ตอนที่ 1689 กลับโลกมนุษย์
หลังได้รับการควบคุมเหนือนางพญาและราชินีแมลง หลินฮวงก็ปล่อยทั้งหมดไป เขาให้พวกมันพาเขาเข้าใจกลางรัง จากนั้นเขาก็จัดการมันและให้เสี่ยวเฮยเปลี่ยนแกนเป็นการ์ด
ถ้าเขาไม่ปราบราชินีแมลงกับนางพญากลุ่มนี้ เขาอาจต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อหาแกนรังให้เจอ
อย่างไรก็ตาม เพื่อประหยัดพลังงานต้นกําเนิด หลินฮวงไม่ขอให้หลินฮวงจําลองทั้งรัง เขากลับเปลี่ยนแกนรังเป็นการ์ดและทําการควบคุมตัวแกนเอา
เหนือสิ่งอื่นใด ตราบเท่าที่เขาควบคุมแกน มันก็เทียบเท่ากับการควบคุมทั้งรัง
ตอนเขาจัดการเรื่องเหล่านี้เสร็จ หลินฮวงก็ให้เสียวเฮยย้ายความสัมพันธ์ทั้งหมดของราชินีแมลงกับนางพญาไปยังแกนรั้ง ยกเว้นนางพญาระดับจาวเทวะขั้นต่ํา
แบบนี้ พวกมันจะได้ไม่เปลืองช่องอัญเชิญของเขา
แม้เสี่ยวเฮยจะยกเลิกขีดจํากัดจํานวนการ์ดมอนสเตอร์ แต่ยิ่งเขาอัญเชิญแมลงเยอะ มันยิ่งเป็นภาระต่อเสี่ยวเฮย
การย้ายความสัมพันธ์สัญญาไปยังรังหมายถึงการลดภาระต่อเสี่ยวเฮย
นอกจากนี้ ปัจจุบัน หลินฮวงพบว่ามันแทบไม่จําเป็นที่จะอัญเชิญมอนสเตอร์ที่ต่ํากว่าจ้าวเทวะอีกต่อไป
เหตุผลที่เขาฆ่านางพญากับราชินีแมลงเหล่านี้ จากนั้นก็เปลี่ยนพวกมันเป็นการ์ดก็เพื่อให้เขาควบคุมได้ทั้งรังแบบเบ็ดเสร็จ
เหนือสิ่งอื่นใด นางพญากับราชินีแมลงแต่ละตัวมีอิทธิพลในรังที่พวกมันดูแล ยิ่งความสามารถพวกมันทรงพลังและมีชนชั้นสูง พวกมันยิ่งมีอิทธิพลในรัง
ถ้าหลินฮวงไม่มีอํานาจสมบูรณ์เหนือรังและระดับพลังของราชินีแมลงตัวไหนเลื่อนเป็นจ้าวเทวะหรือมีราชินี แมลงเลื่อนเป็นชนชั้นจิตวิญญาณบริสุทธิ์ มันจะส่งผลต่อการควบคุมของเขา
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจเปลี่ยนทั้งหมดเป็นการ์ดเพื่อตัดความเสี่ยงนี้ที่เดียว
ไม่ใช่แค่นั้น หลังย้ายสัญญาของแมลงชั้นห้าหลายตัวไปยังแกนรัง หลินฮวงก็ให้นางพญาประกาศว่าแมลงทุกตัวในรั้งต้องสร้างสัญญาใหม่กับแกนรังด้วย
นี่จะรับประกันว่าเขามีอานาจเบ็ดเสร็จต่อแมลงทุกตัวในรังทั้งหมด และจะไม่มีโอกาสที่พวกมันจะทรยศ
หลังจัดการเสร็จ หลินฮวงก็เก็บเขตแดนเทพเขาและปล่อยรังออกมา
ขณะยืนต่อหน้ารัง เขาก็พิจารณาสักพัก และสุดท้าย เขาก็ตัดสินใจไม่พิชิตรังอื่น
ตามความทรงจําของชาช่า(นางพญาจ้าวเทวะขั้นต่ํา)ที่แบ่งปันกับเขา นอกจากเขาวงกตหมื่นแมลง ยังมีรังใหญ่อีกสามแห่งในมหาพิภพ
นางพญาของทั้งสองรั้งคือพี่น้องของชาช่า ทั้งคู่คือกึ่งจ้าวเทวะ
ส่วนรั้งสุดท้ายมีนางพญาที่เป็นฝาแฝดระดับเทพสวรรค์ขั้นสูงสุดดูแล พวกนางคือลูกสาวของชาช่า
