ตอนที่ 482 ใครไม่เชื่อใคร
“ตอนนี้คนที่ไม่เชื่อข้าคือท่าน ข้าบอกแล้วว่านางเจตนาไม่ดี ท่านไม่เชื่อ เรื่องที่พี่ชายนางโดนวางยาพิษอาจจะจริง แต่ที่นางอยากแต่งงานกับท่านไม่ใช่เพื่อช่วยพี่ชายแน่นอน
ผู้หญิงงูพิษใจอำมหิตเช่นนี้จะไปสนความเป็นความตายของพี่ชายได้อย่างไร อาเหยี่ยน เฉินปี้ไม่มีทางแต่งเข้าจวนเป็นอันขาด”
เห็นเซียวเหยี่ยนไม่เชื่อตนเอง เอนเอียงไปทางเฉินปี้ หลิงอวี้จื้อก็โมโหแล้ว พูดด้วยความโกรธ
เซียวเหยี่ยนจับไหล่ทั้งสองข้างของหลิงอวี้จื้อ อธิบายหลิงอวี้จื้อด้วยความอดทน
“อวี้จื้อ เจ้าก็รู้ว่าเหตุใดเฉินปี้ต้องแต่งเข้าจวน เวลาสองเดือนเจ้าทนไม่ไหวเชียวหรือ
ต้องทำเรื่องให้ยุ่งยากจนจัดการไม่ได้ ถึงเวลานั้นก็ล้วนไม่เป็นผลดีแก่พวกเรา ข้ารับปากเจ้า ตั้งแต่เฉินปี้เข้าจวนจนออกไป ข้าจะไม่ย่างกรายเข้าไปในห้องนาง และจะไม่เจอนางด้วย เจ้าไม่เชื่อข้าเชียวหรือ”
“ข้าย่อมเชื่อท่านอยู่แล้ว แต่ข้าไม่เชื่อเฉินปี้ รู้อยู่แท้ๆ ว่านางมีใจชั่ว ถ้าข้ายังจะให้นางเข้าจวนอีก ข้าไม่ใช่หาเรื่องใส่ตัวหรอกหรือ อาเหยี่ยน ข้าเคยหลอกท่านตอนไหนบ้าง ท่านถึงได้เชื่อเฉินปี้อยู่เช่นนี้”
หลิงอวี้จื้อร้อนใจแล้ว ยิ่งเห็นเซียวเหยี่ยนปกป้องเฉินปี้ อารมณ์ก็ยิ่งหงุดหงิดว้าวุ่นใจ ยอมไม่ได้แม้แต่วันเดียว
“ข้าไม่ได้เชื่อนาง นี่เป็นวิธีการแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในตอนนี้ อวี้จื้อ เฉินปี้ไม่ได้แย่อย่างที่เจ้าคิด ข้ารู้ว่าตนเองกำลังทำอะไร เจ้าเชื่อใจข้าก็พอแล้ว อวี้จื้อ เชื่อข้าสักครั้งยากขนาดนี้เชียวหรือ”
เมื่อเห็นสองคนความเห็นไม่ตรงกัน หลิงอวี้จื้อก็แอบก่นด่าเฉินปี้ในใจไปหนึ่งยก
ลูกไม้ของเฉินปี้ได้ผลอย่างคาดไม่ถึง กลทุกข์กายใช้ดีจริงๆ แถมยังลงมือที่ร่างกายของนางเองด้วย
กลางวันในวังเธอเพิ่งจะสั่งสอนเฉินปี้ไปหนึ่งยก กลางคืนเฉินปี้ก็แก้แค้นคืนเสียแล้ว
ผู้หญิงคนนี้ช่างเชี่ยวชาญเรื่องการใช้โอกาส หากได้อยู่กับเซียวเหยี่ยน จะไม่ขยันยุยงก่อเรื่องหรือ ถึงแม้เซียวเหยี่ยนจะไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น เฉินปี้ก็จะหาเรื่องเธอไปทุกหนแห่ง สร้างโอกาสเข้าใกล้เซียวเหยี่ยน ถึงเวลานั้นเมื่อเธอเห็นเข้าต้องไม่สบายใจแน่นอน
