ตอนที่ 980 คนร้ายตัวจริง

เนตรเซียนทะลุสมบัติ

ตอนที่ 980 คนร้ายตัวจริง

 

เมื่อได้ยินสิ่งที่ลัวย่าวหัวพูด ทุกคนก็ตกตะลึงนิ่งอึ้งไปหมด ตำรวจหันกลับมามองผู้กระทำความผิด เมื่อเห็นว่าเขาก้มศีรษะต่ำลงกว่าเดิม ตำรวจก็เริ่มเอะใจขึ้นมาในทันที

 

“ ผมต้องการนำตัวเขากลับไปสอบปากคำ ! ” ตำรวจกล่าว

 

ท้ายที่สุดตำรวจก็จากไปพร้อมกับผู้กระทำความผิด

 

หยางโปประหลาดใจมาก เขามองไปทางด้านข้างของตำรวจ “ คนร้ายคนนี้ถูกจับได้ตรงจุดเกิดเหตุหรือเปล่า ? ”

 

ตำรวจคนนั้นยิ้ม “ ผมก็ไม่แน่ใจ ”

 

ไม่นาน ก็ไม่มีใครอยู่ในที่เกิดเหตุแล้ว มีเพียงหยางโปและจางลี่หยงยืนอยู่ตรงนั้น

 

“ ผู้กระทำความผิดมาถึงก่อนหน้าผมไปก้าวหนึ่ง เขามารับผิดด้วยตัวเอง ! ” จางลี่หยงกล่าว

 

“ มีความเป็นไปได้สูงที่เขาจะเป็นแพะรับบาป ! ” หยางโปกล่าว

 

หยางโปอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้วและเหลือบมองไปยังห้องสอบสวน เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันค่อนข้างที่จะแปลก เป็นความรู้สึกที่บรรยายออกมาไม่ได้

 

แต่หยางโปไม่ใช่หยางโปคนเดิมในอดีตอีกต่อไปแล้ว สำหรับเรื่องนี้เขาไม่กลัว เพราะเขามีอำนาจพอที่จะเรียกร้องความยุติธรรมมากกว่า !

 

ไม่นานนายตำรวจคนหนึ่งก็เดินออกมาจากห้องสอบสวน ” ผู้กระทำผิดยอมรับว่าเป็นคนขับรถชนแล้ว เราจะส่งเขาไปที่ศูนย์กักกันเดี๋ยวนี้เลย ! ”

 

หยางโปอึ้งไปครู่หนึ่ง เขาคิดไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะมีอิทธิพลมากขนาดนี้ การกระทำที่นี่ถึงได้เร็วขนาดนี้ !

 

“ มีพยานในที่เกิดเหตุ พวกเราต้องการให้พยานมายืนยันตัวตนคนขับ ! ” จางลี่หยงกล่าว

 

ร้อยเวรเหลือบมองจางลี่หยงและเงยหน้าขึ้นเล็กน้อย ” ที่ผมกำลังคุยกับคุณ คุณไม่เข้าใจเลยใช่ไหม ? ผู้ต้องสงสัยรับสารภาพแล้ว ตอนนี้พวกเราต้องการรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติม คุณในฐานะครอบครัวของเหยื่อผู้เคราะห์ร้าย สามารถเสนอ ร้องขอการชดเชยที่เกี่ยวข้องได้ แต่คุณได้โปรดเคารพกระบวนการจัดการคดีของเรา และเชื่อใจเจ้าหน้าที่ของเราที่รับผิดชอบคดีด้วย ! ” ร้อยเวรกล่าว

 

หยางโปเหลือบมองเข้าไปข้างใน เห็นว่าตำรวจกำลังมองมาทางด้านนี้ เมื่อเห็นหยางโปมองเข้ามา พวกเขาก็รีบหลบหน้าทันที

 

หยางโปอดที่จะส่ายหน้าไม่ได้ ไม่น่าแปลกใจเลยที่มีรายงานออกมาหลายฉบับที่บอกว่าพนักงานชั่วคราวเป็นแพะรับบาป เพราะเมื่อต้องมาเผชิญหน้ากับเรื่องสกปรกโสโครกแบบนี้ในเวลานี้

 

คนเหล่านั้นต่างก็พากันไปหลบอยู่ข้างหลังและปล่อยให้พนักงานชั่วคราวมารับผิดแทน !

