บัญชามังกรเดือด บทที่ 619 ผู้ยิ่งใหญ่
“ทำไมถึงเป็นคุณล่ะ!”
เมื่อเห็นเจียวเหลียง สีหน้าของคัตสึมูระ โยตะ ก็อดไม่ได้ที่จะเคร่งขรึมลง
หื้อ?
เจียวเหลียงชะงักไปครู่หนึ่ง แล้วกล่าวอย่างสงสัยว่า “คุณโยตะ คุณไม่ได้มาต้อนรับผมอย่างนั้นเหรอ?”
“ผมไม่นึกมาก่อนเลยว่าคุณจะมีพิธีต้อนรับที่ยิ่งใหญ่อย่างไม่คาดคิดเช่นนี้ คนเหล่านี้ ล้วนเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณอย่างนั้นเหรอ?”
“รีบแนะนำให้ผมรู้จักสักหน่อยสิ”
สีหน้าของคัตสึมูระ โยตะซีดเผือดไปหมดแล้ว
ในแง่หนึ่งก็คือเขาทำเรื่องไม่ดีแล้วกลัวคนอื่นจะรู้เข้า ส่วนอีกแง่หนึ่ง ในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ เขาเพียงแค่ทำตัวเองให้เด่นเข้าไว้ ทำไมถึงได้มีคนอย่างเจียวเหลียงที่เป็นตัวโกงที่น่ารังเกียจมาอยู่ในสถานที่แห่งนี้ด้วย
“เรื่องของพวกเราค่อยคุยไม่นานหลังจากนี้เถอะ!”
“ตอนนี้ เวลานี้ ทันที รีบออกไปจากที่นี่!”
“เร็วเข้า!” เขากระซิบกระซาบกล่าวกับเจียวเหลียง
เจียวเหลียงตื่นกลัวแล้ว
“คุณโยตะ คุณคงจะไม่สามารถกลับคำได้หรอกใช่ไหม? เมื่อคืนวาน พวกเราก็ได้พูดคุยกันเรียบร้อยแล้วนี่”
“ผมเข้าใจแล้ว——”
เขาเข้าไปประชิดคัตสึมูระ โยตะ แล้วกระซิบกล่าวว่า “เป็นเพราะว่าคุณยังไม่ได้ผู้หญิงคนนี้ใช่หรือไม่?”
“คุณวางใจได้ ตราบใดที่คุณเซ็นสัญญา คืนนี้ ผมรับรองได้ว่า จะส่งเธอไปถึงเตียงของคุณ แล้วคุณอยากที่จะเล่นยังไงกับเธอก็ได้ทั้งนั้น!”
คัตสึมูระ โยตะเหลือบมองฮันหลิง พูดตามตรง โดยปกติแล้วเขาก็ไม่ได้ขาดแคลนผู้หญิง แต่ทว่าสำหรับฮันหลิงที่มีความสวยงามที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของทางตะวันออก มันทำให้เขาหยุดไม่ได้จริงๆ
เมื่อคืนวานนี้ยังไม่สำเร็จลุล่วง แล้วจะถูกฉินเทียนมาเหน็บแนมอีก อันที่จริงแล้วไม่ได้เต็มใจเลย
แต่ทว่า นี่มันโอกาสอะไรกัน? เขาจะมีอารมณ์มีคิดเรื่องเหล่านี้ได้อย่างไร
ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องอย่างนี้หากถูกผู้บริหารระดับสูงที่อยู่ข้างหลังเหล่านั้นรู้เข้า เขาจะต้องตายอย่างไรก็ไม่มีใครรู้ได้
ขณะที่ต้องการจะขับไล่เจียวเหลียงออกไป คนที่อยู่ข้างหลัง ซานสุ่ย อะมาดะก็เปิดปากกล่าวออกมา
“คุณโยตะ นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“เขาเป็นใคร?”น้ำเสียงแสดงถึงความไม่พอใจ
ในโอกาสที่สำคัญเช่นนี้ จะปล่อยให้ผู้ที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมารบกวนได้อย่างไร คัตสึมูระ โยตะคนนี้ ไม่เห็นคุณค่าของผู้อื่นมากเกินไปแล้ว
คัตสึมูระ โยตะรีบวิ่งเยาะๆ เข้าไป แล้วกระซิบกระซาบอธิบาย บอกว่าเจียวเหลียงเป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กที่มาจากอาณาจักรมังกร แล้วต้องการเสาะหาความร่วมมือ
มาจากอาณาจักรมังกรอย่างนั้นเหรอ?