“เช่นนั้นท่านเชื่อข้าหรือยัง อาเหยี่ยน ท่านไม่ได้สนใจความรู้สึกของข้าหรอกหรือ เช่นนั้นตอนนี้ข้าจะพูดให้ชัดเจนแจ่มแจ้ง แค่มีเฉินปี้อยู่ ข้าก็อารมณ์ไม่ดีแล้ว ระหว่างข้ากับเฉินปี้ ถ้ามีข้าต้องไม่มีนาง”
“เจ้า…”
หลิงอวี้จื้อไม่ลดละ มองเซียวเหยี่ยนตรงๆ ทั้งคับข้องใจ ทั้งมีแววตาที่แฝงการรอคอย ขณะรอเซียวเหยี่ยนตอบ แต่ไหนแต่ไรมาเขาปกป้องเธอไว้อย่างดี ไม่อยากให้เธอได้รับความอยุติธรรมแม้แต่น้อย
เดิมทีเธอควรจะฝืนใจยอมรับ จากนั้นก็แอบใช้อุบายทำให้เฉินปี้ออกไป สามารถแข่งขันกับเฉินปี้อย่างลับๆ นี่เป็นวิธีที่ดีที่สุดตั้งแต่แรก
แต่กับเซียวเหยี่ยน เธอไม่อยากทำเช่นนั้น ไม่ว่ากับใครก็สามารถใช้อุบายและวิธีการได้ ยกเว้นเซียวเหยี่ยนเพียงผู้เดียวที่ใช้ไม่ได้ ต่อหน้าเซียวเหยี่ยน เธอจริงใจ เปิดเผยตัวตนทั้งหมดให้เห็น
เซียวเหยี่ยนมองหลิงอวี้จื้อ ปวดหัวกับความดื้อรั้นของหลิงอวี้จื้อในตอนนี้
“ปกติข้ายอมเจ้าเกินไปจริงๆ อวี้จื้อ เจ้ารู้คำตอบของข้าอยู่แล้ว แต่ข้าเลือกไม่ได้”
“ดังนั้นท่านจะดึงดันแต่งกับเฉินปี้ใช่หรือไม่”
หลิงอวี้จื้อใจชาไปครึ่งหนึ่ง เพื่อซ่อนอารมณ์ในดวงตา เธอจึงเสมองไปทางอื่นอย่างรวดเร็ว
“คนที่ข้าอยากแต่งงานคือเจ้า เฉินปี้เป็นเพียงแค่หมากตัวหนึ่ง เจ้าไม่ชอบ หมากตัวนี้ ข้าก็ไม่ได้คิดจะเก็บไว้นาน ไม่นานก็กำจัดออกไป
อวี้จื้อ ข้าคำนึงถึงความรู้สึกของเจ้าทุกๆ เรื่อง แต่เจ้าเคยนึกถึงความลำบากของข้าบ้างหรือไม่ ข้าเป็นอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา เรื่องใดเรื่องหนึ่ง หากทำไปแล้ว ก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา ผลที่จะตามมาบางเรื่อง ข้าก็ยอมรับไม่ได้”
เรื่องที่ยอมรับไม่ได้นั้น ก็คือการสูญเสียหลิงอวี้จื้อ
ตอนที่ 483 วันไหนเรื่องแดงขึ้นมาคงจะกระอักกระอ่วนน่าดู
มั่วชิงพยักหน้า หยิบยาถอนพิษจากบนโต๊ะยื่นให้หลิงอวี้จื้อ เธอเทยาออกจากขวด กลืนลงไปโดยไม่ลังเลทันที เรื่องที่โดนพิษไม่ใช่เรื่องหลอก ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องกินยาถอนพิษนี้
กินยาถอนพิษแล้ว เธอก็สั่งการต่อ
“รีบส่งข่าวให้นี่อวิ๋น บอกเขาว่าข้ากินยาถอนพิษแล้ว เผื่อเขาจะทำอะไรวู่วาม”
มั่วชิงพยักหน้า ไม่นานก็ออกไปสั่งการ หลิงอวี้จื้อมองเพดานอย่างเหม่อลอย ปากก็คอยพูดไม่หยุด เซียวเหยี่ยนบ้า เกลียดเจ้า เกลียดเจ้า เกลียดจะตายอยู่แล้ว!
