บทที่ 719 : รักษาอาการบาดเจ็บให้ทุกคน!

Dragon Emperor Martial God จักรพรรดิ์เทพมังกร

บทที่ 719 : รักษาอาการบาดเจ็บให้ทุกคน!

 

พลังอมตะเหลือง-ดําที่ได้จากสมุดจักรพรรดินั้น มีพลานุภาพไม่ต่างจากพลังอมตะที่ได้จากพู่กันจักรพรรดิ ซึ่งจะเป็นหยางบริสุทธิ์

 

และพลานุภาพของพลังอมตะจากพู่กันจักรพรรดิ ก็เคยทําให้หลิงหยุนเข้าสู่ขั้นพลังชี-9 ได้ชั่วคราวมาแล้ว และแม้ว่าจะเป็นเวลาเพียงแค่หกถึงเจ็ดชั่วโมง แต่เพียงแค่นั้นหลิงหยุนก็สามารถตักตวงผลประโยชน์ได้อย่างมหาศาล!

 

และดูเหมือนว่าพู่กันจักพรรดิจะรู้จักอุปนิสัยของหลิงหยุนดีมาก จึงไม่ค่อยยอมปลดปล่อยพลังอมตะออกมาให้เขาได้ใช้ประโยชน์อีกบ้างเลย

 

ส่วนสมุดจักรพรรดินั้นดูเหมือนจะใจกว้างกว่ามาก เพราะปลดปล่อยพลังอมตะออกมาให้หลิงหยุนได้ใช้ประโยชน์ถึงสามครั้งสามครา และมากมายจนหลิงหยุนต้องเก็บไว้ในกล่องหยกที่แกะสลักค่ายกลหลุมพลังไว้

 

แต่ก็น่าเสียดายที่หลิงหยุนเพียงแค่สามารถเก็บพลังอมตะจากสมุดจักรพรรดิไว้ในกล่องหยกเท่านั้น แต่ไม่สามารถใช้มันพัฒนาเข้าสู่ด่านสุดท้ายของขั้นพลังชีเหมือนเมื่อครั้งที่ได้รับจากพู่กันจักรพรรดิได้

 

หลิงลี่ชูแขนขึ้นพร้อมกับร้องตะโกนออกมาเสียงดัง น้ําใสๆเอ่อล้นออกมาจากดวงตามากมายจนไหลลงอาบแก้ม และทั่วทุกอณในร่างกายของเขาก็สั่นเทิ้มไปหมด!

 

มันคือความตื่นเต้นที่สุดจนไม่อาจประมาณได้!

 

หลิงลี่ไม่ปิดบังขั้นกําลังภายในที่อยู่ในขั้นเซียงเทียน-8 ของตนเอง พร้อมกับหันไปมองหลิงหยุนกับหลิงซิ่วด้วยความตื่นเต้นดีใจ!

 

“หลานขอแสดงความยินดีกับท่าน!!”

 

หลิงหยุนและหลังเสี่ยวคุกเข่าลงกับพื้นท่าการคาราวะหลิงลี่พร้อมกัน!

 

“ลุกขึ้น.. ลุกขึ้น!”

 

หลิงลี่ยังไม่ทันที่จะขยับร่างกาย แต่ก็สามารถไปยืนอยู่ตรงหน้าหลิงหยุนและหลิงซิ่วได้แล้ว เขาพยุงทั้งสองคนให้ลุกขึ้น

 

“ปมีความสุขมากจริงๆ!”

 

หลิงลี่ไม่สามารถเก็บงําความสุขที่มีเอาไว้ได้ เขาจ้องมองหลิงหยุนด้วยแววตารักใคร่ พร้อมกับใช้กําปั้นชกไปที่ไหล่ของหลิงหยุนเบาๆ แล้วหยอกเย้าว่า

 

“เจ้าเด็กตัวแสบ.. พรสวรรค์ของเจ้าช่างน่าอัศจรรย์มากจริงๆ!”

