ตอนที่ 61

Ranker’s Return

ตอนที่ 61

 

คมดาบของฮยอนนูเล็งไปที่กะโหลกของดูลาฮานอีกครั้ง

 

“มันได้ผล!”

 

แม้ว่าการเดิมพันในครั้งนี้ของฮยอนนูจะมีความเสี่ยงสูงแต่มันก็ได้ผล ดูเหมือนว่าการ คาดเดาของเขานั้นถูกต้อง เจ้าดูลาฮานตัวนี้เป็นเพียงมอนสเตอร์ระดับทั่วไปเท่านั้น

 

“ฉันน่าจะคิดได้ตั้งแต่แรกมันเป็นไปไม่ได้หรอกที่บอสดันเจี้ยนจะอัญเชิญมอนสเตอร์ระดับเรดบอสออกมา

 

อย่างไรก็ตามฮยอนนูไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ข้อเท็จจริงนี้ เขาวางแผนที่จะบันทึกวิดีโอการต่อสู้ระหว่างดูลาฮานกับเขาเพียงลําพัง และเขาจะใช้โอกาสนี้โปรโมทคอนเทนต์ราชานักสู้ผู้สวมหน้ากาก

 

คมดาบของฮยอนนูเคลื่อนไหวได้อย่างยอดเยี่ยม เขาไม่กลัวมอนสเตอร์ธรรมดาอย่างเจ้าดูลาฮานตัวนี้อีกต่อไป และนั่นทําให้การโจมตีของเขาดุดันมากยิ่งขึ้น ชายหนุ่มตวัดดาบเข้าใส่เกราะกระดูกของมันอย่างรวดเร็ว แม้ว่ามันจะไม่สามารถทะลุทะลวงได้ในทันที ทว่าความรุนแรงจากการโจมตีด้วยทักษะคลื่นดาบพระจันทร์เสี้ยวก็ยังรุนแรงมากพอที่จะสร้างบาดแผลฉกรรจ์

 

“แก!”

 

แน่นอนว่าเจ้าดูลาฮานนั้นไม่ยอมรับการเฆี่ยนตีจากฮยอนนูอยู่เพียงฝ่ายเดียว มันพยา ยามป้องกันการโจมตีของชายหนุ่มด้วยเกราะเหล็กข้างหนึ่ง จากนั้นก็ใช้มืออีกข้างกวัดแกว่งดาบเพื่อโจมตี อย่างไรก็ตามมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่จะโจมตีฮยอนนู ชายหนุ่มหลบหลีกอย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังสามารถโต้กลับได้ถึงสองครั้ง

 

“อั่ก!!” ดูลาฮานได้แต่คร่ําครวญอย่างไม่มีทางเลือก เนื่องจากตัวมันไม่ใช่มอนสเตอร์ระดับบอส ดังนั้นจึงไม่สามารถใช้ทักษะดีบัฟใด ๆ ได้ ตัวมันแค่รวดเร็วและแข็งแกร่งกว่ามอนสเตอร์ระดับทั่วไปเล็กน้อยเท่านั้น

 

ไม่รอช้าฮยอนนูรีบโจมตีซ้ําอีกครั้งทันที บัฟจากทักษะพลังแห่งยักษาใกล้จะหมดลงแล้ว เขาต้องรีบจบการต่อสู้ในครั้งนี้ให้เร็วที่สุด ชายหนุ่มใช้ทักษะคลื่นดาบพระจันทร์เสี้ยวอีกครั้ง และแน่นอนว่าครั้งนี้ฮยอนนูยังคงบีบบังคับให้เจ้าดูลาฮานเข้ารับการโจมตีของเขาเพื่อปกป้องคาร์ดัมที่ยืนอยู่ด้านหลังมันเช่นเคย ช่างเป็นกลยุทธ์ที่ยอดเยี่ยมเสียจริง

 

ดูลาฮานจําต้องเข้ารับการโจมตีของฮยอนนูโดยไม่อาจหลบเลี่ยง มันทําได้เพียงเหวี่ยงดาบในมือของตนเข้าปะทะ พลังงานมีดจากดาบของดูลาฮานกับพลังงานดาบของฮยอนนูพุ่งเข้าใส่กัน โดยมุ่งหวังจะบดขยี้อีกฝ่ายให้กลายเป็นผุยผง เสียงระเบิดร้องคํารามไปทั่วบริเวณ ในที่สุดพลังงานดาบของชายหนุ่มก็บดขยี้เกราะเหล็กในมือของดูลาฮานได้สําเร็จ

