แดนนิรมิตเทพ บทที่ 701
บนเวที ซุนบาเทียนเงยหน้าและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “เฉินไต้ซือ แกจองหองมากเกินไปแล้ว! เมื่อสักครู่แกแอบมองฉันปล่อยพลังหมัดอยู่ด้านล่างไปหลายนัด แล้วแกก็คิดว่าจะสามารถเอาชนะฉันได้เหรอ?”

“ความแข็งแกร่งของฉัน เป็นสิ่งที่แกไม่สามารถจินตนาการได้!”

“ตอนนี้ ฉันจะให้แกได้เห็นความแข็งแกร่งที่แท้จริงของฉัน!”

หลังจากซุนบาเทียนกล่าวจบ เขาก็โยนมู่หรงเค่อลงไปจากเวที แล้วพลังในร่างกายของเขาก็ปะทุทันที แข็งแกร่งกว่าเมื่อสักครู่อย่างน้อยสิบเท่า!

เฉินโม่โบกมือ แล้วพลังทิพย์ก็ทำให้ร่างกายของมู่หรงเค่อตกลงไปอย่างช้า ๆ ทำให้ลุงสุ่ยและคนอื่นๆ สามารถรับตัวมู่หรงเค่อได้

“เฉินไต้ซือ ฉันจะไม่ให้โอกาสแกใด ๆ และทำให้แกได้เห็นท่าไม้ตายของอาจารย์ฉัน ที่โด่งดังมาเป็นเวลานับสิบปี!”

“วอกแปดแขน!”

ซุนบาเทียนกระโดดขึ้น ดูเหมือนว่าทั่วร่างกายของเขาจะถูกล้อมด้วยชี่แท้ และชี่แท้ที่เหมือนก้อนเมฆรวมตัวอยู่ที่ข้างหลังของเขา จนเกิดเป็นภาพลวงตาวอกขนาดใหญ่ที่กำลังโมโห วอกตัวนี้มีแปดแขน แต่ละแขนถืออาวุธเอาไว้ มีกรีก หอกพระจันทร์เสี้ยว และกระบี่ชิงเฟิง….

เมื่อมองวอกแปดแขนที่ปกคลุมห้องโถงไว้เกือบครึ่งหนึ่ง ทุกคนต่างรู้สึกหวาดกลัวมาก ตะโกนเสียงดัง และอยากจะหลบหนีออกไปจากที่นี่

สีหน้าของลุงสวี่เต็มไปด้วยความตกใจ เขานึกถึงบุคคลหนึ่งทันที “วอกแปดแขน เป็นท่าไม้ตายของเซี่ยงชง วอกเทพแปดแขนเมื่อยี่สิบปีที่แล้ว!”

“เขาเป็นลูกศิษย์ของเซี่ยงชง!”

กู้เฟิงมองร่างภาพลวงตาวอกที่อยู่กลางอากาศด้วยสีหน้าหวาดกลัว เขากลืนน้ำลาย และถามด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เซี่ยงชง เก่งมากเหรอ?”

เมื่อได้ยินชื่อของเซี่ยงชงแล้ว สีหน้าของลุงสวี่มีความหวาดกลัวและความเลื่อมใส “เซี่ยงชงเป็นผู้ก่อตั้งแก๊งมังกรฟ้าทางตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เขาเป็นคนพาแก๊งมังกรฟ้าเข้ามาในหัวเซี่ย และสามารถเอาชนะปรมาจารย์แปดคนติดต่อกัน ทำให้คนของโลกฝึกบู๊ขวัญหนีดีฝ่อ และไม่มีใครสามารถต้านเขาได้”

“ตอนนั้นหนานกงหยู่ปลีกวิเวกเป็นเวลาสิบปี หยางติ่งเทียนเทพสงครามแห่งยานจิงยังไม่ได้เข้าสู่แดนแปรภาพ ทำให้เซี่ยงชงวางอำนาจบาตรใหญ่อยู่ในโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย แต่สุดท้ายไม่รู้ว่าเป็นสาเหตุใด จู่ ๆ เซี่ยงชงก็พาคนล่าถอยไป และตั้งแต่นั้นมาเขาก็ไม่เข้ามาเหยียบดินแดนของหัวเซี่ยอีก”

