ตอนที่ 496 จะคืนดีกันแล้ว
ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เธอคิดไม่ตกคือท่าทีของเซียวเหยี่ยน ถึงแม้เฉินปี้จะแสดงได้ดีมาก ต่อหน้าเซียวเหยี่ยนใช้เหตุผลว่าพี่ชายถูกวางยาพิษมาอาศัยอยู่ในจวนอ๋อง เธอสงสัยเฉินปี้ได้ แล้วทำไมเซียวเหยี่ยนถึงเชื่อเฉินปี้ได้ล่ะ
จากความสามารถในการมองทะลุปรุโปร่งของเซียวเหยี่ยน ไม่ควรโดนเฉินปี้หลอกได้
ถึงแม้รู้ว่าเฉินเยี่ยนโดนพิษแล้ว เซียวเหยี่ยนต้องการหายาถอนพิษก็ไม่ใช่เรื่องยาก เขาไม่ได้สนใจเฉินเยี่ยน พูดให้ถึงที่สุดก็คือเขามีเจตนาจะแต่งเฉินปี้เข้าจวน ไม่ว่าเฉินปี้จะเป็นอย่างไร เขาก็จะสู่ขอเฉินปี้
เขาดึงดันจะสู่ขอเฉินปี้เพื่ออะไร เพราะว่าต้องการคนเช่นนี้ หรือเพราะว่านางคือเฉินปี้
พูดตามตรง หากเธอเป็นผู้ชาย ก็คงประทับใจเฉินปี้ได้ง่ายดาย ไม่เหมือนความแข็งกร้าวของมู่หรงกวานเย่ว์ และไม่เหมือนความก้าวร้าวบังคับคนอื่นของเฉินหนิงซวง ต่อหน้าผู้ชายเฉินปี้อ่อนโยนสง่างามอย่างยิ่ง และเข้าใจกาลเทศะเป็นอย่างดี เป็นผู้หญิงประเภทที่ทำให้ผู้ชายรู้สึกสบายใจ
เซียวเหยี่ยนก็มีความรู้สึกเช่นนี้กับเฉินปี้ด้วยหรือไม่
คิดถึงตรงนี้ ในใจหลิงอวี้จื้อก็เศร้าหมองลงทันใด จุดที่เฉินปี้เก่งที่สุดก็คือยอมบาดเจ็บเพื่อเอาชนะความเห็นใจจากเซียวเหยี่ยน ซ้ำยังเอายาถอนพิษแดงทั่วธารมาให้เธอ การกระทำนี้กระทบใจของเซียวเหยี่ยนอย่างมาก ทำให้เซียวเหยี่ยนปกป้องนางโดยไม่รู้ตัว
คิดให้ดีๆ นี่ก็แทบจะไม่ใช่ความผิดของเซียวเหยี่ยน เฉินปี้ที่เขากับเธอเห็นนั้นแตกต่างกัน
เธอพูดจารุนแรงกับเซียวเหยี่ยนเกินไปหรือไม่ ใช่ท่าทีข่มเหงในการบอกเซียวเหยี่ยนว่าเฉินปี้เป็นผู้หญิงเจ้าเล่ห์ แต่ไม่มีหลักฐานเป็นชิ้นเป็นอัน อาศัยเพียงแค่ความเชื่อใจของเซียวเหยี่ยนเท่านั้น อีกทั้งเธอดันแสดงอาการต่อต้านเฉินปี้ตั้งแต่เริ่ม
สงบใจแล้วคิดตาม จุดที่เซียวเหยี่ยนโกรธเธอไม่ใช่ที่เธอพูดว่าเฉินปี้ไม่ดี แต่โกรธที่เธอไม่เชื่อใจเซียวเหยี่ยน คิดอย่างนี้แล้ว สำหรับเซียวเหยี่ยน เฉินปี้ไม่มีค่าพอให้พูดถึง เป็นเพราะใจตนเองไม่มีความสุข จึงได้พูดแบบนั้นออกมา
คิดไปคิดมา หลิงอวี้จื้อรู้สึกว่าตัวเองควรไปพูดคุยกับเซียวเหยี่ยนขณะที่จิตใจสงบสักครั้ง ในเมื่อไม่เคยคิดจะยอมแพ้เรื่องเซียวเหยี่ยน เช่นนั้นก็ไม่ควรตั้งใจให้โอกาสเฉินปี้ มีปัญหาก็ต้องแก้ไขปัญหา มีรอยรั่วก็ต้องอุดรอยรั่ว
ปกติเซียวเหยี่ยนจะเป็นฝ่ายมาปลอบเธอตลอด เธอดื่มด่ำกับความรักความหลงของเซียวเหยี่ยน น้อยนักที่จะยอมรับผิด แล้วน้อยนักที่จะเป็นฝ่ายไปหาเซียวเหยี่ยนก่อน ครั้งนี้ให้เธอจะเป็นฝ่ายเริ่มสักครั้ง
“มั่วชิง พวกเรากลับจวนกันเถิด!”
