บทที่ 1606 - กรรไกรวิหคเพลิงทองคํา และคทาวชิระ สมบัติระดับสวรรค์แห่งธาตุทั้ง 5

Ancient Strengthening Technique เทพอสูร บรรพกาล

บทที่ 1606 – กรรไกรวิหคเพลิงทองคํา และคทาวชิระ สมบัติระดับสวรรค์แห่งธาตุทั้ง 5

 

เมื่อตระกุลรั่วได้ซ่อมแซมหอคอยจักรพรรดิเสร็จสิ้นแล้วพวกเขาก็ถอนตัวกลับไปอย่างรวดเร็วในตอนนี้ตระกุลทั่วรู้สึกอับอายอย่างยิ่ง ดังนั้นหากไม่มีอะไรผิดพลาดพวกเขาคงจะรีบออกจากที่อย่างนี้ไปนี่ยังเป็นหนทางรอดชีวิตของตระกูลพวกเขาด้วยเช่นกัน

 

หลังจากชิงสุ่ยกลับมาเขาก็เข้าไปที่ดินแดนหยกยุพราชอมตะ คนอื่นๆต่างก็ไม่ได้รบกวนเขาเพราะรู้ว่าเขาต้องการพักผ่อน

 

เมื่อได้เข้ามายังดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาก็ไปตรวจสอบดูอาการบาดเจ็บของอสูรนรกรัตติกาล ในตอนนี้มันเริ่มหายเป็นปกติแล้ว เมื่อนึกถึงเรื่องนี้เขาก็เดินเข้าไปหากรรไกรสีทองของชายชรามันคือกรรไกรวิหคเพลิงทองคําและคทาวชิระ

 

นี่เป็นสมบัติที่ล้ําค่าและถังกรรไกรวิหคเพลิงทองคําและคทาวชิระต่างก็สร้างขึ้นมาจากสิ่งเดียวกัน น่าเสียดายที่ผู้อาวุโสของตระกุลณัวนั้นไม่สามารถดึงพลังของสมบัติชิ้นนี้ออกมาได้อย่างเต็มที่พวกมันยังต้องการแก่นแท้โลหิตเพื่อยืนยันความเป็นเจ้าของและสามารถควบคุมด้วยจิตใจได้

 

ชิงสุ่ยจะมอบคทาวชิระให้ฉินชิง เขามีง้าวทองทะลวงศัตรูอยู่แล้วแต่กรรไกรวิหคเพลิงทองคํานั้นก็เป็นสิ่งที่สําคัญ แต่เมื่อนึกถึงฉินชิงที่มีมรดกแห่งเทพสงครามนกหงษ์เพลิงเขาก็เริ่มลังเลใจ

 

เขาออกจากดินแดนหยกยุพราชอมตะและตรงไปที่ห้องของฉันชิง พวกเขาไม่ได้พักอยู่ในอาคารหลังเดียวกันแต่อยู่ข้างๆกัน ก่อนหน้านี้เหลียนหลิงเฟิงและซีฉีชาก็ไม่ได้อยู่ในอาคารหลังเดียวกันแต่ในตอนนี้

 

ในตอนที่ชิงสุ่ยก้าวเข้ามาในอาคารหลังนี้ ฉินชิงก็สามารถรับรู้ได้

เมื่อเขาได้มาถึงหน้าประตูห้องของฉันชิงเขาก็ได้เห็นฉินชิงยืนอยู่ตรงนี้แล้วชิงสุ่ยยิ้มออกมา “ข้ามีอะไรบางอย่างที่อยากจะพูดกับเจ้า”

 

“เข้ามาข้างในก่อน!” ฉินชิงยิ้มและเชิญเขาเข้ามาในห้องสําอาง ชิงสุ่ยสามารถสัมผัสได้ว่าหัวใจของนางนั้นได้เร็วขึ้นเล็กน้อย

 

ชิงสุ่ยรู้ว่าฉันชิงยังไม่ได้เตรียมตัวอะไรในตอนนี้ดังนั้นเขาจึงนํากรรไกรวิหคเพลิงทองคําและคทาวชิระออกมาก่อนที่จะกล่าวว่า “ของพวกนี้เป็นอาวุธของชายชราผู้นั้น แต่เขาไม่สามารถดึงพลังของมันออกมาได้อย่างเต็มที่ เจ้าชอบอันไหน? ข้าจะบอกการใช้งานของมันให้กับเจ้า ด้วยสองสิ่งนี้พลังของเจ้าย่อมไม่ด้อยไปกว่าผู้ใดอย่างแน่นอน”

