ตอนที่ 490 ไม่สามารถรักเซียวเหยี่ยนอย่างเดียวได้ / ตอนที่ 491 เฉินปี้ผู้เสียความบริสุทธิ์

ชายาหยุดเย้าข้าเสียทีเถิด

ตอนที่ 490 ไม่สามารถรักเซียวเหยี่ยนอย่างเดียวได้ 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นก็รู้ว่าเอาเรื่องนี้มาขู่มู่หรงกวานเย่ว์เป็นเรื่องน่าละอายใจอย่างยิ่ง แต่เขาไม่มีวิธีอื่นแล้ว 

 

 

นอกจากเรื่องนี้ เขาไม่มีวิธีการอื่นที่จะพอจะพูดโน้มน้าวมู่หรงกวานเย่ว์ได้ นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่มู่หรงกวานเย่ว์กลัวในขณะนี้ 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นใช้เรื่องนี้ข่มขู่ มู่หรงกวานเย่ว์รู้ว่าตนเองปฏิเสธไม่ได้ นางให้เฉินปี้แต่งเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ อย่างมากก็แค่คิดจะแก้แค้นเซียวเหยี่ยน นับว่าเป็นการกระทำจากอารมณ์โกรธชั่ววูบ นางไม่ได้เป็นคนทำอะไรโดยใช้อารมณ์ด้วยซ้ำ และทำเรื่องเช่นนี้กับเซียวเหยี่ยนคนเดียวเท่านั้น 

 

 

นางเป็นบุตรสาวของตระกูลมู่หรง ตัวนางแบกรับภาระในการฟื้นฟูความรุ่งโรจน์ของวงศ์ตระกูล ขอเพียงมีนางอยู่ ตระกูลมู่หรงก็ยังเป็นตระกูลใหญ่อันดับหนึ่งของเมืองหลวง 

 

 

แต่มู่หรงนี่อวิ๋นก็ดันไม่ได้เรื่อง ไม่มีทางรับภาระในมือนางไปได้ สิ่งเดียวที่ทำได้ก็คือมีทายาทสืบสกุลมู่หรง 

 

 

ผลประโยชน์ของวงศ์ตระกูลกับการแก้แค้นเซียวเหยี่ยน นางเลือกอย่างแรก 

 

 

นางรักเซียวเหยี่ยน แต่ไม่สามารถรักเซียวเหยี่ยนอย่างเดียวได้ มีเรื่องที่สำคัญกว่าเซียวเหยี่ยนมากมายวางกองอยู่ตรงหน้านาง เมื่อถึงคราวที่นางจะต้องเลือก นางก็จะเลือกสละเรื่องเซียวเหยี่ยน 

 

 

ถึงแม้จะเป็นเช่นนี้ นางก็ยังไม่สามารถทนเห็นเซียวเหยี่ยนรักลึกซึ้งกับผู้หญิงอื่นต่อหน้าต่อตาได้ แม้ว่าในใจจะมีเรื่องต่างๆ อยู่มากมาย แต่ก็ยังคงเจ็บปวดอยู่นั่นเอง 

 

 

“ดี เรารับปากเจ้าก็ได้ แต่ว่าคำสั่งนี้เราจะยังออกไม่ได้ หากเจ้าสามารถให้เฉินปี้กลายเป็นผู้หญิงของเจ้าได้ เราก็จะได้ตั้งนางเป็นภรรยาหลวงของเจ้าอย่างสมเหตุสมผล 

 

 

เฉินปี้เพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและความสามารถ ให้นางเป็นภรรยาหลวงของเจ้า ก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน ลูกที่นางให้กำเนิดก็คงไม่เลว” 

 

 

มู่หรงนี่อวิ๋นทำหน้าดีใจ รีบโขกหัวขอบคุณ 

 

 

“ขอบคุณพี่ใหญ่มาก” 

 

 

“ออกไปเถิด!” 