“คุณหนู ไม่ไปจวนท่านอ๋องหรือเจ้าคะ”
หลิงอวี้จื้อพ่นเมล็ดในปากทิ้งไป ยิ้มตาหยีพูดว่า
“ไปแน่นอน แต่ว่าแต่งหน้าแต่งตัวให้ดีก่อนแล้วค่อยไป การพบกันก็ต้องมีแบบแผนในการพบกัน เช่นนี้ดูแล้วถึงจะเจริญหูเจริญตา ไป ไป กลับจวนกัน”
มั่วชิงรู้สึกได้ชัดเจนว่าหลิงอวี้จื้ออารมณ์ดี น้ำเสียงก็ผ่อนคลายมาก นางลอบถอนหายใจหนึ่งครั้ง เช่นนี้ก็พูดได้ว่า คุณหนูของพวกนางกับท่านอ๋องจะคืนดีกันแล้ว
นางกับหรูเยียนเป็นกังวลมาหลายวัน เห็นอยู่ว่าจะแต่งงานกันอยู่แล้ว ควรจะยินดีปรีดา นางอยู่กับหลิงอวี้จื้อมา รู้เห็นด้วยตาตนเองว่าสองคนนี้ลำบากมาด้วยกันเท่าไร
เรื่องดีมักต้องผ่านอุปสรรคโชกโชนจึงจะสำเร็จ นี่ก็สมควรแก่เวลาแล้ว
หลิงอวี้จื้อกลับจวนอย่างสบายใจ แต่เฉินปี้กลับไปจวนอ๋องผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เมื่อเห็นเซียวเหยี่ยนก็คารวะตามระเบียบทันที
กลับจวนตระกูลเฉินไปแล้ว นางอาบน้ำ แล้วก็เปลี่ยนชุด บนตัวมีกลิ่นดอกกล้วยไม้จางๆ สดชื่นยิ่งนัก อยู่ไกลๆ ก็ยังได้กลิ่นหอมบนตัวนาง
กลิ่นหอมนี้มิได้แตะใจเซียวเหยี่ยน ท่าทางของเขาเหมือนปกติ ถามเรียบ ๆ
“เหตุใดคุณหนูเฉินจึงมาอย่างกะทันหัน”
เฉินปี้พยักหน้าให้ซูฮว่า เป็นสัญญาณให้ซูฮว่าเปิดกล่องอาหารในมือออกมา ในนั้นมีขนมโก๋เหลี่ยมหยกขาวหอมกรุ่นหนึ่งถาด ยังมีไอร้อนลอยออกมา
ตอนที่ 497 มีเจตนาร้ายแอบแฝง
นางยิ้มน้อยๆ พูดว่า
“ท่านอ๋อง ข้าทำขนมโก๋สี่เหลี่ยมหยกขาวมาเพคะ ข้ารู้ว่าคุณหนูหลิงชอบทาน แต่ว่าคุณหนูหลิงเข้าใจข้าผิดหลายเรื่อง ไม่ยินดีพบข้า
ดังนั้นวอนท่านอ๋องช่วยเป็นสื่อกลาง วันนี้รีบทำ ก็ไม่รู้ว่ารสชาติเป็นอย่างไร ท่านอ๋องลองชิมแทนคุณหนูหลิงสักหน่อยเป็นไร หากทำไม่ดี ก็จะไม่ส่งขนมโก๋สี่เหลี่ยมหยกขาวถาดนี้ให้คุณหนูหลิงเพคะ”
พูดถึงตอนท้าย เฉินปี้ก็ก้มหน้าลงอย่างกระอักกระอ่วนใจ