หลิงอวี้จื้ออารมณ์ขุ่นมัว บ่นงึมงำอยู่ในปากไม่หยุด วันดีๆ ที่เฝ้าคอยในที่สุดก็มาถึงแล้ว ผลคือไม่ดีใจเลยสักนิด เซียวเหยี่ยน ข้าแค่อยากไปได้ดีกับเจ้า เจ้าเข้าใจบ้างไหมเนี่ย
คิดถึงตรงนี้ หลิงอวี้จื้อก็ถอนหายใจแรงหนึ่งครั้ง
ปกติเธอไม่ค่อยถอนหายใจ และไม่ชอบถอนหายใจด้วย แต่พอนึกถึงเรื่องนี้ทีไรก็อดไม่ได้ อยากถอนหายใจทุกที เธอจะทำอย่างไรดี
เฉินปี้มานอนขวางอยู่ตรงกลาง ไม่มีทางหลีกหนีเรื่องนี้ได้เลย เธอจำเป็นต้องเผชิญหน้า แม้ว่าระหว่างเธอกับเซียวเหยี่ยนจะขัดแย้งกันเพราะเรื่องนี้ เธอก็จะไม่มีทางปล่อยเซียวเหยี่ยนให้เฉินปี้ เฉินปี้ไม่มีคุณสมบัติเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์
วันถัดมา หลิงอวี้จื้อไปจวนตระกูลเฉิน อยากไปพบเฉินปี้ สาวใช้นำทางไปที่ห้องของเฉินปี้ แขนของเฉินปี้พันด้วยผ้าพันแผลหนาๆ กำลังอ่านหนังสืออยู่ในห้อง
มิน่าถึงบอกว่านางเป็นผู้หญิงมีความสามารถ ในห้องเต็มไปด้วยหนังสือ เก็บห้องอย่างสะอาดเป็นระเบียบและสง่างาม บนโต๊ะเขียนหนังสือก็วางกระดาษเซวียนจื่อที่เขียนอักษรแล้วจำนวนไม่น้อย ลายมือที่เขียนบนกระดาษก็สวยงาม ทั้งหมดล้วนเป็นบทกวี ดูออกว่าเฉินปี้เป็นคนที่เก่งมาก
คนเช่นนี้ควรเป็นคนที่ทำให้คนอื่นรู้สึกดีด้วยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ดันเป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์เสียนี่
เห็นหลิงอวี้จื้อเข้ามา เฉินปี้ก็ลุกขึ้น วางหนังสือในมือลง ทักทายหลิงอวี้จื้อด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
“เหตุใดวันนี้จู่ๆ คุณหนูหลิงถึงมีเวลาว่างมาได้หรือ”
หลิงอวี้จื้อตอบพลางยิ้มไม่จริงใจ
“ได้ยินคุณหนูเฉินบาดเจ็บเพราะช่วยเหลือข้า ข้าก็ย่อมต้องมาขอบคุณถึงเรือน มิเช่นนั้นข้าจะอยู่อย่างสบายใจได้อย่างไร”
“ตอนที่ตกน้ำคุณหนูหลิงก็ช่วยข้าไว้ ข้าเพียงปฏิบัติเช่นเดียวกันกับเจ้าเท่านั้น”
พูดจบเฉินปี้ก็ทำท่าเชิญ ซูฮว่าที่อยู่ข้างๆ รีบยกชามาให้
หลิงอวี้จื้อนั่งลงอย่างไม่เกรงใจ
“ตอนเช้าข้าเพิ่งช่วยเจ้า ตอนบ่ายเจ้าก็ช่วยข้าคืนแล้ว คุณหนูเฉินทำอะไรกระตือรือร้นจริงๆ คุณหนูเฉินเข้าใจความคิดของผู้ชายอย่างดี บนโลกนี้สถานที่ที่เข้าใจผู้ชายที่สุดก็คือหอนางโลม หรือว่าคุณหนูเฉินไปเรียนรู้ประสบการณ์ที่นั่นมาเป็นพิเศษ”
“คุณหนูหลิงเอาชนะใจท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ภายในระยะเวลาไม่นาน คุณหนูหลิงคงจะเคยไปเรียนรู้ประสบการณ์ที่นั่นเสียมากกว่า”
เฉินปี้ไม่น้อยหน้า ตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
หลิงอวี้จื้อยักไหล่
“ช่วยไม่ได้ ท่านอ๋องชอบคนอย่างข้า ก็นับว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเองโดยไม่ได้ตั้งใจ อย่างนี้เรียกว่าพรหมลิขิตบันดาลชักพา เป็นการแต่งงานที่ฟ้าลิขิต ก็เกรงว่าใครบางคนแม้จะใช้อุบายเสียหมด สุดท้ายก็ไม่มีอะไรตกถึงท้อง
คุณหนูเฉิน อย่าดูถูกสติปัญญาของท่านอ๋อง ที่เขาเป็นถึงอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ได้ก็ย่อมต้องมองได้ทะลุปรุโปร่งกว่าคนทั่วไป อุบายเล็กๆ น้อยๆ ของเจ้าแม้แต่ข้ายังหลอกไม่ได้เลย นับประสาอะไรกับท่านอ๋อง”
“ข้าไม่เคยคิดจะหลอกคุณหนูหลิงมาก่อน ข้าอยากให้คุณหนูหลิงเข้าใจตรงจุดนี้มาตลอด”
เฉินปี้ปิดหน้าพลางยิ้มพูดว่า
“สิ่งที่ข้าต้องการกับสิ่งที่คุณหนูหลิงต้องการนั้นเหมือนกัน หากสู้คนอื่นไม่ได้เอง ก็โทษใครไม่ได้”
หลิงอวี้จื้อหยิบผลไม้แช่อิ่มจากโต๊ะขึ้นมาหนึ่งชิ้น กินแล้วถึงพูดว่า
“ต่อหน้าอาเหยี่ยนเจ้ามิใช่เก่งเรื่องแสร้งทำเป็นใจกว้างและมีเหตุผลหรอกหรือ เช่นนั้นก็แสร้งทำต่อไปให้ตลอด หากวันใดเรื่องแดงขึ้นมา คงจะกระอักกระอ่วนน่าดู”
“คุณหนูหลิงไม่ต้องเป็นห่วง ข้าต้องไปได้ดีอยู่แล้ว”