 

 

มู่หรงกวานเย่ว์ทำสีหน้ารังเกียจแล้วโบกมือ มู่หรงนี่อวิ๋นไม่พูดอะไรอีก ออกไปอย่างรวดเร็ว 

 

 

เขาไม่อยากแต่งงานกับเฉินปี้ แต่เพื่อให้หลิงอวี้จื้อได้มีความสุข เขาเต็มใจที่จะรับผิดชอบหน้าที่ของตนเอง ในเมื่อไม่ว่าจะสู่ขอใคร สำหรับเขาแล้วก็เหมือนกันทั้งนั้น เขาผูกมัดเฉินปี้ไว้ที่จวนตระกูลมู่หรง ก็นับว่าได้แก้ปัญหาให้หลิงอวี้จื้อไปเปลาะหนึ่ง 

 

 

วันต่อมา เฉินปี้มาถึงจวนอู๋อ๋องตามนัด คารวะเฉินเซี่ยวหรูเสร็จแล้ว ก็ถามอย่างเคารพนอบน้อมว่า 

 

 

“ไม่ทราบว่าท่านอู๋อ๋องเรียกหม่อมฉันมามีอะไรจะสั่งหรือเพคะ” 

 

 

“คุณหนูเฉิน เชิญนั่ง” 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูท่าทางสุภาพและสง่างาม ชี้ไปที่เก้าอี้ข้างๆ เป็นสัญญาณให้เฉินปี้นั่งลง เฉินปี้กิริยามารยาทสง่างาม นั่งลงบนเก้าอี้ด้วยใบหน้าที่มีรอยยิ้ม 

 

 

นางสวมชุดสีฟ้าท้องฟ้าทั้งตัว แต่งหน้าอย่างประณีตบรรจง ผิวขาวผ่องประกายเลือดฝาด ท่าทางทั้งงามสง่าและสุขุม ราวกับดอกกล้วยไม้สดใหม่สวยงาม 

 

 

“นี่เป็นชาหมอกหิมะใหม่ล่าสุด คุณหนูเฉินลองชิมได้” 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูยกถ้วยชาขึ้นดื่มหนึ่งคำ โดยมารยาท เฉินปี้จึงชิมคำหนึ่งด้วย พูดชมว่า 

 

 

“ชานี้หอมสดชื่นกลมกล่อม ดื่มแล้วหอมติดปาก ต้องอยู่ที่จวนท่านอู๋อ๋องเท่านั้นถึงจะได้ดื่มชาหมอกหิมะชั้นดีเช่นนี้ได้” 

 

 

“หากคุณหนูเฉินชอบ จะเอากลับไปจวนบ้างก็ได้” 

 

 

เฉินปี้ไม่รู้ว่าเฉินเซี่ยวหรูเชิญนางมามีเจตนาอะไร ยิ้มบางๆ แล้วตอบกลับ 

 

 

“ท่านอ๋องเกรงใจกันเกินไปแล้วเพคะ ชานี้มีค่าราคาแพง หม่อมฉันตระหนกเพคะ ไม่กล้ารับรางวัลหากไม่มีผลงานเพคะ” 

 

 

“คุณหนูเฉินเพียบพร้อมทั้งรูปโฉมและความสามารถ หากได้เป็นพระชายารองในจวนท่านอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ช่างน่าเสียดายจริง ๆ” 

 

 

“เป็นรับสั่งของไทเฮาเพคะ หม่อมฉันย่อมต้องปฏิบัติตาม” 

 

 

เฉินปี้ตอบกลับอย่างเคารพ ในน้ำเสียงไม่ปรากฏความภาคภูมิ ต่อหน้าราชวงศ์ นางรู้จักสำรวมตนอย่างมาก 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูยิ้มแต่ไม่ตอบอะไร ยกถ้วยชาขึ้นมาดื่มต่อ ในใจเฉินปี้ยิ่งสงสัยมากขึ้นทุกที ไม่รู้ว่าเฉินเซี่ยวหรูมีเจตนาอะไรกันแน่ ได้แต่นั่งตัวตรง รักษามารยาทอย่างยิ่ง 