สามรั้งใหญ่เหล่านี้ล้วนมีผู้พิทักษ์แมลงระดับจ้าวเทวะปกป้อง
ในด้านขนาด รังเหล่านี้ใหญ่กว่าเขาวงกตหมื่นแมลง
หลินฮวงคิดถึงมันอีกครั้งแต่ก็ยังล้มเลิกความคิดที่จะพยายามจับครอบครัวของชาช่า
ก่อนอื่น เขาแทบไม่สนใจนางพญาระดับกึ่งจําาวเทวะไม่ต้องพูดถึงฝาแฝดที่เป็นแค่เทพสวรรค์ขั้นสูงสุด
โดยธรรมชาติ ถ้าแฝดกลายเป็นจ้าวเทวะ เขาคงบุกตะลุยไปสร้างสัญญากับทั้งคู่
สอง ชาช่าได้ริเริ่มยอมจํานน ดังนั้นเขาจึงสามารถสร้างสัญญาได้ไว
ถ้านางพญาของอีกสามรังปฏิเสธที่จะจํานน งั้นเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากทําลายพวกมันไปพร้อมกับรัง
ถ้าเขาอยากเก็บทั้งฝูงแมลงไว้แบบไม่บุบสลาย เขาต้องใช้เวลาหลายเดือนเพื่อเล่นซ่อนหากับนางพญาในรัง
หลังจัดการเรื่องของรังเสร็จ หลินฮวงก็อัญเชิญประตูทุกอาณาจักรและก้าวเข้าไป
ครั้งนี้ เขาไม่ได้กลับไปดาวริคกี้แต่เป็นโลกมนุษย์
เขาโผล่ในเขตดาวตาปีศาจ
เขตดาวตาปีศาจเป็นตามชื่อเพราะนี่คือเขตดาวใหญ่ที่มีรอยแยกหุบเหวที่ใหญ่สุดในโลกมนุษย์
จากระยะไกล ทั้งเขตดาวนี้ดูเหมือนตายักษ์ที่ปิดสนิท
นอกจากนี้ พื้นที่อันตรายนี้ยังเป็นตําแหน่งที่รุ่งเรือง เป็นรองแค่เขตใจกลางของโลกมนุษย์
หลินฮวงก่าลังวางแผนก่อตั้งสาขาของพันธมิตรดาบในภูมิภาคนี้
นี่เพราะดินแดนในเขตใจกลางแพงไป และทุกเขตดาวก็โดนองค์กรใหญ่จับจองแล้ว
แม้เขาจะทรงพลัง เขาก็ไม่อาจยึดดินแดนคนอื่นมาได้ด้วยกําลัง
แต่ทว่า เขตดาวตาปีศาจนั้นแตกต่าง มันมีคนดีกับอาชญากรปะปนกัน และอันตรายกับโอกาสก็อยู่ด้วยกัน ทุกวันจะมีองค์กรโดนทําลาย และองค์กรใหม่ถือว่าเนิด
หมู่ดาวที่รุ่งเรืองสุดในเขตดาวตาปีศาจคือเกาะสวรรค์
ในหมู่ดาวนี้ มีดาวสามดวงที่ก่อตั้งโดยสามองค์กรระดับเจ็ด ซึ่งก็คือวิหารต้าหลัว วิหารเล่ยหยิน และวิหารศักดิ์สิทธิ์
บนผิวเผิน ดาวเหล่านี้ถือเป็นดินแดนของสามนักบุญ แต่ในความเป็นจริง มีเจ็ดนิกายก่อตั้งสาขาบนดาวสามดวงนี้
ในชั่วพริบตา หลินฮวงก็ปรากฏบนดาวเรือล่องในเกาะสวรรค์
นี่คือดินแดนของวิหารเล่ยหยิน มันมีวิหารพบเห็นได้ทั่ว
ไม่ได้มีแค่มนุษย์บนดาวนี้ แต่มีสมาชิกเผ่าอื่นมากมายด้วย หลินฮวงยังสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของโปรตอส
นี่พิสูจน์ให้เห็นว่ามนุษย์ยังเป็นกลางมาก
พวกเขาไม่แสดงความเกลียดหรือปฏิปักษ์ต่อเผ่าอื่น
หลินฮวงเดินทอดน่องสักพักก่อนพบโรงแรมให้เข้าพัก
ในห้องโรงแรม เขาปล่อยดาบ1และคนอื่นออกจากเขตแดนเทพของเขา
“ท่านจอมดาบ วิกฤตถูกจัดการแล้วหรือ?”
