ฉินซานมองเย่ฉาง ‘เขาเป็นคนของกลุ่มมังกร และแถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญในการสอบปากคำด้วยใช่ไหม?’ เขาจึงถามขึ้นมาเพื่อความแน่ใจ “ลูกเขย นายแน่ใจหรือไม่ว่าจะทำให้เขาพูดได้?”

“ผมไม่แน่ใจ แต่ยังไม่มีใครที่ผมไม่สามารถรีดเค้นข้อมูลได้ …” เย่ฉางพูด

MistyVeil พยักหน้า ถ้าพวกเขาสามารถสอบสวนนักฆ่าได้เร็วขึ้น มันก็จะเป็นผลดีกับเธอ “งั้นขอความกรุณาด้วย”

“เอาล่ะ! อาเฉียง นายไปรอฉันอยู่ข้างนอกก่อน ฉันจะไปทำธุระบางอย่างในห้องใต้ดินก่อน …” เย่ฉางพูด ในขณะที่เขาทำการรักษากระดูกของนักฆ่า ทำให้เขากรีดร้องออกมาอย่างโหยหวน ‘นี่ควรจะเพียงพอแล้ว’ จากนั้นเขาลากนักฆ่ามุ่งหน้าไปยังชั้นใต้ดิน

“ลูกเขย ฉันจะไปกับนายด้วย” ฉินซานเดินตามเขาไป MistyVeil และ ThornyRose ก็จะตามมาด้วยเช่นกัน

“ผู้หญิงทั้งสองคนไม่ควรมา ถ้าเป็นไปได้ คุณลุงก็ไม่ควรมาเช่นกัน” เย่ฉางมองไปที่ทั้งสามคนและพูดอย่างจริงจัง

“ยังไงซะ ฉันก็จะไปกับนาย…” ฉินซานจะตามลงไปให้ได้ ทำให้ ThornyRose และ MistyVeil ต้องรออยู่ข้างนอก

ฉินซานเดินตามเย่ฉางลงไปที่ชั้นใต้ดิน เขาเฝ้ามองขณะที่เย่ฉางจับนักฆ่าวางลงบนเก้าอี้และพูดอย่างจริงจังว่า “บอกฉันมาว่าใครเป็นคนบงการ…”

เย่ฉางเอาเชือกมัดนักฆ่าติดกับเก้าอี้ และพันยางไว้รอบๆฟันของนักฆ่า เพื่อมั่นใจว่าเขาจะไม่สามารถกัดลิ้นตัวเองได้ แต่ก็ยังสามารถพูดได้อยู่ เมื่อเห็นว่านักฆ่ากำลังวางแผนที่จะนิ่งเงียบ เย่ฉางจึงถามว่า “ลุงฉินมีเครื่องกระตุ้นประสาทสัมผัส หรือพวกยาอะไรบ้างไหมครับ?”

ฉินซานพยักหน้า มันเป็นสารเคมีที่ช่วยเพิ่มความรู้สึกของคนๆหนึ่ง เขาเอาเข็มฉีดยายื่นให้เย่ฉาง เย่ฉางฉีดยาใส่นักฆ่าและเอามือจับไหล่ของเขาไว้แน่น ร่างของนักฆ่าเริ่มสั่นกระตุกอย่างรุนแรง เสียงกรีดร้องโหยหวนดังก้องไปทั่วชั้นใต้ดิน มันดังมากจนแม้แต่คนที่อยู่ข้างนอกยังได้ยินเสียง

ด้วยการรับรู้ความรู้สึกของเขาที่เพิ่มขึ้น ทำให้หัวใจของเขาแทบทนรับความบาดเจ็บจากบาดแผลไม่ไหว แต่เขาก็ยังฝืนทนไว้ได้อยู่ แต่เข็มฉีดยาอีกอันหนึ่งบดขยี้ความหวังของเขาทิ้งไป จากนั้นเย่ฉางค่อยๆบดกระดูกทั้งหมดในร่างกายของเขา “จะบอกหรือไม่?”

ไม่มีการตอบสนองใดๆ นักฆ่าหมดสติลงไปทันที เย่ฉางยิ้มและเอามือจับไหล่เขาไว้ จากนั้นใช้มืออีกข้างหนึ่งกรีดผิวหนังที่ไหล่ของเขา เลือดสาดออกมาขณะที่เย่ฉางเริ่มที่จะถลกหนังออกด้วยมือเปล่า จนในที่สุด ผิวหนังตั้งแต่หัวไหล่ขวาลงมาจนไปถึงแขนและล่ามไปถึงนิ้วมือของเขาถูกดึงออกไปจนหมด เหมือนเขากำลังปลอกเปลือกส้มอยู่ยังไงยังงั้น เลือดสดๆหลั่งออกมาจากทั้งแขนของเขา จากนั้นเย่ฉางก็ราดเหล้าลงที่ไหล่ของเขาและปล่อยให้แขนของเขาห้อยลง “ยังไม่ยอมบอกมาอีก? ไม่เป็นไร นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น …”

