บทที่ 408 การจัดการเวลาคือสิ่งสำคัญ

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]

ตอนที่ 408 การจัดการเวลาคือสิ่งสำคัญ

 

 

ในเมื่อผลรายงานออกมาว่าการต่อสู้ที่สามารถล้มศัตรูทุกคนที่มีระดับต่ำกว่าขั้นยอดปรมาจารย์ได้สำเร็จ ยังเปรียบเสมือนผู้อ่อนหัด ถ้าอย่างนั้นสำหรับแอป Keep คนที่กลายเป็นผู้แข็งแกร่งได้ ต้องมีระดับพลังสูงส่งขนาดไหนกัน?

 

 

ระดับยอดปรมาจารย์?

 

 

หรือว่าระดับเซียน?

 

 

เพียงแค่คิด หลินเป่ยเฉินก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

‘ติ๊ง!’

 

 

‘สูตรการออกกำลังกายของสุดยอดคุณชายนายกระจอกคำนวณเสร็จสิ้น นี่คือสูตรที่จะกินระยะเวลา 1 เดือน แบ่งแยกออกเป็น 4 หมวดหมู่ คือการออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน การฝึกพลังยุทธ์ การรับประทานอาหาร และการเพิ่มพูนความแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดด… เป้าหมาย : ขึ้นสู่ขั้นยอดปรมาจารย์ให้ได้’

 

 

‘หมวดหมู่ที่ 1 :  การออกกำลังกายขั้นพื้นฐาน ประกอบไปด้วยการวิ่งสลับช้าเร็ว การวิดพื้น การซิทอัพ การต่อยท้อง การนอนคว่ำหน้าเกร็งลำตัว การเล่นโยคะ…ต้องทำทั้งหมดวันละ 10 รอบ และเวลาที่ต้องใช้ก็คือ…’

 

 

‘หมวดหมู่ที่ 2 : การฝึกพลังยุทธ์ ทางด้านความแข็งแรงของร่างกาย ตรวจพบแอปพลิเคชันกระบี่เร้นกายที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ แต่ในเรื่องของการโคจรพลังลมปราณ ยังตรวจไม่พบแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานร่วมกัน กรุณารีบหามาติดตั้งโดยเร็ว’

 

 

‘หมวดหมู่ที่ 3 : การรับประทานอาหาร ไม่มีแอปพลิเคชันที่จำเป็นต้องใช้งานเป็นพิเศษ มีเพียงสูตรการทำอาหารที่ควรรับประทานคือ…’

 

 

‘หมวดหมู่ที่ 4 :  ยังตรวจสอบไม่พบคุณสมบัติที่จะเพิ่มพูนความแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดดได้’

 

 

‘คำเตือน! โปรดออกกำลังกายตามระยะเวลาที่กำหนดและกรุณาทำคะแนนให้ได้ตามที่แอปพลิเคชันต้องใช้งาน เพราะมันจะส่งผลให้การออกกำลังกายของท่านมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น’

 

 

รายละเอียดในแผนออกกำลังกายปรากฏขึ้นมายาวเหยียด

 

 

หลินเป่ยเฉินออกแรงนวดขมับตนเองมากกว่าเดิม

 

 

“ถ้าฝึกตามนี้เราจะแข็งแกร่งขึ้นจริงๆ หรือวะเนี่ย?”

 

 

เด็กหนุ่มรู้สึกไม่อยากจะเชื่อใจสักเท่าไหร่

 

 

หรือว่าเขาควรยึดตามสูตรการฝึกพลังอย่างวัน พันช์ แมนดีนะ?