 

หลิงหยุนสามารถสัมผัสได้ถึงสายสัมพันธ์ทางสายเลือดระหว่างปูกับหลาน เลือดในกายของหลิงหยุนพุ่งพล่านด้วยความตื่นเต้นดีใจพร้อมตอบกลับไปว่า

 

“ตลอดสิบแปดปีที่ผ่านมา.. ท่านปูไม่สามารถพัฒนาขึ้นสู่ขั้นที่สูงกว่าได้ ก็เพราะเส้นลมปราณเสียหาย แต่โลกก็ยุติธรรม เพราะถึงแม้ว่าระดับขั้นของท่านปู่จะไม่พัฒนา แต่ปราณเสวียน (เหลือง) และปราณหวง (ดํา) ในร่างกายของท่านนั้นกลับแข็งแกร่งอย่างน่าเหลือเชื่อ!”

 

“ต่อให้ไม่ได้ดื่มสมุนไพรล้ําค่าเหล่านี้เขาไป อย่างน้อยท่านก็ต้องเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-6 ได้แน่นอน!”

 

หลิงหยุนพูดได้ถูกต้อง เพราะระหว่างที่ทําการรักษาอาการบาดเจ็บให้กับหลิงลี่นั้น เขาสัมผัสได้ว่าลมปราณที่กักเก็บอยู่ในจุดตันเถียนของหลิงนั้นเทียบเท่ากับยอดฝีมือระดับสูงสุดขั้นเซียงเทียน-6

 

ที่หลิงหยนรู้ได้ก็เพราะเขาเองเพิ่งจะสังหารยอดฝีมือขั้นเซียงเทียน-6 ในคฤหาสน์ชานเมืองด้านใต้ของตระกูลเฉินไปถึงหกเจ็ดคน พวกมันต่างก็สู้กับหลิงหยุนอย่างเอาเป็นเอาตาย จึงทําให้เขาสามารถเข้าใจระดับกําลังภายในในขั้นนี้ได้เป็นอย่างดี

 

และหากหลิงหยุนไม่ค้นพบเรื่องนี้ เขาก็คงจะไม่กล้าที่จะนําสมุนไพรล่าค่าออกมาให้หลิงลี่กิน เพื่อเร่งการพัฒนาลําดับขั้นของหลิงล์เป็นแน่..

 

หลิงหยุนอดที่จะนึกถึงหลิงเสี่ยวพ่อของเขาไม่ได้ เขาพอจะเข้าใจได้ว่าตลอดระยะเวลาสิบแปดปีมานี้ พ่อของเขาต้องทนทุกข์ทรมานกับเส้นลมปราณที่ติดขัดเสียหายนี้มากเพียงใด และจะต้องทนเจ็บปวดกับการฝืนบังคับตัวเองให้ต้องฝึกกําลังภายในตามคัมภีร์เสวียนหวงนี้อย่างไร? หลิงเสี่ยวคงต้องอดทนต่อความเจ็บปวดอย่างมากมาตลอดหลายปี

 

ในโลกใบนี้.. ไม่ได้มีสิ่งที่ฟ้าประทานจริง! โอกาสทั้งหลายล้วนเกิดจากการเตรียมตัวที่พร้อม หลังทนทุกข์มาตลอดสิบแปดปี แต่หลังจากนั้นกลับสามารถได้รับรางวัลตอบแทนอย่างคาดไม่ถึง และนั่นไม่ใช่ความโชคดี แต่มันคือสิ่งที่เขาสมควรได้รับต่างหาก!

 

ระหว่างที่เดินลมปราณตามคัมภีร์เสวียนหวงนั้น หลิงลี่สัมผัสได้ว่าปราณเหลือง และดําภายในร่างกายของเขานั้น เคลื่อนผ่านเส้นลมปราณที่แข็งแกร่งขึ้น และเวลานี้เขาก็รู้สึกว่าตนเองมีพละกําลังอย่างมากมายมหาศาล

 

แต่หลังลึกลับตอบหลิงหยุนไปว่า “อะไรกัน.. หากไม่ใช่เพราะเจ้ารักษาอาการบาดเจ็บให้ปู่ และให้กินสมุนไพรล้ําค่ามากมายเช่นนั้นแล้วล่ะก็ ตาเฒ่าอายุเจ็ดสิบปีอย่าง มีหรือที่จะสามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-8 ได้ ในการเดินลมปราณเพียงแค่ครั้งเดียว!”