นอกจากเสียงกรีดร้องแล้ว ยังไม่มีการตอบสนองอื่นๆเลย เย่ฉางเอื้อมมือออกไปจับที่แขนที่ไร้ผิวหนัง จากนั้นเขาเริ่มหั่นชิ้นเนื้อที่แขนทีละชิ้นๆ เสียงร้องอย่างโหยหวนดังออกมามากขึ้น ฉินซานขมวดคิ้วขึ้น เขาไม่เข้าใจว่าทำไมนักฆ่าคนนี้ถึงทนวิธีการที่โหดร้ายเช่นนี้ได้ โดยที่ไม่ยอมปริปากอะไรเลย ในที่สุดทั่วทั้งตัวของนักฆ่าก็ถูกถลกหนังออกจนหมด พร้อมทั้งถูกควักลูกตาออกไปอีกด้วย ร่างที่ชุ่มเลือดนั้นถูกปกคลุมไปด้วยเหล้า จากนั้นนิ้วมือของเขาก็กระตุกในที่สุดเย่ฉางก็ได้ยินในสิ่งที่เขาต้องการ

“มันเป็นองค์กรหมื่นวิญญาณ” เย่ฉางพึมพำ จากนั้นก็แทงมือเสียบหัวใจของนักฆ่า เลือดสาดกระจายไปทุกหนทุกแห่ง

ฉินซานทำหน้าบึ้งตึง ‘องค์กรหมื่นวิญญาณ? ตระกูลลั่วไปเป็นศัตรูกับองค์กรศาสนาขนาดใหญ่เช่นพวกเขาได้อย่างไรกัน?’ เขามองไปที่เย่ฉางผู้เป็นเหมือนอาชูร่า ผมขาว, ใบหน้าและชุดสูทตะวันตกของเขาถูกย้อมไปด้วยเลือด แต่เขายังมีท่าทางที่ไม่หวาดกลัวอะไรเลย ‘เด็กขนาดนี้ แต่มีท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ที่ผ่านเหตุการณ์แบบนี้มามากแล้ว การลงมือของเขาทั้งเด็ดขาดและไร้ความปราณีจริงๆ สมกับเป็นคนที่ได้รับคำแนะนำจากหัวหน้ากลุ่มมังกร’

MistyVeil เห็นฉินซานและเย่ฉางเดินออกมาจากห้องใต้ดิน เมื่อเธอเห็นเย่ฉางที่ปกคลุมไปด้วยเลือด ร่างของเธอเริ่มสั่นสะท้านอย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเธอเห็นดวงตาสีเงินที่หนาวเย็นของเขา ThornyRose ตกใจกลัวกับการปรากฏตัวของเย่ฉางด้วยเช่นกัน

“เขาถูกสั่งโดยใครบางคนจากองค์กรหมื่นวิญญาณ นั่นคือทั้งหมดที่เขารู้ …” เย่ฉางเอาผ้าเช็ดตัวมาเช็ดเลือดบนมือและใบหน้าของเขา

“องค์กรหมื่นวิญญาณ! เป็นพวกมันนี่เอง …” MistyVeil ขมวดคิ้ว

“มีอะไรไหม?” ฉินซานถาม เพราะเขารู้สึกว่า MistyVeil ต้องรู้อะไรบางอย่าง

“ตระกูลลั่วของเราเพิ่งประสบความสำเร็จในวงการเภสัชภัณฑ์ เราสามารถสกัดยีนออกซิโทซินใหม่ได้ แต่เรายังคงอยู่ในขั้นตอนการวิจัย ถ้ามันประสบความสำเร็จ มันจะเป็นผู้นำในการรักษากล้ามเนื้อและฟื้นฟูกระดูก” MistyVeil ลังเลเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะอธิบายต่อคร่าวๆว่า “องค์การหมื่นวิญญาณได้มาพูดคุยกับคุณพ่อเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่พวกเขาก็ล้มเหลวในการเจรจา นี่ต้องเป็นการแก้แค้นของพวกเขาอย่างแน่นอน …”

“องค์กรหมื่นวิญญาณนี่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ …” ฉินซานแย้ง

“ใช่ แต่ตระกูลลั่วของเราไม่กลัวพวกเขา แต่ยังไงซะ พวกเขาก็ยังคงเป็นองค์กรก่อการร้ายขนาดใหญ่ ถ้าเกิดเราต้องต่อสู้กับพวกเขาจริงๆ มันไม่สามารคาดเดาการสูญเสียได้เลย สิ่งที่เราทำได้ในตอนนี้ก็คือการร่วมมือกับกลุ่มมังกร …” MistyVeil มองไปที่เย่ฉาง

“อย่ามองมาที่ฉันแบบนั้นสิ ฉันไม่ใช่สมาชิกของกลุ่มมังกร ฉันเป็นแค่สมาชิกกิตติมศักดิ์ …” เย่ฉางคิดกับตัวเอง บางทีเขาอาจจะพาคนในหน่วยของเขาไปสั่งสอนพวกนั้นเอง มันน่าจะดีกว่าที่จะมอบหมายให้ SpyingBlade เป็นคนทำหน้าที่นี้ เพื่อที่เขาจะได้สร้างความสัมพันธ์กับตระกูลลั่ว และ SpyingBlade จะได้โชว์ความสามารถในรูปแบบของเขา