ดาบ1ถามทันทีที่เห็นหน้าหลินฮวง
“ใช่แล้ว”หลินฮวงพยักหน้า
แต่ทว่า พวกดาบ1กลับยังหน้าเคร่งเครียด
เหล่าทาสดาบรู้ดีว่าด้วยความสามารถปัจจุบันของพวกเขา พวกเขาไม่สามารถช่วยเหลือนายท่านตัวเองด้วย ในความเป็นจริง พวกเขายังเริ่มถ่วงเขาด้วยซ้ํา
หลินฮวงสามารถบอกได้ว่าเหล่าทาสดาบเขาคิดอะไรและตบไหล่ดาบ1 “พวกเจ้าทั้งหมดช่วยข้าได้มากจริงๆ แถมยังมีหลายเรื่องที่ข้าต้องให้พวกเจ้าช่วย”
จากนั้นหลินฮวงก็หยิบยกเรื่องก่อตั้งสาขาของพันธมิตรดาบขึ้นมา หลังจากนั้น เขาก็จัดประชุมหารือกับทั้งกลุ่มทาสดาบจนดึกดื่น วาดแผนคร่าวๆสําหรับพันธมิตรดาบ
เหตุผลหนึ่ง เขาอยากเห็นพันธมิตรดาบยิ่งใหญ่ตามความปรารถนาก่อนตายของจอมเทพ ส่วนอีกเหตุผล เขาอยากตั้งดินแดนใหญ่ให้คนในโลกกรวดสามารถมาอยู่ได้
แม่โลกกรวดจะอยู่ในเขตแดนเทพของหลินฮวงและทรัพยากรก็มากมายกว่าเดิม มันก็ยังต่างชั้นหากเทียบกับมหาพิภพ
หลินฮวงยังหวังให้มีอัจฉริยะโผล่จากโลกกรวดมากขึ้น
นี่เพราะเท่าที่เขาคิด ยิ่งมียอดฝีมือเกิดขึ้นในเขตแดนเทพเขา บัญญัติเทพของเขาจะยิ่งทรงพลัง ต่อให้ยอดฝีมือเหล่านี้ออกจากเขตแดนเทพของเขา พวกเขาก็ยังถือเป็นคนของเขา พอพวกเขาทรงพลังขึ้น มันก็ยังส่งผลต่อเขตแดนเทพเขาอยู่ดี
หลินฮวงอยากให้มีจ้าวเทวะเกิดขึ้นจากเขตแดนเทพเขา
เขายังพิจารณาที่จะใช้การ์ดเพิ่มระดับพลังเพื่อเลื่อนพวกดาบ1เป็นจ้าวเทวะโดยตรง แต่ทว่า เสี่ยวเฮยปฏิเสธข้อเสนอของเขาทันที
การ์ดอย่างการ์ดเลื่อนระดับพลังกับการ์ดเลื่อนขั้นนั้นใช้ได้แค่กับการ์ดมอนสเตอร์
หลังครุ่นคิดสักพัก สุดท้าย หลินฮวงก็ล้มเล็กความคิดในการแปลงพวกดาบ1เป็นการ์ดมอนสเตอร์
ถ้าเขาแปลงทั้งหมดเป็นการ์ดมอนสเตอร์ ความสัมพันธ์สัญญาของพวกเขากับเขตแดนเทพของหลินฮวงก็จะยกเลิกโดยอัตโนมัติ กล่าวอีกนัยหนึ่ง ต่อให้เขาเลื่อนพวกเขาทั้งหมดเป็นจ้าวเทวะ มันก็จะไม่เพิ่มพลังเขตแดนเทพเขาเลย ดังนั้น มันจึงเปล่าประโยชน์ที่จะแปลงพวกเขาเป็นการ์ดมอนสเตอร์
และอีกเหตุผลคือ หลินฮวงไม่สามารถทำใจฆ่าพวกดาบ1ได้