บ่วงวิวาห์ ภรรยาตราบาป พันธะร้าย เจ้าสาวสีดำ บทที่ 633

เสียงพูดนั้นดึงความสนใจของคาเลนไปเช่นกัน เธอรู้สึกหัวใจจะวาย “นาย… นายท่านอาวุโส?”

ผู้ดูแลสาวเข็นรถเข็นพานายท่านอาวุโสวิทแมนเข้ามาในห้อง

ริมฝีปากของอีวอนบิดเบี้ยวผิดรูป ขณะเดียวกันความเย็นยะเยือกเข้าปกคลุมร่างกายเธอ

แม้ว่าสภาพจิตใจของนายท่านอาวุโสไม่อยู่ในสภาพที่ดีมากนัก แต่สายตาที่คมดุจใบมีดบ่งบอกได้ดีว่าเขามีสติรับรู้

เขามองไปที่อีวอนพลางอธิบายเรื่องราวอย่างช้า ๆ แต่ชัดเจน

“แก… วันนั้น… แกเป็นคนทำ ฉันเห็น แกวิ่งลงมาจากชั้นบนพร้อมกล่องเครื่องเพชร มีเลือดติดอยู่ที่กล่องด้วย! แก… แกอยากจะหนี… แต่ไม่คิดว่าเมเด เมเดลีนจะยืนอยู่ตรงนั้น แกไม่มีทางเลือก จึงซ่อนตัวในพุ่มไม้ เมื่อเมเดลีนเดินเข้ามา… เมเดลีนจึงกลายเป็นแพะรับบาปไป!”

“…”

แม้นายท่านอาวุโสจะเปล่งเสียงออกมาอย่างยากลำบาก แต่คำพูดเหล่านั้นชัดเจนมากเสียจนทำให้อีวอนดิ้นไม่หลุด

“แก! แกได้ยินที่เขาพูดแล้วนะ อีวอน! ยังจะมีหน้ามาปฏิเสธอีกนะว่าไม่ใช่แก?” คาเลนควันออกหู ตบหน้าอีวอนอีกฉาด

อีวอนร้องออกมาด้วยความเจ็บ เธอไม่แก้ตัวใด ๆ ทำได้เพียงเอามือกุมแก้มเอาไว้

“นังตัวดี! ทำไมถึงใจไม้ไส้ระกำขนาดที่กล้าขโมยเงินและทุบตีฉันแบบนี้?! แกแสร้งตีหน้าซื่อว่าเป็นคนดีอยู่เคียงข้างฉันมาตลอด นังหลานไม่รักดี!”

“อืม! แม้แต่ฉันมันก็ตี นับประสาอะไรกับเธอ!” ชายชราเยาะเย้ย “ยังไม่หมดแค่นั้น มันยังแต่งตัวให้เหมือนกับเมเดลีนและวางยาพิษในเค้กชาให้ฉันกินอีก! มันคิดว่าฉันจะไม่มีวันกลับมาพูดได้อีก เพราะแบบนั้น มันเลยสารภาพว่ามันเป็นคนทำระหว่างที่ตีฉันด้วย!”

“อะไรนะ?” วินส์ตันเพิ่งจะรับรู้ว่าจริงที่ซ่อนอยู่หลังเหตุการณ์วางยาพิษที่เกิดขึ้น “แกเป็นคนที่ทุบตีนายท่านอาวุโสมาโดยตลอดอย่างนั้นเหรอ? แกยังเป็นคนวางยาพิษนายท่านและป้ายความผิดให้เมเดลีนด้วยเหรอ?!”

ความเดือดดาลของเขาพลุ่งพล่านจนยั้งอารมณ์ไม่อยู่ เขาเดินเข้าไปตบหน้าอีวอนดังฉาดใหญ่!

“อ๊าก!” เลือดไหลออกจากปากอีวอนและแก้มทั้งสองข้างมีรอยฝ่ามือเขียวช้ำไปหมด

“ฉันล่ะอายจริง ๆ ที่เคยเรียกแกว่าหลานสาวของฉัน อีวอน เยลเมน เกิดอะไรขึ้นกับแก แกกลายเป็นคนวิกลจริตไปแล้วรึไง?!”

“มันกลายเป็นคนสติไม่ดีไปแล้ว หรือจะเป็นเพราะว่า… มันหลงรักลูกพี่ลูกน้องของมันกันแน่? เพื่อที่จะทำให้เจเรมี่มีใจให้มันบ้าง มันถึงได้ลงทุนลงแรงทำขนาดนี้ และโยน… ความผิดไปให้เมเดลีนเพื่อ… ทำให้ทั้งคู่เลิกกัน!”

วินส์ตันและคาเลนต่างตกตะลึงเมื่อได้ยินเหตุผลเบื้องหลังที่ผลักดันอีวอนให้ทำเรื่องแบบนี้ออกมาจากปากของนายท่านอาวุโส

เจเรมี่ตะลึงไม่ต่างกัน แต่เมเดลีนกลับมีท่าทีที่สงบนิ่งมากกว่า

เธอสังหรณ์ใจมานานแล้วว่าเหตุผลเดียวที่ทำให้ผู้หญิงคนนี้เดินทางมาจนถึงจุดจบที่น่าอนาถแบบนี้เป็นเพราะความรักอันบิดเบี้ยวที่เธอมีให้เจเรมี่

“แก… แกกล้าดียังไงมาตกหลุมรักเจเรมี่? แก… นังผู้หญิงหน้าไม่อาย!” สติของคาเลนขาดผึง เธอยกมือขึ้นมาตบหน้าอีวอนอีกครั้ง

ดวงตาของอีวอนแปลเปลี่ยนเป็นความแข็งกร้าว เธอลุกขึ้นผลักคาเลนออกไป

“หุบปาก นังแก่น่าเกลียด!” เธอคำรามลั่น

คาเลนเบิกตาโพลง “แกเรียกใครว่านังแก่น่าเกลียด ห้ะ?”

“ถ้าฉันทำแล้วจะทำไม? และนี่คือตัวตนของแก นังแก่กะโหลกกะลา! มัวแต่นั่งเพ้อฝันไปทั้งวันว่าตัวเองฉลาดเลิศเลอทั้ง ๆ ที่ความจริงโง่เป็นบ้า!”

ความโกรธของคาเลนพุ่งสูงขึ้นเมื่อฟังคำเหล่านั้น “อะไรนะ? แก… แก…”

“แล้วทำไมฉันถึงรักเจเรมี่ไม่ได้ล่ะ? ผู้ชายดีงามอย่างเจเรมี่ควรที่จะมีหญิงสาวที่ชาญฉลาดอย่างฉันอยู่ข้างกายเขา!”

ดวงตาสีแดงเลือดของอีวอนจับจ้องไปที่เมเดลีนราวกับว่าปีศาจได้เข้ามาสิงร่างและกลืนกินจิตวิญญาณของเธอไปจนหมดสิ้นแล้ว

“แกไม่มีสิทธิ์นั้น นังเมเดลีน! แกไม่มีค่าอะไรทัดเทียมกับพี่เจเรมี่เลย!”

“จะไม่มีผู้หญิงคนไหนที่ได้ครอบครองหัวใจของฉันอีก เมเดลีนจะเป็นหญิงสาวเพียงคนเดียวที่ได้ครอบครองมันไว้ คนไร้ค่าที่ไม่คู่ควรน่ะ มันฉันต่างหาก” เจเรมี่กล่าวอย่างสงบนิ่ง คำพูดของเขาราวกับสายลมที่คร่าชีวิตและหอบเอาวิญญาณของอีวอนหลุดลอยไป