 

“ คุณปล่อยพวกเขาออกมาพูดกับผมสิ ! ผมไม่เชื่อ ! ” จางลี่หยงพูดเสียงดัง

 

“ คุณกรุณาอย่าโวยวายโดยใช่เหตุ เรื่องนี้ถ้าเอะอะจนเป็นเรื่องใหญ่ มันจะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวคุณ ! ” ร้อยเวรกล่าวตักเตือน

 

จางลี่หยงกลับไม่สนใจอะไรมาก “ ลูกสาวคนเดียวของผมจากไปแล้ว ผมไม่มีความหวังอะไรในชีวิตนี้แล้ว ต่อให้ผมต้องตาย ก็จะช่วยเรียกร้องความยุติธรรมกลับคืนมาให้เธอให้ได้ ! ”

 

คำพูดของจางลี่หยงทำให้ร้อยเวรนิ่งอึ้ง ตำรวจที่ยืนอยู่ข้างใน เปิดประตู และกวักมือเรียกร้อยเวร ร้อยเวรที่กำลังจะคัดค้าน เมื่อเห็นว่าถูกกวักมือเรียก ก็รีบกลับเข้าไปหาทันที

 

หยางโปหันไปทางลัวย่าวหัว ” ภายใต้สถานการณ์ทั่วไป ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้ ? ”

 

“ มีคนมาเกี่ยวข้องไง ! ” ลัวย่าวหัวเคยเป็นบุคคลในระบบมาก่อน จึงค่อนข้างที่จะคุ้นเคยกับการทำงานแนวหน้าของตำรวจ เขาจึงอธิบายให้ฟังว่า “ ปกติแล้ว ตำรวจแนวหน้าก็กลัวที่จะทำผิดพลาดเหมือนกัน บางคนมีมโนธรรมมาก แต่อย่างตอนนี้ ฉันเดาว่า เมื่อสักครู่ต้องมีผู้บังคับบัญชาโทรมา ขอให้พวกเขาปล่อยเรื่องนี้ไปแน่ๆ ”

 

“ แค่โทรศัพท์สายเดียวของผู้บังคับบัญชา ยังจะใช้ได้มากกว่าหลักนิติธรรมจริงๆเหรอ ? ” หยางโปหันมามองลัวย่าวหัว

 

ลัวย่าวหัวพยักหน้า ” ถึงแม้ไม่อยากยอมรับ แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นกันแบบนี้ ระบบในประเทศก็เป็นกันแบบนี้ ! ”

 

หยางโปตกตะลึง “ นายโทรไปเลย ! ”

 

เวลานี้จางลี่หยงวิ่งไปทุบประตูที่หน้าห้องสอบสวนแล้ว แต่ก็ไม่มีใครยอมที่จะคุยกับเขา แม้แต่ประตูห้องสอบสวนก็ไม่เปิดให้

 

ลัวย่าวหัววิ่งไปโทรศัพท์ ทางด้านหยางโปมองเข้าไปในห้องสอบสวนโดยที่ไม่พูดอะไร เขากำลังคิดว่า ถ้าเขาเป็นแค่สามัญชนคนธรรมดาทั่วไป เมื่อต้องมาเผชิญกับสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเป็นเขาควรจะทำยังไงดี ?

 

ไม่นาน ลัวย่าวหัวก็วางสายไป เขามีอาการลังเลเล็กน้อยและมองไปที่หยางโป “ เรื่องนี้มีคนสั่งการมาจากส่วนกลาง ”

 

หยางโปตกตะลึงไปครู่หนึ่ง เขารู้อำนาจของลัวย่าวหัวดี เขาสามารถสอบถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆในระบบนี้ได้เกือบทั้งหมด ในเมื่อบอกว่ามาจากส่วนกลาง ก็ต้องใช่อย่างแน่นอน

 

“ ใคร ? ” หยางโปถาม

 

ลัวย่าวหัวกระซิบบอก “ คนที่ขับรถคันนี้ในเวลานั้นคือซุนเหอจั๋ว ”

 

หยางโปเงยหน้าขึ้นมองลัวย่าวหัว ” ซุนเหอจั๋ว ? ”

 

ลัวย่าวหัวพยักหน้าและไม่พูดอะไรมาก เป็นเพราะซุนเหอจั๋วที่มีอิทธิพลมากเกินไป ในตอนนั้นเพราะผู้เฒ่าชุยลงมือเอง ถึงได้ตีซุนเหอจั๋วได้ ภูมิหลังของตระกูลลัวธรรมดาสามัญมากไม่ได้มีเงินทองอำนาจและอิทธิพลอะไร

 

หยางโปพูดอย่างเยาะเย้ย “ ดูเหมือนว่ากระดูกที่หักของซุนเหอจั๋วเกือบจะหายดีแล้ว ไม่อย่างนั้นคงไม่ขับรถไปเรื่อยเปื่อยแบบนี้ ? ”

 

ตอนนั้นซุนเหอจั๋วพ่อลูกพยายามแย่งชิงตราหยกแผ่นของเขาไป แต่กลับถูกผู้เฒ่าชุยตีจนเกือบตาย แขนขาหัก ไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะฟื้นตัวเร็วขนาดนี้ และยิ่งคิดไม่ถึงว่า วันนี้จะขับรถชนแล้วหนี เกือบจะชนหลินหลินเข้าให้แล้ว คิดไม่ถึงว่าจะเป็นเขาจริงๆ !

