ภาค 4 กวาดล้างหมื่นลี้ บทที่ 377 ประวัติศาสตร์คล้ายกันอย่างน่าทึ่ง

ตำนานศิษย์พี่เจ้าปฐพี

พลังอันบ้าคลั่งของเฉิงฮวงระเบิดขึ้นกลางมหาสมุทร ทุกครั้งที่เปลวไฟอันน่าพรั่นพรึงพุ่งออกมา จะมีน้ำทะเลระเหยเป็นไปไม่น้อย ส่งผลให้ผิวน้ำบริเวณยุบกลายเป็นที่ว่างในชั่วพริบตา

พลังของจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์แสดงถึงพลังทำลายล้างเหนือธรรมดาได้อย่างชัดเจน

แต่ถ้าหากเยี่ยนจ้าวเกอในก้อนน้ำแข็งออกจากอาณาเขตการโจมตีของมันก่อน ต่อให้ปีศาจอัคคีตัวนี้มีพลังแกร่งมากขนาดไหน ก็แค่ก่อให้เกิดคลื่นใต้น้ำที่รุนแรงขึ้นกว่าเดิม เพื่อส่งเยี่ยนจ้าวเกอให้ห่างออกไปไกลขึ้นเท่านั้น

สวรรค์เมตตา หากเฉิงฮวงทราบวิธีการหนีของเยี่ยนจ้าวเกอ มันคงจะโมโหแทบตาย

การล่อราชันปีศาจอัคคีให้อ้อมไปมาบนมหาสมุทรเหมือนล่อกระทิง ประสบความสำเร็จด้วยดี

แน่นอนว่า ‘กระทิง’ ตัวที่ถูกล่อย่อมคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ต่อจากนั้นราชันปีศาจอัคคีเฉิงฮวงไม่เสาะหาอย่างละเอียดอีกต่อไป ขอเพียงเยี่ยนจ้าวเกอโผล่มาที่ใด มันก็จะรีบตามไปถึงที่นั่น แล้วค่อยกวาดล้างด้วยวิธีปูพรม

เยี่ยนจ้าวเกอสงสัยอยู่ลึกๆ ว่าราชันปีศาจตัวนี้ถูกยั่วโมโหจนลืมเรื่องแหวนสีแดงก่ำไปแล้วกระมัง ถึงคิดแต่จะกำจัดเยี่ยนจ้าวเกอเพื่อระบายอารมณ์ท่าเดียว

ความยากในการล่อกระทิงเริ่มเพิ่มมากขึ้น เยี่ยนจ้าวเกอจำเป็นต้องรับมือด้วยความระมัดระวัง

สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือความกังวลอันเลือนราง

จากการคำนวณ ระยะห่างยิ่งใกล้ หากพวกอันชิงหลินที่อยู่นอกทะเลตะวันออกพอจะปลีกตัวออกมาได้ ตอนนี้สมควรกลับมาช่วยเหลือเมืองทะเลมรกตแล้ว

แต่หลังจากเห็นว่าราชันปีศาจอัคคีไล่ตามตนอยู่ ก็ชัดเจนว่าทะเลชั้นในของทะเลตะวันออกไม่มีใครส่งผลคุกคามมัน

ราชันปีศาจอัคคีอีกตัวที่อยู่ที่เกาะมังกรบูรพาน่าจะดำลังโจมตีเมืองทะเลตะวันออก ปะทะกับข่ายอาคมทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดอยู่

เจ้าเมืองทะเลมรกต จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ทะเลมรกตซ่งอู๋เลี่ยงยังคงไม่ออกฌาน

ค่ายกลทะเลมรกตไร้ขีดจำกัดประสบกับการโจมตีจากราชันปีศาจอัคคีสองตัว จึงได้รับความเสียหายระดับหนึ่ง

ถ้าหากเหล่าผู้อาวุโสของเมืองทะเลมรกตไม่ได้ส่งแรงสนับสนุนค่ายกลอยู่ตลอด เช่นนั้นถึงแม้ราชันปีศาจอัคคีที่เหลืออยู่จะเตรียมวิธีการพิเศษในการทำลายค่ายกลมาแล้ว เมื่อเวลาผ่านไป ค่ายกลก็ยังคงถูกทำลายอยู่ดี

“ผู้คุมหอคลื่นโหม ยังมีพวกเมิ่งหว่านจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ดูท่าทางจะถูกมัดมืดมัดเท้าไว้”

เยี่ยนจ้าวเกอขมวดคิ้วมุ่น “ตรงประตูเชื่อมกับโลกปีศาจอัคคี ณ ทะเลตะวันออก เกรงว่าจะมีปีศาจอัคคีจำนวนมากกว่านี้เข้ามาในมหาอำนาจแปดพิภพ”

อาหู่เกาศีรษะ “เช่นนั้นต้องดูว่าทางด้านตำหนักอัสนีสวรรค์จะมาทันเวลาหรือไม่ ตำหนักอัสนีสวรรค์อยู่ติดทะเลเช่นกัน ในด้านภูมิประเทศนับว่าอยู่ใกล้ ใกล้ยิ่งกว่าสำนักเขากว่างเฉิง หรือแม้กระทั่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับเขาไร้พรมแดนที่อยู่บนแผ่นดินมาก”