 

“บังอาจ!..นั่นมันคือผลงานชิ้นเอกของข้า! ตายซะเถอะ! หอกต้องสาป!” ดูเหมือนว่า คาร์ดัมจะโมโหมากทีเดียว เพราะเมื่อเขาเห็นว่าดูลาฮานเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เขาก็เรียกใช้ท่าไม้ตายของตนทันที

 

“เสียงแห่งพระเจ้า!”

 

“ค้อนแห่งการพิพากษา!”

 

อย่างไรก็ตามก่อนที่หอกต้องสาปจะโดนตัวของฮยอนนู สมาชิกกิลด์ของสมาพันธ์ผู้บุกเบิกก็กลับมาเข้าร่วมการต่อสู้อีกครั้ง และสามารถยับยั้งการโจมตีของจอมเวทมนตร์ดําในครั้งนี้ไว้ได้

 

“ปะเป็นไปได้ยังไง?!”

 

“หึ! มีตรงไหนให้แกรู้สึกแปลกใจกัน? มันไม่มีทางที่มนตร์ดําเส็งเคร็งนั่นจะเทียบได้กับพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่แล้ว”

 

“อีกอย่างหอกนั่นก็ไม่ใช่เวทมนตร์ของแกเอง…จริงไหม?”

 

จริงอยู่ที่ว่าพลังจากมนตร์ดํานั้นด้อยกว่าพลังศักดิ์สิทธิ์ อย่างไรก็ตามปัจจัยสําคัญที่ทําให้ทักษะ “หอกต้องสาป” ด้อยกว่าทักษะ “เสียงแห่งพระเจ้า” และ “ค้อนแห่งการพิพากษา” ก็คือมันเป็นทักษะที่ติดอยู่กับไอเทม ซึ่งผู้ร่ายไม่สามารถปรับเปลี่ยนมันได้ และนั่นทําให้ทักษะหอกต้องสาปด้อยประสิทธิภาพกว่ามากในแง่นี้

 

“อย่าเพิ่งตื่นตกใจไป..พวกเราแค่เพิ่งเริ่ม”

 

และแล้วเวทมนตร์ต่าง ๆ ก็เริ่มพุ่งเข้าใส่คาร์ดัมอีกครั้ง

 

***

 

เมื่อฮยอนนูเห็นจอมเวทมนตร์ดําต่อสู้กับผู้เล่นจากสมาพันธ์ผู้บุกเบิก เขาก็ตระหนักได้โดยสันชาตญาณว่านี่เป็นโอกาสอันดีที่จะสังหารดูลาฮาน เพราะคาร์ดําจําต้องใช้พลังเวทส่วนหนึ่งไปกับการต่อสู้ ดังนั้นพลังเวทที่ใช้สําหรับดูลาฮานจะต้องลดลงอย่างแน่นอน

 

“หนึ่งนาที…”

 

ทักษะพลังแห่งยักษายังเหลือเวลาอีกหนึ่งนาที ถึงเวลาแล้วที่เขาจะเผด็จศึกเจ้าดูลาฮานตัวนี้

 

ฮยอนนูพุ่งเข้าโจมตีอย่างต่อเนื่อง กระดูกรวมถึงเกราะที่แตกหักไปก่อนหน้านี้กลายเป็นจุดอ่อนที่สําคัญ ชายหนุ่มมุ่งเป้าการโจมตีไปที่จุดนั้นเป็นพิเศษ

 

30 วินาที

 

กะโหลกของดูลาฮานเริ่มปรากฏรอยร้าว

 

“ฉันจะจัดการแกตอนนี้!” ฮยอนนูพูดขึ้นอย่างไร้ความปรานี ในขณะที่ดาบยาวปลายมนของเขาก็พุ่งเข้าหาดูลาฮานไปพร้อม ๆ กัน

 

ดูลาฮานพยายามปกป้องตัวมันเองอย่างเต็มที่ ทว่าเมื่อเกราะกระดูกของมันพลังทลายไปแล้ว มันจึงไม่อาจปัดป้องการโจมตีที่มีประสิทธิภาพของฮยอนนูได้มากนัก สุดท้ายเมื่อคูลดาวน์ของทักษะคลื่นดาบพระจันทร์เสี้ยวสิ้นสุดลงแล้ว พลังงานดาบขนาดยักษ์ก็พุ่งเข้าใส่ร่างของดูลาฮานอย่างรุนแรง

 

“ ตายซะ!”