 

“เจ้าควรเก็บมันไว้ ข้าไม่ต้องการมันหรอก” ฉินชิงกล่าวกับชิงสุ่ย

 

“เจ้าไม่ชอบมันงั้นเด่?” ชิงสุ่ยถามขึ้นด้วยความสงสัย

 

“ผู้ฝึกยุทธทุกคนต่างก็รู้สึกยินดีที่จะได้รับอาวุธที่ทรงพลังยิ่งขึ้น แต่ข้าก็รู้สึกได้ว่าเจ้าต้องการมันมากกว่าข้า” ฉินชิงส่ายศีรษะของนางและกล่าวขึ้น

 

“ชิงชิงน้อย เจ้ารู้หรือไม่ว่าความสุขคืออะไร?”

 

ฉินชิงรู้สึกพูดไม่ออกมามองมาที่ชิงสุ่ย นางรู้สึกคุ้นเคยกับคําพูดเช่นนี้ของเขาอยู่แล้วและไม่ได้ต่อต้านอะไรมากนัก นางไม่รู้ว่านางควรจะมีความสุขหรือกังวลดี นางหวังว่าวันหนึ่งนางจะสามารถยอมรับในตัวชิงสุ่ยได้และได้แต่งงานกับเขา นางหวังว่าตนเองจะสามารถเปลี่ยนแปลงได้

 

“ถ้ามีความสุขอย่างยิ่ง!” ฉินชิงและชิงสุ่ยนั่งลงตรงข้ามกัน

 

“เจ้ามีความสุขเหตุใดจึงไม่ทําให้ข้ามีความสุขบ้าง?” ชิงสุ่ยยิ้มและถามขึ้น

 

“เจ้าไม่มีความสุขนั้นหรือ? ในตอนนี้เจ้าก็ดูมีความสุขดีหน” ฉินชิงยิ้มจางๆ นางรู้สึกมีความสุขไม่ได้อยู่กับชิงสุ่ย มันทั้งผ่อนคลาย สบาย อบอุ่นหัวใจ เขาทําให้นางรู้สึกได้ถึงความซื่อสัตย์และความปลอดภัย

 

“ความสุขของข้าคือการแบ่งปัน การได้แบ่งปันสิ่งต่างๆกับครอบครัวนั้นถือเป็นความสุขของข้าเพียงแค่คิดข้าก็มีความสุขมากแล้ว ในตอนนี้ข้ามีของ 2 อย่างและข้าอยากจะแบ่งให้เจ้า 1 อันเจ้าต้องการรับมันหรือไม่?” ชิงสุ่ยมองมาที่ฉันชิง

 

ในตอนนี้ฉันชิงไม่ได้ปฏิเสธอีกต่อไป นางหยิบกรรไกรสีทองขึ้นมา ”เช่นนั้นข้าก็ขอรับกรรไกรเดียวไหว”

 

ชิงสุ่ยรู้สึกดีที่เขาไม่ได้เร่งรัดผูกความเป็นเจ้าของกับอาวุธก่อนหน้านี้ ชิงสุ่ยบอกนางเรื่องการผูกความเป็นเจ้าของด้วยแก่นแท้โลหิต 100 หยด เขาต้องการให้ฉินชิงเตรียมทุกสิ่งทุกอย่างให้พร้อมเพื่อยกระดับพลังงาน

 

แก่นแท้โลหิตนั้นล้ําค่าอย่างยิ่งเพียงแค่หยดเดียวก็เทียบได้กับโลหิตธรรมดาถึง 100 หยด โลหิตแก่นแท้ 100 หยดมันมีผลต่อลมปราณแรกเริ่มอย่างมาก คนทั่วไปสามารถฟื้นฟูมันกลับมาได้ 1 โยชน์ต่อวันแต่ก็ยังมียาบางอย่างที่สามารถช่วยให้ความเร็วนั้นเพิ่มมากขึ้น

 

ชิงสุ่ยนั้นมีร่างกายที่พิเศษบวกกับที่เขามีดินแดนหยกยุพราชอมตะ ดังนั้นมันจึงไม่มีปัญหาอะไรสําหรับเขา ฉินชิงนั้นก็มีร่างกายที่พิเศษแต่นางก็ยังคงต้องใช้เวลากว่า 10 วันเพื่อฟื้นฟูให้กลับมาเป็นปกติ

 