 

 

ตอนนี้เอง จู่ๆ นางก็เวียนหัวมาก รีบเอามือกุมหัว ในใจมีลางสังหรณ์อันไม่เป็นมงคล 

 

 

 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 491 เฉินปี้ผู้เสียความบริสุทธิ์ 

 

 

“ท่านอ๋อง ท่าน…” 

 

 

นางมองเฉินเซี่ยวหรูอย่างไม่อยากจะเชื่อ ไม่เข้าใจจริงๆ ว่าเหตุใดเฉินเซี่ยวหรูต้องลงมือกับนาง 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูวางถ้วยชาในมือลง ไม่ได้อธิบายอะไร มองเฉินปี้อยู่เช่นนั้น รอนางหมดสติไปในที่สุด 

 

 

สติสัมปชัญญะของเฉินปี้เลือนรางลงไปทุกที นางดิ้นรนจะลุกขึ้น แต่ขยับไม่ได้เลย ในใจรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าเฉินเซี่ยวหรูจะทำอะไรนาง 

 

 

นางอ้าปากอยากพูด แต่ไม่มีแรงจะอ้าปากอีกต่อไป เปลือกตาดูเหมือนกำลังต่อสู้ พยายามสุดชีวิตก็ไม่มีทางเปิดตาได้อีก สุดท้ายนางก็หลับสนิทไป 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูไม่ได้เข้าไปอุ้มเฉินปี้ ชี้ซูฮว่าที่กำลังรออยู่ข้างนอกห้องด้วยสีหน้าหวาดกลัว หวางเฉิงเข้าใจความหมายของเฉินเซี่ยวหรู ตีซูฮว่าสลบทันที จากนั้นเฉินเซี่ยวหรูก็ชี้ไปที่เฉินปี้ สั่งการว่า 

 

 

“หวางเฉิง พานางลงไป” 

 

 

หวางเฉิงตอบรับหนึ่งคำ แล้วอุ้มเฉินปี้ไปที่ห้องเฉินเซี่ยวหรูอย่างรวดเร็ว 

 

 

เฉินเซี่ยวหรูเดินตามไปข้างหลัง ก้มหน้ามองเฉินปี้ที่สลบไสลไม่ตื่น 

 

 

“หลิงอวี้จื้อรักอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์สุดจิตสุดใจเช่นนี้ แม้ว่าเจ้าจะแต่งเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์เข้าไป ก็ไม่สามารถแยกหลิงอวี้จื้อกับท่านอ๋องได้ 

 

 

ตอนนี้นางไม่ไว้ใจข้าเช่นนี้ แม้แต่จะคุยกันสักประโยคยังไม่อยากคุย เช่นนั้นข้าทำคุณให้นางสักอย่างไม่ดีกว่าหรือ ข้าควรจะแต่งตั้งพระชายาได้แล้ว” 

 

 

พูดจบเฉินเซี่ยวหรูก็เอื้อมมือไปปลดผ้าคาดเอวของเฉินปี้ เขาก็ถึงวัยที่ควรจะแต่งตั้งชายาแล้ว จวนอ๋องก็ต้องการผู้หญิงสักคนมาคอยดูแลงานบ้านงานเรือนต่างๆ 

 

 

เฉินปี้สามารถเป็นพระชายาอ๋องที่เหมาะสมได้ หน้าตาและความสามารถยอดเยี่ยม ไม่มีข้อบกพร่องเรื่องต้อนรับดูแลแขก ที่สำคัญที่สุดคือครอบครัวเฉินปี้ไม่มีทั้งบารมีและอำนาจที่แท้จริง หากเขาสู่ขอเฉินปี้ มู่หรงกวานเย่ว์ก็คงไม่กลัว รอจนโอกาสเหมาะ เขาค่อยหาเหตุผลปลดเฉินปี้ 