 

แน่นอนว่าไม่เพียงสมุนไพรล่าค่าที่หลิงลีกินเข้า แต่ยังมีน้ําลายมังกร พลังอมตะเหลืองด่าจากสมุดจักรพรรดิ และพลังชีวิตจากต้นหลิวเทวะอีกด้วย..

 

และหากได้รับเข้าไปมากมายถึงเพียงนั้นแล้ว หลิงลี่ยังไม่สามารถเข้าสู่ด่านสุดท้ายของขั้นเซียงเทียนได้ ก็นับว่าตระกูลหลิงไร้ซึ่งพรสวรรค์แล้วล่ะ!

 

และแน่นอนว่าสายเลือดตระกูลหลังไม่ได้ไร้ซึ่งพรสวรรค์อย่างแน่นอน แต่กลับทรงพลังอย่างล้ําลึก ไม่เช่นนั้นเลือดของหลิงหยุนเพียงแค่หยดเดียว คงจะไม่สามารถทําให้แวมไพร์ยอมตนเป็นบริวารของเขาได้แน่!

 

“ต๊ะ?! นี่มันอะไรกัน?!”

 

หลิงซิ่วถึงกับตกตะลึง นางรู้ว่าขั้นกําลังภายในของหลิงลี่ได้พัฒนาขึ้นมาก แต่คิดไม่ถึงว่าหลิงลี่จะสามารถเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-8 ได้ในคราวเดียว!

 

หลิงซิ่วนั้นอยู่ในชั้นโฮ่วเทียน-9 ในสายตาของนางนั้นขั้นเซียงเทียนล้วนเหมือนกันไม่ว่าจะระดับใหน เพราะนางนั้นไม่สามารถมองเห็นขั้นกําลังภายในของหลิงลีได้

 

“ท่านปู่.. นี่ท่านเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-8 แล้วจริงๆเหรอคะ?! นี่มัน..” หลิงซิ่วถึงกับอึ้งไป

 

“ถูกต้อง.. แล้วนั่นก็เพียงแค่เริ่มต้นเท่านั้น รู้สึกว่ายังสามารถพัฒนาขั้นขึ้นไปได้อีก..”

 

หลิงหลไม่คิดที่จะปิดบังหลิงซิ่วซึ่งเป็นหลานสาวสุดที่รักของตนเอง..

 

และหลังก็มีโอกาสที่จะพัฒนาขั้นต่อไปได้จริงๆ และเวลานี้กําลังภายในของเขาก็แข็งแกร่งอย่างมากอีกด้วย เพราะจุดตันเถียนของหลิงล์ในเวลานี้อัดแน่นไปด้วยพลังอมตะจากสมุดจักรพรรดิอยู่ถึงเจ็ดสิบส่วน

 

-หลิงหยุน.. ลมปราณที่เจ้าถ่ายเทเข้าไปในร่างกายของปู่นั้นช่างทรงพลังมากเหลือเกิน?! หลิงลี่ใช้กระแสจิตพูดกับหลิงหยุนแทน

 

-ท่านปู่.. นั่นเป็นพลังชีวิตเสวียน (เหลือง) และหวง (ดํา) จากมรดกตกทอดของตระกูลหลิง แต่ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดมันจึงมีมากกว่าในเวลาที่พวกเราฝึก.. “ตราบใดที่หลิงหยุนยังไม่แข็งแกร่งมากพอ เขาจะไม่ยอมเปิดเผยความลับเรื่องสมุดและพู่กันจักรพรรดิให้ผู้ใดล่วงรู้โดยเด็ดขาด ไม่ใช่ว่าเขาจะไม่เชื่อใจหลิงลีซึ่งเป็นของตนเอง แต่เขาเกรงว่าหากเรื่องนี้แพร่งพายออกไป กลับจะนําหายนะมาสู่ตระกูลหลิงต่างหาก!

 

จนถึงเวลานี้.. หลิงหยุนเองก็ไม่รู้ว่าเกาเฉินเฉินได้แพร่งพรายความลับเรื่องนี้ออกไปบ้างแล้วหรือยัง?!