ฉินชิงบอกว่านางอยากจะทํามันทันทีในตอนนี้ ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าไม่มีอะไรผิดปกติในร่างกายของนางเขาจึงยืนอยู่ที่นี่เพื่อคอยปกป้องนาง ผู้อาวุโสของตระกุลนั่วย่อมไม่ทราบถึงวิธีการผูกความเป็นเจ้าของเช่นนี้และชิงสุ่ยก็รับรู้มันได้จากเคล็ดวิชาเบิกเนตรสวรรค์ของเขา หากชายชราได้ผูกความเป็นเจ้าของกับอาวุธนี้ชิงสุ่ยย่อมต้องตายไปแล้วอย่างแน่นอน

 

โลหิตแก่นแท้เริ่มหยดลงไปบนกรรไกรวิหคเพลิงทองคําจากนั้นความอัศจรรย์ก็เกิดขึ้น สิ่งที่ได้เห็นนั้นแปลกประหลาดอย่างยิ่ง มันต้องการโลหิตแก่นแท้ 100 หยดไม่ขาดไม่เกินคนทั่วไปย่อมไม่ทราบถึงวิธีการเช่นนี้อย่างแน่นอน

 

คนทั่วไปอาจจะต้องตายหากพวกเขาสูญเสียโลหิตแก่นแท้ไปถึง 100 หยด และหากหยดลงไปเพียง 99 หยดหรือเกินกว่า 100 หยด มันย่อมไม่เกิดผลอะไร

 

หลังจากผ่านไป 100 หยดสีหน้าของฉินชิงก็เริ่มซีดลง แต่นางก็ยังคงจ้องมองสิ่งที่เกิดขึ้นหลัง จากเวลาผ่านไปช้าๆเปลวเพลิงสีทองก็ปรากฏขึ้นบนกรรไกรวิหคเพลิงทองคํามันให้ความรู้สึกที่แหลมคมราวกับว่าสามารถตัดขาดได้ถึงระดับจิตวิญญาณ

 

ทันใดนั้นความรู้สึกของการเชื่อมต่อทางสายเลือดก็เข้าสู่ร่างกายของฉันชิง ทําให้ร่างกายที่อ่อนแอของนางเรื่องฟื้นฟูกับมาได้ถึง 20%

 

ฉินชิงรู้สึกดีขึ้นมากในตอนนี้ ยิ่งไปกว่านั้นนางยังมีร่างกายพิเศษที่คอยช่วยเหลือ เพียงแค่คิดครั้งเดียวกรรไกรวิหคเพลิงทองคําก็ลอยขึ้นมาและเปลี่ยนแปลงรูปร่างของมันแต่ไม่ว่ามันจะเปลี่ยนแปลงมากเพียงใดแต่มันก็ยังคงเป็นกรรไกรสีทองขนาดใหญ่อยู่

 

ฉินชิงสามารถควบคุมกรรไกรวิหคเพลิงทองคําได้ในระยะ 3 เมตร ชิงสุ่ยรู้สึกสนใจในความคมของมันเป็นอย่างยิ่ง มันสามารถทะลวงพลังป้องกันได้และยังสามารถทําให้อสูรนรกรัตติกาลได้รับบาดเจ็บ…

 

ฉันชิงได้เห็นแล้วก่อนหน้านี้ทั้งนั้นนางจึงรู้สึกรักมันเป็นอย่างมาก ชิงสุ่ยเห็นว่าทุกๆสิ่งเสร็จสิ้นแล้วดังนั้นเขาจึงลุกขึ้นและกําลังเดินจากไป เมื่อเขาออกมาข้างนอกเขาก็ได้พบกับหยินต่ง หลิน เฟย เหลียนหลิงเฟิง and ซีฉีชา ที่กําลังเดินเข้ามา

 

พวกเขาต่างรู้สึกประหลาดใจที่ได้เห็นชิงสุ่ย ชิงสุ่ยยิ้มและกล่าวว่า “พวกเจ้าไม่ไปพัก ผ่อนงั้นหรือ?นี่ก็ดึกมากแล้ว พวกเจ้าควรจะไปพักผ่อนได้แล้ว”

 

