Sign Buddha’s palm 273 (II) ฟื้นจากนิทรา
“พรรคหมื่นดาบ……”
แววตาของซูฉินเย็นชา
ด้วยความแข็งแกร่งของซูฉินในปัจจุบันแม้จะเผชิญหน้ากับเซียนเทพปฐพีเขาก็มีความมั่นใจว่าสามารถหลบหนีไปได้นับประสาอะไรกับอีแค่พรรคหมื่นดาบ?
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ซูฉินก็ตบเท้าก้าวไปด้านหน้าหายวับไปในพริบตามุ่งหน้าตรงไปยังทางที่หลีหว่านอยู่
ในตอนที่ชายชุดเทาและตำนานยุทธขั้นสูงสุดคนอื่นๆเสียชีวิต
ในยุทธภพต่างแดนใจกลางเกาะขนาดหลายร้อยลี้มีอาคารเก้าแห่งด้านบนอาคารมีรูปร่างคล้ายดาบศักดิ์สิทธิ์
ประมุขพรรคหมื่นดาบนั่งขัดสมาธิบ่มเพาะอยู่อย่างเงียบๆทันใดนั้นก็ลืมตาขึ้นเผยให้เห็นสีหน้าที่ไม่อยากจะเชื่อ
“บรรพชนทั้งหลาย……”
“ชะตาชีวิตของบรรพชนทั้งหลายถูกทำลายลง
แล้ว?”
ประมุขพรรคหมื่นดาบตัวสั่นไปทั้งร่างก่อนหน้านี้เขาเพิ่งจะรู้สึกว่าวันนี้ช่างสุขสงบเสียจริง
จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ปกคลุมยอดเขาทั้งหมดไว้และจู่ๆก็ได้พบว่าชะตากรรมของบรรพชนที่ไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธค่อยๆหายไปอย่างเงียบๆ
การตายของบรรพชนมีผลร้ายแรงต่อพรรคหมื่นดาบอย่างแน่นอน
รู้หรือไม่ว่าแม้พรรคหมื่นดาบจะก่อตั้งโดยเซียนเทพปฐพีอย่างนักพรตหมั่นดาบแต่ระยะเวลาที่สืบทอดมรดกต่อมาก็ไม่ได้นานนักอย่างน้อยเมื่อเทียบกับบรรพชนนิกายใหญ่อื่นๆที่สืบทอดรากฐานต่อกันมานับหมื่นปีพรรคหมื่นดาบถือว่ามีภูมิหลังที่อ่อนแอ
ดังนั้นบรรพชนทุกคนที่หลับใหลจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งการเสียบรรพชนไปทำให้พรรคหมีนดาบตกต่ำลงอย่างมาก
“เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแล้ว”
ใบหน้าของประมุขพรรคหมื่นดาบเปลี่ยนเป็นซีดจางเขาไม่กล้าแม้แต่จะบอกเหล่าผู้อาวุโสเกี่ยวกับเรื่องนี้เพราะข่าวการตายของบรรพชนหลายคนเช่นนี้มีแต่จะสร้างความปั่นป่วนภายในนิกายหมื่นดาบและเมื่อมันแพร่กระจายออกไปบางทีมันอาจทำให้พรรคหมื่นดาบเสื่อมถอยลงได้
ไม่มีใครสามารถแบกรับผลที่ตามมาได้
“บรรพชนดาบ”
“อย่างไรเสียจิตวิญญาณแรกกำเนิดของบรรพช่นดาบก็ได้ตื่นขึ้นมาแล้ว”
ประมุขพรรคหมื่นดาบเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้จึงลุกขึ้นทันทีและเดินไปยังส่วนที่ลึกที่สุดเดินมาจนถึงหน้าแท่นบูชาขนาดใหญ่
“ประมุขพรรคหมื่นดาบรุ่นที่ยี่สิบแปดขอเข้าพบบรรพชนดาบ”ประมุขพรรคหมื่นดาบกล่าวเสียงดัง
หลังจากผ่านไประยะหนึ่ง
เสียงแหบแห้งก็ดังขึ้นมา
“ว่าอย่างไร?”