 

แม้ว่าเฉินเจี้ยนสุ่ยจะตกลงมาอยู่ในขั้นบารอนแล้ว และไม่สามารถทําให้เกาเฉินเฉินกลายเป็นบริวารได้ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ แต่ถึงกระนั้นเนตรปีศาจที่ใช้สะกดจิตของมันก็ทรงพลังไม่น้อยเลยทีเดียว เกาเฉินเฉินเป็นเพียงแค่คนธรรมดา คงยากที่จะต้านทานได้!

 

แต่ถึงกระนั้นหลิงหยุนเองก็ยังค่อนข้างมั่นใจว่าเกาเฉินเฉินคงจะยังไม่ได้แพร่งพรายความลับเรื่องพู่กันจักรพรรดิ์ออกไปแน่ ไม่เช่นนั้น.. ตระกูลเฉินคงไม่มัวแต่วุ่นวายกับการจัดการกับตระกูลเกากับตระกูลหลิงอยู่เช่นนี้แน่ พวกมันคงจะต้องบุกไปหาหลิงหยุนที่เมืองจึงฉเพื่อสืบหาพู่กันจักรพรรดิแล้ว

 

เมื่อคิดได้เช่นนี้ หลังหยุนก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาก และหลังจากจบเรื่องตระกูลหลิงในคืนนี้ หลิงหยุนจะต้องหาทางช่วยเกาเฉินเฉินออกมาให้ได้โดยเร็วที่สุด”มรดกตระกูลหลิงงั้นรึ?! ข้าเองก็คิดไม่ถึงว่าเมื่อต้นหลิวเทวะได้ไปอยู่ในมือของเจ้า จะสามารถเติบโตแตกก้านใบได้สวยงามเช่นนี้ ฮ่า..ฮ่า.. ข้าคงต้องให้รางวัลเหล่าก่ยแล้ว ล่ะ!“หลิงหยุนย่อมเข้าใจความหมายในคําพูดของชายชราดี แต่เขาเองก็ไม่ต้องการติดอยู่กับการเป็นผู้นําตระกูลหลิง จึงเพียงแค่ยิ้มโดยไม่ตอบอะไร..”หลิงหยุน.. ปู่เห็นเจ้าจับใครกลับมาด้วยคนหนึ่ง ดูเหมือนจะเป็นเฉินไห่คุนแห่งตระกูลเฉิน?”ถูกต้องแล้วท่านปู่.. มันอยู่ใกล้กับความตายมากแล้ว! “หลิงหยุนตอบด้วยน้ําเสียงราบเรียบไม่ได้! จะปล่อยให้มันตายไม่ได้.. ต้องทําให้มันบอกที่ซ่อนของพ่อเจ้าออกมาก่อน!“หลิงลี่ตอบกลับไปด้วยน้ําเสียงเย็นชา “แล้วข้าจะออกจากค่ายกลเขาวงกตนี้ได้อย่างไร?!“หลิงลี่ถามขึ้นต่อจากนั้น

 

หมอกหนาสีขาวได้แยกสวนแห่งนี้ออกจากโลกภายนอก หลิงลีจึงไม่สามารถออกไปด้านนอกได้

 

หลิงหยุนยิ้มพร้อมกับชี้ไปยังตําแหน่งของหินต่างๆ พร้อมกับบอกหลิงลี่ถึงวิธีออกจากค่ายกลเขาวงกตแห่งนี้ จากนั้นตัวเขาเองก็จัดการเรียกของทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ในแหวนพื้นที่ แล้วกระโดดออกจากค่ายกลเขาวงกต ตามหลิงลีไป”นน้องห้า.. เจ้าพาข้าออกไปด้วยสิ! หลิงซิวร้องตะโกนบอกพร้อมกับวิ่งตามทั้งสองคนที่กระโดดออกไป และปล่อยนางไว้ที่นี่คนเดียว

 