 

หยางโปหันไปมองลัวย่าวหัว ” นายและซุนเชี่ยนหยุนคุ้นเคยกันดี นายน่าจะรู้นะว่าซุนเหอจั๋วไปที่ไหน ? ”

 

ลัวย่าวหัวค่อนข้างที่จะลังเล “ นายน่าจะรู้ ฉันและซุนเชี่ยนหยุนไปกันไม่ได้ พวกเราไม่ได้ติดต่อกันมานานแล้ว ”

 

“ ครั้งนั้นนายคืนดีกับเธอแล้วไม่ใช่หรือไง ? ” หยางโปหันมองไปทางลัวย่าวหัว “ หลังจากนั้นฉันเลยไม่ได้ถามรายละเอียดกับนายเลย เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ? ”

 

“ พูดยากนะ พวกเราเหมือนไม่ใช่คนโลกเดียวกันเลย หลังจากคบกันได้สองสามวัน ก็แยกทางกันแล้ว ” ลัวย่าวหัวกล่าว

 

หยางโปมองไปทางลัวย่าวหัว ” ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องตามหาซุนเหอจั๋วให้พบ !

 

ไอ้สารเลวนี่ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าขับรถชนแม่ของฉัน ! ”

 

ในขณะที่พูดกันอยู่นั้น หลินหลินก็รีบวิ่งไปหาฮัวชิงหยุน และภรรยาของจางลี่หยง ภรรยาของจางลี่หยงเดินขาอ่อนแรงอยู่ เธอยังคงวิ่งไปข้างกายจางลี่หยง ” ลี่หยง ลี่หยง ไม่ต้องทุบแล้ว มือของคุณมีเลือดไหลออกมาแล้วนะ ! ”

 

หยางโปที่ไม่คิดที่จะสนใจ เวลานี้ถึงได้เงยหน้าขึ้นมอง ก็เห็นว่าผนังกำแพงเต็มไปด้วยเลือด !

 

หลินหลินมองดูเหตุการณ์ในที่เกิดเหตุ ก็อดไม่ได้ที่จะมองไปทางหยางโป ” เกิดอะไรขึ้น นี่มันอะไรกัน ? ”

 

หยางโปไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากอธิบายไปเพียงว่า “ ผู้กระทำความผิดในห้องยอมรับสารภาพปลอมเป็นคนร้าย ”

 

หลินหลินเบิกตากว้าง “ ทำไมเป็นแบบนี้ไปได้ ? หรือว่าพวกเขาไม่อยากจับคนร้ายตัวจริงใช่ไหม ? ”

 

หยางโปสับสนอย่างเห็นได้ชัด แต่ก็ยังอธิบายให้ฟังว่า ” ผู้กระทำความผิดมีคนหนุนหลังที่ค่อนข้างใหญ่ ”

 

หลินหลินตกตะลึง ใบหน้าลำบากใจ “ ถ้าคนหนุนหลังใหญ่ ถ้าอย่างนั้นก็ลืมมันไปซะ ! ”

 

หยางโปยิ้ม “ ไม่เป็นไร ผมจะจัดการเรื่องนี้เอง ! ”

 

พอพูดจบ หยางโปก็หันมามองลัวย่าวหัวอีกครั้ง ” พวกเราเข้าไปกันเถอะ ! ”

 

ลัวย่าวหัวพยักหน้า

 

ทั้งสองขึ้นรถกันใหม่อีกครั้ง เหยียนหรูหยูเองก็ขึ้นรถตามไปอีกครั้ง หยางโปทำหน้าที่ขับรถไปตามที่ลัวย่าวหัวบอก ขับไปตามถนนชานเมือง

 

ไม่นานรถก็ขับมาถึงบริเวณบ้านหลังหนึ่ง หยางโปขับรถตามรถคันข้างหน้าเข้าไป ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตะโกนเสียงดัง รถหยุดอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง จากนั้นลัวย่าวหัวก็ชี้เข้าไปข้างใน “ ซุนเหอจั๋วน่าจะพักอยู่ที่นี่ ? ”

 

หยางโปเลิกคิ้วและเหลือบมองเข้าไปข้างใน แสงสว่างวาบผ่านตาไป จากนั้นเขาก็มองเห็น

 

ซุนเหอจั๋วกำลังนั่งอยู่ในห้องนั่งเล่น !

 

“ ไป พวกเราเข้าไปกันเถอะ ! ” หยางโปพูด