เขาลังเลเล็กน้อย ค่อยกล่าวว่า “แต่คุณชาย ท่านว่าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์จะยินดีช่วยหรือไม่ ถึงอย่างไรเมืองทะเลมรกตเจอหายนะในครั้งนี้ ก็เกี่ยวข้องกับพวกเขาอย่างยิ่ง”

หากเมืองทะเลมรกตถูกทำลาย เขากว่างเฉิงกับเขาไร้พรมแพนจะสูญเสียพันธมิตรอันแข็งแกร่งไป สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ที่มีสถานะเลวร้ายในตอนนี้จะพลิกสถานการณ์ได้ในทันที

ถึงอย่างไรพวกเขาก็มีปีศาจอัคคีเป็นศัตรูร่วมกัน

ทว่ารอจนปีศาจอัคคีทำลายเมืองทะเลมรกตก่อน แล้วค่อยลงมือ เรื่องนี้ก็ไม่ใช่ว่าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์จะทำไม่ได้

ตอนที่เขากว่างเฉิงสู้กับบึงน้ำไร้ขอบเขตก่อนหน้านี้ สำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์เคยสร้างหายนะให้เขากว่างเฉินมาแล้วครั้งหนึ่ง

ถ้าหากไม่ใช่เพราะปีศาจอัคคีส่งผลคุกคามมากกว่านพยมโลก และถ้าหากไม่กังวลถึงท่าทีของปราชญ์ภาพวาดและหอคลื่นโหม เยี่ยนจ้าวเกอเดาได้เลยว่าสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์จะฉวยโอกาสผสมโรง ทำลายเมืองทะเลมรกตไปด้วย

เหมือนตอนที่เกิดหายนะที่กว่างเฉิงก่อนหน้านี้ พวกเขาก็เหยียบย่ำเขากว่างเฉิงเช่นกัน

เมืองทะเลมรกตอย่างไรก็เป็นแดนศักดิ์สิทธิ์ ต่อให้ถูกปีศาจอัคคีทำลายจริงๆ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย

ต่อให้ไม่ลงมือด้วยตัวเอง รอจนเมืองทะเลมรกตลดกำลังของปีศาจอัคคีลงก่อนค่อยลงมือ สำหรับสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์แล้ว ย่อมเป็นผลประโยชน์มหาศาล

ข้ออ้างที่ใช้กับปราชญ์ภาพวาดและหอคลื่นโหมมีมากมาย แค่บอกว่ามาไม่ทันก็เพียงพอแล้ว

เยี่ยนจ้าวเกอเบะปาก ‘สำนักเรากับเขาไร้พรมแดนมาสนับสนุน ยังต้องระวังสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์กับตำหนักอัสนีสวรรค์ด้วย ความจริงพวกเราคอยวัดกำลังกันและกันอยู่ตลอดเวลา’

“ประวัติศาสตร์คล้ายกันน่าตกใจ…” เยี่ยนจ้าวเกอกลอกตาขาว ใช้เสียงซึ่งมีแค่ตนเองได้ยินพึมพำ “ไม่ถึงช่วงเวลาเป็นตายจริงๆ มนุษย์มักจะคิดถึงความแตกแยกภายในก่อน”

อาหู่ไม่ได้ยิน “คุณชาย ท่านว่าอะไรนะขอรับ”

เยี่ยนจ้าวเกอโบกมือ “ไม่มีอะไร ปัญหาในตอนนี้ก็คือ พวกเราทราบสถานการณ์ในตอนนี้น้อยเกินไป แทบจะตัดขาดจากข่าวสารของโลกภายนอก เป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่ส่งผลดีแน่”

ต่อมา เยี่ยนจ้าวเกอแม้จะเก็บน้ำแข็งย้อย แต่ก็พยายามหลบซ่อนตัวจากปีศาจอัคคีตัวอื่น ปิดบังร่องรอย พลางเคลื่อนที่ไปข้างหน้าด้วยความรวดเร็ว

เป้าหมายของเยี่ยนจ้าวเกอคือเมืองมหานที หนึ่งในบรรดาเมืองทั้งเก้าของวารีพิภพ ซึ่งอยู่สุดขอบทะเลชั้นในทะเลตะวันออก ตัดกับทะเลส่วนนอก

ณ ที่นี้ ต่อให้ประธานอาวุโสที่ควบคุมสถานการณ์ไปช่วยเหลือที่อื่น ก็ยังคงมีจอมยุทธ์แห่งเมืองทะเลตะวันออกคนอื่นเฝ้าระวัง และติดต่อข่าวสารกับโลกภายนอกอยู่

ถึงแม้จะต้องยอมให้ราชันปีศาจล้มเลิกการตามล่า และกลับไปที่เมืองทะเลมรกตอีกครั้ง แต่เยี่ยนจ้าวเกอก็ตัดสินใจผละจากน่านน้ำของเมืองทะเลมรกต ไปที่เมืองมหานทีก่อน

