ปฏิบัติการ ตามล่า อำนาจ ของ ฮาร์วีย์ ยอร์ก บทที่ 580

ในขณะเดียวกัน ณ ลานซิลเวอร์นิมบัส หลังตีนเขาซิลเวอร์นิมบัส

ควินตันนั่งบนเก้าอี้บัลลังก์ของเขาพร้อมหลับตาครุ่นคิด

ชายคนหนึ่งยืนห่างจากควินตันไม่ไกล หัวของเขาก้มต่ำ กลัวเกินกว่าจะพูดอะไรออกมา

ถ้าคนที่มาจากงานเลี้ยงรุ่นของฮาร์วีย์อยู่ที่นี่ พวกเขาจะจำได้ว่าชายคนนี้ไม่ใช่ใครอื่นนอกเสียจาก เชสเตอร์ แซนเดอร์

เชสเตอร์ซึ่งทำตัวเหมือนสุนัขที่ซื่อสัตย์ ตอนนี้ดูสงบเสงี่ยมมากขึ้น

ในที่สุดควินตันก็ลืมตาขึ้น จิตใจของเขาเต็มไปด้วยความคิดต่าง ๆ มากมาย และพูดออกมาว่า “บอกฉันให้หมดทุกอย่างตั้งแต่ต้นจนจบอีกสามรอบ…”

เชสเตอร์ได้ย้ำเหตุการณ์นี้สามครั้งแล้ว แต่เขาไม่กล้าปฏิเสธ เขาเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพูดทุกอย่างซ้ำอีกครั้ง

ควินตันฟังอย่างเงียบ ๆ ไม่นานรอยยิ้มก็ผุดขึ้นที่ริมฝีปากของเขา “จากที่นายเห็น พี่ชายสุดที่รักของฉันเมื่อเทียบกับเมื่อสามปีที่แล้วเป็นยังไง?”

เชสเตอร์ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตอบออกไปว่า “เมื่อสามปีที่แล้ว เจ้าชายยอร์ก… ชายคนนั้นเปล่งประกายราวกับใบมีดที่แหลมคม แต่ตอนนี้ เขาไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว”

ควินตันรู้สึกทึ่ง “โอ้? แล้วคิดว่าไง?”

เชสเตอร์ชะงักอีกครั้งและครุ่นคิดอีกครู่หนึ่ง เมื่อเขาตอบ น้ำเสียงของเขาฟังดูค่อนข้างลังเล “ผมเชื่อว่าเขาเป็นผู้ใหญ่เต็มตัวและสุขุมมากขึ้น แต่กลับรู้สึกอันตรายมากกว่าเดิม…”

“กลวิธีที่ใช้กับเขาเมื่อสามปีที่แล้วอาจไม่มีประโยชน์ที่จะใช้กับเขาในตอนนี้”

“ถ้าเป็นแบบนั้น” ควินตันประกาศออกมาอย่างไร้อารมณ์ “ส่งของขวัญที่เราเตรียมไว้ให้เขากันเถอะ”

เชสเตอร์ไม่กล้าพูดอะไรอีกและถอยห่างจากห้องเงียบ ๆ พร้อมก้มโค้งคำนับตลอดเวลา เมื่อเขาออกจากทางเดินยาวนั่นแล้ว เขาก็ยืดตัวตรงและถอนหายใจออกมาเบา ๆ

ในสายตาของเขา ควินตันและชายคนนั้นเป็นภูเขาที่ไม่สามารถเข้าถึงได้และไม่สามารถเอาชนะได้

มังกรตัวจริง แชมป์ตัวจริงจะดูแตกต่างก็ต่อเมื่องูและมังกรต่อสู้กัน

คนอย่างเชสเตอร์คงไม่มีโอกาสได้ก้าวเข้าไปในสนามรบแบบนั้น

เมื่อสามปีที่แล้ว เชสเตอร์เลือกยืนข้างฝั่งควินตัน เวลาผ่านไปสามปีแล้ว เขาไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องอยู่ฝั่งควินตันต่อไป

เดอะการ์เด้น เรสซิเดนซ์

ฮาร์วีย์เฝ้าดูแมนดี้ที่ยังคงทำงานเอกสารของเธอ สีหน้าของเขาดูหม่นหมอง

หลังจากที่ได้เป็นประธานบริษัท แมนดี้ก็ไม่มีเวลาให้กับฮาร์วีย์แม้แต่วินาทีเดียว

เธอไม่ได้สังเกตเลยว่าเขากลับมานานแล้วเลยใช่ไหม?

ขณะที่เขายังคงรู้สึกหมดหนทาง โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น น่าแปลกที่คนที่โทรเข้ามาคือ ทาร่า ลูวิส

หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดเขาก็รับสาย “นางฟ้าลูอิส คุณต้องการให้ผมช่วยอะไรครับ?”

เขาพูดกึ่งติดตลก

ทาร่าดูเหมือนจะครุ่นคิดกับการเลือกคำพูดของเธอ ในที่สุดเสียงของเธอก็อ่อนลง “ฮาร์วีย์ ฉันรู้ว่าคุณมีสถานะสูงในตอนนี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ฉันมีอะไรจะบอกคุณ… แต่ฉันหวังว่าคุณจะไม่ทำให้สิ่งที่ฉันกำลังจะพูดมันรั่วไหล…”

ฮาร์วีย์ตอบว่า “ได้สิ”

“คุณยังจำ วิลเลียม เบลล์ ได้ไหม?” ทาร่าถามด้วยความลังเล

ดวงตาของฮาร์วีย์เปลี่ยนเป็นเย็นชาทันที “เขางั้นเเหรอ? เกี่ยวอะไรกับเขาล่ะ?”

วิลเลียม เบลล์เป็นเพื่อนร่วมชั้นของเขาในมหาวิทยาลัยและเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา

เขาเป็นคนเดียวที่รู้สถานะที่แท้จริงของฮาร์วีย์

ฮาร์วีย์เป็นหนี้วิลเลียมในความพยายามในการสร้างบริษัทหลายพันล้านของเขา แต่หลังจากเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสามปีที่แล้ว วิลเลียมก็หายตัวไปในอากาศ

ลูกน้องของฮาร์วีย์คิดว่าวิลเลียม เป็นคนที่ขายฮาร์วีย์เมื่อสามปีก่อน ซึ่งเป็นสาเหตุที่ฮาร์วีย์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องจากไป

บางคนบอกว่าเขาอยู่ต่างประเทศ และบางคนคิดว่าเขาอาศัยอยู่ในหมู่บ้านชนบท

ฮาร์วีย์เข้าร่วมงานเลี้ยงรุ่นของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ นั่นก็เพื่อตั้งตารอที่จะได้พบวิลเลียมที่นั่น แต่เขาไม่ได้เข้าร่วมงานนั้น

ทาร่าตัวสั่นเมื่อสังเกตได้ถึงน้ำเสียงเยือกเย็นของฮาร์วีย์ แต่ยังคงประหม่า “วิลเลียม เบลล์ ตายเมื่อสามปีที่แล้ว…น่าจะเป็นวันที่คุณกลายไปเป็นลูกเขยที่ต้องพึ่งพาบ้านผู้หญิง…”

“จะเรื่องจริงหรือไม่ คุณต้องไปหาความจริงด้วยตัวเอง โดยส่วนตัวฉันไม่คิดว่าเขาตายจากสาเหตุตามธรรมชาติ…”