ตอนที่ 1692 ถึงเวลา
ในกระท่อมอาณาจักรเสมือน หลินฮวงตรงไปปิดประตูบ่มเพาะอีกครั้ง
ครั้งนี้ วัตถุประสงค์หลักของเขาคือหลอมเขตแดนเทพของพวกเก้าอสรพิษ
ในกระท่อม วันเวลาผ่านไป
หลินฮวงหมดแนวคิดเรื่องเวลาขณะดําดิ่งกับกระบวนการหลอม
มันไม่ชัดเจนว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนตอน
โดยเฉลี่ยน หัวล้านเตี้ยกับจ้าวเทวะขั้นกลางอีกห้าคนต่างมีกันประมาณ 80 ผนึกเต๋ ซึ่งมอบผนึกเต๋ให้หลินฮวง 483 ผนึก รอยประทับเต่ําของเขายังพุ่งไปกว่าสองล้าน
เก้าอสรพิษกับจ้าวเทวะขั้นสูงอีกสองได้เพิ่มผนึกเต๋อีก 2728 ผนึก และรอยประทับเต๋าของเขาก็เพิ่มเป็นกว่า 12 ล้าน
นี้ทําให้ผนึกเต๋ารวมในเขตแดนเทพของหลินฮวงมีถึง 4618 ผนึกและเพิ่มรอยประทับเต่ําของเขาเป็นกว่า33ล้าน
พูดได้ว่านี่เกินขีดจํากัดสําหรับจ้าวเทวะขั้นสูงไปแล้ว
แต่ทว่า นี่แค่ขีดจํากัดของพลังที่เขาสามารถใช้ได้ภายในเขตแดนเทพของเขา
ในความเป็นจริง ด้านนอกเขตแดนเทพเขา ความสามารถเขายังโดนจํากัดโดยพลังของวิญญาณเทพ
นอกจากจะสามารถกระตุ้นพลังรอยประทับเต๋าสามล่นรอยได้จากสามผนึกเต๋าของเขาแล้ว มากสุด เขาทําได้แค่หยิบยืมพลังผนึกเต๋ของพันผนึกเต๋าในเขตแดนเทพเขา เพื่อเพิ่มพลังรอยประทับเต่ของเขาขึ้นอีก 1.8 ล้าน
ตราบเท่าที่เขาไม่เจอจ้าวเทวะขั้นสูงสุดชั้นนําา เขาจะสามารถสู้กับใครก็ได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาเข้าเขตแดนเทพของเขา จํานวนผนึกเต๋ารวมภายในนั้นจะมากพอเอาชนะจาวเทวะขั้นสูงสุดทั้งหมด
การเพิ่มความสามารถรอบนี้เป็นอะไรที่เหนือความคาดหมายของหลินฮวงอย่างมาก
หลังหลอมเขตแดนเทพของไรเดอร์ทั้งเก้า เขาก็ไม่ดูดซับพลังงานต้นกําเนิด 22 ก้อนอีก
นอกจากพลังงานต้นกําเนิดระดับเต่เล็กทั้งสอง เขาได้ป้อนที่เหลือให้เสี่ยวเฮย
นี้เพราะเสี่ยวเฮยต้องการพลังงานต้นกําเนิดเพื่อสร้างการ์ดต่างๆ
หลินฮวงต้องการความช่วยเหลือของเสี่ยวเฮยเพื่อสร้างการ์ดเลื่อนขั้นและการ์ดเพิ่มระดับพลังเพื่อให้เขาสามารถเลื่อนระดับของมอนสเตอร์อัญเชิญภายใต้การควบคุมของเขาได้
นอกจากนี้ สําหรับหลินฮวงในตอนนี้ มรดกระดับจาวเทวะไม่เป็นประโยชน์กับเขามาก ต่อให้จะมีผู้บ่มเพาะ เต๋าดาบกับจ้าวเทวะที่เดินบนวิถีวิญญาณเทพ เสี่ยวเฮยก็สามารถใช้พลังงานต้นกําเนิดจํานวนน้อยนิดเพื่อสร้างการ์ดมรดก หลินฮวงจึงไม่จําเป็นต้องดูดซับพลังงานต้นกําเนิดเองเลย