“มือเจ้าบาดเจ็บ ยังวุ่นทำสิ่งเหล่านี้เพื่ออะไร หลิงอวี้จื้อมิได้จิตใจคับแคบเช่นนั้น เจ้าส่งให้นางโดยตรงก็ได้ นางแค่มีนิสัยเป็นเด็กเท่านั้น”
พูดถึงหลิงอวี้จื้อ แววตาของเสี่ยวเยี่ยนก็แสดงความรักใคร่เอ็นดูอย่างปิดไม่มิด ถึงแม้เฉินปี้จะอิจฉา แต่ก็ไม่แสดงออกแม้แต่น้อย นางไม่ลืมจุดประสงค์ของการมาครั้งนี้
“หม่อมฉันคงใช้น้ำใจคนต่ำมาประเมินวิญญูชนเสียแล้ว เช่นนั้นอีกประเดี๋ยวหม่อมฉันจะส่งไปให้คุณหนูหลิง ของที่คุณหนูหลิงชอบทาน คงอยากให้ท่านอ๋องชอบด้วย เหมือนสำนวนรักบ้านนี้ก็ต้องรักกระทั่งอีกาบ้านนี้ [1] ท่านอ๋องลองชิมสักชิ้นเป็นไร ถือเสียว่าหม่อมฉันมิได้มาเสียเที่ยวเปล่า”
เวลาเฉินปี้พูดจาใบหน้ามีรอยยิ้มน้อยๆ เสมอ รักษาระยะห่างที่เหมาะสม และทำให้คนปฏิเสธได้ยาก
เซียวเหยี่ยนรู้ว่าหลิงอวี้จื้อชอบกินขนมมาก ทุกครั้งที่เห็นหลิงอวี้จื้อกินอย่างเพลิดเพลิน เขาก็จะสงสัยว่าเหตุใดนางถึงเจริญอาหารอยู่เสมอ ชอบกินพวกขนมและผลไม้เชื่อมที่หวานจนเลี่ยน ปกติเขาไม่เคยแตะสิ่งเหล่านี้เลย
เพราะนึกถึงหลิงอวี้จื้อ เซียวเหยี่ยนจึงหยิบขนมโก๋หนึ่งชิ้นเข้าปาก กัดไปหนึ่งคำ หวานๆ เหนียวๆ ติดฟันเล็กน้อย แต่หอมมาก มิน่านางถึงชอบกิน คงจะชอบกลิ่นหอมของมัน
สุดท้ายเขาก็กินขนมโก๋จนหมดชิ้น เฉินปี้รออยู่ข้างๆ เห็นเซียวเหยี่ยนกินหมดแล้วก็ลอบถอนหายใจโล่งอก ถือว่าท่านเทวดายังยืนอยู่ข้างนาง สุดท้ายนางก็ทำสำเร็จ
เฉินปี้ให้ซูฮว่าปิดฝา พูดด้วยสีหน้าจริงใจ
“ท่านอ๋อง หม่อมฉันมีเรื่องเล็กน้อยอยากจะคุยกับท่านอ๋องเพียงลำพัง เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับคุณหนูหลิงเพคะ”
เซียวเหยี่ยนโบกมือให้สาวใช้ออกไป แล้วถามตามประสาว่า
“มีเรื่องอะไรคุณหนูเฉินพูดได้ตามตรง”
“ท่านอ๋อง เรื่องเหล่านี้หม่อมฉันไม่ควรพูดเลย แต่ว่าหม่อมฉันหวาดกลัวอย่างยิ่ง ไม่ทราบว่าทำอะไรผิดตรงไหน