 

[ดูลาฮานถูกสังหาร]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

[ความชํานาญของทักษะ “ความชํานาญอาวุธ” เพิ่มขึ้นเป็นระดับ D]

 

…..

 

[ความชํานาญของทักษะ “ผู้เชี่ยวชาญการต่อสู้” เพิ่มขึ้นเป็นระดับ D]

 

ปริมาณค่าประสบการณ์ที่มอนสเตอร์ตัวนี้มอบให้นั้นยอดเยี่ยมมาก อีกทั้งยังทําให้ระดับทักษะแต่ละอย่างของฮยอนนเพิ่มขึ้นหนึ่งระดับ นี่คือรางวัลจากระบบสําหรับการพิชิตดูลาฮานในครั้ง

 

*****

 

คาร์ดัมรู้สึกนุนงงกับการกลับมาของพลังเวทอย่างกะทันหัน “นี่มันอะไรกัน?”

 

“อย่าบอกนะว่า? ดูลาฮาน?!” จอมเวทมนตร์ดํารีบหันศีรษะและมองไปยังที่ที่ดูลาฮานสมควรจะอยู่ ทว่าบัดนี้สิ่งที่ปรากฏในสายตาของมันกลับมีเพียงเศษเสี้ยวของการต่อสู้ การ์ดัมรู้สึกโกรธเป็นอย่างมาก ทว่าไม่ทันที่มันจะได้เกรี้ยวกราด แสงสะท้อนจากคมดาบก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของมันอย่างฉับพลัน

 

“ลาก่อน…”

 

[จอมเวทมนตร์ดํา “คาร์ดัม” ถูกสังหาร]

 

[ได้รับค่าประสบการณ์]

 

[เลเวลของคุณเพิ่มขึ้น]

 

[พลังชีวิตและพลังเวทมนตร์ได้รับการฟื้นฟู]

 

ไม่ว่าอย่างไรบอสก็คือบอส ต่อให้ฮยอนนูเพิ่งจะเลเวลอัพ แต่ค่าประสบการณ์มากมายที่ได้รับจากบอสเลเวล 150 ก็เพียงพอที่จะทําให้เขาเลเวลอัพอีกครั้ง

 

“วิดีโอคลิปบันทึกการต่อสู้ในครั้งนี้จะต้องเป็นที่นิยมมากแน่”

 

ฮยอนนูยิ้มอย่างสดใสให้กับซากศพของคาร์ดัมที่ร่วงหล่น

 

“อา- โครงกระดูกสีทอง!”

 

“แคนคูน ร่างกายของนายโอเคไหม”

 

“ ขอบคุณมากสําหรับความช่วยเหลือของเจ้า ตอนนี้ข้าสบายดีมาก!”

 

แคนคูนโพสท่าอวดกล้าม ตอนนี้เขาไม่ต้องสวมเสื้อคลุมขนสัตว์เพื่อปกปิดผลของคําสาปร้ายนั่นอีกต่อไปแล้ว

 

“แล้วนายจะกลับไปที่ปาทมิฬไหม?”

 

“ใช่! ข้าต้องกลับไปที่เผ่า ข้าอยากเจอพ่อของข้า” ดวงตาของแคนคูนเต็มเปี่ยมไปด้วยความโหยหา เขาคิดถึงบ้านของตนมากจริง ๆ

 

“ลาก่อนนะเพื่อน! ฉันจะอยู่กับไอ้เจ้านายท่านนี่ต่อไป” ทั้งอีกล่าวคําอําลาพร้อมทั้งกระโดดกอดแคนคูน มันอดรู้สึกเศร้าใจไม่ได้ที่ต้องบอกลาเพื่อนสนิทของตน

 

“ถ้างั้นละก็ ข้าไปก่อนนะ” แคนคูนวางทั้งอีลง เขาพาดดาบยักษ์ของตนไว้บนหลังแล้วนั้นหลังเดินจากไป

 

***

 

เมื่อเห็นว่าแคนคูนจากไปแล้ว ฮยอนนูก็หันกลับมาสนใจเหล่าผู้เล่นจากสมาพันธ์ผู้บุกเบิกอีกครั้ง ดูเหมือนว่าตอนนี้พวกเขากําลังเถียงกันอย่างดุเดือด

 

“นี่มันเหมาะกับฉันมากไม่ใช่หรอ?”