ภายในใจของซานสุ่ย อะมาดะเต้นไม่เป็นจังหวะ แล้วนึกถึงสิ่งที่มิเชลกล่าวขึ้นมาได้ ราชาผู้นั้นก็เป็นคนที่มาจากอาณาจักรมังกร
เขาอดไม่ได้ที่จะคิดว่า ถ้าหากว่ามีตัวแทนจำหน่ายของอาณาจักรมังกรมายืนอยู่ข้างกายตนเอง จะสามารถได้รับความรู้สึกที่ดีของราชาผู้นั้นได้ใช่หรือไม่
สุดท้ายแล้ว ก็เป็นเชื้อสายมังกรเหมือนกัน
“ผู้มาเป็นแขก”
“คุณโยตะ ต้องปฏิบัติต่อเขาเป็นอย่างดี ตอนนี้ เชิญท่านนั้นเข้ามาเถอะ พวกเรามารอต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่ที่กำลังมาผู้นั้นด้วยกันเถอะ”
เมื่อได้ยินคำพูดนั้น คัตสึมูระ โยตะก็ปลื้มปีติมากจริงๆ
นี่ท่านประธานรักษาหน้าให้ตัวเองใช่หรือไม่?
เขาโบกไม้โบกมือกับเจียวเหลียงอย่างตื่นเต้นดีใจ “คุณน่ะ มานี่เร็วเข้า!”
“อยู่ด้วยกันกับพวกฉัน ค่อยต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่!”
เจียวเหลียงยังคงสับสนอยู่เล็กน้อย เมื่อได้ฟังคัตสึมูระ โยตะแนะนำถึงสถานะของซานสุ่ย อะมาดะ ขาของเขาอ่อน จนเกือบที่จะทรุดลงไปคุกเข่าแล้ว
เขาเป็นเพียงแค่ตัวแทนจำหน่ายตัวเล็กๆ เท่านั้น สถานะอย่างคัตสึมูระ โยตะ ก็เพียงพอให้เขาเรียกว่าคุณปู่แล้ว
ไม่คิดมาก่อนเลยว่า วันนี้จะสามารถมีโชคชะตาอย่างคาดไม่ถึง ที่ได้เข้าพบกับท่านประธาน
ยิ่งกว่านั้น ไม่คาดคิดว่าท่านประธานจะไม่เห็นว่าเป็นคนนอก แล้วยังให้เขาอยู่ต้อนรับผู้ยิ่งใหญ่ด้วยกันอีกด้วย
สามารถทำให้หัวกะทิขององค์กรซานสุ่ยทุ่มกำลังออกมาได้ เป็นการต้อนรับที่น่านับถือเช่นนี้ โอ้พระเจ้า จริงๆ แล้วคนที่จะมานี่เป็นคนที่มีตัวตนอย่างไรกันนะ!
หัวใจของเจียวเหลียงเต้นแรง เขาได้ถูกความสุขทำให้ดีใจจนเสียสติไปแล้วจริงๆ
แล้วยิ่งทำให้เขาไม่อาจข่มความปีติไว้ได้ก็คือ ซานสุ่ย อะมาดะ ไม่คาดคิดเลยว่าจะเรียกให้เขาไปอยู่ข้างกายอย่างสนิทสนม จับมือของเขา แล้วรออยู่ด้วยกัน
นี่มันอะไรกัน เดิมที่เขาคิดว่า สามารถเซ็นสัญญาซื้อขายกันซานสุ่ยกรุ๊ปได้ ก็เพียงพอที่จะทำให้เขาได้กลับไปโอ้อวดได้แล้ว
คิดไม่ถึงเลยสักนิด ว่าจะจับพลัดจับผลู คาดไม่ถึงว่าจะได้อยู่กับคนของซานสุ่ยกรุ๊ปทั้งหมดได้ แล้วได้ยืนเคียงบ่าเคียงไหล่กับท่านประธานอีกด้วย
ก็เพียงพอให้โอ้อวดไปทั้งชีวิตแล้ว!