สําหรับพลังงานต้นกําเนิดระดับเต่เล็กทั้งสอง หลินฮวงตัดสินใจเก็บไว้สักพัก
เขาจะใช้พวกมันตอนเขาสามารถใช้ได้
เขาไม่เร่งรีบเพิ่มความสามารถของเขาอยู่แล้ว พลังงานต้นกําเนิด 20 ก้อนที่เสี่ยวเฮยดูดซับนั้นพอจะเลื่อนระดับชั้นมอนสเตอร์ทั้งหมดของเขาให้เป็นจิตวิญญาณบริสุทธิ์
ทันทีที่เขากลับจากอาณาจักรเสมือนมายังเขตดาวตาปีศาจ หลินฮวงก็อัญเชิญหยางหลิงและส่งแหวนให้เขา
หยางหลิงสัมผัสได้ถึงความผิดปกติตอนเขารับแหวนมิติกว่าสิบวงมา
“แหวนมิติชุดนี้ไม่ได้มาจากมหาพิภพเราใช่ไหม?”หยางหลิงถาม
“มาจากจักรวาล”หลินฮวงพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม
หยางหลิงหยุดชะงักตอนได้ยินและเงยหน้ามองหลินฮวง“ไรเดอร์?”
“ถูกต้อง”รอยยิ้มบนหน้าหลินฮวงไม่เปลี่ยน
“เจ้าจัดการกับพวกมันทั้งหมด?”
“ไม่เหลือรอดสักคน”หลินฮวงพยักหน้าอีกครั้ง
“พวกมันส่งจ้าวเทวะขั้นสูงมาไหม?”หยางหลิงสับสน
พูดตามทฤษฎี ในเมื่อจ้าวเทวะขั้นกลางโดนฆ่า มันก็ต้องมีจาวเทวะขั้นสูงในหมู่ผู้ตรวจสอบที่ไรเดอร์ส่งมา หยางหลิงรู้สึกว่าความสามารถของหลินฮวงไม่น่าจะพอรับมือกับผู้ตรวจสอบที่ไรเดอร์ส่งมา
“มี มากันสาม หนึ่งในนั้นมีความสามารถไม่เลวเลย”
“แล้วเจ้าก็ฆ่าจ้าวเทวะขั้นสูงทั้งสามได้?!”หยางหลิงตกใจ
“ข้าดันก้าวหน้าเล็กน้อยก่อนพวกมันมาถึง ขาทําได้แค่บอกว่าพวกมันโชคร้าย”
หยางหลิงพูดไม่ออก หลังผ่านไปสักพัก เขาก็ถาม“ตอนนี้ความสามารถของเจ้าถึงระดับไหนแล้ว?”
ในความเป็นจริง เขาอยากถามคําถามนี้มานานแล้วและสุดท้ายก็ทนไม่ไหวอีก
“เกือบเทียบเท่าจ้าวเทวะขั้นสูงสุด”หลินฮวงพูดเสริมในใจถ้าข้าไม่เข้าไปในเขตแดนเทพของข้านะ
“ความเร็วของเจ้านั้นน่ากลัวเกินไป”หยางหลิงอุทาน
เขาสามารถพูดได้ว่าเป็นคนที่เห็นการเติบโตของหลินฮวงมากับตา ตอนหยางหลิงเจอเขาครั้งแรก หลินฮวงเป็นแค่ระดับทองแดง เขาเห็นระดับพลังของหลินฮวงเล่อนมาตลอดจนถึงจ่าวเทวะ และอีกฝ่ายก็ไม่เคยพบคอขวดเลย
ครั้งนี้ หยางหลังยังสงสัยว่าหลินฮวงมีนิ้วทองคําที่คอยช่วยเร่งกระบวนการยกระดับพลัง
หลังส่งแหวนให้หยางหลิง หลินฮวงก็อยากให้พวกหลินซินออกจากเขตแดนเทพ