ชิงสุ่ยได้มอบวิชาวิหคเพลิงผสานกายให้แก่พวกเขาด้วยการเขียนมันลงบนกระดาษ ในบรรดาชายทั้งสองคนนี้คนหนึ่งนั้นชอบช่วยเหลือคนอื่นๆส่วนอีกคนนั้นหลงใหลในความแข็งแกร่งเป็นอย่างยิ่งดังนั้นวิหคเพลิงผสานกายจึงเป็นประโยชน์สําหรับพวกเขา ซีฉีชาและหลิน เฟยต่างก็ไม่ใช่หญิงสาวธรรมดา แม้ว่าพรสวรรค์ของพวกนางนั้นจะเทียบไม่ได้กับเหล่าอยู่สาวที่อยู่ในภาพโฉมงาม แต่พวกนางก็จึงถือว่าทรงพลังมากยิ่งกว่าอัจฉริยะคนอื่นๆ

 

หลังจากได้รับคําแนะนําเรื่องวิหคเพลิงผสานกายพวกเขาทุกๆคนก็รู้สึกยินดี พวกเขารู้สึกว่านี่เป็นเคล็ดวิชาที่ทรงพลังอย่างยิ่งสําหรับพวกเขา แต่ชิงสุ่ยก็ยังคงไม่อยากจะฝึกวิชานี้ เขาไม่ชอบ ความรู้สึกของการทําอะไรแล้วไม่สําเร็จ ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเขาอยู่กับผู้หญิงที่เขารักเขาจะรู้สึกไม่ สบายใจเมื่อนึกถึงเคล็ดวิชานี้นี้

 

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ชิงสุ่ยจึงตัดสินใจที่จะไม่ฝึกฝนมัน เขาไม่ให้หญิงสาวของเขา ฝึกฝนมันด้วยเช่นกัน เขาไม่รู้ว่าตัวเองตัดสินใจถูกหรือไม่แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็จะตัดสินใจเช่นนี้

 

ในท้ายที่สุดชิงสุ่ยก็กลับไปยังดินแดนหยกยุพราชอมตะและนําคทาวชิระออกมา เขาตัดสินใจที่จะเก็บมันไว้เพื่อตนเองและจะทําการผูกความเป็นเจ้าของกับมัน

 

ชิงสุ่ยนั้นมีสมบัติมากมายแต่คทาวชิระนั้นเป็นสมบัติระดับสูง มันไม่ได้ด้อยไปกว่าหุบเขา 9 เทวาหรือลูกประคําอธิษฐานศักดิ์สิทธิ์เลย แม้ว่าชิงสุ่ยจะได้รับบาดเจ็บแต่ลมปราณแรกเริ่มก็ไม่ได้รับผลกระทบและเขายังสามารถทําการผูกความเป็นเจ้าของกับมันได้ ยิ่งไปกว่านั้นด้วยจิตแห่งปราณและเวลาภายในดินแดนหยกยุพราชอมตะ เขาย่อมฟื้นฟูจนกลับมาเป็นปกติได้เมื่อออกไปจากที่นี่

 

หลังจากเสร็จสิ้นทุกกระบวนการชิงสุ่ยก็รู้สึกประหลาดใจที่อาวุธชิ้นนี้ไม่ได้มีความแหลมคมสิ่งที่ทําให้เขารู้สึกประหลาดใจมากยิ่งกว่านั้นคือพลังแห่งธาตุทั้ง 5 ที่อยู่ภายในสมบัติชิ้นนี้มันเป็นสมบัติระดับสวรรค์แห่งธาตุทั้ง 5 สําหรับการควบคุมเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุ

 

เพิ่มความสามารถในการควบคุมธาตุทั้ง 5 เป็น 2 เท่า เพิ่มพลังของธาตุทั้ง 5 เป็น 2 เท่าเพิ่มกําลังหลักในองค์ประกอบของธาตุทั้ง 5

 

ชิงสุ่ยรู้สึกเบิกบานอย่างยิ่งในตอนนี้ แม้ว่ามันจะไม่ได้มีความสามารถในการป้องกันแต่หากเขาสามารถใช้คทาวชิระนี้ได้อย่างชํานาญแล้วแม้แต่ผู้อาวุโสของตระกุลถั่วที่เขาได้พบก่อนหน้านี้ก็จะไม่ทําให้เขาต้องกังวลอีกต่อไป

 

ชิงสุ่ยรู้สึกได้ถึงพลังอันไร้ขีดจํากัดภายในร่างกายของตนเอง เขาเอนตัวนอนลงเพื่อหยุดพักร่างกายของเขานั้นสูญเสียพลังไปมากและเขาต้องการฟื้นฟูมันกลับมาให้เร็วที่สุด

 

เมื่อเวลาผ่านพ้นไปชิงสุ่ยก็ฝึกฝนหมัดไทเก๊กเป็นประจําทุกวัน รวม ถึงฝึกฝนเคล็ดพลังศักดิ์สิทธิ์กลั่นหลอมเบญจธาตุสภาพจิตใจของเขาเปลี่ยนไปเรื่อยๆและแม้แต่วิ ธีที่เขาเห็นสิ่งต่างๆก็พัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ

 

ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ถึงทุกสิ่งที่อยู่รอบตัวราวกับว่าพวกมันอยู่ในการควบคุมของเขา

 

ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋ของเขาได้ยกระดับขึ้น!