เมื่อเห็นอากัปกิริยาของท่านประธาน แม้แต่คัตสึมูระ โยตะต่างก็มึนงงเช่นกัน อย่าพูดถึงแต่จูงมือเลย เขาไม่มีแม้แต่คุณสมบัติที่จะได้ยืนข้างกายของซานสุ่ย อะมาดะเลยด้วยซ้ำ
นี่มัน?
เขาครุ่นคิด นี่เป็นสิ่งที่ประธานตั้งใจทำท่าทางเช่นนี้ เพื่อพิสูจน์กับทุกคน ว่าซานสุ่ยกรุ๊ปมีอัธยาศัยดีมากมายแค่ไหน
แต่ทว่า มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?
ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม คัตสึมูระ โยตะรู้สึกว่า โอกาสที่จะเลือนขั้นอย่างรวดเร็วของตัวเองมาถึงแล้ว!
เขาต้องแอบเตรียมตัวอย่างลับๆ กล้ามเนื้อทั้งร่างกายตึงแน่น เหมือนกับนักกีฬาที่รอเสียงปืนดังอยู่ที่จุดเริ่มต้นอย่างไรอย่างนั้น
รอหลังจากที่รถของผู้ยิ่งใหญ่ผู้นั้นมาแล้ว เขาก็จะเป็นคนที่พุ่งเข้าไปเปิดประตูรถเป็นคนแรกอีกด้วย
ภายใต้การรอคอยด้วยความวิตกกังวล ทุกนาทีและทุกวินาที เวลายาวนานราวกับหนึ่งศตวรรษ
ในที่สุด รถยนต์โตโยต้ากึ่งเก่าคันหนึ่ง ค่อยๆ ขับเข้ามาช้าๆ
เป็นประเภทยานพาหนะของประชาชนธรรมดาที่สามารถเห็นได้ทั่วไปอยู่เต็มท้องถนน จะสามารถเป็นรถที่ราชาผู้สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพีผู้นั้นนั่งได้อย่างไร หลังจากสายตาของซานสุ่ย อะมาดะและคนอื่นๆ เปล่งประกายอยู่ครู่หนึ่ง ต่างก็จืดจางลง ยากที่จะปิดบังท่าทางที่ผิดหวังเอาไว้ได้
ราชาเทพคงจะไม่มาจริงๆ แล้วใช่ไหม? เสียงถอนใจภายในหัวใจของซานสุ่ย อะมาดะดังขึ้น เช่นนั้นมันคงน่าเสียดายมากเกินไปแล้ว
วินาทีต่อมา คำพูดของมิเชล ทำให้ทุกคนตื่นเต้นขึ้นมาอีกครั้ง
“ตามที่ผมรู้มา ท่านผู้ยิ่งใหญ่ผู้นี้เป็นคนที่เรียบง่ายมาก”
“ทุกคนเตรียมตัวให้เรียบร้อย เป็นไปได้มากว่า รถคันนี้น่าจะใช่”
แววตาของทุกคน กวาดตาดูครู่หนึ่ง ทุกคนต่างก็เดิมพันกับรถโตโยต้าคันนี้
ความเร็วของรถโตโยต้าช้ามาก ราวกับรถยนต์คุณปู่อย่างไรอย่างนั้น นั่นเป็นเพราะว่า คนที่ขับรถ ที่เห็นคนของซานสุ่ยออกมาตั้งกองกำลังกันอยู่หน้าประตูใหญ่ ตกใจจนมือสั่นเทา
“อะมาดะ!”
“นั่นมันคุณอะมาดะประธานขององค์กรซานสุ่ย ผมเคยเห็นที่บนหนังสือพิมพ์มาก่อนหน้านี้!”
“พระคุณเจ้า ผู้บริหารระดับสูงของซานสุ่ยกรุ๊ปทั้งหมดออกปฏิบัติการแล้ว!”
“พี่เทียน ตอนนี้พี่ก้มหัวลงหน่อย เดี๋ยวผมเพิ่มความเร็วพุ่งผ่านไป ไม่มีอะไรเกิดขึ้นแน่นอน”
“พี่แน่ใจว่าอยากให้ผมจอดรถอย่างนั้นเหรอ?”