คุณหนูหลิงมีอคติกับหม่อมฉันอย่างมาก เปลี่ยนวิธีมาแกล้งหม่อมฉัน ไม่ว่าหม่อมฉันจะก้มหัวอย่างไร คุณหนูหลิงก็ยังคงไม่ถอยให้ เอาแต่พูดว่าหม่อมฉันเสแสร้งแกล้งทำ ไม่เชื่อคำพูดของหม่อมฉันเลยแม้แต่น้อย
ถึงแม้หม่อมฉันจะไปจากจวนท่านอ๋องทันที แต่พูดคุยกับคุณหนูหลิงมาก็สักพักแล้ว คุณหนูหลิงเป็นเช่นนี้ หม่อมฉันไม่รู้จริงๆ ว่าควรทำอย่างไรดี หวังว่าท่านอ๋องจะชี้แนะสักหน่อย”
ได้ยินคำพูดเหล่านี้ สีหน้าของเซียวเหยี่ยนก็ยังคงไม่เปลี่ยน
“เจ้าช่วยหลิงอวี้จื้อไว้ ข้าเองก็ซาบซึ้ง แต่ข้าก็เข้าข้างนางมาตลอด หากหลิงอวี้จื้อไม่ชอบเจ้า เช่นนั้นก็รบกวนคุณหนูเฉินปรากฏตัวต่อหน้านางให้น้อยที่สุด รอจนคุณหนูเฉินออกจากจวน ข้าจะตบรางวัลเพชรนิลจินดาให้คุณหนูเฉิน ถือว่าเป็นการชดเชยให้คุณหนูเฉิน”
เห็นได้ชัดว่าเฉินปี้นึกไม่ถึงว่าจะได้ยินคำตอบเช่นนี้ เซียวเหยี่ยนเข้าข้างหลิงอวี้จื้อจริงๆ ขนาดบอกนางอย่างเปิดเผยว่าเขาเข้าข้างเธอ ไม่มีเจตนาจะช่วยนางแม้แต่น้อย
เฉินปี้ก้มหน้าลงอย่างเศร้าหมอง
“หม่อมฉันมิได้มีเจตนาเช่นนั้น และไม่ต้องการรางวัลอะไร หม่อมฉันเพียงแต่คิดว่าอยากเป็นพี่น้องที่ดีกับคุณหนูหลิง”
“หากนางไม่ยินดี ก็ไม่ต้องบังคับ เรื่องนี้ไม่โทษคุณหนูเฉิน และข้าเองก็ไม่โทษหลิงอวี้จื้อ คนที่นางไม่ชอบ ข้าก็จะเคารพและคอยอยู่ห่าง ๆ
ข้าไม่อยากให้นางไม่สบายใจ หากไม่ได้เห็นรอยยิ้มของนาง ใจของข้าก็ยากที่จะสงบ หวังว่าคุณหนูเฉินจะใจกว้างให้อภัย”
เซียวเหยี่ยนพูดจาเช่นนี้ เฉินปี้ก็พูดอะไรต่อไม่ได้ นางพูดเรื่องนี้ก็เพียงเพื่อรอให้ยากระตุ้นสวาทที่เซียวเหยี่ยนกินเข้าไปออกฤทธิ์ พยายามสุดกำลังที่จะหน่วงเวลาอีกสักหน่อย
——
[1] มาจากสำนวน 爱屋及乌 แปลตามตัวอักษรว่า เมื่อรักบ้านหลังนี้ ก็ต้องรักแม้กระทั่งอีกาที่เกาะอยู่บนหลังคาบ้านหลังนี้ด้วย หมายความว่า เมื่อรักใครก็ต้อวรักทุกสิ่งทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเขา เข้าทำนองเดียวกับสำนวนภาษาอังกฤษ love me love my dog