 

 

สุดท้ายแล้ว หากเขาสามารถแข็งแกร่งได้อย่างวัน พันช์ แมน มันก็คงจะยอดเยี่ยมไม่น้อย

 

 

เมื่อคิดได้ดังนั้น หลินเป่ยเฉินจิตใจก็สงบลงเล็กน้อย และเขาเพิ่งได้สังเกตว่าแอป Keep มีความแตกต่างจากแอปพลิเคชันอื่นๆ ที่เขาเคยลงในโทรศัพท์มือถือ

 

 

ก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นแอปพลิเคชันตัวไหน เพียงปล่อยให้มันทำงานในโทรศัพท์มือถือต่อไป หลินเป่ยเฉินก็จะได้รับพลังนั้นมาโดยไม่ต้องเหนื่อยแรง

 

 

แต่บัดนี้ เขายังคงต้องออกกำลังกายในชีวิตจริง

 

 

อย่างเช่น การฝึกฝนให้หมวดหมู่แรก ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งจ๊อกกิ้ง การเล่นโยคะและอย่างอื่นอีกมากมาย…

 

 

เอาวะ ยังไงตนก็เป็นที่พึ่งแห่งตนอยู่ดี

 

 

ยุติธรรมแล้วล่ะ

 

 

เขาจะได้ใส่ใจร่างกายของตนเองมากกว่านี้ด้วย

 

 

หลินเป่ยเฉินพยายามปลอบใจให้ตนเองมุ่งมั่นต่อไป

 

 

ระยะเวลา 1 เดือนต่อจากนี้ การออกกำลังกายคือสิ่งสำคัญสูงสุดในชีวิตของหลินเป่ยเฉิน

 

 

หรืออีกนัยหนึ่งก็คือ ถ้าหากการวิ่ง การเล่นโยคะ การวิดพื้นในทุกๆ วัน จะช่วยทำให้เลื่อนระดับพลังขึ้นสู่ขั้นยอดปรมาจารย์ได้สำเร็จ

 

 

มันก็จะเป็นเรื่องที่…

 

 

น่าสนใจไม่น้อยทีเดียว

 

 

ก็เหมือนกับการฝึกวิทยายุทธ์ประจำวันของคนอื่นๆ อยู่แล้ว เรื่องนี้ไม่มีปัญหาแต่อย่างใด

 

 

ส่วนเรื่องอาหารการกิน ถ้าทำตามสูตรที่แอป Keep ให้มาก็พอแล้ว

 

 

แต่การเพิ่มพูนความแข็งแกร่งอย่างก้าวกระโดดนั่นแหละ?

 

 

แค่ชื่อก็ฟังดูน่าสนใจแล้ว ถ้าเดาไม่ผิด มันน่าจะเป็นหมวดหมู่ที่ช่วยทำให้ระดับพลังของเขารุดหน้าไปได้เร็วมากขึ้น

 

 

หรือว่าการใช้งานในหมวดหมู่สุดท้ายนี้ จะต้องเสียเงิน?

 

 

หลินเป่ยเฉินเริ่มรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ชอบมาพากล

 

 

หลายชั่วยามผ่านไป

 

 

เช้าวันนี้ หลินเป่ยเฉินโดดเรียนเพราะเอาเวลามาออกกำลังกายตามที่แอป Keep แนะนำ

 

 

การดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน taobao ลุล่วงไปแล้ว 20%

 

 

 เมื่อถึงช่วงพักกลางวัน ตำหนักไม้ไผ่ก็มีชีวิตชีวาขึ้นมาทันที

 

 

เพราะว่าฉู่เหินและคนอื่นๆ เดินทางมาที่นี่ตามนัดหมาย

 

 

“เจ้าลูกเต่า อาจารย์บอกแล้วใช่ไหมให้เจ้าอยู่เงียบๆ จงทำตัวตามปกติธรรมดาต่อไป แต่ผ่านไปได้เพียงไม่กี่วัน เจ้าก็ไม่ยอมไปเข้าเรียนอีกแล้ว รู้หรือไม่ว่าเฒ่าทะเลลาออกจากตำแหน่งอาจารย์หัวหน้าชั้นปีและกลับสู่ทะเลใหญ่ไปเรียบร้อยแล้ว หากเฒ่าทะเลยังอยู่แล้วล่ะก็ เจ้าไม่มีทางได้มาลอยหน้าลอยตาอยู่เช่นนี้แน่”

 

 

ฉู่เหินพูดด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

 

 

“เมื่อคืนเกิดเรื่องนิดหน่อยน่ะขอรับ ข้าน้อยออกแรงเยอะเกินไป…”

 

 

