที่เขาอยู่มองไม่เห็นสถานการณ์ในห้อง แต่เรื่องที่เกิดขึ้นในห้องเมื่อครู่นี้ เขารับรู้ได้

เสวียซาก้มหน้ากำหมัดประสานมือขึ้นมาพูดว่า “นายท่าน ท่านมีฐานะสูงส่ง เรื่องการทำแผลเป็นเรื่องเล็กไหนเลยที่ท่านจะต้องลงมือทำเอง แม่นางกู้เป็นคนเข้าใจผู้อื่น นางไม่มีทางโทษทางแน่”

“จริงหรือ ……แต่ทำไมข้าจึงรู้สึกว่าเมื่อครู่นางมีท่าทีโมโหข้าอยู่บ้าง”

“นั่นเพราะว่าแม่นางกู้เห็นว่าท่านที่เป็นถึงจอมมาร ลงมือช่วยนางทำแผลทายาด้วยตนเอง นางรู้สึกซาบซึ้งใจ”

จอมมารเลียนแบบท่าทางของกู้ชูหน่วน ใช้มือลูบที่คางตนเอง

เป็นเช่นนี้จริงหรือ

“พี่สาวเสียเลือดมากเกิดไป เจ้าให้ทางห้องครัวเตรียมอาหารที่บำรุงเลือดให้นางด้วย”

“ขอรับ”

“ช่างเถอะ พี่สาวเพิ่งฟื้น คิดว่าคงไม่อยากอาหารสักเท่าไหร่ ข้าจะลงครัวไปทำให้นางกินเอง”

เสวียซาตกตะลึง “นายท่าน ท่านจะลงครัวด้วยตนเองหรือ”

เจ้านายไม่เคยลงครัว เขาทำกับข้าวเป็นด้วยหรือ

อีกทั้งเจ้านายมีสถานะสูงส่ง จะลงครัวได้อย่างไร

“ถ้าพี่สาวได้กินกับข้าวฝีมือข้า คงจะดีใจมากแน่ๆ”

เงาร่างสีแดงไหววูบอย่างรวดเร็ว ร่างของจอมมารที่อยู่ตรงหน้าไหนเลยจะยังคงมีตัวตนอยู่

เสวียซาจึงได้แต่รีบวิ่งไปยังห้องครัว หัวใจเต้นแรงรู้สึกไม่สบายใจ

ใช้เวลาตลอดช่วงบ่ายจัดการทำแผลทั้งหมดจนเสร็จ

กู้ชูหน่วนเหมือนได้ทิ้งชีวิตของตัวเองไปครึ่งหนึ่งแล้ว

นางลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้ด้วยซ้ำ อย่าว่าจะไปตามหากุญแจรูปดาวเลย

“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามาหน่อย”

“แม่นาง ไม่ทราบว่ามีอะไรจะให้รับใช้”

“ข้าอยากถามเจ้า ภูเขาหยุนฉีคือเขาสูบวิญญาณหรือ”

“เรียนแม่นาง เขาสูบวิญญาณเป็นหน่วยหลักของเผ่าปีศาจ ที่นี่เป็นหน่วยย่อยของเผ่าปีศาจ”

“แล้วที่นี่อยู่ห่างจากหน่วยหลักของเผ่าปีศาจไกลแค่ไหน”

“เรื่องนี้ ……น่าจะประมาณหลายพันลี้กระมัง”

หลาย……หลายพันลี้……

ไกลขนาดนั้นเชียว

“แม่นาง ท่านรู้สึกไม่สบายใช่หรือไม่ บ่าวจะไปตามท่านหมอหญิงมาให้”