 

“นายเป็นนักบวช เจ้าบ้า! นี่เป็นไอเทมสําหรับนักเวท!”

 

ในขณะนั้นเจเวลก็สังเกตเห็นฮยอนนูนเดินเข้ามา แม้ว่าเจเวลจะเผชิญกับการถกเถียงที่ไร้สาระเหมือนกับเด็กแย่งของเล่นของเพื่อนร่วมกิลด์อยู่บ่อยครั้งเสียจนชินชาไปแล้ว ทว่าเขาก็ยังอดรู้สึกเขินอายอยู่ไม่น้อย

 

“ออร์คนั้นไปแล้วเหรอ?”

 

“ใช่! เขากลับบ้านไปแล้ว แล้วนี่มันอะไร?” ฮยอนนูชี้ไปที่มาฮากับนิกซ์ ซึ่งดูเหมือนว่าพวกเขากําลังจะเริ่มชกต่อยกันได้ทุกเมื่อ

 

“เฮ้อ! อันที่จริงพวกเขามักจะเป็นแบบนี้เสมอ แย่งกันเหมือนเด็ก ๆ” เจเวลได้แต่ส่ายหัว

 

ถ้ามีเพียงแค่พวกเขามันได้อยู่หรอก แต่ที่นี่ยังมีคนนอกอยู่ด้วย แถมคนนอกที่ว่ายังเป็นถึง “บอสใหญ่ประจําซอย” อีกด้วย

 

“ไอเทมอะไรงั้นหรอ?”

 

“ไอเทมระดับแรร์ที่ช่วยลดเวลาคูลดาวน์ของทักษะและมีพลังเวทมนตร์แฝงอยู่ ออฟชั่นที่ช่วยลดเวลาคูลดาวน์ของทักษะอาจจะหายาก ทว่าไอเทมที่มีพลังเวทมนตร์แฝงอยู่นั้นหายากยิ่งกว่า ดังนั้นการต่อสู้ครั้งนี้จึงดุเดือดขึ้นเล็กน้อย”

 

เจเวลอธิบายให้ฮยอนนูฟัง ในระหว่างนั้นชายหนุ่มทั้งสองก็เริ่มเหวี่ยงหมัดใส่กัน หัวหน้ากิลด์อย่างเคทจึงต้องรีบเข้ามายับยั้ง

 

“หยุดนะเจ้าพวกบ้า!”

 

“อย่าห้ามฉัน! ฉันจะเตะกันไอ้เด็กเวรนั่น!”

 

อย่างไรก็ตามเป็นไปหรือที่นักเวทและนักบวชจะต่อต้านพลังของนักรบอย่างเคทได้ ทั้งสองคนถูกปราบปรามจนต้องถอย

 

“ฉันขอโทษที่ต้องให้คุณมาเห็นอะไรแบบนี้”

 

“คุณไม่จําเป็นต้องขอโทษ ว่าแต่พวกเขาโอเคไหม?”

 

“ไม่เป็นไรหรอก เห็นอย่างนั้นพวกเขาก็เป็นเพื่อนสนิทกันมาตั้งแต่ยังเด็ก ดังนั้นคุณ ไม่ต้องกังวลไป” อะซุกล่าวกับฮยอนนูด้วยรอยยิ้มเขินอายเล็กน้อย จากนั้นเขาก็ยืนบางอย่างให้กับชายหนุ่ม “รับไปสิ”

 

อะซุมอบแหวนวงหนึ่งให้กับเขา

 

ฮยอนนูรู้สึกแปลกใจ “ทําไมคุณถึงให้สิ่งนี้กับฉันกัน?”