หลินเป่ยเฉินอธิบายด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

 

 

“เจ้ายังเด็ก ควรพักผ่อนให้เพียงพอสิ” พานเว่ยหมินพูด

 

 

หลิวฉีไห่เหลือบตามองไปทางห้องครัว เฉียนเหมยกับเฉียนเจินวันนี้หยุดเรียนเพราะต้องมาเตรียมทำอาหารกลางวัน ชายชรากระตุกยิ้มมีเลศนัยเล็กน้อย ก็พูดว่า “เรื่องนี้อาจารย์เข้าใจได้ พวกเจ้ายังเป็นหนุ่มเป็นสาว… แต่ก็ควรแบ่งเวลาให้มันดีกว่านี้สิ”

 

 

หืม

 

 

แบ่งเวลาอย่างนั้นหรือ?

 

 

มันก็ควรเป็นเรื่องดีนะ แต่ทำไมหลินเป่ยเฉินฟังแล้วรู้สึกแปลกๆ ชอบกล

 

 

จังหวะนั้น ติงซานฉือก็เดินทางมาถึงพอดี

 

 

ทุกคนประหลาดใจมากตอนที่เห็นหน้าอาจารย์ติง

 

 

“อาจารย์ ไปทำอะไรมาขอรับ?”

 

 

หลินเป่ยเฉินอุทานออกมาด้วยความตกใจ “ทำไมขอบตาดำและใบหน้าก็ซีดขาวถึงเพียงนี้? อาจารย์… ไม่ได้นอนหรือขอรับ?”

 

 

ติงซานฉือพ่นลมผ่านทางจมูกด้วยความฉุนเฉียว “ก็ยังไม่ได้นอนน่ะสิ เป็นเพราะเจ้าคนเดียว อาจารย์ถึงต้องเปลี่ยนแผนการสอนครั้งแล้วครั้งเล่า…ทำให้บัดนี้อาจารย์ไม่ได้นอนมาเกือบ 6 วันแล้ว หากเจ้าไม่ส่งคนไปตามมาที่นี่ มันก็คงเป็นเวลานอนของอาจารย์เสียที”

 

 

หลินเป่ยเฉินพูดหน้ามุ่ย “การจัดการเวลาคือสิ่งสำคัญนะขอรับ อาจารย์”

 

 

“เลิกพูดจาเหลวไหลได้แล้ว” ติงซานฉือโยนถุงเก็บของวิเศษสีแดงและกำไลหยกให้แก่เด็กหนุ่มด้วยความรำคาญใจ “ของพวกนี้อาจารย์เปิดออกเรียบร้อย… แล้วสรุปที่ให้คนไปตามอาจารย์มา มีอะไรสำคัญหรือไม่? ถ้าไม่มี อาจารย์จะได้กลับไปนอนเสียที”

 

 

อาการบาดเจ็บที่แท้จริงของชายชราเริ่มหนักหน่วงมากขึ้น และไม่มีทีท่าว่ามันจะบรรเทาเบาบางขึ้นเลย

 

 

ติงซานฉือกำลังจะไม่สามารถปกปิดความจริงได้อีกแล้ว

 

 

เขากลัวว่าตนเองจะทำความลับเปิดเผยต่อหน้าหลินเป่ยเฉินและพรรคพวกคนอื่นๆ

 

 

“เป็นเรื่องสำคัญมากขอรับอาจารย์”

 

 

หลินเป่ยเฉินตอบรับเร็วไว “ข้าสั่งให้สาวรับใช้เตรียมทำอาหารมื้อกลางวันให้พวกท่านแล้ว มันคืออาหารที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งของร่างกาย นอกจากนี้ ข้าขอแนะนำให้อาจารย์ไปขอคำปรึกษาจากอาจารย์ใหญ่หลิงไท่ซวีดูนะขอรับ รายนั้นไม่เห็นต้องนอนสักหน่อย หน้าตาก็ยังดูยังหนุ่มยังแน่นอ่อนกว่าวัยมากมาย แสดงว่าอาจารย์ใหญ่ต้องมีเคล็ดลับวิเศษที่ไม่บอกใครอยู่แน่ๆ…”