เสียงนี้ไม่ได้เปล่งออกมาจริงๆมันถ่ายทอดเข้ามาในหัวของประมุขพรรคหมื่นดาบโดยตรงและในเวลาเดียวกันร่างเลือนรางที่ยังคงมีมืออยู่สองข้างก็ปรากฏขึ้นบนแท่นบูชาพลังของจิตวิญญาณแรกกำเนิดเดือดพล่านราวกับมหาศาลสมุทรอันยิ่งใหญ่ที่มีเกลียวคลื่นหมุนวนอยู่ตลอดเวลา
“บรรพชนดาบ”
“บรรพชนหลายคนที่ถูกส่งไปยังแผ่นดินแห่งพลังยุทธอันยิ่งใหญ่ดวงไฟแห่งชีวิตของพวกเขาภายในนิกายได้ดับลงแล้ว…”ประมุขพรรคหมื่นดาบกล่าวอย่างขมขึ้น
การที่ดวงไฟแห่งชีวิตดับลงเป็นสัญญาณว่าได้ตกตายไปอย่างสมบูรณ์และแม้แต่จิตสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ก็ไม่รอดพ้น
เมื่อประมุขพรรคหมื่นดาบกล่าวเช่นนี้
ร่างเงาที่มีสองมือพลันเงียบไปแม้ว่าจะเป็นตัวตนเช่นนี้ก็ยังรู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ
หลังจากร่างเงาขีดเขียนบางอย่างบนหลังมือแล้วมันก็เปิดปากพูด“ร่างหัวใจดาบเตรียมพร้อมแล้วหรือยัง?”
“เรียนบรรพชนดาบบรรพชนทั้งหลายได้พบร่างหัวใจดาบในแผ่นดินแห่งพลังยุทธเมื่อไม่นานมานี้และมันถูกส่งมายังพรรคหมื่นดาบแล้ว”
ประมุขพรรคหมื่นดาบลังเลอยู่ครู่หนึ่งและอดไม่ได้ที่จะกล่าวต่อไปว่า“การตายของเหล่าบรรพชนทั้งหลายอาจเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้?”
“มันไม่สำคัญแล้วล่ะ”
ร่างเงาโบกมือแล้วกล่าวคำช้าๆ“ออกไปเตรียมตัวให้พร้อมอีกสิบวันข้าจะเริ่มเข้ายึดร่าง”
“ขอรับ”
เมื่อประมุขพรรคหมื่นดาบได้ยินดังนี้ความตื่นตระหนกเพราะการตายของเหล่าบรรพชนก่อนหน้านี้ก็คลายลงได้ในคราวเดียว
ตราบใดที่บรรพชนดาบเกิดใหม่และฟื้นพลังคืนมาได้พลังในการปราบปรามย่อมแข็งแกร่งกว่าบรรพชนที่อยู่ในขอบเขตตำนานยุทธขั้นสูงสุดอย่างแน่นอน
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ประมุขพรรคหมื่นดาบก็รีบออกจากแท่นบูชาในทันที
หลังจากที่กลับมายังโถงใหญ่ประมุขพรรคหมื่นดาบก็สงบใจและขบคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้อีกครั้ง
“บรรพชนทั้งหลายล้วนมีความแข็งแกร่งอยู่ในขอบเขตตำนานยุทธขั้นสูงสุดเป็นไปได้ไหมที่บรรพชนนิกายใหญ่คนอื่นๆจะร่วมมือกัน?”
ประมุขพรรคหมื่นดาบขมวดคิ้วเป็นปม
อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้สนใจอะไรมากไม่ว่าจะเป็นนิกายใหญ่แห่งใดที่แอบจัดการกับพรรคหมั่นดาบเมื่อบรรพชนดาบตื่นขึ้นมาและออกจากพรรคหมื่นดาบไปผู้ที่สมรู้ร่วมคิดทั้งหมดจะต้องถูกกวาดล้างด้วยพลังอำนาจอันเด็ดขาดของบรรพชนดาบ