 

“นี่ไม่ใช่เรื่องแปลกหรอก ชัยชนะในครั้งนี้ส่วนใหญ่เป็นฝีมือของคุณ

 

“ฉันควรจะรับมันดีไหมนะ?” ฮยอนนูลังเลก่อนที่จะเอื้อมมือออกไปรับ นั่นเป็นเพราะรูปลักษณ์มันดูไร้รสนิยมเสียจนแม้แต่เขายังยากจะยอมรับมันได้ในทันที

 

อะซุเสริมว่า “ถ้าคุณต้องการขายแหวนนั้น ฉันจะขอบคุณมากถ้าคุณขายให้พวกเรา”

 

“นี่คือแหวนที่มีออฟชั่นลดเวลาคูลดาวน์ของทักษะงั้นหรอ?”

 

“ใช่แล้ว ราคาของมันจึงมากกว่ามูลค่าของแหวนทั่วไปในตลาด”

 

หลังจากตรวจสอบรายละเอียดของมันอย่างถี่ถ้วน ฮยอนนูตัดสินใจที่จะขาย

 

ฉันสามารถสวมแหวนได้อีกเพียงแค่วงเดียวเท่านั้น ดังนั้นฉันควรหาที่ดีกว่านี้

 

“ฉันจะขายมัน”

 

เมื่อฮยอนนูแสดงความตั้งใจที่จะขายมัน อะซุยิ้มและยื่นกระเป๋าใบหนึ่งให้ “นี่คือ 20,000 ทอง”

 

“มันแพงขนาดนั้นเลยเหรอ?” ฮยอนนูรับเงินและรู้สึกประหลาดใจกับราคา มันสูงกว่าที่เขาคิดไว้มาก

 

“ไอเทมระดับแรร์ราคา 20,000 เหรียญทอง? ยิ่งกว่านั้นออฟชั่นต่าง ๆ ก็แค่พอดูได้”

 

เขาดีใจที่ตนกําลังสวมหน้ากาก ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงได้เห็นสีหน้าพิลึกจากเขาแน่

 

อะซุรับแหวนและกลับไปที่กลุ่มของเขา ในระหว่างนั้นฮยอนนูก็อ่านรายละเอียดไอเทมที่เขาได้เป็นส่วนแบ่งในสึกครั้งนี้

 

[สร้อยข้อมือต้องสาป]

 

[นักเวทมนตร์ดําที่โดดเด่นผู้หนึ่งได้สลักสร้อยข้อมือเส้นนี้ด้วยเวทมนตร์ที่ทรงพลัง]

 

[ระดับ: แรร์]

 

[ข้อจํากัด: มากกว่า 400 ความแข็งแกร่ง]

 

[ความสามารถ: พลังเวทมนตร์ +50, ทักษะ “หอกต้องสาป” พร้อมใช้งาน (เวลาคูลดาวน์ 60 นาที)]

 

[หอกต้องสาป: สร้างหอกที่เต็มไปด้วยพลังมนตร์ดํา พลังชีวิตของเป้าหมายที่โดนโจมตีจะลดลง 1% ต่อวินาที ระยะเวลา 20 วินาที (เป้าหมายต้องเป็นสิ่งมีชีวิต)]

 

“นี่มัน…ดีมากเลยไม่ใช่หรอ?”

 

ฮยอนนูชอบสร้อยข้อมือเส้นนี้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งทักษะที่ติดอยู่กับมัน นี่ต้องเป็นไอเทมที่คาร์ดัมเคยใช้อย่างแน่นอน แม้ว่าทักษะหอกต้องสาปจะได้ผลแค่กับสิ่งมีชีวิต ทว่ามอนสเตอร์เกือบทั้งหมดในเกมยกเว้นพวกอันเดดและโกเลมล้วนเป็นสิ่งมีชีวิตทั้งสิ้น

 

“คูลดาวน์แค่ 60 นาทีเท่านั้น?…”

 

เป็นคูลดาวน์ที่สั้นมากเมื่อเทียบกับประสิทธิภาพของทักษะ

 

“ไอเทมที่ดีขนาดนี้ทําไมถึงเป็นแค่ระดับแรร์กันนะ?

 

“เอาเถอะ! ไม่ว่าอย่างไรมันก็ดีมากสําหรับฉัน”

 

ฮยอนนูไม่ได้กังวลอะไรเลยในขณะที่สวมสร้อยข้อมือต้องคําสาปบนข้อมือขวาที่ว่างเปล่าของตน