มีแต่การทำความเข้าใจกับสถานการณ์ในปัจจุบัน และได้รับข่าวสารที่มากพอเท่านั้น จึงจะตัดสินใจและเลือกได้อย่างแม่นยำ

พอถึงน่านน้ำที่เมืองมหานทีควบคุมอยู่ เยี่ยนจ้าวเกอก็พบว่าแม้จะไม่รุนแรงเท่าทางด้านเมืองทะเลมรกต ที่นี่ก็เกิดการต่อสู้อย่างดุเดือด และมีปีศาจอัคคีอาละวาดเช่นกัน

จอมยุทธ์แห่งเมืองทะเลมรกตและจอมยุท์จากขุมกำลังอันดับหนึ่งอันดับสอง ล้วนต่อสู้กับจ้าวปีศาจอัคคีอยู่

เห็นเหตุการณ์นี้ ใจของเยี่ยนจ้าวเกอก็ตกลงไปยังตาตุ่ม

การบุกรุกในครั้งนี้ของปีศาจอัคคี มีอานุภาพยิ่งใหญ่จริงๆ ราชันปีศาจอัคคีที่เข้ามาในมหาอำนาจแปดพิภพ ไม่ได้มีแต่ราชันปีศาจอัคคีสองตัวซึ่งกำลังโจมตีเมืองทะเลมรกตอยู่เท่านั้น

เยี่ยนจ้าวเกอรีบติดต่อกับจอมยุทธ์ทะเลมรกตที่อยู่ในเมืองมหานที เพื่อฟังสถานการณ์ล่าสุดในปัจจุบัน

ถึงแม้จะมิใช่คนในสำนัก แต่จอมยุทธ์เมืองทะเลมรกตก็ยังรายงานเยี่ยนจ้าวเกอด้วยความยินดี

เป็นไปตามที่เยี่ยนจ้าวเกอคาดไว้ พวกอันชิงหลินตอนนี้ยังรั้งอยู่ที่ทะเลชั้นนอกทะเลตวันออก กำลังต่อสู้กับปีศาจอัคคีตัวอื่น จึงปลีกตัวมาไม่ได้

หากพูดให้ถูกต้อง สถานการณ์ย่ำแย่งกว่าที่เยี่ยนจ้าวเกอคาดไว้เสียอีก

“ราชันปีศาจที่มีพลังเทียบเท่ากับจอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ขั้นสอง?” เยี่ยนจ้าวเกอจ้องมองจอมยุทธ์แห่งเมืองทะเลมรกตตรงหน้าเขม็ง “พวกท่านแน่ใจหรือ?”

จอมยุทธ์แห่งเมืองทะเลมรหตสีหน้าเคร่งขรึมสุดขีด “ไม่เพียงแต่แน่ใจเท่านั้น ราชันปีศาจอัคคีตัวนี้มิได้มีแค่ตัวเดียว!”

“ผู้คุมหออันแห่งหอคลื่นโหมได้รับบาดเจ็บหนัก ดีที่ปราชญ์ภาพวาดมาทันเวลา จึงสกัดอีกฝ่ายไว้ที่ใกล้ๆ ประตูทางเชื่อมได้”

“แต่แรงกดดันก็ยังมหาศาลอยู่ ผู้คุมหออัน ปราชญ์ภาพวาด ยังมีสตรีแห่งหยินจากสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์ ได้แต่ฝืนรับมือการรุกล้ำของอีกฝ่าย สู้ไปพลางถอยไปลาง”

เยี่ยนจ้าวเกอได้ยินดังนั้นก็ตบศีรษะทีหนึ่ง

ปราชญ์ภาพวาดที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในตอนแรก ผู้เข้มแข็งอันดับสองที่อยู่ในยุคเดียวกันกับสองพี่น้องจ่านตงเก๋อผู้สั่นสะเทือนสวรรค์ และจ่านซีโหลวผู้อยู่สูงเทียมสวรรค์ในอดีต จอมยุทธ์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีศักดิ์อาวุโสที่สุดในมหาอำนาจแปดพิภพ ได้แสดงพลังเหนือคนธรรมดา สมควรบอกว่าไม่เหนือความคาดหมาย

แต่ว่าความรุนแรงจากการโจมตีของปีศาจอัคคีในครั้งนี้ก็น่าปวดหัวเช่นกัน

สถานการณ์ที่ทะเลชั้นนอกทะเลตะวันออกไม่ได้ดีกว่าเมืองทะเลมรกตแม้แต่น้อย อาจจะแย่กว่าด้วยซ้ำ

ถ้าเกิดว่าแนวป้องกันของจอมยุทธ์เผ่ามนุษย์ที่ทะเลชั้นนอกพังทลายลง ปีศาจอัคคีจำนวนมากที่อยู่ที่นั่นจะทำลายทะเลตะวันออกได้ในพริบตา

“อาจารย์ข้ากับหวงกวางเลี่ยแห่งสำนักสุริยันศักดิ์สิทธิ์เล่า?” เยี่ยจ้าวเกอนวดขมับ เอ่ยปากถาม