เหนือสิ่งอื่นใด ตอนนี้ภัยคุกคามจากพวกไรเดอร์ถูกจัดการไปแล้ว เขารู้สึกสบายใจมากขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยของพวกนาง
ยิ่งไปกว่านั้น ภายใต้การคุ้มครองของทาสดาบ จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นตราบเท่าที่พวกหลินซินไม่ไปตอแยกิ่งจ้าวเทวะหรือจ้าวเทวะ
แต่ทว่า หลินซินปฏิเสธข้อเสนองของเขาทันที
เหตุผลของนางเรียบง่ายมาก นางอยากทรงพลังขึ้นและไม่อยากเป็นภาระ
หลินฮวง เสี่ยวโม่ เฉินเตา และคนอื่นต่างปฏิเสธที่จะกลับมามหาพิภพ
หลินฮวงเคยกังวลว่าพวกเขาจะเบื่อหน่ายกันที่ต้องอยู่ในเขตแดนเทพ เขาจึงเลือกตั้งและคัดลอกมันให้พวกเขาเพื่อให้พวกเขาฆ่าเวลาผ่านการฝึกสู้
มันกลายเป็นว่าพวกเขากลับเสพติด
พวกเขาสามารถฝึกฝีมือและเลื่อนขั้นพลังได้ รวมทั้งยังไม่ต้องเสียเวลาเดินทางไปที่อื่น
ปฏิกิริยาของพวกหลินซินทําให้หลินฮวงแปลกใจ
เขาเดาว่าการย้ายพวกหลินซินเข้าเขตแดนเทพครั้งนี้คงทําให้พวกเขากดดัน
เป็นปกติที่พวกเขาจะรู้สึกอยากแข็งแกร่งขึ้น
ต่อให้ไม่สามารถสู้ศัตรูระดับเดียวกันกับหลินฮวงได้ แต่อย่างน้อย พวกเขาก็ต้องไม่ถ่วงหรือสร้างปัญหา
หลินฮวงชื่นชมทัศนคติแบบนี้
มันเป็นเรื่องดีที่คนเราจะมีความกระตือรือร้น
ในความเป็นจริง ในใจเขาเฝ้ากังวลมาตลอดว่าหลินชินกับหลินซวนจะกลายเป็นพวกขี้เกียจและชอบให้เขาปกป้อง แต่ทว่า พอเวลาผ่านไป เขาเองก็รู้สึกว่าตราบเท่าที่เขาแข็งแกร่งพอ มันก็ดีที่เขาจะปกป้องน้องๆของ เขาช่วยให้พวกเขามีชีวิตมั่นคงโดยไม่เจอเรื่องแย่ๆ
แต่ทว่า จากที่ดู หลินซิน หลินซวนกับคนอื่นนั้นไม่เคยเสียจิตวิญญาณแห่งการบ่มเพาะเลย
ตลอดมา พวกเขาหวังว่าจะแบ่งเบาภาระบนบ่าหลินฮวงได้ แค่ว่าความสามารถยังไม่ถึงขั้น
พอเห็นว่าพวกหลินซินตัดสินใจแล้ว หลินฮวงก็เลือกเคารพการตัดสินใจของพวกนาง
เขาแค่บอกทุกคนว่าสามารถกลับมายังมหาพิภพได้ทุกเมื่อที่ต้องการ
หลินฮวงยิ้มขณะถอนจิตสํานึกออกจากเขตแดนเทพ การตัดสินใจของพวกหลินซินทําให้เขารู้สึกโล่งใจมาก
หลังปล่อยให้ความคิดลอยไปไกล ไม่ช้าหลินฮวงก็สื่อสารกับมอนสเตอร์ของเขาผ่านกระแสจิต
“พวกเจ้าหยุดรวบรวมทรัพยากรกันได้แล้ว กลับมาเขตดาวตาปีศาจในโลกมนุษย์ให้เร็วที่สุด”
รอยยิ้มบนหน้าของหลินฮวงกว้างขึ้นหลังส่งข้อความ “มันได้เวลาสร้างกองทัพมอนสเตอร์ชั้นหกระดับจ้าวเทวะแล้ว…”