“มีข่าวลือว่าทางการของหัวเซี่ยใช้พลังบางอย่างข่มขู่ เพื่อให้เซี่ยงชงออกไปจากหัวเซี่ย หลังจากเหตุการณ์นั้น คนมากมายคาดเดาว่าทางการน่าจะข่มขู่เขาว่าจะใช้อาวุธนิวเคลียร์โจมตี ถึงจะสามารถบีบบังคับให้เซี่ยงชงถอยออกไปจากหัวเซี่ยได้”

“และวอกแปดแขนนี้ เป็นท่าไม้ตายที่ทำให้เซี่ยงชงสามารถเอาชนะปรมาจารย์ได้แปดคนติดต่อกัน และนักบู๊ที่ผ่านประวัติศาสตร์ที่มืดมิดในตอนนั้น ต้องรู้จักวอกแปดแขนอย่างแน่นอน!”

กู้เฟิงอดไม่ได้ที่จะกระเดาะปาก “เซี่ยงชงเป็นคนที่เก่งมาก บุคคลนี้เป็นลูกศิษย์ของเขา แล้วเขายังได้เรียนรู้ท่าไม้ตายของเซี่ยงชงอีก เกรงว่าคราวนี้เฉินไต้ซือจะไม่รอดแล้ว!”

ลุงสวี่พยักหน้า “ผมสังเกตความแข็งแกร่งของซุนบาเทียนแล้ว ความแข็งแกร่งของเขาอยู่ที่ประมาณเจ็ดแปดส่วนของเซี่ยงชงในตอนนั้น บวกกับท่าไม้ตายของวอกแปดแขนแล้ว เฉินไต้ซือแพ้อย่างไม่ต้องสงสัย!”

เสิ่นฉีเซิ่งผู้ทรงอิทธิพลแห่งไห่ซีกลืนน้ำลายด้วยความลำบาก และถามเสียงสั่นว่า “หยูปิง นั่น…นั่นคืออะไร… คุณสือไหมลูกรู้จัก?”

สีหน้าของคุณสือเต็มไปด้วยความประหลาดใจ ประสบการณ์ของเขาสู้ลุงสวี่ไม่ได้ แต่เขาก็รู้เรื่องบางอย่างของโลกฝึกบู๊ และเขารู้จักท่าไม้ตายของเซี่ยงชง วอกเทพแปดแขนที่มีชื่อเสียงอย่างแน่นอน

“นี่คือท่าไม้ตายที่โด่งดังของเซี่ยงชง วอกเทพแปดแขน นึกไม่ถึงว่ามันจะเกิดขึ้นในดินแดนของหัวเซี่ยอีกครั้ง! ดูเหมือนว่าโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ยกำลังจะเกิดการนองเลือดอีกครั้งแล้ว!”

สีหน้าของเสิ่นฉีเซิ่งเต็มไปด้วยความสับสน “วอกเทพแปดแขน เก่งมากเหรอ?”

มีความเลื่อมใสปรากฏอยู่บนใบหน้าของคุณสือ และกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “เมื่อยี่สิบปีที่แล้ว เขาวางอำนาจบาตรใหญ่และกว้างล้างโลกฝึกบู๊ของหัวเซี่ย! สุดท้ายบีบบังคับจนทำให้ทางการต้องลงมือเคลื่อนไหว และใช้อาวุธนิวเคลียร์ข่มขู่เขา ถึงจะสามารถบีบบังคับให้เซี่ยงชงถอยออกไปจากหัวเซี่ยได้ แต่เขาเพียงแค่ออกไปเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นทางการของหัวเซี่ย ก็ไม่กล้าทำอะไรเขา!”