 

 

การมีอยู่ของผู้หญิงคนหนึ่งสำหรับเขาแล้วไม่ได้มีผลกระทบอะไรมากมาย เขาเพียงต้องการคนที่จะมาจัดการดูแลจวนแทนเขาเท่านั้น เมื่อมีความต้องการก็สามารถช่วยให้เขาปลดปล่อยความต้องการได้ 

 

 

ร่วมประเวณีกันแล้ว เฉินเซี่ยวหรูก็ลุกขึ้นสวมเสื้อผ้า เฉินปี้ยังคงเปล่าเปลือย นอนสลบไสลอยู่ เฉินเซี่ยวหรูไม่ได้สนใจเฉินปี้ ลุกขึ้นไปที่ห้องทำงาน ราวกับว่าเมื่อครู่ไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ง่ายๆ สบายๆ อย่างยิ่ง 

 

 

เฉินปี้ลืมตาขึ้นมาก็รู้สึกว่าปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ไม่นานก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ นางเลิกผ้าห่มออก พบว่าตนเองตัวเปล่าเล่าเปลือย บนเตียงมีรอยเลือดสีแดง รีบเอาผ้าห่มปิดตัว 

 

 

นางเป็นคุณหนูใหญ่ตระกูลขุนนาง ได้รับการศึกษาอย่างดีที่สุดตั้งแต่เล็กๆ ให้ความสำคัญกับชื่อเสียงมาก ปกติรักษากิริยามารยาทและการพูดจาตามแบบแผนอย่างยิ่ง ถึงแม้ว่าจะรักและชื่นชมเซียวเหยี่ยนมาก แต่ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนก็รักนวลสงวนตัว 

 

 

ไม่นานนางก็จะแต่งเข้าวังอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์แล้ว จวนตระกูลเฉินเชิญครูแม่นมมาสอนนางเป็นพิเศษ ด้วยเหตุนี้นางจึงเข้าใจเรื่องระหว่างหญิงชายเป็นอย่างดี และรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น รู้ว่าตนเองสูญเสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว 

 

 

ความรู้สึกอัปยศอดสูเกิดขึ้นโดยธรรมชาติ ในใจทั้งอับอายและหวาดกลัว ร่างกายสั่นสะท้านไม่หยุด เป็นอย่างนี้ไปได้อย่างไร หรือว่าเป็นอู๋อ๋อง 

 

 

นี่เป็นเหตุผลที่อู๋อ๋องต้องการพบนาง เหตุใดอู๋อ๋องต้องปฏิบัติต่อนางเช่นนี้ นางกับอู๋อ๋องไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กัน เหตุใดอู๋อ๋องจะต้องทำเรื่องเช่นนี้ในเวลานี้ 

 

 

อู๋อ๋องทำเช่นนี้ แสดงว่าต้องการหยุดยั้งไม่ให้นางแต่งเข้าจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ 

 

 

ซูฮว่านอนแผ่บนพื้น นวดหลังศีรษะขณะตื่นขึ้นมา เห็นว่าบนพื้นมีเสื้อผ้าของเฉินปี้กระจัดกระจาย ส่วนเฉินปี้ก็พิงเตียงอย่างสิ้นหวัง นางตกใจจนรีบอุดปาก เกิดอะไรขึ้น หรือว่าคุณหนูของนางเสียความบริสุทธิ์แล้ว 

 

 

“หยิบเสื้อผ้ามาให้ข้าหน่อย” 

 

 

เฉินปี้พยายามสงบใจขณะสั่งการ 

 

 

ซูฮว่าถึงได้มีสติกลับมา หยิบเสื้อผ้าของเฉินปี้ขึ้นมาอย่างลนลาน ช่วยเฉินปี้ใส่เสื้อผ้า มือสั่นระรัว ต่อไปจะทำอย่างไรดี เสียความบริสุทธิ์ไปแล้ว นี่เป็นเรื่องใหญ่หลวงนัก