น้ำเสียงของเฉินเสี่ยวอี้สั่นเครือ อันธพาลอย่างเขา เอาตัวรอดอยู่ที่ห้องบอลรูมก็ยังได้ เมื่อเทียบกับผู้มีอิทธิพลอย่างอะมาดะเหล่านี้แล้ว เดิมทีแล้วก็ด้อยกว่ามาก
การปกครองโดยลำดับขั้นของญี่ปุ่นนั้นเข้มงวดมาก เมื่อเปรียบเทียบกับสังคมของหัวกะทิเหล่านั้น เขาเป็นเพียงแค่คนที่ด้อยกว่าเท่านั้น
และคนอย่างอะมาดะเหล่านั้น ก็เป็นไฮโซอย่างแท้จริง
ฉินเทียนกล่าวอย่าเฉยเมยว่า “เสี่ยวอี่ จากนี้ถ้านายจะติดตามฉัน จะต้องเรียนรู้ที่จะเปิดหูเปิดตาให้กว้างกว่านี้สักหน่อย”
“โลกทัศน์ยิ่งมากเท่าไร เวทีก็จะยิ่งใหญ่มากขึ้นเท่านั้น”
“หยุดรถเถอะ”
เฉินเสี่ยวอี้ขับฟันแน่น รถโตโยต้าค่อยๆ หยุดลงช้าๆ ที่ประตูทางเข้าอาคาร
หยุดรถแล้ว!
ผู้ยิ่งใหญ่จะต้องมาถึงแล้วอย่างแน่นอน!
ซานสุ่ย อะมาดะและคนอื่นๆ ทุกคนต่างพุ่งเข้ามาต้อนรับตามสัญชาตญาณ แต่ทว่า พวกเขาก็ช้าเกินไปแล้ว
“ผมเองครับ!”
คัตสึมูระ โยตะ ที่อยู่ด้านข้างเตรียมตัวพุ่งเข้าไปตั้งนานแล้ว ในขณะนี้ราวกับว่าเขาได้ยินเสียงปืนสั่งการอย่างไรอย่างนั้น แล้วจึงรีบพุ่งเข้าไป
เนื่องจากว่าเขาตื่นเต้นมากเกินไป เมื่อตอนพุ่งเข้าไปถึงประตูรถ ขาของเขาก็อ่อนลง แล้วคุกเข่าลงไปบนพื้นดังตุบ
เขารีบร้อนลุกขึ้นมา แล้วเปิดประตูรถออก จากนั้นก็โค้งคำนับจนถึงเอว จนทำมุมเก้าสิบองศากับพื้น แล้วกล่าวอย่างตื่นตระหนกและตกใจว่า “องค์กรซานสุ่ย คัตสึมูระ โยตะ ยินดีต้อนรับเจ้านายใหญ่ครับ!”
“เชิญเจ้านายใหญ่ลงรถครับ!”
เพื่อแสดงถึงความเคารพนอบน้อม เขาไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมา
คัตสึมูระ โยตะและคนอื่นๆ ต่างก็พุ่งตัวเข้ามา แต่ทว่าเมื่อมองเห็นคนที่อยู่ในรถ พวกเขาต่างก็พากันชะงักงั้นไปครู่หนึ่ง
สถานที่เกิดเหตุ ก็เกิดความเงียบขึ้นมาชั่วขณะ
“ฉินเทียน ทำไมถึงเป็นคุณ?”
เมื่อเห็นใบหน้าที่ละเมียดละไมและลึกซึ้งนั้น ใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มตาหยี่แบบตะวันออก เจียวเหลียงมีสีหน้าเหลือเชื่อ
แต่ทว่าปฏิกิริยาตอบสนองกลับไป เป็นหน้าบึ้งตึงด้วยความโกรธของเขา!
“สกุลฉิน นายรู้ไหมว่าที่นี่เป็นสถานที่อะไรน่ะ? ไม่คาดคิดเลยว่านายจะกล่ามาก่อกวนถึงที่นี่!”
“นายเบื่อที่จะมีชีวิตอยู่จริงๆ แล้วใช่ไหม!”
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก!”
เพื่อแสดงถึงความจงรักภักดีที่มีต่อองค์กรซานสุ่ย เขาก็คันไม้คันมืออยากต่อสู้ แล้วขันอาสา จะออกไปต่อยกับฉินเทียน