SpyingBlade เข้าใจได้ทันที ถ้าเขาสามารถอำนวยความสะดวกในเรื่องนี้ได้แล้ว เขาจะได้สิทธิ์ในการพูดในที่ประชุม เขาถอนหายใจ เพราะรู้สึกว่าตำเหน่งเขาในองค์กรไม่ดีไปกว่าพนักงานขายเลย ถ้าเขาต้องการที่จะเลื่อนอันดับ เขาต้องออกไปหาลูกค้าให้มากขึ้น หรือเป็นเหมือน Cold Moon สุดยอดเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เขายืนขึ้นและมองไปที่ MistyVeil “ถ้าเป็นเรื่องขององค์การหมื่นวิญญาณ บางทีฉัน …”

MistyVeil มอง SpyingBlade ‘เขา?’ เธอหรี่ตาลง “บางทีอะไร?”

“มันไม่สะดวกที่จะพูดคุยที่นี่” SpyingBlade ยิ้ม

ฉินซานมองไปที่ SpyingBlade ‘เขาคือใคร?’ เขาไม่ค่อยให้ความสนใจกับชายคนนี้มาก่อน แต่เขาก็รู้ว่าเป็นลูกน้องคนหนึ่งของลูกเขยที่พามาเท่านั้น ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขามองไปยังเย่ฉางอย่างกระตือรือร้น

“อำนาจที่อยู่เบื้องหลังของเขาเป็นศัตรูกับองค์กรหมื่นวิญญาณ และเป็นศัตรูที่องค์กรหมื่นวิญญาณหวาดกลัวมากที่สุด …” เย่ฉางระซิบกับเขา

“อย่าบอกนะว่า …” นายฉินรู้ได้ทันที ‘มันเป็นพวกเขานี่เอง พวก 10 บทบัญญัติ พวกเขามีความเหมาะสมมากกว่ากลุ่มมังกรในต่อต้านองค์กรหมื่นวิญญาณเสียอีก พวกเขาเป็นองค์กรปราบปรามพวกก่อร้ายขนานแท้! ตระกูลลั่วเหมือนตกบ่อทองที่ร่วมมือทั้งกลุ่มมังกรและพวก 10 บทบัญญัติ’ ใครจะคาดคิดว่าลูกเขยของเขารู้จักใครบางคนใน 10 บทบัญญัติ เมื่อคิดไปคิดมาแล้ว จริงๆแล้วกลุ่มมังกรมักจะมีการติดต่อกับ 10 บทบัญญัติตลอดเวลาอยู่แล้ว เขายิ้มอย่างเงียบๆ

MistyVeil นำ SpyingBlade ไปยังอาคารใกล้เคียง ฉินซานและคนอื่นๆไม่ได้ตามไป

ก่อนที่ MistyVeil จะเปิดปากพูด SpyingBlade ก็ชิงพูดก่อน “ฉันมาจาก 10 บทบัญญัติ”

MistyVeil กลายเป็นคนโง่งมทันที คนจริงไม่สามารถตัดสินได้จากที่เห็นภายนอก SpyingBlade เป็นคนที่มาจาก 10 บทบัญญัติ ซึ่งเป็นองค์กรที่ลึกลับที่สุดองค์กรหนึ่ง “นายสังกัดหน่วยไหน?”

“หน่วยที่ 7” SpyingBlade ตอบ

MistyVeil พยักหน้าและตัดสินใจที่จะเจรจากับเขาทันที แต่นี่เป็นเรื่องที่สำคัญ ดังนั้นเธอจึงต้องได้รับการอนุมัติจากผู้อาวุโสในตระกูลเสียก่อน ส่วนอีกด้านหนึ่ง อาจต้องเรียกหัวหน้าหน่วยของเขามาคุย

ThornyRose และ FrozenBlood อยากรู้อยากเห็นมาก และอยากจะเข้าไปดูในห้องใต้ดิน NalanPureSoul ผู้ซึ่งเพิ่งขึ้นมาจากที่นั่น ก็เอื้อมมือออกไปเพื่อหยุดพวกเธอไว้ เขาส่ายหัวและพูดขึ้นมา “มันจะดีที่สุดที่พวกเธอจะไม่ลงไป พี่ชายเย่ฉางไม่ต้องการให้พวกเธอเห็นสิ่งที่น่ากลัว และ … ทุกอย่างที่ฉันบอกเป็นเรื่องจริง”

เมื่อเขาพูดมาถึงตรงนี้ เขามองผู้หญิงสองคนแล้วส่ายหน้า จากนั้นเขาหันกลับไปมองเห็นเย่ฉางเดินออกไปล้างหน้าล้างตัว ‘ผู้ชายคนนี้เป็นคนที่มีความลับมากมาย ฉากในห้องใต้ดินอาจอธิบายได้ว่าเป็นนรกบนโลก … คุณเป็นใครกัน?’ NalanPureSoul เริ่มหน้าแดง