เสียงของหลิงหยุนคลายดังมาจากที่ไกลๆ” พี่หลิงซิ่ว.. ภายในค่ายกลมีพลังชีวิตเข้มขนมาก เหมาะสําหรับการฝึกฝน ท่านก็ฝึกวิชาอยู่ข้างในไปก่อนเถิด! “เจ้าเด็กตัวแสบ.. ข้าจะฆ่าเจ้า!“หลิงหิ้วกระทืบเท้าอย่างโมโห แต่เมื่อหายโกรธใบหน้าสวยงามของนางก็กลับแดง..”ลูกชายของลุงสามช่างเก่งกาจมากจริงๆ!“หลิงซิ่วนั่งอยู่ใน ค่ายกลหลุมพลัง และเริ่มฝึกฝนคัมภีร์เสวียนหวงอยู่เงียบๆคนเดียว และได้แต่คิดว่าหลิงหยุนพูดไม่ผิดจริงๆ ที่นี่สามารถฝึกฝนได้ก้าวหน้าเร็วกว่าปกติหลายเท่านัก

 

หลิงลีกับหลิงหยุนเดินออกมาจากค่ายกลเขาวงกต และตรงเข้าไปยังสวนชั้นที่หกของบ้านตระกูลหลิง และทั้งคู่ก็พบว่าภายในสวนชั้นที่หกนั้นมีคนอยู่เต็มไปหมด และทุกคนต่างก็มีสีหน้าตกใจสุดขีด!

 

ทุกคนต่างก็ตกอกตกใจในการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับหลิงลี่ถึงสองเรื่องซึ่งก็คือ.. เรื่องที่หลิงลี่สามารถพัฒนาเข้าสู่ด่านสุดท้ายของขั้นเซียงเทียนได้แล้ว และเรื่องที่ผมของเขากลายเป็นสีดําขลับ และดูหนุ่มลงถึงยี่สิบปี!

 

เวลานี้หลิงลี่ดูราวกับชายอายุห้าสิบปีเท่านั้น ใบหน้าของเขาเวลานี้ดูหนุ่มกว่าเหล่ากุ้ยเสียอีก!

 

จากการชาระล้างกล้ามเนื้อและไขกระดูกภายในร่างกาย และการพัฒนาเข้าสู่ขั้นเซียงเทียน-8 ประกอบกับรู้สึกมีความสุขอย่างมาก ทําให้หลิงลี่หนุ่มขึ้นราวกว่าเดิมถึงยี่สิบปี!”ทุกคนลุกขึ้นเถิด.. ให้หลิงหยุนรักษาอาการบาดเจ็บให้พวกเจ้าก่อน! หลิงลี่โบกมือให้กับทุกคนที่กําลังทําการค่านับเขาอยู่

 

จากนั้นหลิงหยุนก็เริ่มลงมือรักษาอาการบาดเจ็บให้กับผู้คนที่เหลือ โดยเริ่มจากผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสอย่างหลิงหย่งก่อน หลิงหยุนใช้พลังหยินหยางรักษาอาการบาดเจ็บภายในให้กับเขา

 

หลังจากที่หลิงหย่งหายดี และมีกําลังวังชามากขึ้นกว่าเดิม เขาก็กระโดดเข้ามาจับไหล่ของหลิงหยุนไว้พร้อมกับถามอย่างตื่นเต้น”นี่เจ้าเป็นลูกชายของท่านลุงสามจริงๆหรือนี่?!“หลิงหยุนหัวเราะพร้อมกับตอบไปว่า”เจ้า ไม่เชื่ออย่างนั้นรึ?!”ถ้าเป็นเรื่องจริงเช่นนี้.. ตระกูลหลิงของเราก็รอดแล้วสิ!“หลิงหย่งนั้นดูเป็นชายหนุ่มที่มีความจริงใจ และพูดจาตรงไปตรงมา..”ลุงสอง.. ข้าจะรักษาอาการบาดเจ็บให้ท่านก่อน..”

 

หลังจากรักษาอาการบาดเจ็บให้หลิงเย่วแล้ว เขาก็ลุกขึ้นเดินไปหาหลิงเจิ้นพร้อมกับทําการรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเขา และตามมาด้วยเหล่านักรบตระกูลหลิง

 

หลังจากที่หลิงหยุนทําการรักษาอาการบาดเจ็บให้กับเหล่านักรบตระกูลหลิงแล้ว ทุกคนต่างก็คุกเข่าลงคาราวะเขา และมองหลิงหยุนด้วยแววตาที่ทั้งรักและศรัทธาบ่งบอกว่าพร้อมที่จะติดตามหลิงหยุนไปตลอด