 

บางครั้งความทุกข์ยากที่สุดก็จะนํามาซึ่งสิ่งที่ดีที่สุด ชิงสุ่ยรู้สึกยินดีจนบอกไม่ถูกกับคทาวชิระแต่ในตอนนี้ดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋ก็มายกระดับขึ้นอีก นี่เป็นความสุขที่เขาตื้นตันจนไม่อาจอธิ บายออกมาได้

 

เมื่อคนเรามีความสุขเวลาจะผ่านไปอย่างรวดเร็วเสมอ ร่างกายของชิงสุ่ยฟื้นฟูจนกลับ มาเป็นปกติและด้วยคทาวชิระทําให้ร่างกายของเขาในตอนนี้เต็มไปด้วยพลังของธาตุทั้ง 5 ที่อัด แน่นอยู่ภายในเขารู้สึกราวกับว่าตนเองเป็นเหมือนคนที่กําลังจะหาคู่ต่อสู้เพื่อทดลองพลัง

 

ในตอนนี้ชิงสุ่ยรู้สึกได้ว่าผู้ที่มีดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋ระดับต่ํากว่าเขานั้นยอมไม่สามารถเทียบเคียงกับเขาได้เขาก็เคยมีความรู้สึกเช่นนี้ก่อนหน้านี้แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะได้พบเจอคนอย่างผู้อาวุโสของตระกุลทั่วผู้ที่มีดินแดนพลังเทวะแห่งเต๋อันทรงพลังและยังครอบครองกรรไกรวิหคเพลิงทองคําและสมบัติระดับสวรรค์ชั้นอื่นๆ รวมไปถึงเป็นนักฝึกสัตว์อสูรด้วยเช่นกันโชคดีที่ชิงสู่ยนั้นมีอสูรสยบมังกรและหนอนไหมมังกรทอง ยิ่งไปกว่านั้นเขายังมีหุบเขา9 เทวาเพื่อช่วยป้องกันและเคล็ดวิชาอื่นๆ ทําให้เขาได้รับชัยชนะจากการต่อสู้ที่ผ่านมา

 

เมื่อชิงสุ่ยตื่นขึ้นในวันถัดมาท้องฟ้าข้างนอกก็เริ่มสว่างขึ้นแล้ว แม้ว่าที่อย่างนี้จะหนาวเย็นนักแต่ดวงอาทิตย์ก็ยังขึ้นกระจ่างแจ้งทุกวันในยามเช้า แม้ว่าดวงอาทิตย์จะโผล่ขึ้นมาแต่มันก็ไม่ได้ทําให้อากาศอบอุ่นมากขึ้นนัท

 

ฉินชิงปรากฏตัวออกมาเกือบจะพร้อมกันกับชิงสุ่ย เมื่อพวกเขาได้มองหน้ากันพวกเขาก็รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องบังเอิญ ฉินชิงยังคงถือว่าอ่อนแออยู่ เมื่อได้เห็นชิงปุยนางก็ยิ้มออกมาอย่างมีความสุข

 

รอยยิ้มของนางในตอนนี้อบอุ่นยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ในฤดูหนาว มันงดงามอย่างยิ่งเขายอมแลกทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อได้เห็นรอยยิ้มของนาง

 

เมื่อได้เห็นสายตาของชิงสุ่ย ใบหน้าของนางก็เริ่มแดงขึ้น นารู้สึกมีความสุขในตอนนี้ คนอื่นๆต่างก็รู้สึกมีความสุขเมื่อได้เห็นทั้งสองคนปฏิบัติต่อกันเช่นนี้

 

หากเป็นคนที่พวกเขารังเกียจใช้สายตาเดียวกันกับนางนี้ก็คงจะเป็นเรื่องที่น่ารังเกียจและน่าขยะแขยง

 

คําพูดเช่นนี้นี่ใช้ได้เพียงกับหญิงสาวผู้นี้เท่านั้น